บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 656 รัชทายาทสังหารผู้บริสุทธิ์
อะหลูตกตะลึง ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น แววตาเต็มไปด้วยไม่พอใจ “เพราะอันใด เพราะอันใดนางสามารถไม่แปดเปื้อนเกี่ยวกับเรื่องสกปรกพวกนี้ ทว่ากลับได้รับความรักห่วงใยจากท่านอ๋อง นางเป็นภรรยาที่ถูกต้องของท่านอ๋อง ควรเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านอ๋อง ทุ่มเทเรี่ยวแรงทุกอย่าง เพราะเหตุใดเป็นอะหลูที่ต้องเหนื่อยล้าวางแผนเพื่อท่านอ๋อง สุดท้ายกลับยังต้องดูสีหน้าของนาง อะหลูไม่พอใจ ไม่ยอมรับ!”
แววตาอ๋องอานลุกโชนด้วยความโกรธ “เจ้าไม่พอใจแล้วจะทำเช่นไร? หากเจ้าก้าวออกจากจวนอ๋องอานนี้ไป ข้ารับรองว่าหัวของเจ้าหลุดจากบ่าแน่ หากเจ้าอยู่ในจวนอย่างสงบเสงี่ยม สมควรให้แก่เจ้า ข้าจะให้อย่างเหมาะสมแน่ อะหลู เจ้าเป็นคนฉลาด ควรรู้ว่าข้อห้ามของคนเราคือไม่เข้าใจ ไม่รู้จักขอบเขต ก่อนนี้เจ้าทำได้ดีมาตลอด ครั้งนี้ข้าถือว่าเจ้าแค่ผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ จะให้อภัยเจ้าสักครั้ง แต่หากผิดพลาดอีก ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”
อะหลูหมอบลงบนพื้น ท่าทางเปลี่ยนไปบางส่วน ในใจหลั่งเลือก แต่บนใบหน้ากลับค่อย ๆ เก็บงำความโกรธและไม่พอใจไว้ นางเช็ดเลือดที่มุมปาก กลั้นน้ำตาเผยรอยยิ้มที่งดงามอ่อนโยนออกมา “ข้าทราบแล้ว ต่อไปจะไม่ยั่วยุพระชายาอีก ขอท่านอ๋องโปรดเชื่อข้า”
อ๋องอานเห็นนางไม่ต่อต้านเชื่อฟัง สีหน้าพลันอ่อนโยนลง ก่อนเอ่ยว่า “เรื่องจ้างวานสำนักเหลิ่งหลังสังหารหยวนชิงหลิง ทางกรมอาญานั้นโชคดีที่มีคนของตนอยู่ จากนี้หาข้ออ้างช่วยเจ้าให้รอดพ้นได้ แต่ครั้งนี้เจ้าดำเนินการอย่างไม่รอบคอบ ทำให้คนฉวยโอกาสได้ ต่อไปต้องระวังให้มากกว่านี้ และไปตรวจสอบความสัมพันธ์ของท่านชายสี่เหลิ่งและสำนักเหลิ่งหลัง ข้าสงสัยว่าเขาคือหัวหน้าสำนักเหลิ่งหลัง”
“เพคะ!” อะหลูขานรับ ก่อนเงยหน้ามองอ๋องอานพร้อมเอ่ยว่า “ท่านอ๋อง ปกติอ๋องหวยมีนิสัยรักสงบ ไม่ชอบยุ่งเรื่องใด ท่านคิดว่าเขาตั้งใจให้พระชายาหวยเอ่ยเรื่องเหล่าออกมาต่อหน้าทุกคนในวันนี้หรือไม่ เกรงว่าตั้งแต่วันนี้ไป หากเกิดเรื่องใดขึ้นกับพระชายารัชทายาท ต่างต้องคิดว่าเป็นฝีมือของทางจวนอ๋องอาน”
อ๋องอานสีหน้าโหดเหี้ยมแข็งกระด้าง “เป็นฝีมือหยู่เหวินเห้า เมื่อครู่เขานั่งอยู่ที่นี่ แสดงท่าทางชัดเจน ข้าจึงรู้ว่าเป็นเขา ตอนนี้หยวนชิงหลิงมีคนของสำนักเหลิ่งหลังปกป้อง และองครักษ์ลับผีคุ้มครอง คนธรรมดาแตะต้องนางไม่ได้ เขาให้พระชายาหวยเอ่ยเรื่องมากมายนี้ มีเพียงจุดประสงค์เดียว นั่นคือบอกกับทุกคน พระชายารัชทายาทสามารถรักษาโรคเรื้อนให้หายขาด เขายังพยายามเพื่อให้หยวนชิงหลิงขึ้นไปเขาโรคเรื้อนจนถึงที่สุด ถูกต้อง เจ้าห้าคนนี้นิสัยละโมบไม่รู้จักพอ เห็นคุณงามความดียิ่งใหญ่นี้อยู่ตรงหน้า จะปล่อยทิ้งไปง่าย ๆ ได้เช่นไรกันเล่า?”
อะหลูเอ่ยถาม “ท่านอ๋องมีแผนจะทำเช่นไร?”
อ๋องอานเอ่ยอย่างเย็นชา “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องถามให้มากความ เจ้าสนใจเพียงจัดการเรื่องคดีให้ดีก็พอแล้ว เดาว่าพรุ่งนี้หยู่เหวินเห้าจะสรุปคดีมอบให้กับกรมอาญา เรื่องนี้ห้ามผิดพลาดเด็ดขาด เจ้าต้องจัดการให้เรียบร้อย”
อะหลูเอ่ยเสียงเบาว่า “ทราบเพคะ!”
อ๋องอานลุกขึ้น ก่อนมองนางอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนพระชายา”
อะหลูลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนไล่ตามถามอ๋องอานประโยคหนึ่ง “เช่นนั้นคืนนี้ท่านอ๋องจะมาหรือไม่เพคะ?”
อ๋องอานเอ่ยตอบโดยไม่หันหน้ากลับมามอง “ไม่”
อะหลูยิ้มอย่างขมขื่น นางรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ทว่ากลับไม่ยอมเอ่ยถามขึ้นอีกประโยค
นางซูมีดีอันใดถึงได้รับความรักจากอ๋องอาน? สุดท้ายนางมีดีที่ตรงใด?
พระชายาอานถูกอะฉ่ายประคองกลับเข้ามาในห้อง ปวดท้องมากขึ้นบางส่วน อะฉ่ายให้นางดื่มยา ปรนนิบัติให้นางนอนลง ขณะกำลังปลอบโยนหลายประโยคอ๋องอานเข้ามาพอดี
อะฉ่ายย่อกาย “ท่านอ๋อง!”
อ๋องอานถอดชุดแต่งงานสีแดงด้านนอกออก ทิ้งลงบนพื้น กวาดมองอะฉ่ายอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ต่อไปหากพระชายาไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้มาบอกข้า ห้ามพูดออกไปข้างนอกส่งเดช”
อะฉ่ายตกใจจนริมฝีปากสั่นเล็กน้อย “เพคะ!”
“ออกไปซะ!” อ๋องอายเอ่ยอย่างเย็นชา
อะฉ่ายรีบย่อกายออกไป แล้วปิดประตูลง
อ๋องอานก้าวยาวตรงไปที่พระชายาอาน แล้วนั่งลงข้างเตียง มองขนตาสั่นเทิ้มของพระชายาอาน เขากุมมือนางแล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ทำให้เจ้าตกใจหรือ ไม่ต้องกลัว เรื่องใหญ่อันใด ล้วนมีข้าอยู่”
พระชายาอานมองเขา อดเอ่ยถามอย่างสงสัยไม่ได้ “ท่านอ๋อง ที่พระชายาหวยพูดคือเรื่องจริงหรือไม่ อะหลูจ้างคนสังหารพระชายารัชทายาทจริงหรือเพคะ?”
อ๋องอานยื่นมือลูบใบหน้าซีดขาวของนาง ก่อนเอ่ยอย่างปวดใจ “แน่นอนย่อมไม่จริง เจ้าก็รู้ว่าพระชายาหวยสติไม่ดี พูดจาไม่น่าเชื่อถือ อย่าคิดเหลวไหลเลย นอนเถิด ข้าจะไปสรงน้ำ ประเดี๋ยวจะกลับมา”
พระชายาอานตะลึงงัน “คืนนี้ท่านอ๋องจะอยู่ที่นี่?”
อ๋องอานจุมพิตนาง ก่อนเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ตั้งแต่แต่งงาน ขอเพียงข้าอยู่ในจวน ต้องกอดเจ้าจึงจะสามารถข่มตาหลับได้ ก่อนนี้เป็นเช่นไร ตอนนี้เป็นเช่นนั้น ชั่วชีวิตนี้ล้วนไม่เปลี่ยนแปลง”
พระชายาอานน้ำตาไหลริน ก่อนเอ่ยอู้อี้ “ข้าคิดว่า…คิดว่าหลังท่านอ๋องแต่งชายารองแล้ว ทุกอย่างจะเปลี่ยนไป”
อ๋องอานยื่นมือเช็ดน้ำตาให้นาง ก่อนกุมไหล่สองข้างของนาง เอ่ยสัญญาว่า “ไม่ ไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต”
หยู่เหวินเห้าหลังขึ้นรถม้าถูกหยวนชิงหลิงซักถาม
เขาปฏิเสธไม่ยอมรับ “เรื่องนี้ท่านชายสี่เหลิ่งเคยเอ่ยกับข้า แต่ข้าไม่ตกลง ข้าเองก็ไม่ยอมลากเจ้าหกเข้ามาเกี่ยวข้อง ตอนที่เอ่ยเรื่องนี้ หรงเยว่อยู่ตรงนั้นด้วย หรงเยว่นางเองก็ไม่ยินยอม”
หยวนชิงหลิงทราบดีว่าเขาห่วงใยอ๋องหวย จากที่พูดเขาคงไม่ทำเช่นนี้ นางจึงเอ่ยว่า “ตอนนี้ไม่ว่าเช่นไร เจ้าหกและหรงเยว่ถือว่าล่วงเกินจวนอ๋องอานแล้ว ยังมีสำนักเหลิ่งหลังของท่านชายสี่ หากจัดการไม่ดีจะถูกเปิดโปง เราติดค้างบุญคุณพวกเขามากมายนัก”
บนใบหน้าหยู่เหวินเห้าเต็มไปด้วยความเหงาผ่านโลกมามากและแยกตัวจากโลก “ไม่เป็นไร ปัญหาทุกอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ทันที ไม่ต้องกังวล”
หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าล้วนคือแผนการของเจ้า?”
“พักนี้ข้ายุ่งอยู่กับคดี จะมีกะจิตกะใจคิดเรื่องพวกนี้ได้เช่นไร?” หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างอึดอัด
“พูดถึงเรื่องคดี พรุ่งนี้เจ้าคงไม่ส่งมอบให้กรมอาญาสินะ?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม
หยู่เหวินเห้ากลับมีสีหน้าจริงจัง “ไม่ เรื่องนี้ถ่วงเวลาอยู่นานแล้ว พรุ่งนี้ควรตัดศีรษะ หลังตัดศีรษะมอบให้กรมอาญา”
หยวนชิงหลิงตะลึงงัน “หลังตัดศีรษะค่อยมอบให้กรมอาญา ไม่ใช่กรมอาญาต้องพิจารณาทบทวนก่อนสั่งให้รับโทษตายหรือ?”
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “ดูสถานการณ์ กรมการพระนครไม่เหมือนที่ทำการปกครองอื่น บางคดีสามารถดำเนินการตัดสินด้วยตนเอง หลังพิพากษาค่อยมอบให้กรมอาญา”
“แต่เมื่อคืนเจ้าไม่ได้พูดว่าจะมอบให้กรมอาญาก่อนหรือ เหตุใดจึงรีบร้อนเปลี่ยนใจตัดศีรษะฆาตกรก่อน?”
หยู่เหวินเห้าเอ่ยว่า “คืนนี้ยั่วโทสะเจ้าสี่ ตอนนี้เขาอยู่ในเมืองหลวง ไม่รู้จะเล่นลูกไม้อันใดอีก หากคดีนี้ไม่ตัดสินให้จบ ต่อไปต้องฟ้องร้องข้าในราชสำนักอีกแน่ ข้าเองก็เบื่อหน่ายกับการที่ทุกครั้งตอนประชุมเช้ามีคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งจับจ้องข้าราวกับแมลงวัน ข้าไม่ใช่มูลวัวเสียหน่อย มิสู้จัดการให้เรียบร้อยโดยเร็ว จะได้ทุ่มเทตรวจสอบคดีอื่นต่อ”
หยวนชิงหลิงคิดอยากจะเอ่ยขึ้นครั้ง แต่เขารวบตัวนางเข้ามาในอ้อมกอด “เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ เรื่องเขาโรคเรื้อนก็ใกล้จะจบลงแล้ว เจ้าสนใจเพียงเรื่องทางนั้นก็พอ ทางข้าไม่มีสิ่งใดให้กังวล”
หยวนชิงหลิงต้องลมเย็นอยู่บนเขาเป็นเวลานาน อาลัยอาวรณ์ความใกล้ชิดสนิทสนมบนรถม้าเช่นเวลานี้มากจริง ๆ เช่นนั้นไม่ต้องพูดอีกแล้ว ในใจเจ้าห้าคงมีแผนการอยู่แล้ว
วันถัดมาหยวนชิงหลิงไปที่หมู่ตึกเหมย ก่อนจะออกจากหมู่ตึกเหมยขึ้นไปเขาโรคเรื้อน
วันเดียวกัน หยู่เหวินเห้าจัดการคดีปึกใหญ่ และตอนบ่ายวันเดียวกันตัดศีรษะฆาตกรที่ลานประหาร หลังตัดศีรษะ นำคดีที่ดำเนินการในระยะนี้มอบให้กรมอาญาตรวจสอบเช่นเดียวกัน
คิดไม่ถึง วันต่อมาทันใดนั้นมีคนมามอบตัวที่กรมอาญา เอ่ยว่าเขาคือฆาตกรในคดีที่พ่อหม้ายถูกฆ่าตาย เพราะเวลานั้นโมโหจนลงมือคน หลังเกิดเรื่องหลบซ่อนตัวอยู่ต่างถิ่น ต่อมาได้ยินมีคนบริสุทธิ์ต้องตาย ในใจรู้สึกไม่สบาย จึงยอมเข้ามามอบตัว