บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 360 แผนการสำเร็จ
หยวนชิงหลิงใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้า “ยายสามตายแล้วหรือ? แม้แต่สวรรค์ยังอิจฉาความสวยของนาง ยายสามเป็นคนในครอบครัวแม่ ให้แม่กลับไปก็ได้แล้วมั้ง?”
เจ้าพระยาจิ้งกลืนน้ำลายไปหนึ่งที กล่าวด้วยความลำบากใจ “ปู่สามของเจ้าก็ตายแล้ว พ่อต้องกลับไปงานศพพร้อมกัน”
“ทีเดียวก็ตายไปสองคน ฮวงจุ้ยที่บ้านไม่ดีจริงๆด้วย” แม่นมสี่ถอนหายใจ
เจ้าพระยาจิ้งได้ยินคำพูดนี้ ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
เป็นเพราะว่าฮวงจุ้ยสุสานไม่ดีหรือเปล่า? ทำไมหลังจากที่ตัวเองรับตำแหน่งเจ้าพระยาแล้ว ก็ซวยเรื่อยมา?
ดูแล้ว ครั้งนี้กลับไปต้องไปซ่อมบำรุงสุสานหน่อยละ ดูว่าจะสามารถช่วยชีวิตคนในครอบครัวได้หรือเปล่า
เจ้าพระยาจิ้งนั้นเสียใจอย่างมาก เอามือไขว้ไว้ที่หลังแล้วเดินจากไป บรรพชนเอ๋ย ทำไมไม่ทำให้คนที่อยู่ข้างหลังสุขสบายบ้างล่ะ?
ยืนอยู่ในเรือน ชั่วขณะนั้นไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ก็เลยไปหานางหวง แม้จะเป็นยัยแก่ ไม่ว่ายังไงก็เป็นเมียเอก ตอนนี้ใกล้ชิดภรรยาหน่อย บางทีอาจจะทำให้โชคดีขึ้นมาบ้าง
นางหวงไม่อยู่ ถามคนที่อยู่ในเรือน บอกว่านางหวงถูกฮูหยินใหญ่เรียกตัวไป
ท่านแม่? เจ้าพระยานึกขึ้นได้ว่าชาติตระกูลของมารดานั้นสูงศักดิ์ ประกอบกับคนในจวนบอกกับเขาว่า ตอนที่ท่านอ๋องมา ฮูหยินใหญ่เป็นคนไปด้วยตัวเอง
ในอดีตเขาพึ่งพาฮูหยินใหญ่น้อยมาก แต่ในขณะที่กำลังหมดหนทางในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เขาได้นำความหวังไปฝากไว้ที่ตัวของฮูหยินใหญ่ ก็เลยไปที่เรือนของฮูหยินใหญ่
นางหวงถูกฮูหยินใหญ่เรียกเข้าไปในห้องแล้ว
นางหวงไม่เคยเห็นแม่สามีโกรธขนาดนี้มาก่อน
โดยเฉพาะหลายปีมานี้ แม่สามีนอนป่วยอยู่บนเตียงตลอดเวลา ท่าทางเหมือนคนใกล้ตาย ใครจะเห็นนางอยู่ในสายตาอีก
แต่ว่า คิดไม่ถึงเวลาโกรธขึ้นมา ช่างน่ากลัวนัก
“เจ้าดูตัวเองสิ เหมือนคนเป็นแม่ที่ไหนกัน? ลูกสาวถูกไล่กลับมา เจ้าไม่ไปถามถ่ายห่วงใย ในทางกลับกันเจ้ากลับไปปัดถ้วยข้าวของนางแตก? เจ้าไม่มีหัวใจหรือว่าไม่มีสมองกันแน่? ทำไมถึงทำเรื่องที่ไร้คุณธรรมแบบนี้ได้?”
ฮูหยินใหญ่ด่าไปชุดใหญ่ ก็ยังคงไม่หายโกรธ นั่งลงอย่างโมโห หายใจหอบและเร็ว
เจ้าพระยาจิ้งที่ได้ยินมารดาด่าอย่างโกรธเคือง คิดถึงการกระทำช่วงนี้ของตัวเอง เข้าไปแล้วก็คงจะทำให้นางโกรธ ก็เลยหันหลังเดินจากไป
หลังจากกลับมา ก็ให้ข้ารับใช้เก็บข้าวของ เช้าวันรุ่งขึ้น ก็พาอนุนางโจวออกเดินทาง บอกคนไปแจ้งหยวนหลุนเหวิน ให้เขาช่วยไปลางานที่การปกครอง บอกว่ากลับไปงานศพของญาติที่ต่างจังหวัด
ย้อนกลับมาพูด หนึ่งในทหารรักษาพระองค์ที่ติดตามหยู่เหวินเห้าก็เข้าวังไปรายงาน เรื่องที่หมอหลวงเฉาพูด
ฮ่องเต้หมิงหยวนฟังแล้ว ก็กล่าวอย่างเย็นชา “อายุครรภ์สี่เดือนกว่าแล้ว เด็กในครรภ์ก็เกาะแน่นแล้ว จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?”
ทหารรักษาพระองค์กล่าว “ฝ่าบาท แล้วจะส่งหมอหลวงไปตรวจดูอาการมั้ย?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนสะบัดมือ “ไม่ต้อง ส่งไป คำตอบก็เหมือนเดิม”
คนหนึ่งคือหยวนชิงหลิง คนหนึ่งคือหยู่เหวินเห้า มีหรือจะเอาหมอหลวงแค่คนเดียวไม่อยู่?
เขาสั่งให้ทหารรักษาพระองค์ถอยออกไป นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงอรหันต์ ครุ่นคิดขึ้นมา
มู่หรูกงกงเข้ามา “ฝ่าบาท ควรจะพักผ่อนได้แล้ว”
ฮ่องเต้หมิงหยวนเรียกมู่หรูกงกงเข้ามาใกล้ “เจ้าว่า คนที่อายุครรภ์สี่เดือน เด็กเกาะแน่นแล้วหรือยัง?”
มู่หรูกงกงกล่าวอย่างอึดอัด “ฝ่าบาท พระองค์ถามจนกระหม่อมตอบไม่ได้แล้ว กระหม่อมไม่รู้เรื่องพวกนี้”
“ก็ใช่!” ฮ่องเต้หมิงหยวนเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เจ้าห้าเป็นคนเจ้าเล่ห์มาแต่ไหนแต่ไร ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นแผนที่เขาคิดขึ้นมา อยากให้ข้าเมตตา มู่หรูกงกงยิ้มเล็กน้อย “ใช่พ่ะย่ะค่ะ!”
นิ่งไปสักพัก มู่หรูกงกงก็กล่าวขึ้น “เพียงแต่ เมื่อก่อนพระชายาเคยกินน้ำฝันถึงนรก ไม่เหมือนคนท้องทั่วไป”
แววตาของฮ่องเต้หนักใจขึ้นมาทันที เห็นผี สิ่งที่เขากังวลก็คืออันนี้
“อย่างไรก็ตาม ฝ่าบาทวางพระทัยได้เลย พระชายาเขามีทักษะการแพทย์ หากมีอะไรผิดปกติ นางสามารถรักษาตัวเองได้”
สีหน้าของฮ่องเต้จึงค่อยคลายความกังวล มู่หรูกงกงกลับเศร้าใจขึ้นมา เพียงแต่ ได้ยินคนเขาพูดว่า หมอสามารถรักษาคนอื่นแต่รักษาตัวเองไม่ได้
มู่หรูกงกงแอบมองฮ่องเต้หมิงหยวนแวบหนึ่ง
ฮ่องเต้หมิงหยวนจ้องมองเขาอย่างตาแข็งกร้าว
มู่หรูกงกงรีบก้มหน้าลง มันชัดเจนเกินไปหรือเปล่า?
เขาสังเกต ช่วงนี้ช่างใจกล้าเกินไปแล้วนะ แม้แต่ความคิดของฮ่องเต้ยังกล้าคำนวณ
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อฮ๋องเต้มองออกแล้ว ก็ไม่กลัวที่จะพูดอีกหนึ่งประโยค “เด็กในครรภ์พระชายา จะเป็นอะไรไม่ได้ ทางไท่ซ่างหวงกับไทเฮา คาดหวังอย่างมาก”
ฮ่องเต้หมิงหยวนเคาะโต๊ะ “พอได้แล้ว หุบปากเดี๋ยวนี้!”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพูดมากไปแล้ว” มู่หรูกงกงได้พูดจบไปแล้ว ถึงได้ทำการขอรับโทษอย่างไม่รีบไม่ร้อน
ฮ่องเต้หมิงหยวนรู้สึกว่าหากใจอ่อนก็จะหลงกลเข้าแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงหลานก็สำคัญกว่า เขาอดกลั้นลงไป กล่าวอย่างเย็นชา “ให้เจ้าห้าไปอยู่เป็นเพื่อนนางทุกวัน วันละสามมื้อ ให้จับตามองดูนางกิน สั่งให้หมอหลวงเฉาไปรอคำสั่งอยู่ที่จวนเจ้าพระยา หากมีเรื่องอะไร ก็ให้รีบมารายงาน”
มู่หรูกงกงปกปิดรอยยิ้มที่อยู่ในตา กล่าว “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปประกาศราชโองการที่จวนอ๋องฉู่เดี๋ยวนี้เลย”
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองเขาโค้งคำนับแล้วเดินออกไป ก็กลอกตา
ช่วงนี้รำคาญจนอยากจะอาเจียนจริงๆ
ไม่กี่วันเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยก็จะมาถึงแล้ว บัดนี้ข้างกายไม่มีใครสามารถช่วยเขาแบ่งเบาภาระได้เลย
เดิมจะให้เจ้าห้าแต่งงานกับคุณหนูฮู่ อย่างน้อยก็สามารถควบคุมได้อีกสองสามปี แล้วคิดหาวิธีอื่น ค่อยๆแย่งอำนาจทางทหารคืน อย่างนั้นแล้วต่อหน้าขุนนาง อนาคตยังสามารถพูดอะไรได้บ้าง
ไม่เช่นนั้น ก็ถึงเวลาที่จะเห็นท่าแท้ของคนแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อประเทศชาติและราษฎรเลย
เดิมเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยเป็นคนที่ไม่เลว รักชาติบ้านเมือง แต่ว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้ โดยเฉพาะตอนที่มีทหารอยู่ในมือ ก็จะเหิมเกริม
สองปีมานี้ การกลับมาที่เมืองหลวงของเจ้าพระยาเจิ้งเป่ยก็สามารถจะดูออก สิ่งที่เขาร้องขอยิ่งอยู่ยิ่งมาก กิริยาท่าทางยิ่งอยู่ยิ่งบังอาจ
เจ้าห้าไม่เอาไหนเลยจริงๆ
มู่หรูกงกงไปประกาศราชโองการที่จวนอ๋องฉู่ หยู่เหวินเห้ากับเหลิ่งจิ้งเหยียน กู้ซือกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ในจวน
อาการที่หนาวเหน็บแบบนี้ ทั้งสามคนดื่มจนหน้าแดง ถอดเสื้อตัวนอกออกเหลือแต่เสื้อตัวใน
มู่หรูกงกงมาแล้ว หยู่เหวินเห้าลืมตาที่เมาขึ้นมา “กงกง ตาแก่มีราชโองการมาใช่มั้ย?”
มู่หรูกงกงกล่าว ท่านอ๋อง “เป็นข่าวดี พรุ่งนี้ฮ่องเต้ให้ท่านไปที่จวนเจ้าพระยา ไปจับตาให้พระชายากินข้าวให้ครบสามมื้อ ยังให้หมอหลวงเฉาไปประจำอยู่ที่จวนเจ้าพระยา”
หยู่เหวินเห้าดีใจมาก “จริงหรือ? กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาทที่เมตตา!”
มู่หรูกงกงเห็นเขาที่เมาหยำเป ก็กล่าว “ท่านอ๋องอย่าดื่มเยอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปที่จวนเจ้าพระยา ข้าน้อยต้องไปก่อนแล้ว ต้องรีบกลับไปปรนนิบัติฮ่องเต้น่ะ”
พูดจบ มู่หรูกงกงก็จากไป
ทังหยางวิ่งตามไป ได้ยัดของเข้าไปที่ใต้แขนเสื้อของกงกง กงกงก็ได้ปฏิเสธก่อน แต่สุดท้ายก็รับมันเอาไว้
มู่หรูกงกงเป็นคนฉลาด แต่ไม่ใช่คนโลภ ทำงานต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ สวัสดิการดีมาก แต่หากไม่รับเงินพวกนี้ กลับทำให้ท่านอ๋องไม่สบายใจ
มู่หรูกงกงกลับไปในวัง ฮ่องเต้หมิงหยวนยังไม่หายโกรธ นั่งขัดสมาธิอยู่ที่เตียงอรหันต์
มู่หรงกกงก้มตัวเดินเข้ามา ก็ได้ยินฮ่องเต้หมิงหยวนถามอย่างเรียบเฉย “คืนนั้นที่เจ้าส่งตัวพระชายาไปเก็บข้าวของที่จวน พระชายาได้พูดอะไรมั้ย? นางโทษข้าหรือเปล่า?”
มู่หรูกงกงเดินเข้าไปใกล้ กระซิบกล่าว เรียนฝ่าบาท “พระชายาเป็นคนที่มีเหตุผล ไม่ได้โทษฮ่องเต้เลย นางบอกว่ารู้ว่าฝ่าบาทนั้นถูกสถานการณ์บีบบังคับ เรื่องประเทศชาติก็ต้องสำคัญกว่านาง”
ฮ่องเต้หมิงหยวนทำเสียงฮึ่มไปหนึ่ง พูดเพราะยิ่งกว่าร้องเพลง หากคิดเช่นนั้น ทำไมนางถึงไม่ยอม?
มู่หรูกงกงกล่าว “พระชายาพูดว่า เพื่อให้ซื่อจื่อคลอดออกมาอย่างราบรื่นปลอดภัย นางรู้สึกว่าการกลับไปที่บ้านตัวเองก็เป็นเรื่องที่ดี จริงๆแล้วพระชายาก็พูดได้มีเหตุผล ไม่ว่าคุณหนูฮู่น่านิสัยจะเป็นยังไง ต่อให้อ่อนโยน สุดท้าย หัวใจของผู้หญิงก็คับแคบ หากเพราะความอิจฉาทำให้กระทบต่อเด็กในครรภ์ มันไม่คุ้มเอาเสียเลย”