บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 637 ทะเลาะกันหลังกลับบ้านมารดา
คุณยายหยวนพูดยิ้มๆว่า “เรื่องพวกนี้ พวกหลานที่เด็กกว่าไปสนุกกันเถอะ ย่าไม่ไปแล้ว”
หยวนชิงหลิงเห็นสีหน้าของคุณย่ามีความเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง คิดว่าตลอดการเดินทางมาที่นี่คงจะเหนื่อยมาก จึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นหลานก็ไม่ไป อยู่เป็นเพื่อนคุณย่าที่บ้านดีกว่า”
“หลานไปเถอะ”คุณยายหยวนอมยิ้มตบมือของนางเบาๆ “หลานไปช่วยหรงเยว่หน่อย ตลอดทางนี้ อ๋องชินสู้โมโหมาก ไม่แน่วันนี้อาจจะจัดการกับหรงเยว่ก็เป็นได้”
ตั้งแต่หรงเยว่แต่งงานไป ก็มีชีวิตที่ราวกับอยู่ในความฝันเพียงแค่สองวันเท่านั้น คนในจวนอ๋องหวยก่อนหน้านี้เคยถูกหลู่เฟยจัดการไปแล้ว ฉะนั้นจึงง่ายดายมาก คนที่รู้ใจก็มีไม่กี่คน บ่าวรับใช้คนอื่นๆก็เป็นระเบียบดี ไม่มีอะไรต้องให้เจ้าสาวที่เพิ่งแต่งเข้ามาต้องหนักใจ
วันที่สองหลังจากการแต่งงาน เข้าวังน้อมทักทาย คำนับไท่ซ่างหวงกับไทเฮา และคำนับฮ่องเต้กับฮองเฮาแล้ว เป็นสะใภ้ราชวงศ์อย่างเป็นทางการ
แต่ว่า พอถึงวันที่สามก่อนจะกลับบ้านมารดา นางก็เริ่มกระวนกระวายใจถอนหายใจเป็นระยะ
บ้านสามีดีหมดทุกอย่าง สามีดี พ่อแม่สามีก็ดี สะใภ้ร่วมตระกูลก็ดี แต่บ้านมารดา…… ยากจะอธิบายเป็นคำพูดสั้นๆได้
อ๋องหวยค่อนข้างให้ความสำคัญกับการกลับบ้านมารดาในครั้งนี้ เริ่มสั่งการให้มีการจัดการเตรียมความพร้อมในการกลับบ้านมารดาตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า ทำตามที่หยวนชิงหลิงสั่งการให้ออกกำลังกายช่วงเช้าเสร็จแล้ว เห็นว่าหรงเยว่ยังคงนอนเกียจคร้านอยู่บนเตียง สีหน้ายุ่งเหยิงเป็นอย่างยิ่ง
แต่งงานกันมาสองวัน เขายังคงไม่เข้าใจว่าระหว่างสองพ่อลูกหรงเยว่กับอ๋องชินสู้ทำไมจึงทะเลาะกันจนถึงขั้นนี้ เขาให้เกียรติหรงเยว่ นางไม่ยินดีจะพูดจึงไม่ได้ถาม
ตอนนี้เห็นนางยังไม่ค่อยอยากจะลุกขึ้นจากเตียง ก็รู้ว่านางคงกลัวที่จะต้องกลับบ้านมารดา จึงพูดยิ้มๆว่า “ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าก็ต้องพบคนในครอบครัวอยู่ดี จะสามารถหลบไปได้ถึงตอนไหน”
หรงเยว่ขมวดคิ้วเบาๆ “หลบไปจนกว่าเขาจะกลับต้าซิง”
“เขาเป็นพ่อของเจ้า หรือว่าชาตินี้เจ้าจะไม่พบเขาอีกแล้ว”อ๋องหวยนั่งอยู่ข้างเตียง ยื่นมือไปดึงนาง “รีบลุกขึ้น”
หรงเยว่มองแววตาที่อบอุ่นของเขา ถอนหายใจ “เอาเถอะ ฟังท่านก็ได้”
หน้าตาและความอบอุ่นของเขา เป็นยาพิษที่นางไม่สามารถต้านทานได้ อย่างน้อย วันนี้ก็ดูแล้วเหมือนจะเป็นยาพิษ
ที่จวนเหลิ่งวันนี้ก็มีการจัดการเตรียมงานกลับบ้านมารดา ตามธรรมเนียมของต้าซิงแล้ว ตอนที่ลูกเขยคนใหม่เข้าบ้าน ต้องมีการส่งคนไปขัดขวาง ผ่านการทดสอบแล้วจึงจะเข้ามาได้
เดิมที่สถานะของอ๋องหวยนั้นสูงส่ง ธรรมเนียมเหล่านี้สามารถยกเว้นได้ แต่เหมือนอ๋องชินสู้จะเกิดความโหดเหี้ยมขึ้นมาหรืออย่างไรไม่ทราบ ตั้งธรรมเนียมขึ้นมามากมาย ไม่ได้เป็นการทำให้อ๋องหวยลำบากใจ แต่เป็นการทำให้หรงเยว่ขยาดกลัว
ท่านชายสี่ยกมือขึ้นโบกมองด้วยสายตาเย็นชา สั่งให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องถอยออกไปให้หมดอย่างลับๆ เกรงว่าจะถูกลูกหลงซวยกันไปหมด
ก่อนที่รถม้าของจวนอ๋องหวยจะมาถึง หยวนชิงหลิงก็มาถึงก่อน คิดว่าจะเข้าไปทักทายหมอหลินก่อน แต่ไหนเลยจะรู้เมื่อได้รับรายงานว่าหมอหลินได้ออกไปพบแขกแล้ว คาดว่าคงอีกสองวันจึงจะกลับมา
หยวนชิงหลิงรู้สึกประหลาดใจอยู่ลึกๆ หมอหลินมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ด้วยหรือ จึงได้ถามท่านชายสี่ ท่านชายสี่บอกว่าไปพบอาจารย์ของเขา นี่ก็เป็นจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ด้วย
หยวนชิงหลิงยิ่งรู้สึกประหลาดใจ นางรู้ว่าอาจารย์ของท่านชายสี่คือแม่ทัพชาวหมาป่าโล่หมัน หรือว่า แม่ทัพชาวหมาป่าจะอยู่ในเมืองหลวง หมอหลินกับแม่ทัพชาวหมาป่ารู้จักกันก่อนหน้านี้แล้วหรือ
ความสัมพันธ์ชั้นสูงเหล่านี้ซับซ้อนมาก หยวนชิงหลิงเองก็ไม่สามารถสืบให้รู้ได้ในเวลาสั้นๆ ได้แต่เฝ้ารอการกลับบ้านมารดาของหรงเยว่อย่างสงบ
ไม่ช้ารถม้าของจวนอ๋องหวยก็มาถึง ลากเอาของขวัญกลับมามารดามาสามคันรถ แต่เมื่อเทียบกับสินสอดของหรงเยว่แล้วนั้นไม่สามารถเทียบกันได้ แต่ว่า คุณชายสี่เหลิ่งและอ๋องชินสู้ต่างก็ไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงินทอง
หยวนชิงหลิงอยากจะออกไปต้อนรับ แต่ว่าเบียดออกไปไม่ได้จริงๆ หน้าประตูมีคนเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนของสำนักเหลิ่งหลัง มีส่วนหนึ่งเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดของอ๋องชินสู้
หน้าประตูยังจัดวางเหล้าไว้หลายไห จัดวางอาวุธไว้ด้านนอกสิบแปดชิ้น ยังมือนักปราชญ์ที่ถือม้วนหนังสือเฝ้าดูอยู่ หยวนชิงหลิงเห็นเช่นนี้ ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าอ๋องชินสู้นั้นต้องการเปิดศึกกับหรงเยว่ ด้วยนิสัยของหรงเยว่ เกรงว่าจะอาละวาดจนบ้านแตก
และแล้ว หลังจากที่อ๋องหวยและหรงเยว่ลงจากรถม้ามาแล้ว ก็มีคนแบกไปเหล้าเข้าไป จะดื่มเหล้าชนแก้วกับอ๋องหวย ไม่มาก ดื่มให้หมดไหหนึ่งก่อน
สีหน้าของหรงเยว่เปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำขึ้นมาทันที แย่งเอาไหเหล้าไป จ้องมองคนที่ส่งเหล้ามาด้วยสายตาดุดัน “เหลวไหล เขาคอไม่แข็ง ให้ดื่มเหล้าหนึ่งไห จะเอาชีวิตเขาหรืออย่างไร”
ผู้ติดตามที่ส่งเหล้ามาเอ่ยยิ้มๆว่า “ท่านอ๋องบอกว่า ถ้าหากเจ้าบ่าวดื่มไม่ได้ สามารถหาคนมาดื่มแทนได้ แต่ต้องดื่มเพียงคนเดียวเท่านั้น”
ผู้ติดตามที่อยู่ข้างกายอ๋องหวยได้ยินคำนี้ ก็ถอยหลังไปสามก้าวทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จวนอ๋องหวยเป็นสถานที่ที่เรียบง่ายสง่างามและบริสุทธิ์ คนข้างในจวนก็เช่นกัน ใครกันจะสามารถดื่มเหล้าทั้งไหจนหมดในครั้งเดียว
หรงเยว่ยิ้มเย็น “ดี ตาเฒ่าต้องการเหยียบย่ำข้าสินะ”
นางยกเหล้าเงยศีรษะขึ้น ก็เห็นเหล้าไหลลงมา นางอ้าปากดื่มเหล้าสุดแรง แต่ส่วนมากก็หกไปบนร่างของนาง ที่ดื่มลงไปนับว่าไม่มากนัก
อ๋องหวยมองตาค้าง หรงเยว่ เสื้อผ้าชุดนี้เป็นชุดใหม่ วันนี้นางเป็นสิ่งล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง
“หรงเยว่ พอแล้ว อย่าดื่มเลย”อ๋องหวยได้สติคืนมา เอ่ยอย่างปวดใจ
หรงเยว่ได้โยนไหเหล้าแตกไปแล้ว ค่อยๆเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อ เช็ดมุมปากอย่างมีมารยาทและเรียบเฉย“ยังมีลูกไม้อะไรอีก เอาออกมา”
คนสิบแปดคนถือกระบองยาวออกมา ล้อมอ๋องหวยไว้เป็นวงกลม
การกระทำนี้ที่จริงก็ต้องการเล่นงานหรูเยว่ ด้วยนิสัยให้ท้ายลูกตัวเองของหรงเยว่ ไหนเลยจะยอมให้ใครมาทำร้ายอ๋องหวยได้
นางรากษสที่มีผู้ติดตามอยู่เต็มไปหมดในยุทธจักร ไม่ได้ทำการจ่ายเงินเพื่อซื้อใจคนเหล่านั้นมา แต่อาศัยความสามารถของตัวเองแลกมาทั้งนั้น แล้วก็เห็นนางกระโดดพุ่งขึ้นไปบนฟ้า เตะไปยังแท่นที่จัดวางเสียบอาวุธเอาไว้ ดาบยาวเล่มหนึ่งบินออกมา นางบินเข้าไปคว้าดาบมาถือไว้ จากนั้นก็หมุนตัวร่อนลง ราวกับดอกไม้ใบไม้ที่ร่วงหล่น แค่ท่าโจมตีครั้งเดียวก็ทำให้คนที่ล้อมตัวอ๋องหวยถอยร่นไป ดาบยาวบินวนหนึ่งรอบ จากนั้นก็เห็นกระบองยาวทั้งสิบแปดเล่มถูกดาบเหลาหัวไปเรียบร้อย
อ๋องหวยยิ่งมองอย่างตกตะลึง หรงเยว่ ทรงผมของหรงเยว่ยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ทรงผมนี้นางหวีจัดทรงตั้งแต่เช้า
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป ทั้งสิบแปดคนต่างก็ล้มลงไปกับพื้น ร้องเสียงโหยหวน
หรงเยว่ค่อยๆบินลงเตะที่พื้น นอกจากทรงผมที่ยุ่งเหยิง กลับไม่มีอาการหอบหายใจแรงเลยแม่แต่น้อย นางยืนอมยิ้ม “ยังมีลูกเล่นบ้าบออะไรอีก เอาออกมาให้หมด”
นักปราชญ์ห้าคนถือหนังสือเดินเข้าไปขวางเขาไว้ สีหน้าของหรงเยว่เปลี่ยนไปทันที นางมีความรู้อะไรสักที่ไหน
แต่เห็นอ๋องหวยยิ้มบางๆ เดินเข้าไปดึงมือของนางเอาไว้ “ข้าเอง”
คำว่าข้าเองที่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้หรงเยว่รู้สึกหวานซึ้งกินใจ
ตอนที่อ๋องหวยไม่สบาย ไม่สามารถฝึกวิทยายุทธได้ ได้แต่อ่านหนังสือ ในบรรดาท่านอ๋อง เขามีการศึกษาดีที่สุด
นักปราชญ์ตั้งคำถาม ตั้งแต่เรื่องสามราชาห้าจักรพรรดิไปจนถึงการเมืองการปกครอง ตั้งแต่เรื่องวัฒนธรรมของแต่ละประเทศไปจนถึงศิลปะท้องถิ่น ตั้งแต่เรื่องดาราศาสตร์การคำนวณไปจนถึงการเทียบคำนวณอัตราส่วน อ๋องหวยล้วนสามารถตอบคำถามได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ทำเอานักปราชญ์ที่ตั้งคำถามหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำไปทุกคน
ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมุงดูอยู่มากมาย เริ่มตั้งแต่ตอนที่หรงเยว่ดื่มเหล้า ชาวบ้านต่างก็รวมตัวกันเพื่อดูความครึกครื้นที่เกิดขึ้น วันนี้นับว่าชาวบ้านได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ได้เห็นกับตาในวรยุทธของพระชายาหวย จากนั้นก็ได้เห็นความรู้ของอ๋องหวย ทั้งสองมีทักษะบุ๋นบู๊ครบถ้วนทำเอาคนดูต่างรู้สึกทึ่ง เชื่อว่าไม่เกินหนึ่งวัน ทั้งเมืองหลวงต้องได้รับรู้ว่าสองสามีภรรยาอ๋องหวยนั้นมีความรู้และความสามารถทั้งทางบุ๋นและบู๊ ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอย่างดี
ตัวหยวนชิงหลิงเองก็มองตาค้าง คิดไม่ถึงว่าอ๋องหวยจะเป็นของล้ำค่าจริงๆ
แต่ไหนแต่ไรมาเขาเป็นคนอ่อนโยนสง่างามรักสงบ แต่ตอนนี้กลับพูดจาอย่างฉะฉานกับเหล่านักปราชญ์ รอบตัวเขาเต็มไปด้วยลำแสงแห่งความมั่นใจในตนเอง ทำให้รู้สึกยอมจำนนจริงๆ
แรกเริ่มความชอบที่หรงเยว่มีต่ออ๋องหวยนั้น มีส่วนหนึ่งที่มาจากการเลือกคนที่หน้าตา แต่วันนี้ได้รู้แล้วว่าเขาเป็นคนมีความรู้มากมาย มีความสามารถทางวรรณกรรมไม่ธรรมดา หัวใจก็เต้นโครมคราม นี่คือสามีของนาง ช่างดีจริงๆ
หยวนชิงหลิงรู้ว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่มีใครจะสามารถไปรังแกอ๋องหวยได้ง่ายๆ แม้จะมีสงครามในการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท คาดว่าก็คงไม่มีใครอยากจะเอาอ๋องหวยเข้ามาเกี่ยวพันด้วย
หยวนชิงหลิงเริ่มเข้าใจความตั้งใจของอ๋องชินสู้แล้ว