บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 616 ไปเกลี้ยกล่อมเด็กแก่
ตอนที่มู่หรูกงกงมาถึงจวนอ๋องฉู่ หยู่เหวินเห้าเพิ่งกลับมา ก็มาเจอกับมู่หรูกงกงพอดี
หากไม่มีอะไร มู่หรูกงกงจะไม่มาตอนกลางคืน ดังนั้นหยู่เหวินเห้าเห็นเขา ก็รีบถามขึ้นว่า “กงกง เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
มู่หรูกงกงรีบลงจากรถม้า เดินมาอย่างเร่งรีบ พร้อมพูดขึ้นว่า “อุ๊ย ท่านอ๋อง ดูท่านสิงานยุ่งก็ยุ่งเถอะ ยังไงก็ควรที่จะหาเวลาไปถวายพระพรไท่ซ่างหวงบ้าง ท่านว่าท่านกับพระชายารัชทายาทไม่ได้ไปเข้าเฝ้านานแค่ไหนแล้ว?”
หยู่เหวินเห้าครุ่นคิด พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็ไม่นานนี่ ครั้งที่แล้วเข้าวัง….” ดูเหมือนจะนานแล้วจริงๆด้วย
มู่หรูกงกงเหยียบเท้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ไท่ซ่างหวงงอนมาก จนทำให้ตนเองบาดเจ็บอย่างไม่ได้ตั้งใจ”
หยู่เหวินเห้าตกใจไม่เบา รีบถามขึ้นว่า “บาดเจ็บหนักไหม?”
มู่หรูกงกงพูดว่า “ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก เข้าไปพูดคุยกันข้างใน เชิญพระชายารัชทายาทออกมาด้วย”
หยู่เหวินเห้าได้ยินว่าไม่ค่อยเป็นอะไรมาก ก็ค่อยวางใจ รีบเดินเข้าไปสั่งคนไปตามหยวนชิงหลิงไปห้องโถง
รอเมื่อหยวนชิงหลิงออกมาแล้ว หยู่เหวินเห้าค่อยถามว่า “ไท่ซ่างหวงโกรธเรื่องอะไรหรือ? ทำยังไงถึงได้ทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ?”
มู่หรูกงกงมองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท เข้าวังหลายครั้งนี้ ล้วนต่างก็รีบไปรีบกลับ ไม่ได้ไปถวายพระพรที่พระตำหนักฉินคุนใช่ไหม?”
เมื่อกี้ตอนที่สวีอีไปตามหยวนชิงหลิง ก็ได้บอกนางแล้วว่าไท่ซ่างหวงได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นคราวนี้หยวนชิงหลิงก็ร้อนใจอย่างมาก ได้ยินมู่หรูกงกงถาม นางนิ่งอึ้งไป พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ได้ไปจริงๆ ค่อยข้างรีบ จึงไม่ได้ไปหา”
มู่หรูกงกงพูดขึ้นว่า “ไท่ซ่างหวงโกรธอย่างมาก วันนี้ท่านเข้าวังแล้วก็ไม่ได้ไปพระตำหนักฉินคุน ก็โกรธจัดอย่างมาก ฉางกงกงพูดว่าเตะเก้าอี้ชนถูกตนเอง หกล้มแล้วก็หัวแตก พรุ่งนี้ไม่ว่าท่านจะว่างหรือไม่ว่าง ก็ต้องไปสักครั้ง ฮ่องเต้ตรัสแล้ว อย่าบอกว่าข้าออกจากวังมาแจ้งเจ้า ให้บอกว่าเจ้าคิดถึงไท่ซ่างหวง จึงเข้าวังไปถวายพระพร ดีที่สุดให้พาลูกไปด้วย”
ในใจหยวนชิงหลิงรู้สึกผิดขึ้นมาในทันใด อยากที่จะเข้าหวังไปทันที จึงพูดขึ้นว่า “กงกงวางใจ พรุ่งนี้ข้าจะไปแต่เช้า”
มู่หรูกงกงถอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท บ่าวก็ไม่ได้อยากว่าท่าน ตอนนี้ไท่ซ่างหวงได้เกษียณแล้ว ไม่ถามเรื่องราชการ อาศัยอยู่ในวังหลังอย่างสงบ คนไปมาหาสู่ก็มีไม่กี่คน รอคอยก็แต่เพียงท่านกับพวกหลานๆ ท่านควรที่จะไปอยู่เป็นเพื่อนบ้าง ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
ฉางกงกงพูดเช่นนี้จนหยวนชิงหลิงแทบน้ำตาไหล จนอยากที่จะตบหน้าตนเองหนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้แล้ว ขอบคุณกงกงอย่างมากที่มาแจ้ง”
มู่หรูกงกงจึงลุกขึ้น แล้วก็ลากลับ
หยู่เหวินเห้าเห็นหยวนชิงหลิงทุกข์ทรมานอย่างมาก จึงพูดปลอมขึ้นว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าก็มีงานยุ่ง ใครจะไปรู้ว่าเสด็จปู่จะชอบโกรธง่ายขนาดนี้? อายุก็ขนาดนี้แล้ว ยังจะไม่รักตนเอง ช่างเอาแต่ใจจริงๆ”
หยวนชิงหลิงถลึงตาใส่เขาพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอกตัญญู ใคร อนุญาตให้เจ้าพูดว่าเขาเช่นนี้? อยากจะบอกว่าเอาแต่ใจหรอ? แล้วเจ้าไม่เอาแต่ใจหรือไง? เจ้าไม่เอาแต่ใจแล้วทำไมถึงไม่ไปเยี่ยมดูเขาบ้าง?”
หยู่เหวินเห้าขยี้จมูก ที่จริงเขาก็เป็นห่วงไท่ซ่างหวง ก็เพราะไม่อยากเห็นเจ้าหยวนโทษตัวเอง จึงพูดว่าไท่ซ่างหวงเอาแต่ใจ แต่เมื่อคิดดูแล้วพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง คนก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว คนที่ได้รับบาดเจ็บใหญ่ที่สุด
หยวนชิงหลิงไม่อยากสนใจเขา หันตัวเดินไปหาแม่นมสี่ ถามว่าไท่ซ่างหวงชอบทานอะไร แล้วทั้งสองคนก็อยู่ในครัวทั้งคืน ทำเค้กขนมหวาน ต้มน้ำซุป ล้วนเป็นสิ่งที่ไท่ซ่างหวงชอบ
ไท่ซ่างหวงชอบทานเค้กงา ขนมชั้น ขนมโก๋แผ่นเมฆ หยวนชิงหลิงไม่ยอมนอน รีบทำด้วยกันกับแม่นมสี่ ใส่กล่องอาหารเต็มสามกล่อง
ฟ้าเริ่มสว่าง นางก็พาแม่นมสี่กับแม่นมพวกเด็กเข้าวังไปด้วยกัน
พวกเด็กๆยังไม่ตื่น แม่นมอุ้มนอนอยู่ในรถม้า รถม้าโยกเยก พวกเด็กๆกลับยิ่งนอนหลับลึก
หยวนชิงหลิงยื่นมือลูบใบหน้าข้าวเหนียวน้อย ที่จริงช่วงนี้นางไม่เพียงละเลยไท่ซ่างหวง แม้แต่ลูกนางก็ละเลย ออกจากจวนแต่เช้ากลับค่ำทุกวัน หลังจากกลับมาพวกเด็กๆก็นอนแล้ว นางกลับเจ้าห้าต่างก็เข้าไปมองแว๊บหนึ่งแล้วก็ไป
เมื่อคิดดูแล้วนางก็เลวร้ายมาก สามครั้งที่เข้าวังมานี้ ที่จริงต่างก็สามารถไปดูไท่ซ่างหวงได้ แต่ก็เพราะกลัวว่าจะเสียเวลานาน
โชคดีที่ครั้งนี้ไม่ได้เกิดเรื่องใหญ่ ไม่เช่นนั้น นางจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่
เมื่อคืนไท่ซ่างหวงโกรธโมโหทั้งคืน หลังเที่ยงคืนค่อยนอนลง เจ็บบาดแผล จึงนอนไม่หลับ ฟ้ายังไม่สว่างก็ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ร่างกายเหนื่อยล้าจึงไม่ยอมลุกขึ้นมา ก่อนที่ฮ่องเต้จะขึ้นว่าราชการได้รีบมาหาแล้วก็รีบไป
เขานอนอยู่บนเตียงไม่ยอมลุกขึ้นมา ในใจไม่พอใจ
ผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ด้านนอก เขาเงยหัวขึ้นมาฟังดูสักพัก เหมือนเป็นเสียงร้องไห้ของข้าวเหนียว
เขาอึ้งไป เข้าวังมาแล้วหรือ? จากนั้นก็ยิ้มหัวเราะเย้ย จะมาไม่มาก็ช่าง ใครสนใจ? อย่ามารบกวนเวลาเขานอน เขาก็ยังคงไม่ลุกขึ้นมา
ด้านนอกข้าวเหนียวน้อยร้องไห้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเสียงดัง เหมือนดั่งปกติที่ร้องไห้จนแทบจะขาดใจ เขาฟังจนในใจร้อนรน ไม่มีใครปลอบเลยหรือ? ตายกันหมดแล้วหรือ? เขาเอามือทุบเตียงอย่างโกรธเคือง พร้อมพูดขึ้นว่า “ปรนนิบัติ”
รอเมื่อแต่งกายเรียบร้อยแล้ว ฉางกงกงประคองเดินออกมา หยวนชิงหลิงรีบยิ้มแย้มเข้าไปรับ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั่นเมื่อมองเห็นเขาแล้วก็หุบยิ้มในทันใด พร้อมพูดขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “โอ้พระเจ้า เสด็จปู่ นี่หน้าผากของท่านเป็นอะไร? ได้รับบาดเจ็บหรือ?”
ไท่ซ่างหวงมองดูนางอย่างเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “เช้าขนาดนี้ เจ้าพาคนมากมายขนาดนี้มาทำลายฝันของข้าหรือ? ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา?”
หยวนชิงหลิงเดินไปแล้วก็เบียดฉางกงกงที่อยู่ด้านข้างออกไป ควงแขนไท่ซ่างหวง พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “เสด็จปู่ ข้าทำเค้กขนมหวานให้กับท่านด้วยตนเอง ต้มซุปเป็ดซานชี ท่านตื่นมาพอดีเลย มาลองชิมฝีมือของข้าดู”
ไท่ซ่างหวงอยากแกะมือของนางออก หยวนชิงหลิงกลับกอดไว้แน่น แกะยังไงก็ไม่ออก ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ใครทำหน้าทะเล้นกับเจ้า? อย่างกับหมากฝรั่ง ใครจะกินของที่เจ้าทำ? ไม่เอา เอาออกไปให้หมด วันนี้ข้าไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น”
ข้าวเหนียวน้อยยังร้องไห้อยู่ หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ร้อง ร้อง ร้อง รู้จักแต่ร้องไห้ อุ้มออกไปโยนทิ้งเลย ไม่เอาแล้ว”
เมื่อตะคอกพูดเช่นนี้ ข้าวเหนียวน้อยยิ่งร้องไห้เสียงดังขึ้น มือน้อยคู่หนึ่งยื่นออกมา เท้าทั้งคู่เขย่งขึ้น แม่นมเกือบจะอุ้มไม่ไหว
หยวนชิงหลิงเดินไปอุ้มขึ้นมา แล้วก็ตีตรงก้นของข้าวเหนียวหนึ่งที ตรงก้นใส่ผ้าอ้อมไว้อย่างหนา ตบลงไปหนึ่งทีไม่ได้ทำให้เจ็บเลยสักนิด แต่ข้าวเหนียวน้อยร้องไห้แทบจะขาดใจ
ไท่ซ่างหวงเห็นข้าวเหนียวน้อยถูกตี จะทนได้อย่างไร? รีบพูดขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “อุ้มมานี่”
หยวนชิงหลิงอุ้มข้าวเหนียวน้อยไปวางในอ้อมอกของเขา ไท่ซ่างหวงรีบนั่งลง ค่อยๆอุ้มไหวไปมา เอามือลูบหลัง พร้อมพูดขึ้นว่า “ว่าง่าย ไม่ร้องไห้ เราไม่ร้องไห้ ไม่ต้องสนใจแม่ใจดำของเจ้า”
ข้าวเหนียวน้อยชอบร้องไห้ แต่ก็ปลอบง่าย อุ้มไหวไปมาปลอบโยนสักพัก ก็หยุดร้องไห้ทันที ยังยิ้มให้กับไท่ซ่างหวงพร้อมทั้งน้ำตา
หยวนชิงหลิงรีบพูดประจบสอบพอขึ้นว่า “ยังคงเป็นเสด็จมีความสามารถ เด็กคนนี้อยู่ที่จวนก็เอาแต่ร้องไห้ ใครก็ปลอบไม่ไหว พอท่านปลอบเขาก็หยุดร้องไห้ทันที”
ไท่ซ่างหวงเห็นข้าวเหนียวน้อยหัวเราะยิ้มแย้ม ในใจก็ค่อยสบายขึ้น รู้ทั้งรู้ว่าหยวนชิงหลิงตั้งใจหลอกล่อ แต่ก็ยังคงรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก ได้ยินหยวนชิงหลิงพูดประจบเช่นนี้ และมองเห็นของกินวางอยู่เต็มโต๊ะ ว่านางทำเอง ความโกรธในใจก็หายไปแล้วกว่าครึ่ง
หยวนชิงหลิงเห็นท่าทีของเขาอ่อนโยนลง ค่อยโล่งอกแล้วเดินไปด้านข้างเขา เริ่มจัดการแกะผ้าพันบาดแผลบนหัวของเขา แล้วก็จัดการบาดแผลให้เขาใหม่
เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ คนแก่เด็กคนนี้โกรธแล้วจริงๆ