บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 660 รัชทายาทชนะขาด
อ๋องอานแทบจะเป็นลมหมดสติ การร้องเรียนถอดถอนในวันนี้ เดิมมั่นใจกว่าสิบส่วน ไหนจะรู้ว่ากรมอาญาทำงานไม่น่าเชื่อถือเช่นนี้ กระทั่งสำนวนคดีอ่านไม่เข้าใจ
ไม่ นี้คือความตั้งใจของหยู่เหวินเห้า ส่งมอบสำนวนของหลายคดีเพื่อพรางตา ราชครูเหว่ยนั้นหลังบาดเจ็บ ไม่เคยเข้าประชุมเช้ามาโดยตลอด วันนี้กลับมาร่วมประชุมส่งเสียงตำหนิร่วมกัน เพียงเห็นรู้ว่าวางแผนการไว้ก่อนแล้ว
ราชครูเหว่ยนอกจากตื่นตระหนก กลับคล้ายยอมตายเพื่อกราบทูลเช่นครั้งก่อน ใบหน้าชราแดงก่ำจนกลายเป็นม่วงคล้ำ ทรวงอกกระเพื่อมอย่างหนักจนหอบ “ฝ่าบาท บารมีของรัชทายาทไม่อาจสั่นคลอน สั่นคลอนรัชทายาท เท่ากับสั่นคลอนรากฐานของแคว้น และอ๋องอานมีใจช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาท หากยังงมงายทำผิดต่อไป พี่น้องเกลียดชังเข่นฆ่ากันเอง จนเกิดเป็นเรื่องโหดร้ายที่สุดในราชวงศ์ กระหม่อมขอให้ศีรษะเป็นประกัน ขอให้ฝ่าบาทตรวจสอบอย่างเข้มงวด ดำเนินการอย่างรอบคอบ และลงโทษอย่างที่สุดด้วยพ่ะย่ะค่ะ มิฉะนั้น กระหม่อมจะกระแทกศีรษะจนตายอยู่ในตำหนักแห่งนี้”
ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินคำนี้ หนังศีรษะชาวาบ นึกถึงเขาพยายามกระแทกจนตายครั้งก่อนขึ้นมา นั่นเรียกได้ว่าน่าสะพรึงยิ่งนัก
เวลานี้กะโหลกศีรษะบางราวกับเปลือกไข่ ไม่อาจถูกกระแทกได้อีกครั้ง ตำหนักแห่งนี้เปื้อนเลือดผู้ใดล้วนไม่สำคัญ แต่ไม่อาจเปื้อนเลือดราชครู ขณะที่เขากำลังอยู่ในตำแหน่งได้
เขากวาดมองอ๋องอานอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง เห็นเขาโมโหจนลำคอแดงปื้น จึงเอ่ยถามอย่างจริงจังว่า “เจ้าคิดแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทหรือ?”
สายตาขุนนางในตำหนักล้วนพุ่งไปที่ร่างอ๋องอาน อ๋องอานกล้ำกลืนความโมโหลงไป ก่อนเอ่ยว่า “ฝ่าบาท หากกระหม่อมมีความทะเยอทะยานอันโฉดชั่ว ขอให้กระหม่อมไม่ตายดีพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยเสียงเย็นว่า “เช่นนั้นเจ้าอธิบายมา วันนี้พวกเจ้าสิบสองคนร้องเรียนถอดถอน เป็นความบังเอิญหรือพูดคุยส่วนตัวกันมาก่อน?”
อ๋องอานหมอบลงบนพื้น “ทูลฝ่าบาท กระ…กระหม่อมไม่ทราบว่าขุนนางท่านอื่นจะร้องเรียนถอดถอนเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”
เหลิ่งจิ้งเหยียนพลันเสนอตัวออกมาพูดอย่างราบเรียบว่า “นี่กลับแปลกยิ่งนัก ท่านอ๋องหลังกลับเมืองหลวง ไร้ตำแหน่งในราชสำนัก เรื่องกรมอาญา กระทั่งกรมการพระนครและศาลต้าหลี่(ศาลสูงสุดของจีนโบราณ)ล้วนไม่เคยรับรู้มาก่อน เหตุใดท่านอ๋องจึงทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ และหลังทรงทราบรีบร้อนร้องเรียนถอดถอน พวกท่านพี่น้องไร้เรื่องบาดหมาง ตามหลักการแล้ว ควรไปสอบถามรัชทายาทให้ชัดเจนก่อน เหตุใดกลับแทงข้างหลัง หากพูดว่าท่านอ๋องอานไม่คิดทำร้ายจิตใจรัชทายาท ผู้คนอาจไม่เชื่อถือ ดูท่าข่าวลือที่ว่าคนในจวนอ๋องอานจ้างวานนักฆ่าของสำนักเหลิ่งหลังมาสังหารพระชายารัชทายาท คงไม่ใช่เรื่องข่าวโคมลอยกระมังพ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องอานโมโหจนตาถลน เงยหน้าถลึงตาให้เหลิ่งจิ้งเหยียนพลางเอ่ยอย่างโมโห “เหลิ่งจิ้งเหยียน คำพูดไร้สาระพวกนี้ ท่านไร้หลักฐานมายืนยัน เหตุใดถึงกล้าเอ่ยว่าเป็นข้า เจ้ามีแผนการอันใดกันแน่ เจ้าทำเช่นนี้เป็นการให้ร้ายข้า ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง!”
เหลิ่งจิ้งเหยียนเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ท่านอ๋องอาน ท่านไร้หลักฐานเช่นกัน แต่ยังร่วมลงชื่อร้องเรียนถอดถอนรัชทายาทมิใช่หรือ ใส่ความท่านอ๋องมีความผิดใหญ่หลวง ไม่รู้ว่าใส่ร้ายรัชทายาท จะมีความผิดเช่นใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“เจ้า…” อ๋องอานโมโหจนพูดไม่ออก การถกเถียงโต้แย้ง เขายังห่างไกลไม่ใช่คู่ปรับของเหลิ่งจิ้งเหยียน
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองทั้งสอง ก่อนตรัสถามว่า “นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น เหตุใดพระชายารัชทายาทจึงมาเกี่ยวข้องด้วย?”
เหลิ่งจิ้งเหยียนประสานมือกราบทูลว่า “ทูลฝ่าบาท ในพิธีแต่งชายารองของอ๋องอาน พระชายาหวยทะเลาะกับชายารองหลู ขณะที่ทะเลาะกัน พระชายาหวยเอ่ยว่าชายารองหลูเคยไปที่สำนักเหลิ่งหลังว่าจ้างให้ไปสังหารพระชายารัชทายาทด้วยเงินแสนตำลึง เรื่องนี้กระหม่อมไม่ได้แต่งขึ้น ในราชสำนักมีใต้เท้ามากมายอยู่ที่นั่น พวกเขาต่างได้ยินกับหู หากฝ่าบาทไม่ทรงเชื่อสามารถตรัสถามได้พ่ะย่ะค่ะ”
เลขานุการซุนนั้นรู้ตัวว่าไม่รอบคอบจนทำให้อ๋องอานตกที่นั่งลำบาก เวลานี้เมื่อได้ยินเหลิ่งจิ้งเหยียนเอ่ยคำพูดของพระชายาหวยออกมา คิดทำดีชดใช้ความผิด จึงเสนอตัวถามกลับไปว่า “ใต้เท้าเหลิ่ง เรื่องนี้ไร้หลักฐาน และมิได้เอ่ยว่าพระชายาหวยทรงกล่าวหาชายารองหลูหรือ หากกล่าวหาท่านอ๋องอานจริง เหตุใดท่านอ๋องอานต้องทำเช่นนี้ สังหารพระชายารัชทายาท มีประโยชน์ใดกับท่านอ๋องอานกันเล่า?”
อ๋องอานได้ยินคำนี้ พลันโมโหจนตาเหลือก เลขานุการซุนผู้นี้มือไม่พายยังเอาเท้าลาน้ำเสียจริง
“ถามได้ดี!” เหลิ่งจิ้งเหยียนแววตาเป็นประกาย คล้ายกำลังรอให้เขาถามเช่นนี้ “พระชายารัชทายาทครึ่งเดือนก่อยไปที่หมู่ตึกเหมย ทำการคิดค้นวิธีการรักษาร่วมกับหมอหลินแห่งแคว้นต้าซิง จนได้ตำรับยาสูตรหนึ่งที่สามารถรักษาโรคเรื้อนให้หายขาดได้ เพียงเรื่องนี้สำเร็จ โรคเรื้อนจะไม่ใช่โรคร้ายและน่ารังเกียจในเป่ยถังอีกต่อไป สร้างความชอบใหญ่หลวงในรอบพันปี ความชอบนี้ย่อมต้องถูกจดจำในนามของรัชทายาท พอถึงเวลานั้น ทุกคนยกย่องสรรเสริญ ตำแหน่งรัชทายาทมั่นคง หากมีคนต้องการสั่นคลอนตำแหน่งรัชทายาทอีก ถือว่ายิ่งยากขึ้นไปอีก”
เหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ไม่เพียงครั้งเดียวที่เคยได้ยินว่าพระชายารัชทายาทมีตำรับยารักษาโรคเรื้อนแล้ว ครั้งแรกที่ได้ยิน คิดว่าอาจเป็นการคาดเดาเท่านั้น แต่ตอนนี้โสวฝู่ฉู่และเหลิ่งจิ้งเหยียนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันเช่นนี้ ดูแล้ว มีความเป็นไปได้สูง
ทันใดนั้น เหล่าขุนนางล้วนตื่นเต้นกันขึ้นมาเล็กน้อย ไม่สนใจว่าอยู่ในราชสำนัก และไม่สนใจเอ่ยถามถึงความผิดของอ๋องอาน ต่างพากันซักถามหยู่เหวินเห้า
ราชครูเหว่ยแม้ไม่ชื่นชอบเอ่ยถึงเขาโรคเรื้อน แต่ได้ยินเหลิ่งจิ้งเหยียนพูดเช่นนี้ ในใจเขาก็ยินดีกับความสำเร็จ และไม่พูดห้ามปราม
หยู่เหวินเห้ากลับตรงไปตรงมา มองบน เอ่ยอย่างภูมิใจว่า “โรคนี้เดิมสามารถรักษาให้หายได้ มิฉะนั้นพระชายารัชทายาทขึ้นเขาโรคเรื้อนครั้งแล้วครั้งเล่าหรือ หมอหลินมาถึงแล้ว ทว่ากำลังถกเถียงปรับปรุงตำรับยา ให้ยามีประสิทธิผลมากขึ้นเท่านั้นแล้ว หมอหลินเดิมมาเพื่อเรื่องนี้ ก่อนนี้ราษฎรคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา เอ่ยว่าพระชายารัชทายาทขึ้นเขาโรคเรื้อนเป็นการรแสดงละครตบตา และไร้หนทางรักษา คนที่เอ่ยคำพูดพวกนี้ถือว่าโง่พอสมควร ผู้ใดจะนำชีวิตของตนไปแสดงละครกัน และเพราะเรื่องนี้เหล่าราษฎรก่อความวุ่นวายโกลาหลเช่นนี้ แม้กระทั่งพระชายารัชทายาทถูกคนโจมตี หากไม่สามารถรักษาได้จริง ผู้ใดจะยอมเสี่ยงอันตรายเช่นนี้?”
“หากเป็นเช่นนี้ดีมากจริง ๆ!”
“ถูกต้อง หากสามารถรักษาโรคเรื้อนได้ ถือเป็นความสุขของเป่ยถังของพวกเรา”
“ในเจ็ดแคว้น มีเพียงเป่ยถังของเราที่สามารถรักษาโรคเรื้อนได้ แคว้นต้าซิงแม้มีหมอหลิน แต่ได้ยินว่าเวลานี้โรคเรื้อนกำลังระบาดหนัก แคว้นต้าซิงล้วนมาเรียนรู้ เห็นทีพระชายารัชทายาทมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้จริง ๆ”
เหล่าขุนนางเดิมทีสองมาตรฐาน และปรับตัวไปตามสถานการณ์ พวกเราไม่สนใจว่าก่อนนี้คัดค้านหยวนชิงหลิงขึ้นเขารุนแรงเช่นไร ตอนนี้ลมเปลี่ยนทิศไปทางพระชายารัชทายาท และเป็นเรื่องที่สร้างความสุขให้ราษฎรจริง พวกเราย่อมคล้อยตามแน่นอน
อ๋องอานรู้ตัวสถานการณ์วันนี้เปลี่ยนไปแล้ว จึงมีสีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดจา ตอนนี้พูดมากก็ผิดมาก เห็นชัดว่าหยู่เหวินเห้าเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เขายังคิดว่าวันนี้จะสามารถร้องเรียนเขาได้ จนเขาหลุดจากตำแหน่งเจ้ากรมการพระนคร
หยู่เหวินเห้านั่นปกติเยาะเย้ยถากถางสังคม ความจริงไม่รู้ว่าซ่อนความคิดเจ้าเล่ห์ไว้มากเพียงใด ครั้งนี้ล้มเขาไม่ได้ วันหน้าหากจะจัดการเขา เกรงว่าจะยิ่งยาก
ฮ่องเต้หมิงหยวนนั่งอยู่บนบัลลังก์ ขณะเหล่าขุนนางกำลังถกเถียงไม่ส่งเสียงเช่นเคย เพียงใช้สายตาคมกริบมองสีหน้าของทุกคนด้านล่าง
โสวฝู่ฉู่ก็มือผสานเข้าหากัน ในราชสำนักแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดกระจ่างแจ้งกว่าฮ่องเต้ ความคิดของผู้ใดบนสีหน้าล้วนปกปิดไม่มิด
รัชทายาทมอบสำนวนคดีให้กรมอาญา สำนวนคดีนั้นต้องไม่ละเอียดครบถ้วนแน่ และสั่งให้คนไปอธิบาย ต้องแนะนำบ่งชี้แน่นอน จึงทำให้เลขานุการกรมอาญาใจร้อนจนกระโดดออกมา พยายามให้อ๋องอานได้รับชัยชนะ
หากกรมอาญาและอ๋องอานใช้จุดนี้จับตามองรัชทายาทไม่ปล่อย คงไม่พ่ายแพ้จนย่อยยับ น่าเสียดาย หัวข้อนี้ถูกเลขานุการกรมคลังเปลี่ยนประเด็นไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งราชครูเอ่ยปากอย่างตื่นเต้น เวลานี้ออกจากเรื่องคดีไปไกล ทุกคนเพียงสนใจเรื่องโรคเรื้อนและพระชายารัชทายาทถูกลอบสังหาร ผู้ใดจะยังจำเรื่องคดีได้กัน?
กระทั่งฮ่องเต้ เวลานี้คล้ายล้วนถูกทำให้ประทับใจ เพราะรักษาโรคเรื้อนให้หายขาด ยามฝันฮ่องเต้ล้วนคิดให้ทำสำเร็จ มิฉะนั้นตอนเริ่มแรกคงไม่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องพระชายารัชทายาทขึ้นเขา
โสวฝู่ฉู่ถอนหายใจในใจอย่างเงียบ ๆ แผนการนี้ รัชทายาทชนะขาดลอย!