บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 540 ผู้ชายมากรัก
จูกั๋วกงมองดูลูกชายคนโตที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ในใจเจ็บปวดอย่างมาก พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ท่านแม่ของเจ้าเสียใจ แต่หลายปีมานี้เรื่องใหญ่หลายอย่างที่ข้าทำ ที่ข้าตัดสินใจ นางต่างสนับสนุนมาตลอด ตอนนี้ดูเหมือนนางยังกระทำไม่ร้ายแรง แต่ความตั้งใจของนางคืออะไร? เจ้าเคยคิดไหม?”
จูโห้วเต๋อพูดขึ้นว่า “ความตั้งใจ? ไม่ใช่เพียงเพราะอ๋องอานไม่ได้เป็นองค์ชายรัชทายาทหรือ นางโกรธพระชายารัชทายาทแล้วยังไง? เรื่องนี้ตำหนิสั่งสอนก็พอ ไม่จำเป็นต้องเอาใจพระชายารัชทายาท แล้วตัดสัมพันธ์กับน้องสาว”
จูกั๋วกงหัวเราะเยาะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าเลอะเลือน เลอะเลือนมาได้ตั้งนานหลายปีขนาดนี้ พวกเจ้าก็มีส่วนร่วมด้วย พวกเจ้าไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อผิดพลาด วิเคราะห์สถานการณ์ได้ พวกเจ้าด้อยความสามารถ ต่างก็คาดหวังว่าอนาคตตี๋เว่ยหมิง จะนำความรุ่งเรืองมาให้กับจวนกั๋วกง แต่ตี๋เว่ยหมิงกับจูหวย คิดกบฏองค์ชายรัชทายาทองค์ปัจจุบัน พวกเขากำลังจะกระทำการทรยศคิดกบฏ เจ้ารู้ไหม? วันนี้ไม่ตัดความสัมพันธ์ ต่อไปเมื่อเรื่องของพวกเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งเดือดร้อนใหญ่โต ก็จะส่งผลกระทบต่อจวนกั๋วกงเรา ส่งผลกระทบต่อตระกูลจู หากไม่ตัดสัมพันธ์ ต่อไปเจ้ายินดีที่จะยกหัวของเจ้า เพื่อปกป้องความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องแบบนี้ไหม?”
จูโห้วเต๋อตกตะลึงล้มนั่งลงพื้น พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่….นี่เป็นไปไม่ได้มั่ง?”
แต่เป็นไปไม่ได้หรือ? ตอนนี้พวกเขาท้าทายพระชายารัชทายาท อวดดีขนาดไหน? ดังนั้นพวกเขาจะยอมที่จะให้องค์ชายรัชทายาทขึ้นเป็นฮ่องเต้หรือ?
จะต้องไม่ยอมแน่
ไม่ยอมแล้วจะทำยังไง? มีเพียงทางเดียว นั่นก็คือกบฏ
จูโห้วเต๋อยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัว รู้สึกว่าท่านพ่อพูดมีเหตุผล จึงรีบลุกขึ้นมา ถอยออกไปหาผู้นำตระกูล
ข่าวจูกั๋วกงกับฮูหยินตี๋เว่ยหมิงจูหวย ตัดความสัมพันธ์กันนั้นไม่สามารถปิดบังไว้ได้ ทางด้านตระกูลจูก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบัง กระทั่งประโคมข่าวเลยด้วยซ้ำ
จูกั๋วกงไปยังจวนอ๋องฉู่ด้วยตนเอง เชิญหยวนชิงหลิงมาช่วยรักษาอาการป่วยให้กับฮูหยินของกั๋วกง
ที่ว่าราชการเช้าวันรุ่งขึ้น จูกั๋วกงเห็นด้วยกับข้อเสนอขององค์ชายรัชทายาท เรื่องเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นต้าโจวอย่างเป็นทางการ
หลังจากเรื่องราวลงเอยแล้ว หยู่เหวินเห้ากับแม่ทัพใหญ่จิ้งถิงไปฉลองกันก่อน เดิมพวกเขาพูดว่าจะกลับประเทศแล้ว แต่หยวนชิงหลิงเชื้อเชิญพวกเขาร่วมงานแต่งงานของกู้ซือกับหยวนชิงผิงก่อน แล้วค่อยกลับ
งานแต่งงานคึกคักมาก ทางด้านตระกูลกู้ให้ความสำคัญสะใภ้คนนี้มาก ให้สินสอดจนทางด้านตระกูลหยวนพอใจอย่างมาก
เจ้าพระยาจิ้งก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว หยวนชิงหลิงเคยพูดกับเขาว่า รอหลังจากจบงานแต่งของหยวนชิงผิง เขาต้องไปจากเมืองหลวง
หลังจากเจ้าพระยาจิ้งเคยไปอยู่ในคุกมา ก็กลัวแล้ว รู้สึกว่าต่อให้รุ่งเรืองแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตที่เป็นอิสระ
ส่วนเรื่องที่เจ้ากรมการพระนครจับตัวอะซี่ไปผิด ฮูหยินใหญ่ตระกูลหยวนก็ตรงไปฟ้องที่กรมข้าราชการพลเรือนกรมอาญา ผู้ช่วยเจ้ากรมถูกปลดจากตำแหน่ง รอการไต่สวน
ฮ่องเต้หมิงหยวนมีราชฎีกา ให้หยู่เหวินเห้ากลับไปรับตำแหน่งที่กรมการพระนคร ตำแหน่งเจ้ากรมการพระนคร เขามารับตำแหน่งสามครั้งแล้ว
หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งงานของหยวนชิงผิง สองสามีภรรยาแคว้นต้าโจวเชิญเป่ยถังสองสามีภรรยาทานข้าว บอกว่าจะเลี้ยงขอบคุณพวกเขาที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
หยู่เหวินเห้าตั้งแต่รู้ว่าพวกเขาจะกลับ คนทั้งคนก็เปลี่ยนไปแล้ว พูดโทษแต่จูกั๋วกงคนนี้ไม่มีความแน่วแน่ ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง น่าจะหนักแน่นอดทนหลายวันหน่อย
แต่ที่ว่าไม่มีงานเลี้ยงใดในโลกไม่มีวันเลิกรา พวกเขาเป็นคนแคว้นต้าโจว ขุนนางแคว้นต้าโจว ยังไงก็ต้องกลับไปยังแคว้นต้าโจว
เพราะหยู่เหวินเห้ากับจิ้งถิงอยู่ด้านนอก จึงไปที่ร้านอาหารแล้ว หยวนชิงหลิงกับจิ่นหนิงจึงออกมาจากจวนอ๋อง
หลังจากเข้าไปแล้ว หยวนชิงหลิงก็คิดขึ้นมาได้ว่าต้องสั่งให้แม่นมทานยา จึงออกไปพูดคุยกับหมันเอ๋อ แล้วให้นางวิ่งกลับไปที่จวน
เมื่อตอนที่หันตัว มีคนคนหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว ชนนางล้มนั่งลงกับพื้น
เดิมอาการบาดเจ็บยังไม่หายดี เมื่อถูกชนล้ม นางเจ็บปวดจนไม่สามารถที่จะลุกขึ้นมาได้ในทันใด
มีคนคนหนึ่งยื่นมือมาดึงนางขึ้น นางเงยหน้าขึ้นกำลังจะพูดขอบคุณ กลับเห็นคนนั้นดูคุ้นหน้ามาก ใบหน้าที่งดงามสง่านั้น ฝังลึกอยู่ในความทรงจำ นางจำได้ว่าเคยเห็นในงานเลี้ยง ตอนนั้นเจ้าห้าบอกกับนางว่า นั้นคือท่านชายหงเย่ของเซียนเปย
“ฮูหยิน ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”ท่านชายหงเย่ดูเหมือนจะจำนางไม่ได้ หลังจากพยุงนางขึ้นมาแล้ว ก็รีบถอยห่างไปหนึ่งก้าว ท่าทีมีมารยาท เสื้อผ้าสีแดงถูกลมพัดปลิวไสว ใบหน้าผ่องสว่างไสว
หยวนชิงหลิงยื่นมือกุมท้องไว้ ย่อตัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่แท้ก็เป็นท่านชายหงเย่ ขอบคุณมาก ข้าไม่เป็นไร”
ท่านชายหงเย่อึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮูหยินรู้จักข้าหรือ?”
“เคยเห็นครั้งหนึ่ง แต่ท่านชายคงจำข้าไม่ได้”หยวนชิงหลิงยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้น
“หา? งั้นไม่รู้ว่าเคยเห็นที่ไหนหรือ?”ท่านชายหงเย่แสดงท่าทีสงสัย หางตาเงยขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากอมยิ้มอย่างอ่อนโยน บอกไม่ถูกว่าน่าหลงใหลขนาดไหน
“ในวัง พิธีแต่งตั้งองค์ชายรัชทายาทในครั้งนั้น”
ท่านชายหงเย่ยกมือขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าท่านคือ?”
หยวนชิงหลิงเคยได้ยินจิ่นหนิงพูดถึงท่านชายหงเย่คนนี้ และเขาเป็นคนเซียนเปย ตอนนี้เป่ยถังกับแคว้นต้าโจวผูกพันธมิตร ในสถานการณ์แบบนี้นางไม่ควรที่จะพูดอะไรกับเขามาก จึงไม่ได้ตอบคำถามเขา ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เพื่อนของข้ารอข้าอยู่ข้างใน ขอตัวก่อน”
ท่านชายหงเย่ก็ไม่รั้งไว้ เพียงแค่ยิ้มส่ง
หลังจากหยวนชิงหลิงเข้าไปแล้ว ก็ได้บอกกับจิ่นหนิงว่าเจอท่านชายหงเย่ข้างนอก
จิ่นหนิงระวังตัวอย่างมาก พูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท คนคนนี้ไปมาหาสู่ไม่ได้ ต่อไปหากเจออีก จะต้องหลบหลีก เขาเป็นคนที่เจ้าเล่ห์มาก และไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้จักเจ้า คืนนั้นเจ้านั่งอยู่ด้านข้างองค์ชายรัชทายาท เพียงเขามององค์ชายรัชทายาท ก็จะต้องมองเห็นเจ้าแน่”
“คงจำไม่ได้แล้วมั้ง?”หยวนชิงหลิงไม่ได้คิดอะไรมาก
จิ่นหนิงพูดขึ้นว่า “ความจำของเขาดีมาก ดีอย่างที่สุด ขอเพียงเป็นคนที่เขาเคยเห็น เขาก็จะไม่มีทางลืม เมื่อกี้เจ้าพูดว่ามีคนชนเจ้า เขาค่อยปรากฏตัว งั้นคนที่ชนเจ้าคนนี้อาจเป็นไปได้ว่าเขาเป็นคนวางแผน เพื่อต้องการใกล้ชิดเจ้า”
หยวนชิงหลิงฟังจิ่นหนิงพูดเช่นนี้ ในใจค่อนข้างต่อต้านท่านชายหงเย่ แต่คิดว่าต่อไปก็คงไม่ได้เจอหน้ากันอีกแล้ว จึงไม่ได้สนใจอะไรมาก
รอเมื่อหยู่เหวินเห้ากับจิ้งถิงมาถึง จิ่นหนิงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้วพร้อมพูดว่า “เขายังไม่กลับหรือ? งานเฉลิมฉลองก็เสร็จสิ้นไปหลายวันแล้ว เขายังอยู่ที่นี่หรือ?”
“หงเย่ทำทุกอย่างล้วนมีเป้าหมาย องค์ชายรัชทายาทจะต้องระวังคนนี้ไว้ให้ดี”จิ่นหนิงพูดขึ้น
หยู่เหวินเห้าพยักหัว พร้อมพูดว่า “วางใจ ข้าจะให้จับตาดูเขาไว้”
“แม่ทัพฉินแคว้นต้าโจวคนนั้นก็ยังไม่กลับไปมั่ง? สองคนนี้ยังอยู่เป่ยถัง เพื่ออะไรกันแน่? ตอนนี้ข้อเสนอก็ผ่านแล้ว ตามหลัก พวกเขาควรจากไปตั้งแต่แรกแล้วถึงจะถูก”จิ้งถิงพูดขึ้น
หยู่เหวินเห้าค่อยระวังไว้ แม่ทัพฉินกับท่านชายหงเย่ยังอยู่ที่เป่ยถัง คนที่เป็นไปได้ในการไปมาหาสู่ก็คือเจ้าสี่กับตี๋เว่ยหมิง
จะต้องหาคนคอยจับตาดูพวกเขาไว้จริงๆแล้ว อย่าให้พวกเขาได้สร้างเรื่อง สร้างความเดือดร้อนอะไรขึ้นมา
ยังมีเรื่องที่แม่นมสี่ติดโรค หากเกี่ยวข้องกับเจ้าสี่จริง งั้นต้องใส่ใจให้ดี
“ยังไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว พรุ่งนี้พวกเจ้าก็จะกลับแล้ว คืนนี้เรามามีความสุขกัน”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
จิ้งถิงก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยว่า “วันเวลานี้ผ่านไปเร็วมาก เหมือนเพิ่งมา กลับต้องไปแล้ว”
“จากกันครั้งนี้ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเจอกันอีก”หยู่เหวินเห้าก็เริ่มถอนหายใจแล้ว
มองดูในหน้าทั้งสองคน ที่ต่างก็เศร้าสร้อย หยวนชิงหลิงกับจิ่นหนิงต่างก็หัวเราะขึ้นมา
ผู้ชายมากรัก