บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 705 พี่ชายน้องสาวถูกขัง
ท่านชายสี่ได้ยินคำว่าผู้เฒ่าคำนี้ หันหน้ามองขวับแวบหนึ่งด้วยจิตสำนึก ความจริงตาเฒ่าที่สาวน้อยเรียกคือเขา เขาอึ้งแล้ว
นี่เป็นคำสาปที่ชั่วร้ายที่สุดบนโลกนี้อย่างแท้จริงที่มีเลยหรือไม่?
ชีวิตนี้ของเขาที่ทำให้ภาคภูมิใจที่สุดนอกจากสำนักเหลิ่งหลังแล้ว ก็คือใบหน้าที่ไม่เหมือนผู้อื่นทำให้โลกตกตะลึงใบนี้ที่แม้จะสามสิบแล้วก็ไม่แปรเปลี่ยนสักน้อย
ด้วยเหตุนี้ เขาลืมความโกรธไปชั่วขณะ มีเพียงความตกตะลึงที่ดังก้องในใจอยู่นาน
“เด็กคนนั้น เจ้าคนเลว!” เขาดึงสติกลับมา ใช้ถ้อยคำที่เขาคิดว่ารุนแรงที่สุดมาด่านาง ดวงตาที่ลึกล้ำก็เปลี่ยนเป็นระลอกคลื่น
สาวน้อยโกรธเคืองมาก “ข้าไม่ใช่เด็ก ปีนี้ข้าอายุสิบหกปีแล้ว สามารถแต่งงานได้แล้ว!”
สาวน้อยโมโห หมาป่าหิมะในอ้อมกอดก็แยกเขี้ยวใส่ท่านชายสี่ ท่าทางดุร้ายเหมือนต้องการจะพุ่งเข้ามากัดเขา
ท่านชายสี่รู้สึกผิดหวังครึ่งหนึ่ง เด็กสาวคนนี้อะไรก็ไม่ได้ให้หมาป่าหิมะ หมาป่าหิมะกลับเชื่อฟังนางเพียงนี้ ที่เขามาครั้งนี้ ชดเชยผ้าไหมแพรต่วนมากมายเช่นนี้ ยังซื้อเนื้ออีกหม้อหนึ่ง ชั่งเป็นของที่ไร้หัวใจหัวใจจริงๆ
“เจ้า……” ท่านชายสี่กลั้นความโกรธไว้ เหลือบมองใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กสาวที่โกรธจนแดงเหมือนแอปเปิลแดงเช่นนั้น “ทำไมหมาป่าหิมะถึงฟังเจ้า?”
ดวงตาของเด็กสาวเหมือนดั่งดวงดาว หึเสียงหนึ่ง “ต่อผู้ใดหมาป่าหิมะก็ดีทั้งหมด มีเพียงแค่คนเลวที่ไม่ดีด้วย พวกมันไม่ชอบท่าน ท่านต้องเป็นคนไม่ดีแน่”
ท่านชายสี่เลี่ยงไม่ได้ที่จะละอายใจ สำหรับหมาป่าของทังหยวนแล้ว แน่นอนว่าขาไม่ใช่คนดีอะไร
เขาหมุนตัวต้องการจากไปอย่างเศร้าสลด กลับได้ยินเด็กสาวเรียกขึ้นเสียงหนึ่ง “ท่านรอเดี๋ยว”
ท่านชายสี่หันกลับมามองนาง
สายตาของเด็กสาวตกอยู่บนขลุ่ยหยกที่ห้อยไว้ตรงเอว “ขลุ่ยของท่านงดงามมาก ขายให้ข้าได้หรือไม่?”
ท่านชายสี่ใจกว้างมาแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าขลุ่ยหยกนี้จะล้ำค่า แต่สุดท้ายเป็นของนอกกาย เขาก็ไม่ได้เสียดาย จึงหยิบออกมายื่นให้เด็กสาว “ข้ามอบให้เจ้า”
เด็กสาวตะลึง วางหมาป่าหิมะลงช้าๆแล้วเดินเข้าไป “มอบให้ข้า?”
“อืม เอาไป!” ท่านชายสี่ยัดขลุ่ยหยกไปในมือของนาง
เด็กสาวรับมา ดวงตาเกิดประกายไฟเป็นจุดๆ “วันนี้เป็นวันเกิดครบสิบหกปีของข้า”
“อ๋อ สุขสันต์วันเกิด!” ท่านชายสี่ไม่ได้สนใจ พูดลวกๆประโยคหนึ่งแล้วก็ต้องการจากไป
เด็กสาวรีบกล่าว: “ท่านชอบหมาป่าหิมะหรือ? ข้าสามารถทำให้ท่านอุ้มพวกมันได้ครู่หนึ่ง จนกระทั่ง ท่านสามารถพาข้ากับหมาป่าหิมะออกไปเล่นได้”
จิตใจของท่านชายสี่ตื่นเต้น “จริงหรือ?”
“ท่านเป็นคนไม่ดีหรือ?”
“ไม่ใช่!” ท่านชายสี่เหลือบมองหมาป่าของทังหยวนแวบหนึ่ง รีบทำสัญญาณมือเรียกข้ารับใช้ให้หมาป่าของทังหยวนกินเนื้อ หมาป่าของทังหยวนนั้นกำลังกินเนื้อ เป็นธรรมดาที่ไม่ได้แสดงความเป็นศัตรูต่อท่านชายสี่ออกมา
ขณะที่หยวนชิงหลิงออกมาจากห้องบัญชี ก็เห็นท่านชายสี่พาหยู่เหวินหลิงออกไปจากประตูพร้อมกัน ข้าทาสคนรับใช้ติดตามเป็นโขยง
หยวนชิงหลิงชำเลืองมองเงาด้านหลังของทั้งสอง รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ท่านชายสี่……เมื่อครู่คือหัวเราะแล้วหรือ? นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดคุยหัวเราะสนุกสนามกับหยู่เหวินหลิง?
“หมันเอ๋อ พวกเขาไปไหนกัน?” หยวนชิงหลิงถามหมันเอ๋อ
“พระชายารัชทายาท ท่านชายสี่บอกว่าต้องการพาเจ้าหญิงไปเที่ยวเล่น ยังจะพาหมาป่าหิมะไปด้วยล่ะเพคะ”
“เที่ยวเล่น” นี่กลับเป็นเรื่องแปลกใหม่ “นึกไม่ถึงว่าท่านชายสี่ยอมหลอกเด็ก?”
หมันเอ๋อหัวเราะเยาะ “ไม่ใช่หรอกเพคะ? ท่านชายสี่อยากจะได้หมาป่าหิมะก็ไม่ใช่แค่วันสองวันแล้ว เจ้าหญิงเรียกหมาป่าน้อยให้ขยับได้ ท่านชายสี่ไปด้วยความยินดีปรีดาเป็นธรรมดาเพคะ”
หยวนชิงหลิงคิดๆดูก็ถูก จึงไม่ได้สนใจมาก ท่านชายสี่พานางออกจากบ้านไปก็ดี วันนี้เป็นวันเกิดของนาง ตั้งแต่เช้าก็ได้รับพระราชานุญาตให้ออกจากวังได้ เรียกให้ทุกคนฉลองวันเกิดเป็นเพื่อนนาง กำลังกลัดกลุ้มไม่รู้ว่าจะพานางไปเที่ยวเล่นที่ไหนอยู่พอดี มีท่านชายสี่ทำแทน เช่นนั้นก็ดีเป็นที่สุด
อีกทั้งพาคนมากมายขนาดนี้ออกไป ก็ไม่กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงความบริสุทธิ์อะไรแล้ว
ถึงยามเย็น ยังไม่เห็นหยู่เหวินหลิงและท่านชายสี่กลับมา หยวนชิงหลิงก็ค่อนข้างร้อนใจแล้ว เรียกคนให้ไปหาครู่หนึ่ง
ผ่านไปไม่นาน แม่นมสี่กลับมาแจ้งต่อหยวนชิงหลิงด้วยสีหน้าซีดขาว บอกว่าท่านชายสี่พาเจ้าหญิงไปที่ซาวโถ๋จุ้ย เจ้าหญิงดื่มจนเมาหนักมาก ตอนนี้ไม่ยอมกลับมา
หยวนชิงหลิงฟังจบ ปวดหัวจนแทบจะไม่ไหว “โอ้ย ทำไมถึงพานางไปสถานที่แบบนั้น? นี่ถ้าให้คนในวังรู้เข้า ก็แย่แล้วล่ะ?”
“รู้เป็นแน่เพคะ คนที่เจ้าหญิงพาไปล้วนเป็นนางข้าหลวงในวัง จะต้องกลับไปรายงานไทเฮาและเสียนเฟยแล้วเป็นแน่เพคะ” แม่นมสี่กล่าว
“แม่นม” เมื่อหยวนชิงหลิงได้ฟัง ก็ร้อนใจแล้ว รีบกล่าว: “รีบส่งคนไปกรมการพระนครรอบหนึ่ง บอกให้เขาไปพาเจ้าหญิงกลับมาจากซาวโถ๋จุ้ยด้วยตัวเอง”
แม่นมสี่กล่าว: “อย่าเพิ่งร้อนพระทัยไปเพคะ ได้บอกหมันเอ๋อให้ไปเชิญองค์ชายรัชทายาทที่ที่ทำการปกครองแล้ว ครู่หนึ่งก็สามารถพากลับมาได้ เฮ้อ พระชายาคิดว่าจะไปอธิบายต่อในวังอย่างไรยังจะดีกว่านะเพคะ”
หยวนชิงหลิงนึกถึงไทเฮาและเสียนเฟยสองป้าหลานคู่นี้ ก็ปวดหัวเป็นอย่างมาก
ล้วนไม่ใช่เจ้านายที่จะอยู่ร่วมกันอย่างดีๆได้
แล้วพูดถึงทางด้านหยู่เหวินเห้าไปซาวโถ๋จุ้ยด้วยความรีบร้อน ตลอดทางหลังจากพุ่งตรงไปลานด้านหลังของซาวโถ๋จุ้ย นางข้าหลวงข้าทาสทั้งหมดล้วนยืนอยู่ด้านนอก เห็นเพียงท่านชายสี่อยู่ในลานเล่นกับหมาป่าหิมะอย่างสำราญใจ แต่กลับไม่เห็นหยู่เหวินหลิง
“ท่านชายสี่ หลิงเอ๋อร์ล่ะ?” หยู่เหวินเห้ารีบเอ่ยถาม
ท่านชายสี่มือข้างหนึ่งอุ้มหมาป่าหิมะ ภายใต้แสงที่ส่องอย่างสลัวจากโคมไฟในลาน รอยยิ้มดั่งดวงจันทร์สีขาวสุกสกาว “ใคร?”
“น้องสาวข้า หยู่เหวินหลิง ที่มาพร้อมกับท่านและหมาป่าหิมะ”
“อ๋อ!” ราวกับว่าท่านชายสี่จะนึกถึงคนผู้นี้ขึ้นมาได้ ชี้ไปทางในหอด้านข้าง “อาจจะอยู่ด้านใน วันนี้นางดื่มจนเมาแล้ว อาการเมากำเริบไปรอบหนึ่งแล้ว ข้าเรียกให้คนจัดการให้นางนอนด้านในน่ะ”
หยู่เหวินเห้าจะร้องไห้ก็ไม่ได้จะยิ้มก็ยิ้มไม่ออก “ทำไมเจ้าไม่เรียกให้คนส่งนางกลับไป?”
ท่านชายสี่ไม่พูดจา จะโง่หรอ ส่งนางกลับไปแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเอาหมาป่าหิมะกลับไปด้วยหรือ? ไม่ดีไม่ดี
หยู่เหวินเห้ารู้ว่านิสัยของเขาไม่ได้สนใจการพูดจาและประเพณีปฏิบัติทั่วไป ขี้เกียจจะพูดกับเขา ผลักประตูก็เข้าไป
ทันทีที่ผลักประตูเข้าไปดู หยู่เหวินเห้าก็ตกตะลึง อากาศหนาวขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าหยู่เหวินหลิงจะนอนอยู่บนพื้น นอนแขนขาแผ่หลา กลิ่นเหล้าทั้งตัว เมามายอย่างหนักหน่วง ผมเผ้ารุงรัง ดึงเสื้อผ้า อากาศหนาวขนาดนี้ ยังจะเผยกระดูกไหปลาร้าออกมาอีก
และในห้องนี้ ก็ไม่มีข้ารับใช้คนใดปรนนิบัติ นางก็นอนอยู่ที่พื้นคนเดียว รองเท้าปักรูปดอกไม้ล้วนลอยไปอยู่ข้างธรณีประตูข้างหนึ่ง
“เจ้าสีเหลิ่ง!” หยู่เหวินเห้าตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเข้ามาหาข้า!”
ท่านชายสี่พาหมาป่าหิมะสามตัวไปอึ๊ ขณะที่กำลังชื่นชม ได้ยินเสียงคำรามอย่างโกรธเคืองของหยู่เหวินเห้าเสียงหนึ่ง ถือโอกาสเก็บหินเล็กๆก้อนหนึ่งขึ้นมาเขวี้ยงไปทางเขา “อย่าเสียงดัง!” เสียงดังแล้วอึ๊ไม่ออกจะทำอย่างไร?
หยู่เหวินเห้าไม่ทันระวังว่าเขาจะลงมืออย่างฉับพลัน ได้ป้องกันที่ไหน อีกทั้งอยู่ในความเดือดดาลเป็นที่สุด ใบหูล้วนมีควันออกมาแล้ว ไหนเลยจะได้ยินถึงการโจมตีเข้ามาของก้อนหิน? พอดีกับเมื่อหมุนตัว หินก้อนนั้นก็ตกลงบนหน้าผากของเขา ด้านหน้าของเขามืดทันที คนก็ล้มลงไปด้านหลังแล้ว
ท่านชายสี่เดินเข้ามา เอาเขาลากเข้าไปในห้อง โยนไว้บนพื้นโดยตรง ปล่อยให้เขาหมดสติไป ตัวเองกลับออกไปเล่นกับหมาป่าหิมะต่อ
เขาเรียกคนให้เตรียมเนื้อหม้อหนึ่งอีก ครั้งนี้หั่นเป็นชิ้นๆ เอาตะเกียบป้อนให้ทีละคำๆ “เด็กดี กินมากๆหน่อย กินให้อ้วนๆ หลังจากนี้ก็จะน่าเกรงขามแล้ว”
ตอนนี้หมาป่าหิมะเติบโตคล่องแคล่วแข็งแรง หมาป่าสิบเดือน โตเต็มวัยแล้ว แต่ถูกท่านชายสี่เอ็นดูเหมือนเด็กอ้วนหนักสิบห้ากิโลกรัม
นางข้าหลวงที่ยืนอยู่ด้านนอกอยู่นานแล้วอยากเข้ามาดูสถานการณ์ ก็ถูกท่านชายสี่ตำหนิกลับไป เข้าซาวโถ๋จุ้ยนี้แล้ว พวกเขาล้วนกลัวเป็นอย่างมาก ผู้ชายที่ดูเหมือนจะอ่อนโยนสง่างามยังจะดุดันได้ขนาดนี้ ก็ไม่กล้าก่อความวุ่นวายแล้ว ก่อความวุ่นวายแล้วกลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าเจ้าหญิงอยู่ที่นี่ ทำได้เพียงอดทนต่อลมหนาวยืนอยู่ตรงนั้นมองดูท่านชายสี่หยอกเล่นกับหมาป่า