บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 446 สร้างห้องผ่าตัด
เรื่องที่อ๋องฉีและหยวนชิงหลิงถูกลอบสังหาร ราวกับหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
หลักฐานทั้งหมดได้ถูกถวายขึ้นไปหมดแล้ว ฮ่องเต้หมิงหยวนไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว
ก็ไม่นับว่าไม่เคลื่อนไหวเลยซะทีเดียว เพียงแต่ปลดตำแหน่งขุนนางของหยู่เหวินเห้าอีกครั้งอย่างสบายๆ
สาเหตุของการปลดออกจากตำแหน่งก็สมเหตุสมผลมาก การจับกุมคนร้ายทำได้ไม่เต็มที่
ถูกปลดจากตำแหน่งสองครั้งสองครา หยู่เหวินเห้ากลายเป็นตัวตลก เขาถึงกับสร้างบันทึกครั้งใหม่ นั่นก็คือบันทึกที่ว่าหลังจากกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมแล้วถูกปลดอีกครั้งด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุด
เหล่าคำพูดไร้สาระย่อมส่งผ่านเข้าหูของเข้าอยู่บ้าง
พูดกระทั่งว่าแม้แต่พระชายาของเขาเองก็ยังปกป้องไม่ได้ ถูกอ๋องอันรังแกจนคิดจะกระโดดตึกอยู่แล้วก็ทำได้แค่ไปหาเรื่องถึงจวนคนอื่นเขาเท่านั้น สุดท้ายยังทำให้ตนเองต้องถูกปลดจากตำแหน่งอีกครั้ง
เอาเป็นว่า คำพูดไม่น่าฟังทั้งหลายล้วนมีหมด
สำหรับหยู่เหวินเห้าที่ไร้ตำแหน่งหน้าที่การงานอีกครั้ง หยวนชิงหลิงกลับรู้สึกดีใจมาก
ที่จริงไม่ว่าจะเป็นเพราะฮ่องเต้มีใจอยากจะปกป้องเขา หรือเพราะสาเหตุอื่นใด ท้ายที่สุดแล้ว ในระยะเวลาตั้งครรภ์ช่วงสามเดือนสุดท้ายนี้ มีเขาคอยอยู่เคียงข้างเป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุด
เวลาผ่านไปไวมาก พริบตาเดียวก็เข้าสู่กลางเดือนสองแล้ว
หยวนชิงหลิงที่ท้องได้เจ็ดเดือนครึ่งแล้ว ถูกหมอหลวงเฉาตรึงไว้กับเตียง จำเป็นต้องพักผ่อนอยู่บนเตียง ไม่สามารถไปไหนได้ทั้งนั้น
นางผดุงครรภ์ที่ใต้เท้าชุยแนะนำมาได้รับตัวมาถึงเมืองหลวงแล้ว พอได้ยินว่าต้องดูแลรับใช้พระชายาที่จะให้กำเนิดฝาแฝดถึงสามคน ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ให้ทังหยางไปหานางผดุงครรภ์มาอีกหลายคนเพื่อรอรับใช้อยู่ในจวนด้วยกัน เปิดชั้นเรียนทำการอบรม ถ่ายทอดวิชาความรู้เกี่ยวกับการรับมือในสถานการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น
และหยวนชิงหลิงเองหลังจากผ่านช่วงปีใหม่ไปแล้วก็ได้ให้หยู่เหวินเห้าสร้างห้องผ่าตัดขึ้นในจวน
ตอนนี้ห้องผ่าตัดได้สร้างเสร็จแล้ว ไม่ใหญ่มาก ประมาณสามสิบตารางเมตร
หยวนชิงหลิงภายใต้การประคับประคองของหยู่เหวินเห้าเดินเข้าไปดูชั่วครู่ ระดับการปกปิดมิดชิดดีมาก และได้ทำหลังคาโปร่งแสงไว้ด้วย และได้ทำการฝังไข่มุกเปล่งแสงไว้ที่ผนังจำนวนสี่เม็ด ที่สำคัญที่สุดคือจุดที่มีการรั่วไหลของอากาศได้ถูกอุดไว้จนหมด อากาศข้างนอกเข้ามาไม่ได้ ตอนที่เปิดออก ช่องทั้งสี่จะไหลวนสวนกระแสกัน
เตียงผ่าตัด เปลหาม รถเข็นเป็นต้นถึงเวลาคงได้ใช้งาน ก็ล้วนทำเสร็จแล้ว เหล่านี้หยวนชิงหลิงทำการวาดแบบร่าง ให้ช่างทำขึ้นโดยเฉพาะ
แม้แต่เตียงเด็ก รถเข็นเด็ก ก็ได้ทำเสร็จล่วงหน้าแล้ว
ตอนนี้หยวนชิงหลิงกังวลเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือสถานการณ์ที่ลูกคลอดก่อนกำหนด ท้องฝาแฝดเดิมทีก็มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดอยู่แล้ว น้ำหนักตัวน้อย การดูแลหลังคลอด เป็นเรื่องที่ยากและใหญ่เรื่องหนึ่งทีเดียว
เพราะว่า แม้ว่าในกล่องยาของนางจะมีตู้อบทารกปรากฏขึ้นหนึ่งกล่อง ที่นี่ไม่มีเงื่อนไขที่พอจะรองรับการวางตู้อบเด็กได้
ถ้าหากว่า ลูกคลอดออกมาตามกำหนด ไร้ซึ่งปัญหาใดๆ ระวังเรื่องการรักษาอุณหภูมิและกินนม เช่นนั้นก็ทำได้ง่าย
ฉะนั้น หยวนชิงหลิงจะบ่นคำหนึ่งทุกวัน อย่าคลอดก่อนกำหนด ต้องคลอดตามกำหนดเท่านั้น
ก่อนหน้านี้หยู่เหวินเห้าตื่นเต้นมาก
ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเรื่องแก่งแย่งชิงดีอะไรที่เกิดขึ้นภายนอกทั้งนั้น รู้สึกกระทั่งว่าเจ้าสี่เผยตัวตนออกมาก็เป็นเรื่องดี อย่างน้อย ไม่จำเป็นต้องให้เขาจับตาดู เสด็จพ่อและยังมีคนอีกมากที่คอยจับตาเจ้าสี่
เจ้าสี่จำเป็นต้องเก็บหางของตัวเองไว้ให้ดี
ก่อนหน้านี้ เขาเคยปรึกษากับเหลิ่งจิ้งเหยียน
เหลิ่งจิ้งเหยียนรู้สึกว่าเจ้าสี่ได้ทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงเรื่องหนึ่ง นั้นก็คือดีใจจนลืมตัว เลือกที่จะเหยียบย่ำจวนอ๋องฉู่ เขาไม่ควรมาแหย่หยวนชิงหลิง
คนที่กำลังอยู่ในชัยชนะ ง่ายมากที่จะผิดพลาดตรงจุดนี้
แต่ว่า เหลิ่งจิ้งเหยียนก็ได้เตือนหยู่เหวินเห้า เจ้าสี่ทำผิดในครั้งนี้ เหมือนเป็นการแจ้งเตือนเขา หลังจากนี้เป็นต้นไป เจ้าสี่คงจะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับอ๋องจี้ลอบสังหารอ๋องฉี ยังคงหยุดชะงัก
ฮ่องเต้หมิงหยวนได้รับข้อมูลที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การตรวจค้นจวนอ๋องจี้ได้พบเข้ากับตุ๊กตาตัวหนึ่ง เป็นตุ๊กตาที่ใช้สาปแช่งหยวนชิงหลิง และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หยู่เหวินเห้าไปหาเรื่องที่จวนอ๋องจี้
แล้วก็มีตัวอย่างเช่น ได้รับรู้ว่าตอนที่อ๋องจี้อยู่ที่วัดฮู่กว๋อ ได้ติดต่ออย่างลับๆกับเหล่าขุนนางมากมาย ไปมาหาสู่กัน
จากนั้นฝั่งไท่ซ่างหวงก็ไม่ได้บอกให้ฮ่องเต้หมิงหยวนทราบอย่างง่ายดาย ว่าก่อนหน้านี้แม่ทัพหลอมีหน้าที่รับผิดชอบปกป้องหยวนชิงหลิง แต่ว่า ในคืนที่หยวนชิงหลิงถูกลอบทำร้าย องครักษ์ลับผีที่นำโดยแม่ทัพหลอก็ถูกลอบสังหาร พวกเขาฝ่าวงล้อมออกมาได้อย่างยากลำบาก จึงช่วยหยวนชิงหลิงเอาไว้ได้
หรือพูดอีกอย่างคือ วันนั้นที่ทำการลอบสังหารอ๋องฉีและหยวนชิงหลิง ไม่ใช่การทะเลาะวิวาทเล็กน้อย แต่มีการวางแผน มีพรรคพวก มีการเคลื่อนไหวโดยผ่านการวางแผนไว้แล้ว และต้องการทำให้คนตาย
ฮ่องเต้หมิงหยวนยังคงไม่ทำอะไรทั้งนั้น
ไม่มีใครรู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
อ๋องจี้ที่อยู่ในคุก ทำตามคำสั่งของฉินเฟย เขียนหนังสือหมื่นอักษรให้กับฮ่องเต้หมิงหยวน หลังจากฮ่องเต้หมิงหยวนดูแล้ว ก็ฉีกทิ้งทันที เอ่ยอย่างโมโหว่า “ไม่ได้ความเลยสักนิด”
ฉินเฟยอกสั่นขวัญแขวน หลังจากกลับตำหนักไปแล้ว ก็สั่งให้คนเรียกตัวพระชายาจี้เข้าพบ
“ล้วนเป็นความคิดไม่ได้เรื่องของเจ้า ให้เขาเขียนหนังสือหมื่นอักษรอะไรนั่น ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงกริ้วยิ่งกว่าเดิมอีก”ฉินเฟยร้อนใจจนเดินวนไปมา คนถูกขังเอาไว้หนึ่งเดือนกว่าแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
พระชายาจี้เอ่ยด้วยเสียงเรียบๆว่า “เสด็จแม่ เสด็จพ่อทรงกริ้วนั้นถูกแล้ว”
“โกรธก็แปลว่าถูกต้องแล้วอย่างนั้นหรือ ตอนนี้ฮ่องเต้ผิดหวังในตัวเขาอย่างที่สุดแล้ว เจ้ายังบอกว่าถูกต้องอีก เจ้าอยากจะทำร้ายให้เขาตายใช่หรือไม่ ทำไม่จึงยังไม่เห็นเจ้าลงมือทำอะไรเลย”ฉินเฟยเอ่ยอย่างโมโห
พระชายาจี้มองฉินเฟย พูดว่า “เสด็จแม่ ที่เสด็จพ่อผิดหวังในตัวเขา ย่อมดีกว่ายังมีความหวังในตัวเขาอยู่ รู้แล้วว่าเขาไร้ประโยชน์ ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าเขาไม่มีทางที่จะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ ”
ฉินเฟยฟังแล้วรู้สึกว่าก็มีเหตุผลอยู่บ้าง แต่ว่า ลูกชายอยู่ในคุกหนึ่งวัน นางก็ไม่สามารถสบายใจได้แม้แต่วันเดียว
พระชายาจี้ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ออกจากวังแล้วก็ไปหาหยวนชิงหลิงที่จวนอ๋องฉู่
วันนี้หยู่เหวินเห้าออกไปข้างนอก เขาจะไปรับตัวเจ้าอาวาส
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าหยวนชิงหลิงต้องการพบกับเจ้าอาวาสในช่วงเวลานี้เพราะอะไร แต่ตอนนี้คำพูดของนาง เขาแทบจะไม่ตั้งข้อสงสัยเลย ได้แต่ทำตามอย่างว่าง่าย
เพราะว่า ด้านการให้กำเนิดลูก เขาไม่ถนัดและไม่มีความรู้จริงๆ
หยู่เหวินเห้าอยู่ในบ้าน จะไม่คุยเรื่องนอกบ้านกับหยวนชิงหลิง
สามารถพูดได้ว่า พระชายาจี้ได้รับหน้าที่เป็นสายสืบรายงานคนใหม่ให้กับหยวนชิงหลิงไปโดยปริยาย
“ฮ่องเต้ยังไม่สั่งลงโทษ ฮ่องเต้ยังคงรออยู่”พระชายาจี้เข้ามา หลังจากทักทายกันสองสามคำ ก็เปิดประเด็นพูดออกมาตรงๆ
“รออะไร”หยวนชิงหลิงเนื้อผลเหอเถาที่นางนำมาให้ พลางถามขึ้น
“รอเจ้าคลอดอย่างไรเล่า”พระชายาจี้ยิ้ม “ตอนนี้ ไม่ว่าฮ่องเต้จะตัดสินอย่างไร ก็ต้องนำมาซึ่งความโกลาหลวุ่นวาย เขาไม่ได้ทำการตัดสินใดๆหรือสั่งลงโทษ เช่นนั้นทุกคนต่างก็ได้แต่เฝ้าดู อย่างน้อย ในระยะเวลานี้ ใครก็ไม่กล้าทำเรื่องเลยเถิดเพื่อดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้ เขาต้องการหยุดชะงักทุกอย่างไว้ชั่วคราวเพื่อเจ้า ต้อนรับการกำเนิดของลูกเจ้า”
หยวนชิงหลิงรู้สึกซาบซึ้งใจมาก “ขอบคุณสิ่งที่เขาทำเพื่อข้า ”
“เพื่อลูกของเจ้าต่างหาก”พระชายาจี้แก้ไขให้ถูกต้อง
หยวนชิงหลิงเอ่ยยิ้มๆว่า “ไม่ว่าจะทำเพื่อใคร คนที่ได้รับประโยชน์คือตัวข้า ข้าสมควรกล่าวคำขอบคุณ”
“เจ้าน่ะนะ จิตใจดีเกินไป”พระชายาจี้ถอนหายใจ
หยวนชิงหลิงถามขึ้น “จิตใจดีก็ถูกวิจารณ์ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ”
พระชายาจี้เลือกเนื้อเหอเถอให้นาง ยื่นส่งให้นาง “ก็แค่กลัวว่าเจ้าจะมองในแง่ดีมากเกินไป ถึงเวลาจะเสียเปรียบเอาได้”
“ท่านช่างคิดเผื่อข้าได้มากจริงๆ”หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆ
“ช่วยไม่ได้ ชีวิตข้าอยู่ในกำมือเจ้านี่นา ”พระชายาจี้เอ่ยอย่างจนใจ
หยวนชิงหลิงพูดว่า “อาการป่วยของท่านแม้ยังต้องกินยา แต่ตอนนี้ได้หายดีขึ้นมากแล้ว”
พระชายาจี้ยักไหล่ “อนาคตของลูกสาวข้าก็อยู่ในมือเจ้า ภายหน้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะมีอนาคตที่สดใสหรือไม่ มีลูกสามคนนี้ที่เข้าตาฮ่องเต้และไท่ซ่างหวง ก็ช่วยจวิ้นจู่ของข้าขอความเมตตาบ้าง ย่อมถือว่าพอใจแล้ว”
“ท่านอย่ากังวลมากไปเลย อย่างไรเสียจวิ้นจู่ก็เป็นคนของราชวงศ์ ไม่มีใครปฏิบัติต่อนางไม่ดีแน่”หยวนชิงหลิงเอ่ยปลอบใจ
“ใครจะไปรู้เล่า ”แต่ไหนแต่ไรมาพระชายาจี้เชื่อว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องเตรียมการให้พร้อม เตรียมวางแผนไว้สมบูรณ์แล้ว ผลที่ตามมาย่อมดีกว่าไม่มีการเตรียมการเลย
จากนั้นจึงจะเป็นเรื่องของโชควาสนา