บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 440 ข้าเคยได้รับการศึกษาที่สูงมาก่อน
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 440 ข้าเคยได้รับการศึกษาที่สูงมาก่อน
อีกทางด้านหนึ่ง อ๋องอานถูกหยู่เหวินเห้าบีบคั้นอย่างดุเดือดมาก มือข้างหนึ่งอ้าออก พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “เจ้าห้า เจ้าอย่างเหมือนหมาบ้าตัวหนึ่ง เกิดบ้าอะไรขึ้นมา? เจ้ามีเหตุผลหน่อย”
หยู่เหวินเห้าต่อยไปหนึ่งหมัด พร้อมตะคอกพูดขึ้นว่า “ข้าหรือยังจะต้องมีเหตุผลให้เจ้า? ข้าจะใช้หมัดคุยเหตุผลกับเจ้า”
อ๋องอานถูกต่อยจนหางตาแตก เท้ากระทืบออกไป หยู่เหวินเห้าใช้เข่ารับไว้ แล้วต่อยไปหนึ่งหมัด พร้อมพูดขึ้นว่า “ล้วงท้องเจ้าหยวนเอาลูกของข้า? ข้าจะดูว่าเจ้าจะล้วงไหม พี่น้องกันแท้ๆ ข้าไม่เคยล่วงเกินเจ้า เจ้าอยากได้ตำแหน่งของชายรัชทายาท ข้าไม่สนใจ แต่เจ้ากล้าลงมือกับเจ้าหยวนกับลูกของข้า ข้าจะเอาชีวิตเจ้า”
“เจ้า…..”
อ๋องอานลงมืออย่างไม่มีหลักการ เหมือนกับสัตว์ดุร้ายบ้าคลั่ง เขาจะไม่ตั้งรับก็ไม่ได้ ตั้งรับก็ไม่ได้ และก็ไม่มีใครมาช่วย มีกู้ซือคอยเฝ้าอยู่ตรงนั้น
เขาถอยหลังไปด้วย พูดขึ้นด้วยเสียงดังไปด้วยว่า “กู้ซือ เสด็จพ่อใช้ให้เจ้ามาเฝ้าดูเฉยๆหรือ?”
ในมือกู้ซือถือผ้าเช็ดหน้าไว้ สะบัดไปมาพร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องอาน ฮ่องเต้มีรับสั่ง ให้กระหม่อมมาเฝ้าดูอยู่ที่จวนอ๋องอาน นี่กระหม่อมก็คอยเฝ้าดูอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
หยู่เหวินเห้าไม่รอช้า เห็นเขาแทบไม่มีหนทางตั้งรับ จึงกระโดดลอยขึ้น บินลอยเตะลงไป จนเขากลิ้งอยู่พื้น เมื่อผิวปาก ตอเป่ากระโจนเข้ามา งับกัดขาอ๋องอานไว้
เขี้ยวหมาคมมาก แข็งแรงมาก เมื่อกัดลงไป ทำให้เห็นถึงกระดูก
อ๋องอานร้องอย่างเจ็บปวด ขาอีกข้างหนึ่งเตะไปทางตอเป่า ตอเป่ากระโดดขึ้นมาด้วยท่าทางแข็งแรง กระโดดข้ามไป แล้วก็งับกัดไหล่ของเขา กัดจนเนื้อหลุดออกมา เลือดไหลออกมา อ๋องอานเจ็บปวดจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว กลิ้งไปมาบนพื้น
กู้ซือค่อยพูดขึ้นว่า “เจ้าห้า อย่าเกินเหตุ ฮ่องเต้มีราชโองการ”
หยู่เหวินเห้าค่อยผิวปากเรียกตอเป่ากลับมา ผมเผ้าเขายุ่งเหยิง เสื้อผ้าถูกกัดขาดหลายจุด กลับซ่อนความโกรธไว้ไม่ได้ ถุยเลือดในปากออกมา พร้อมพูดขึ้นอย่างสั่นเทาว่า “หยู่เหวินอัน เจ้าฟังไว้ นับจากวันนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าหยวน ต่อให้เส้นผมหลุดร่วงเพียงเส้นเดียว ก็จะคิดบัญชีกับเจ้า ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเจ้าหยวนเป็นจุดอ่อนของข้า ข้าก็ไม่กลัวที่จะยอมรับ นางเป็นจุดอ่อนของข้า เป็นต่อมโมโหของข้า เกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้ารอเป็นศพหมื่นชิ้น สูญพันธุ์ทั้งจวน”
อ๋องอานถูกทหารจวนประคองลุกขึ้น เขาอดกลั้นความเจ็บปวดไว้ มองดูหยู่เหวินเห้าอย่างคลุมเครือ พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องในวันนี้ ข้าก็จะจำไว้ในใจ”
“จำไว้ให้ดีที่สุด” ไฟในตาหยู่เหวินเห้ายังคงมอดไหม้ พร้อมพูดขึ้นว่า “จำไว้ให้ดีว่าวันนี้ข้าทำอย่างไรกับเจ้า ต่อไป หากเจ้าอยากลงมือกับเจ้าหยวน จะได้ระวังไว้บ้าง”
หยู่เหวินเห้าพูดเสร็จ แล้วก็ผิวปาก พาตอเป่ากับสวีอีจากไป
กู้ซือค่อยเดินไปหาอย่างหน้าตาเฉย พร้อมพูดขึ้นว่า “อ๋องอาน ดูเจ้าบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
อ๋องอานจ้องมองดูกู้ซือ พร้อมพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ข้าจะจำเจ้าไว้เหมือนกัน”
กู้ซือถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าก็เพียงแค่เป็นห่วงเจ้า ตอเป่าเป็นหมาบ้าที่เจ้าพระยาหุ้ยติ่งเลี้ยงมา เลี้ยงให้กินเนื้อสด ไม่รู้ว่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าไหม หากมีพิษสุนัขบ้า เจ้าถูกมันกัดแล้วก็อาจจะเป็นบ้า ข้าว่า เจ้าตามหมอมาดูอาการก่อนเถอะ”
พูดเสร็จ จีบนิ้วโบกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาอย่างอ่อนโยน แล้วก็หันร่างเดินออกไป
“พี่เขยรอก่อน ผ้าเช็ดหน้าของพี่สาว (พี่สาวภรรยา)ข้า” กู้ซือวิ่งตามออกมา
พระชายาฉู่เป็นพี่สาว (พี่สาวภรรยา)ข้า ข้าไม่ช่วยพวกเขาแล้วจะช่วยใคร? อ๋องอานโง่
ในวัง เป็นดั่งที่ฮ่องเต้หมิงหยวนคิดไว้ หยวนชิงหลิงอุ้มท้องโตเข้าไปในวังแล้ว
มาถึงห้องทรงพระอักษรหาไม่เจอ มู่หรูกงกงแอบบอกว่าฮ่องเต้ไปพระตำหนักฉินคุนแล้ว หยวนชิงหลิงก็รีบพาแม่นมสี่กับอะซี่มาที่พระตำหนักฉินคุน
ประตูลานพระตำหนักฉินคุนเปิดไว้ แต่ประตูตำหนักปิดไว้อย่างสนิท ฉางกงกงยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง หนาวจนสั่นสะท้าน
เห็นหยวนชิงหลิงมา ก็รีบเดินมาพูดขึ้นว่า “พระชายา ฮ่องเต้ไม่อยู่”
“งั้นข้าขอเข้าเฝ้าไท่ซ่างหวง” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
ฉางกงกงยิ้มพูดขึ้นว่า “วันนี้ไท่ซ่างหวงกับโสวฝู่เซียวเหยากงพบปะสังสรรค์กัน กำลังดื่มเหล้ากันอยู่ด้านใน ไม่พบใครทั้งนั้น”
หยวนชิงหลิงเช็ดน้ำตา หัวตัวเดินกลับ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ข้ากลับก็ได้”
นางเป็นคนที่เคยได้รับการศึกษามาอย่างสูง ไม่หน้าด้านหน้าทน อาละวาดกลิ้งไปตามพื้น ไม่ให้พบก็ไม่พบ นางกลับ
ฉางกงกงอึ้งไปสักพัก ง่ายขนาดนี้เลยหรือ?
เขาผลักประตูเข้าไป ข้างใน ขุนนางใหญ่สามท่านกับฮ่องเต้หมิงหยวนกำลังดื่มเหล้ากันอยู่ เห็นฉางกงกงเข้ามา ฮ่องเต้หมิงหยวนก็รีบถามขึ้นว่า “มาแล้ว? ไปแล้วหรือยัง?”
ฉางกงกงพูดขึ้นว่า “เรียนฮ่องเต้ พระชายามาแล้ว และก็กลับไปแล้ว”
ฮ่องเต้หมิงหยวนค่อยโล่งอก พร้อมถามขึ้นว่า “เจ้าพูดอะไรกับนาง? นางถึงได้ยอมกลับไปเร็วขนาดนี้?”
ฉางกงกงพูดขึ้นว่า “เพียงแค่พูดว่าท่านไม่อยู่ที่นี่ จากนั้นพระชายาก็พูดว่าจะขอเข้าเฝ้าไท่ซ่างหวง บ่าวก็บอกว่าไท่ซ่างหวงกำลังดื่มเหล้ากันอยู่ ไม่พบใครทั้งนั้น พระชายาจึงกลับไป”
ทุกคนมองตากัน นี่…. การกระทำแบบนี้ไม่ค่อยเหมือนหยวนชิงหลิง
“ไปแล้วจริงๆ?” ไท่ซ่างหวงไม่ค่อยอยากเชื่อ
“ไปแล้วจริงๆ” ฉางกงกงเองก็แปลกใจมาก
ที่จริงวันนี้ไท่ซ่างหวงอยากเจอหยวนชิงหลิง นี่ก็ไม่เห็นมาตั้งหลายวันแล้ว แต่…. เขามองดูฮ่องเต้อย่างเมินเฉย นี่ไม่ควรมาเลย เสียบรรยากาศหมด
โสวฝู่ฉู่ดื่มเหล้าอยู่อย่างใจเย็น ไป? เกรงว่าไม่
และแล้ว ผ่านไปสักพัก มีกองทหารรักษาพระองค์วิ่งเข้ามาอย่างเร่งด่วน แทบจะหยุดไม่กันกระแทกบันไดหิน ปากก็พูดขึ้นอย่างตื่นตระหนกว่า “ไท่ซ่างหวง ฮ่องเต้ พระชายาฉู่ขึ้นไปบนหอเหวินชาง นั่งอยู่ตรงราวบันได บอกว่ามีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว”
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นอย่างโกรธจัดว่า “กบฏแล้ว กบฏแล้ว นี่นางอุกอาจมากเกินไปแล้ว คิดจะต่อรองกับข้า ไม่ต้องสนใจนาง ดูสิว่านางจะกล้ากระโดดไหม?”
คนเฒ่าทั้งสามคนมองดูเขา ไม่มีใครเห็นด้วยกับคำพูดของเขา
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “เสด็จพ่อ นางกำลังข่มขู่ หากให้นางได้ใจ ต่อไปจะขนาดไหน”
ไท่ซ่างหวงดูดบุหรี่ พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ได้ ให้นางกระโดด แล้วให้ลูกชายคนอื่นของเจ้าคลอดแฝดสาม คืนให้กับข้าก็พอ ข้าไม่ยุ่งเรื่องนี้”
ฮ่องเต้หมิงหยวนฟังคำพูดนี้แล้ว ท่าทีก็อ่อนลงทันที พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ”
ไท่ซ่างหวงแลดูค่อนข้างโกรธ พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่ามาทำเป็นซื่อตรง เจ้ารีบไปทำงานของเจ้าเถอะ มู่หรู ไปตรัสคำสั่งของเจ้านายเจ้า ให้พระชายาฉู่กระโดดลงมาเลย ปีใหม่แบบนี้ ข้าจะเก็บศพให้นางเอง มีอะไรจะทำไม่ได้? อย่างมากก็แค่คนผมขาวส่งคนผมดำ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนถอนหายใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จพ่อ ท่านพูดพวกนี้ ไม่เป็นการทำให้ลูกอายุสั้นหรือ?”
“ตอนนี้เจ้าจะยังอยู่พูดคำพูดพวกนี้อยู่ที่นี่ ไม่ใช่ต้องการที่จะทำให้พ่อของเจ้าโกรธตายหรือ?” ไท่ซ่างหวงทุบกระบอกสูบบุหรี่ พูดขึ้นอย่างโมโห
ฮ่องเต้หมิงหยวนยืดคอตรง คิ้วขมวดกลายเป็นเหมือนกองผักเค็ม เนิ่นนาน ค่อยพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เสด็จพ่อท่านไปด้วย ลูกกลัวระงับความโกรธไว้ไม่ไหว”
ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นด้วยสีหน้าบูดบึ้งว่า “ไม่ไป ข้ามีโรคหัวใจ กลัวเห็นหลานทั้งสามคนตกลงมา แล้วหัวใจวายตาย”
ฮ่องเต้หมิงหยวนถอนหายใจ หันออกมาด้วยอาการโมโหอย่างเต็มเปี่ยม ในใจแอบสาบาน หลังจากที่พระชายาฉู่คลอดลูกแล้ว จะต้องลงโทษอย่างหนัก ไม่ รอจนคลอดไม่ไหว เมื่อลงมาจากหอเหวินชาง ก็ลงโทษเลย
ออกมาจากพระตำหนักฉินคุน ฮ่องเต้หมิงหยวนพามู่หรูกงกงรีบมายังหอเหวินชางด้วยอารมณ์เดือดจัด
เมื่อมองไปทางด้านนั้น ก็แทบจะเป็นลม
เดิมเขาคิดว่า มากสุดหยวนชิงหลิงคงขึ้นไปนั่งบนราวบันไดชั้นสองเพื่อขู่เท่านั้น ที่ไหนได้ นางกลับขึ้นไปนั่งบนราวบันไดข้างบนสุด เท้าทั้งคู่ห้อยลง อันตรายอย่างมาก มองดูแล้วก็เหมือนจะตกลงมาแล้ว
เขามองขึ้นไป ตกใจจนเข่าอ่อน พร้อมพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “เจ้าทำบ้าอะไร? ยังไม่รีบลงมาอีก?”