บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 235 คำสารภาพของสนมซู
หลังจากที่เต๋อเฟยสอบปากทุกคนแล้ว จึงให้แม่นมไปพาสนมซูมา
ประตูวังเต๋อซ่างถูกปิดอย่างแน่นหนา พระสนมซูที่คุกเข่าอยู่ในตำหนัก ไม่พูดแม้แต่คำเดียว
เต๋อเฟยมองนาง ในใจโกรธสุดขีด ที่ผ่านมานางเป็นคนที่เรียบร้อย ทำไมถึงกล้าทำความผิดเช่นนี้?
เต๋อเฟยระงับความโกรธเอาไว้ กล่าวอย่างเย็นชา “คนผู้นั้นเป็นใคร?”
สนมซูเงยหน้าที่ดื้อรั้นขึ้น ดวงตาที่งดงามเต็มไปด้วยน้ำตา “ท่านหญิงไม่ต้องถามแล้ว ฆ่าหม่อมฉันเถอะ”
“เจ้าตายก็จะสิ้นเรื่องเหรอ?” เต๋อเฟยโกรธมาก ไม่เพียงแต่ข้าที่จะพลอยถูกเจ้าทำให้ลำบาก ตระกูลของเจ้าก็จะถูกลงโทษเพราะเจ้า ตอนนี้พ่อเจ้าพี่ชายเจ้ารับข้าราชาการอยู่ต่างเมือง เพียงแค่อีกสองปีก็สามารถกลับมาประจำที่เมืองหลวงแล้ว เจ้าอยากจะทำลายอนาคตของพวกเขาใช่มั้ย? “
สนมซูกล่าวด้วยความเสียใจ “ต่อให้หม่อมฉันจะยอมสารภาพ พ่อและพี่หม่อมฉันจะรอดพ้นจากเรื่องนี้มั้ย? หม่อมฉันทำร้ายพวกเขาแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีกแล้ว หากรู้ว่าต้องมีวันนี้ ต่อให้หม่อมฉันต้องตายก็ไม่กล้าทำเรื่องเช่นนี้”
“เพิ่งมาเสียใจตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว ทางที่ดีที่สุดเจ้าพูดความจริงออกมา ข้ายังสามารถช่วยขอร้องแทนพ่อและพี่ชายของเจ้า” เต๋อเฟยกล่าวอย่างโกรธเคือง
“เกรงว่าไม่ว่าจะเป็นการขอร้องของใครก็คงจะไม่มีประโยชน์แล้ว ท่านหญิง หม่อมฉันขอบคุณท่านที่สั่งสอนและเอ็นดูมาโดยตลอด หม่อมฉันผิดไปแล้ว!”
เต๋อเฟยมองนาง ทั้งโกรธทั้งสงสาร
ไม่ว่ายังไงก็อยู่ร่วมชายคาเดียวกันมานานขนาดนี้ หากบอกว่าไม่มีความผูกพันมันเป็นไปไม่ได้ วันนี้มองนางที่ยังสามารถคุกเข่าอยู่ตรงนี้ แต่ว่าชะตาของนางได้ถูกกำหนดแล้ว นางต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
เต๋อเฟยกล่าวด้วยเสียงต่ำ “เจ้าน่ะมีความผิด เรื่องมีชู้ในวัง เจ้าตายมันยังไม่พอ หากจะยอมบอกว่าชายชู้คือใคร คนในตระกูลเจ้ายังจะพอมีทางรอด เจ้าลองพิจารณาดูแล้วกัน”
บัดนี้คนสนิทของเต๋อเฟยยังคงสอบปากคำทาสในวังอยู่ ดังนั้นก็ไม่รีบร้อนที่จะให้สนมซูสารภาพ ผู้ชายที่นางพูดคุยด้วยได้นั้นมีจำกัด ขอเพียงใช้ความพยายามในการสอบถาม ไม่ว่ายังไงก็สามารถที่จะสืบออกมาจนได้
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็ยังอยากให้นางสารภาพมันออกมาเอง
นางกำนัลที่ดูแลวังเต๋อซ่างเดินเข้ามา มากระซิบที่ข้างหูของเต๋อเฟย เต๋อเฟยพยักหน้า “อย่าเพิ่งรบกวน ให้สอบสวนต่อ”
นางกำนัลรับบัญชา แล้วเดินออกไป
สนมซูมองเหลือบมองเต๋อเฟยอย่างตื่นตระหนก
เต๋อเฟยกล่าวอย่างเรียบเฉย “เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถปิดบังได้เหรอ? ไม่ว่ายังไงข้าก็จะสืบมาออกมาให้ได้”
ในใจสนมซูหวาดกลัว ไม่สามารถที่จะทำร้ายเขาได้อีก เดิมทีเขานั้นก็ถูกตัวเองทำให้ลำบาก
ในหัวก็คิดถึงคำพูดของคนผู้นั้น หากทนการลงทัณฑ์ไม่ไหว เจ้าก็สารภาพว่าคนผู้นั้นคืออ๋องฉู่ เจ้าน่ะตายอยู่แล้ว แต่ว่าคนรักของเจ้าจะยังสามารถมีชีวิตอยู่
นางร้องไห้อย่างเศร้าโศก เอาหัวโขกลงพื้น กล่าวอย่างเสียใจ “ท่านหญิง คืออ๋องฉู่ คนผู้นั้นคืออ๋องฉู่ หม่อมฉันไม่อยากที่จะพูดความจริงออกมาเลย ท่านหญิง อย่าให้ฮ่องเต้รู้เป็นอันขาด ท่านอ๋องอาจจะถูกโบยจนตาย หม่อมฉันยอมรับโทษเพียงคนเดียว ท่านหญิง ท่านได้โปรดรักษาความลับนี้ด้วยเถอะ ชาติหน้าหม่อมฉันยอมเกิดเป็นควายเป็นม้า มาตอบแทนบุญคุณของท่าน”
เต๋อเฟยได้ฟังคำพูดนี้ สองตาพร่ามัว เกือบเป็นลมไปแล้ว
นางยื่นมือไปจับด้ามเก้าอี้เอาไว้ จ้องมองสนมซูโดยไม่ขยับ กัดฟันกล่าว “เจ้า……..สันดานไม่เปลี่ยน ยังกล้าที่จะใส่ร้ายอ๋องฉู่? หากชายชู้ของเจ้าคืออ๋องฉู่ แล้วทำไมเขาต้องให้ข้ามาตรวจสอบเจ้า? เจ้าเห็นข้าเป็นคนโง่รึ? เจ้านั้นมันเสียแรงที่ข้ารักเอ็นดูเจ้าจริงๆ”
สนมซูโขกหัวอย่างต่อเนื่อง ร้องไห้กล่าว “หม่อมฉันไม่ได้โกหก คืออ๋องฉู่ เราสองคนนัดกันที่ตำหนักหมิงหัว กำลังพลอดรักกันอยู่ กลับถูกองค์ชายแปดกับขันทีน้อยพบเข้า อ๋องฉู่ใช้กระบี่ฆ่าขันทีน้อยทันที กลัวว่าองค์ชายแปดจะพูดออกไป เขาก็ได้ลงมาฆ่าองค์ชายแปดด้วย กู้ซือก็อยู่ในนั้น เขาเป็นคนที่ดูต้นทางให้พวกเรา ได้ยินว่าข้างนอกมีคนมา ท่านอ๋องก็รีบพาข้ากระโดดข้ามกำแพง กู้ซือหนีไม่ทาง ทำได้เพียงรับโทษแทนเขา”
แววตาของเต๋อเฟยมีประกายไฟ “แต่งได้ดีมาก แต่น่าเสียดาย ข้าไม่ใช่คนโง่”
สนมซูร้องไห้กล่าว “ท่านหญิง หม่อมฉันพูดความจริง หากไม่ใช่อ๋องฉู่ กู้ซือทำไมยอมรับว่าตัวเองฆ่าคน? นั่นมันมีโทษถึงประหารเลยนะ”
เต๋อเฟยรู้สึกว่านางพูดมีเหตุผล แต่ว่า นางไม่เชื่อคำพูดของสนมซู
นางรู้ว่าไม่สามารถที่จะให้สนมซูออกไปพูดมั่วซั่วได้แม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้เจ้าห้าเดือดร้อนไปด้วย
นางนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเฉียบขาด “เด็กๆ!”
ประตูถูกเปิดออก แม่นมเดินเข้ามา “เชิญท่านหญิงรับสั่ง”
“พาสนมซูกลับไปยังตำหนัก อุดปากของนางเอาไว้ ห้ามให้นางพูดแม้แต่คำเดียว” เต๋อเฟยกล่าวอย่างโกรธเคือง
แม่นมรับคำสั่ง หันหลังหยิบผ้ามาหนึ่งชิ้น มือก็ดึงสนมซูขึ้น แล้วใช้ผ้ายัดไปที่ปากของนาง “เชิญพระสนม”
สนมซูถูกนำตัวไปอย่างเร่งรีบ
เต๋อเฟยรู้สึกว่าต้องพบเจ้าห้าหน่อยแล้ว
นางกล่าว “เด็กๆ ไปเชิญอ๋องฉู่มาที่วังของข้า และบอกว่าข้ามียาบำรุงครรภ์จะให้พระชายา”
“เพคะ!” นางกำนัลรับคำสั่งแล้วออกไป
หยู่เหวินเห้ากำลังตรวจสอบรายชื่อของกองทหารรักษาพระองค์ในวันนั้นอยู่ ได้ยินว่าเต๋อเฟยต้องการพบเขา ก็เลยไปทันที
มาถึงที่วังเต๋อซ่าง เต๋อเฟยก็สั่งคนปิดประตู
หยู่เหวินเห้ากล่าวทักทายตามมารยาท จากนั้นก็ถามขึ้น “ท่านแม่เต๋อ เป็นอย่างไรบ้าง? นางสารภาพหรือยัง?”
เต๋อเฟยมองเขา เด็กคนนี้เป็นเด็กที่นางเห็นมาแต่เล็กจนโต ไม่มีทางที่จะเป็นคนแบบนั้น
ดังนั้น เต๋อเฟยกล่าว “เจ้านั่งลงก่อน ฟังข้าพูดดีๆ”
หยู่เหวินเห้ามีสีหน้าที่สงสัย นั่งลงมาแล้วมองเต๋อเฟย
เต๋อเฟยกล่าว “คนช้ำต่ำคนนั้นสารภาพแล้ว แต่ว่า นางกลับบอกว่าเจ้าเป็นชู้ของนาง”
หยู่เหวินเห้าพยักหน้า “อยู่ในความคาดหมายของข้า”
เต๋อเฟยตกใจ “เจ้ารู้ว่านางจะพูดเช่นนี้?”
หยู่เหวินเห้ากล่าว “ท่านแม่เต๋อ ข้าได้ตรวจสอบแล้ว วันนั้นที่ข้าออกมาจากห้องทรงพระอักษร หลี่กงกงก็ได้บอกกับข้าว่าท่านแม่ไม่สบาย ดังนั้น เป็นหลี่กงกงที่ล่อให้ข้าไปที่ตำหนักหมิงหัว นี่เดิมมันเป็นหลุมพรางที่วางไว้เพื่อข้า กู้ซือบังเอิญมาปรากฏตัวที่ตำหนักหมิงหัว กู้ซือเห็นสนมซูกับชายชู้คนนั้น มองจากด้านข้างแล้วมีความคล้ายข้างอยู่บ้าง ดังนั้นกู้ซือจึงนึกว่าคือข้า ก็เลยอวดฉลาดรับผิดแทนข้า”
เต๋อเฟยพยักหน้า ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง พวกเขารู้ว่าองค์ชายแปดนั้นไปที่ตำหนักหมิงหัวเป็นประจำ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกตำหนักหมิงหัวในการลงมือทำเรื่องนี้ นี่มันเป็นแผนการที่สมรู้ร่วมคิดกันจริงๆ เพียงแต่ หากคนผู้นั้นแค่หน้าตาคล้ายเจ้า ถูกองค์ชายแปดพบเข้าโดยบังเอิญ ตามหลักก็น่าจะหนีไปให้เร็ว ไม่จำเป็นต้องทำร้ายคน ขันทีที่อยู่ข้างกายองค์ชายแปดก็จะรายงานเรื่องนี้กับฮ่องเต้เอง แผนการของคนผู้นี้ก็ถือว่าได้ดึงเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องได้สำเร็จแล้ว ทำไมต้องทำร้ายองค์ชายแปดเพื่อให้เรื่องราวมันใหญ่โตล่ะ? ต้องรู้ว่า หากเรื่องถูกขยายใหญ่ ไม่ได้มีข้อดีต่อพวกเขาเลย อย่างไรเสีย หากตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ก็รับประกันไม่ได้ว่าพวกเขาจะไม่ทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้ แม้ว่ามันจะสามารถทำให้เจ้าไม่มีโอกาสที่จะลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง หากไม่สำเร็จ แล้วพวกเขาถูกจับได้ ทำแบบนี้มันไม่คุ้มเลย
หยู่เหวินเห้ากล่าว “ท่านแม่เต๋อวิเคราะห์ได้ไม่ผิด ดังนั้น เดิมเขาไม่ได้วางแผนที่จะทำร้ายน้องแปด เพียงแต่อยากให้น้องแปดกับขันทีน้อยเห็น หลังจากที่ขันทีน้อยรายงานฮองเฮา ฮองเฮาก็จะถามน้องแปด น้องแปดพูดโกหกไม่เป็น หากเขาบอกว่าคือข้า เสด็จพ่อก็จะเชื่อว่าเป็นข้า บวกกับการชี้นำของหลี่กงกง ในเวลานั้นข้าก็จะปรากฏตัวข้างๆตำหนักหมิงหัว โดยพื้นฐานแล้วมลทินนี้ถือว่ายากที่จะลบล้าง แต่ว่า พวกเขาฆ่าขันทีน้อย และก็จะฆ่าน้องแปด น้องแปดแค่บาดเจ็บสาหัส คนผู้นั้นไม่ทันจะแทงซ้ำ กู้ซือก็มาถึง ทำไมพวกเขาจึงทำแบบนี้ล่ะ? มีเพียงสาเหตุเดียว เพราะว่าน้องแปดกับขันทีน้อยเห็นใบหน้าของชายชู้คนนั้น คนผู้นั้นไม่ใช่ข้า”