บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 212 อ๋องฉีแต่งพระชายารอง
หลังจากมู่หรูกงกงไปแล้ว สองสามีภรรยา สบตากัน ต่างก็ผ่อนลมหายใจ
ประสานสายตาหัวเราะให้กัน แต่หลังจากหัวเราะแล้ว หยวนชิงหลิงก็น้ำตาไหลขึ้นมากะทันหัน
นางเกิดเสียใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน น้ำตาไหลราวกับเขื่อนแตก ไม่ว่าอย่างไรก็หยุดไม่ได้
ตอนแรกหยู่เหวินเห้ายังคิดว่านางแกล้ง แต่พอเห็นน้ำตาที่หยดลงมาเป็นสาย ร้องอย่างเสียใจ
เขารู้สึกร้อนใจขึ้นมา สองมือจับใบหน้าของนางเอาไว้ นิ้วมือกวาดน้ำตานางออกไป“ทำไม ทำไมจึงร้องไห้ขึ้นมา ไม่สบายตรงไหนหรือไม่ ”
หยวนชิงหลิงเอาแต่ร้องไห้ อีกทั้งยิ่งร้องยิ่งดูเสียใจ แต่ไม่พูดสักคำ
นี่ทำเอาทุกคนต่างก็ร้อนใจขึ้นมาทันที แม่นมสี่รีบบอกว่าจะไปเชิญหมอหลวงมา
หยวนชิงหลิงจึงหยุดร้อง พูดว่า “ไม่ต้อง ข้าไม่เป็นไร”
ดวงตาทั้งสองข้าง ร้องจนบวมเบ่ง
“เป็นอะไรไป บอกข้า”หยู่เหวินเห้ามองแล้วก็เจ็บปวดใจ ถามขึ้น
หยวนชิงหลิงมองเขา อดไม่ได้ที่จะเจ็บหัวใจเล็กน้อย “ข้าเพียงแค่นึกถึงเรื่องที่เราทะเลาะกัน ในใจก็เลยทรมาน ข้าบอกว่าจะไป ท่านบอกว่าจะหย่า ให้ทำแท้งลูก ข้ารู้ว่าเป็นเรื่องแสร้งทำ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ข้าเสียใจมาก คำพูดเหล่านี้ เหมือนเข็มที่ทิ่มแทง เจ็บปวดใจเหลือเกิน”
แววตาของหยู่เหวินเห้าเจ็บปวด กอดนางไว้ทันที กอดไว้แน่น ใช้แรงกดนางให้แนบไปกับอกของตนเอง จมูกขมขื่น ในใจก็เหมือนที่นางบอก กำลังเจ็บปวด เจ็บราวถูกทิ่มแทง
ในเวลานี้ เขารู้แล้วว่าชาตินี้เขาจะขาดหยวนชิงหลิงไม่ได้
น้ำเสียงเขาเจ็บปวดและร้อนแรง พูดว่า “ทีหลังพวกเราจะไม่พูดคำเหล่านี้อีก แม้จะเป็นแค่การเล่นละคร ก็ไม่พูด ไม่ พวกเราจะไม่เล่นละครอีกแล้ว หากเรื่องอย่างนี้ยังเกิดขึ้นอีก ข้าจะปฏิเสธเอง ”
หยวนชิงหลิงซบอยู่ที่อกเขา อืมหนึ่งเสียงหนักๆ ดวงตายังคงบวมแดง
พูดถึงมู่หรูกงกงที่กลับเข้าวังไปแล้ว ไม่ได้ฟังที่แม่นมสี่ขอร้อง ว่าให้ช่วยรักษาเป็นความลับ แต่กลับเล่าทั้งหมดให้กับฮ่องเต้หมิงหยวนฟังจนหมด
ฮ่องเต้หมิงหยวนขมวดคิ้ว“พระชายาฆ่าตัวตายจริงหรือ”
“จริงเท็จไม่รู้ แต่ตอนที่กระหม่อมไปถึง บนพื้นมีรอยเลือด มือของพระชายาก็มีรอยแผล อีกทั้ง พระชายาร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ท่านอ๋องก็โมโหไม่คลายสักที ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนนิ่งขรึมไปสักครู่ “พวกเขาสองคนเหมือนกำลังเล่นละครหรือไม่”
มู่หรูกงกงส่ายหน้า พูดว่า “กระหม่อมดูแล้วไม่เหมือน อีกอย่าง พวกเขาก็ไม่รู้มาก่อนว่ากระหม่อมจะไป จะเล่นละครให้ใครดูกัน”
ฮ่องเต้หมิงหยวนส่ายหน้า “ไม่แน่ เจ้าห้าฉลาดปานนั้น ภรรยาของเขาก็ใช่จะเป็นคนธรรมดา ”
“นี่ ก็เพราะเรื่องไม่อยากแต่งพระชายารอง”มู่หรงกงกงลังเลสักครู่ “ฮ่องเต้ ที่จริงข้าน้อยก็ไม่เข้าใจที่ฮ่องเต้ทรงคอยเอาแต่จะให้เกิดการแต่งงานครั้งนี้ขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
“ไม่เข้าใจ”ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยยิ้มๆ
“กระหม่อมโง่เขลา ”มู่หรูกงกงพูด “ขอฮ่องเต้ทรงชี้แนะด้วย”
ฮ่องเต้หมิงหยวนยิ้มเย็น “ข้าเองก็ไม่รู้ ด้วยอำนาจของโสวฝู่ฉู่แล้ว สำหรับเขา ย่อมมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ข้อเสียข้อเดียวของเขา น่าจะเป็นพระชายาฉู่ที่ไม่อาจจะให้การสนับสนุนนังหนูตระกูลฉู่นั่นได้ เพื่อหญิงสาวเพียงคนเดียว จะปล่อยโอกาสดีๆไปหรือ เขาไม่เหมือนคนโง่เขลาขนาดนั้นกระมัง”
มู่หรูกงกงได้ยินก็รู้ว่าต้องเกี่ยวกับบ้านเมือง จึงไม่กล้าถามอีก
ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ใช่จะไม่รู้ความคิดของหยู่เหวินเห้าซะทีเดียว
โสวฝู่ฉู่คอยแต่จะย้ำเรื่องที่จะแต่งหลานสาวให้เป็นพระชายารองให้เขา จุดประสงค์กับความตั้งใจนี้คืออะไร เขาย่อมรู้ดี
สำหรับเขาแล้ว เป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง
แต่ว่า ขณะเดียวกันก็ชี้ว่าเขาอาจจะถูกโสวฝู่ฉู่ควบคุม
ลูกชายคนนี้ ค่อนข้างโอหังอวดดี ไม่ยินดีจะให้ตัวเองถูกบีบบังคับเพื่อหาผลประโยชน์และทำเรื่องที่ต้องตัดสินใจเลือกในอนาคตข้างหน้า
ไม่ง่ายเลย ที่แท้แล้วจะดีหรือไม่ ก็ต้องมองทั้งสองมุม
เป็นฮ่องเต้ บางครั้งจะทำการให้เหมาะสมก็ไม่ได้
แต่ว่า บางเวลาก็ต้องการความเหมาะสม
ในใจของฮ่องเต้หมิงหยวนมีความยินดีเอ่อล้นขึ้นมา แม้ยังจะต้องฝึกฝน แต่ว่า อย่างน้อยก็เห็นแววต้นกล้าที่ดีแล้ว
ส่วนเรื่องเกี่ยวกับการแต่งกับฉู่หมิงหยางเพื่อเป็นพระชายารองนั้น สุดท้ายก็ไม่ได้ไปถึงจวนอ๋องฉู่
นับว่าหนีภัยใหญ่หลวงได้แล้ว
แต่ว่าหยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าต่างก็รู้ดี ปัญหานี้ สุดท้ายก็จะวนกลับมาอีก
ถึงตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะหาวิธีการใดมาหลบหลีกอีก
เปลี่ยนมาคิดอีกมุมหนึ่ง หยวนชิงหลิงที่จริงก็ดีใจมาก
เพราะว่า ไม่ได้มีแค่นางคนเดียวที่ต่อสู้ ยังมีเขาคอยเคียงข้าง
เรื่องอย่างนี้ เมื่อผ่านมาด้วยกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น
ผ่านคืนวันอันทรมานไปอีกหนึ่งเดือน
เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว
อากาศหนาวเย็น หยวนชิงหลิงไม่อยากเคลื่อนไหว
ตอนนี้การกินดื่มก็ปกติขึ้นแล้ว แม้ว่ายังมีบางครั้งที่ยังคลื่นไส้อยากอาเจียน แต่เมื่อเทียบกับตอนแรก ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว
ครรภ์ก็ค่อยๆแข็งแรงขึ้น ทุกครั้งที่หมอหลวงมาตรวจ ก็ต้องพยักหน้าพอใจทุกครั้ง “ดีขึ้นเร็วมาก เร็วจริงๆ ”
วันที่อ๋องฉีแต่งพระชายารอง พอดีกับที่มีหิมะตกครั้งแรก
เพราะการที่ชินอ๋องแต่งพระชายารองก็เป็นเรื่องใหญ่ ที่จวนอ๋องฉีมีการจัดงานฉลองใหญ่โต คนที่เป็นพี่ชายและพี่สะใภ้อย่างหยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิง ก็ยังต้องไปร่วมแสดงความยินดีด้วย
ว่าแล้วก็ช่างประจวบเหมาะ อ๋องจี้ก็กลับเข้าเมืองหลวงในวันเดียวกัน นำความสำเร็จกลับมาเมืองหลวง ฮ่องเต้ประทานรางวัลใหญ่ ชื่นชมที่เขาใช้เวลาสั้นๆเพียงครึ่งเดือนก็สามารถปราบโจรภูเขาที่เมืองถิงเจียงได้สำเร็จ
ฮ่องเต้หมิงหยวนประทานชุดสีเหลืองทั้งตัวให้เขา
แน่นอนว่าไม่ใช่สีเหลืองสว่าง แต่ว่า ฮ่องเต้ประทานชุดสีเหลือง นั่นมีนัยว่าอย่างไรกัน
ในใจของเหล่าขุนนางต่างก็คาดเดาไปต่างๆนานา
ฮ่องเต้แต่โบราณ ก็มีการประทานชุดสีเหลือง แต่ให้เฉพาะกับองค์รัชทายาท ฮ่องเต้ทำเช่นนี้ ใช่เป็นการยอมรับโดยปริยายว่าอ๋องจี้เป็นรัชทายาทหรือไม่
ใช่แล้ว อ๋องจี้เดิมทีก็เป็นคนที่มีคุณงามความดีมากกว่าใครๆ ตอนนี้ยังมีความดีความชอบในการปราบจลาจล ได้รับรางวัลเป็นชุดสีเหลือง เขาเองก็เป็นบุตรชายคนโต หากว่าฮ่องเต้มีใจอยากให้เขาดำรงตำแหน่งรัชทายาท ย่อมเป็นเรื่องที่ถูกทำนองคลองธรรม
แต่ก็สงสารเห็นใจอ๋องฉู่ ที่คิดว่าพระชายาจี้ตั้งครรภ์แล้ว ตำแหน่งรัชทายาทคงไม่หลุดมือ
อีกอย่างครรภ์นี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย แม้จะเป็นผู้ชาย นั่นก็ไม่แน่ว่าตำแหน่งจะตกถึงเขา บุตรคนโตและหลานคนโตต่างก็พร้อมหน้า จะว่าเก่ง เขาก็ไม่ได้เก่งที่สุด
ขณะที่เหล่าขุนนางกำลังน้ำตาซึมเพื่อหยู่เหวินเห้า หยู่เหวินเห้ากลับพาพระชายาฉู่มาร่วมงานแต่งพระชายารองของอ๋องฉีด้วย
หนึ่งเดือนกว่า ที่พระชายาฉู่ไม่ได้ออกมา
เดิมคิดว่าคนที่ตั้งครรภ์ จะมีความสุขหวานหยด แต่ที่ไหนได้ ตอนที่เห็นพระชายาฉู่ ทุกคนต่างก็ต้องตกใจ
พระชายาฉู่ช่างน่าสงสารจับใจ เกรงว่าแม้แต่ตั้งครรภ์แล้วก็ไม่ได้มีความสุขในชีวิตสักเท่าไหร่
ดูใบหน้าขาวซีดนั่น ดีคางแหลมเล็กนั่น ดูร่างบอบบางที่ลมแทบจะหอบเอาไปได้ ไหนเลยจะมีความอวบอิ่มเหมือนคนที่ตั้งครรภ์
น่าอนาถนัก เพราะฐานะไม่ได้สูงส่งแต่กำเนิด แล้วยังใช้วิธีการสกปรกเพื่อได้มา ไม่ได้รับความรักก็เป็นเรื่องปกติ
แต่นางก็นับว่านางโชคดีที่ตั้งครรภ์ ไม่เช่นนั้น ไม่รู้ว่าจะถูกกวาดไล่ออกไปเมื่อไหร่
เหล่านี้ ล้วนเป็นความคิดของคนส่วนหนึ่งที่อยู่ในงาน ที่คาดเดาต่อหยวนชิงหลิง
สำหรับคนน่าสงสาร ทุกคนต่างก็ยินดีที่จะปฏิบัติต่อกันด้วยความสงสารและเห็นใจ
เจ้าหญิงโล่ผิงเดินเข้ามา กุมมือของหยวนชิงหลิงเอาไว้ “สวรรค์ ทำไมเจ้าจึงได้ผอมขนาดนี้”
หยวนชิงหลิงตั้งครรภ์ เจ้าหญิงเคยให้คนส่งสิ่งของไปให้ แต่นางไม่ได้มาด้วยตนเอง นางเป็นคนวางตัวเป็นที่สุด ได้ยินว่าครรภ์ของหยวนชิงหลิงไม่แข็งแรง จึงหลีกเลี่ยงที่จะไม่มา
หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆว่า “ก่อนหน้านี้ข้ากินอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้ดีขึ้นหน่อยแล้ว”
เจ้าหญิงโล่ผิงเอ่ยยิ้มๆว่า “ข้าไม่รู้เลย ยังคิดว่าเจ้าห้าดูแลเจ้าไม่ดีเสียอีก”
หยู่เหวินเห้าก็ยิ้ม“เสด็จพี่ ข้ากล้าที่ไหนกัน ”
เจ้าหญิงโล่ผิงดึงนางเข้าไป “เจ้าหญิงกับพระชายาอ๋ององค์อื่นต่างก็อยู่ข้างใน เข้าไปทักทายสักหน่อยเถอะ”