บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 873 ความยินดีภายในพระที่นั่ง
หลังจากเจ้าอาวาสไปแล้ว ถึงแม้ในใจหยวนชิงหลิงจะโศกเศร้า แต่ทำได้เพียงมอบทุกอย่างให้กับเขา แล้วก็ใช้ชีวิตของตนเองอย่างสบายใจ
จากบทเรียนครั้งที่แล้ว ครั้งนี้นางเก็บไว้เป็นความลับ แต่ทางด้านไท่ซ่างหวง ยังไงก็ต้องบอก เพราะต้องรับแม่นมกลับมาช่วยเลี้ยงเจ้าสามคน พวกเขาซนอย่างมาก
สวีอีติดตามไปออกรบแล้ว ไม่มีใครเล่นเป็นเพื่อนพวกเขาทั้งสามคน เล่นซนวุ่นวายทั้งวัน หยวนชิงหลิงไม่มีแรงใจดูแล
อาการป่วยของโสวฝู่ดีขึ้นมากแล้ว เพียงแต่ยังอยากอยู่ภายในพระที่นั่ง ใช้ชีวิตว่างอยู่อย่างสุขสบายนานแล้ว คนก็จะเริ่มเฉื่อย โสวฝู่รู้สึกว่าตนเองแก่แล้วจริงๆ รอเพียงการศึกครั้งนี้จบสิ้น เขาก็วางแผนที่จะเกษียณแล้ว
ตอนนี้หยวนชิงหลิงยังไม่มีอาการอาเจียน ด้วยเหตุนี้วันนี้จึงพาหมันเอ๋อกับอะซี่มายังพระที่นั่ง
ไท่ซ่างหวงเห็นพวกนางมากันสามคน ไม่สามคนที่เขาอยากเห็น จึงค่อนข้างขุ่นเคือง มีหญิงที่แต่งงานแล้วไปไหนไม่พาลูกไปด้วย?
หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องที่ตนเองท้องแล้วออกมายังไง ดังนั้น หลังจากมาถึงพระที่นั่ง ทานอาหารเที่ยงแล้ว ก็ยังไม่สามารถหาจังหวะพูดออกมาได้
ไท่ซ่างหวงเคยชินกับการต้องนอนพักกลางวัน ทานอาหารเที่ยงเสร็จ เขาก็กลับห้องไปแล้ว แม่นมสี่ไปต้มยา รอโสวฝู่กับไท่ซ่างหวงตื่นขึ้นมาดื่ม
หยวนชิงหลิงหาข้ออ้างไปช่วย หมันเอ๋อกับอะซี่ก็อยู่ในครัว ผู้หญิงสี่คนได้มีโอกาสคุยกัน ก็จะพูดยืดยาวไม่รู้จบ
อะซี่ยังพูดถึงเรื่องที่หมันเอ๋อชอบสวีอี หมันเอ๋อหน้าแดงกระทืบเท้าปฏิเสธอย่างเอียงอาย พร้อมพูดว่านางแค่รู้สึกว่าสวีอีไม่เลว ไม่ได้ชอบสวีอี
อะซี่ไม่เชื่อ ยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “หากเจ้าไม่ฉวยโอกาสไว้ให้ดี ก็จะเหมือนโสวฝู่กับแม่นม แก่เฒ่าแล้วค่อยสามารถได้อยู่ด้วยกัน”
แม่นมสี่ยิ้มพร้อมก่นด่าอะซี่ว่า “ฉีกปากของเจ้าทิ้ง เอาข้าไปเทียบกับเด็กสาวทำไม? พวกเราเรียกว่าอยู่ด้วยกันได้อย่างไร? ก็แค่รู้จักกันมาตั้งแต่หนุ่มสาว แก่แล้วก็ดูแลซึ่งกันและกัน”
“พวกเจ้านอนด้วยกันหรือเปล่า?” อะซี่ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
แม่นมสี่ถือตะหลิวไว้แล้วก็ไล่ตีนาง อะซี่รีบวิ่งไปหาหยวนชิงหลิงปกป้อง ยิ้มทะเล้นหลบอยู่ข้างหลังหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่หยวน ฉางกงกงพูดว่าพวกเขาเคยลองนอนด้วยกัน”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวว่า “พวกเขาอายุมากแล้ว นอนด้วยกันก็ไม่ท้อง”
แม่นมสี่พูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “แต่ละคนต่างก็ล้อเล่นข้าใช่ไหม? เดี๋ยวค่อยจัดการกับพวกเจ้า”
หมันเอ๋อกลับมองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท สองวันนี้ดูท่านอารมณ์ไม่ค่อยดี คิดถึงองค์ชายรัชทายาทหรือ?”
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่บนเก้าอี้เล็ก เงยหน้าที่ค่อนข้างเศร้า พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็คิดถึงอยู่ แต่ไม่ได้หงุดหงิดเพราะเรื่องนี้”
“งั้นหงุดหงิดอะไรหรือ?” อะซี่ก็นั่งลงแล้วถามขึ้น พร้อมพูดขอร้องแม่นมสี่ว่า “ไม่เล่นแล้ว ไม่เล่นแล้ว ข้าผิดไปแล้ว ข้าตบปากตัวเอง”
แม่นมสี่เพิ่มฟืนหนึ่งกำมือลงในเตา แล้วหันมามองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท พวกเด็กๆวุ่นวายปั่นป่วนหรือ?”
หยวนชิงหลิงลูบสัมผัสท้องโดยไม่รู้ตัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็ไม่ได้ปั่นป่วนมาก ครั้งนี้ยังไม่มีความรู้สึก ไม่อาเจียนและก็ไม่เวียนหัว เทียบกับครรภ์แรก ดีกว่าเยอะมาก”
ทั้งสามคน ต่างมองมาที่นางพร้อมกัน
แม่นมสี่พูดพึมพำขึ้นว่า “โอ้สรรค์ โอ้สรรค์ โอ้สรรค์”
นางรีบเดินไปข้างหน้า ดึงหยวนชิงหลิงลุกขึ้นมามองดูท้องของนางอย่างละเอียด พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่าน….ท่านตั้งครรภ์อีกแล้วหรือ?”
หยวนชิงหลิงตอบอย่างค่อนข้างอยากร้องไห้ว่า “ใช่”
“อ้าก” ทั้งสามคนกรี๊ดร้องพร้อมกันขึ้นมา แววตาก็ก็เบิกบานขึ้นมาทันใด พร้อมพูดขึ้นว่า “ดีมากเลย ดีที่สุดเลย”
แม่นมสี่เดินวนไปมา พร้อมพูดขึ้นว่า “โอ้สรรค์ ท้องอีกแล้ว ข้าต้องเก็บของกลับจวน ไล่ตาเฒ่าไปเฮ้อ ต้องเตรียมอะไรบ้าง? ข้าคิดดูก่อน หัวสมองของข้าค่อนข้างวุ่นวาย ผ้าห่มผืนเล็ก เสื้อผ้าตัวเล็ก นางผดุงครรภ์ ยังมียาที่โสวฝู่ฉู่เอามาจากไทเฮาหลง ล้วนต้องจัดเตรียม…..”
“แม่นม ยังมีแม่นม ต้องหาแม่นม” อะซี่รีบพูดเสริมขึ้น
“ใช่ ใช่ ยังมีแม่นม อ้า นางผดุงครรภ์ก่อนหน้านี้พวกนั้นล่ะ? ต้องตามหาพวกนางกลับมา”
หยวนชิงหลิงดูผู้หญิงสามคนวุ่นไปมาเหมือนอย่างคนบ้า ถอนหายใจ เท้าคางด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่เพิ่งท้องเอง สามารถ…”
“หยุด หุบปากเดี๋ยวนี้” จู่ๆแม่นมสี่ก็พูดขึ้นด้วยเสียงดุว่า “งาช้างไม่มีวันงอกออกจากปากสุนัข ถุยทิ้งแล้วพูดใหม่อีกรอบ”
หยวนชิงหลิงตบปากตัวเอง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าพูดผิดไปแล้ว ข้าตบปากตัวเอง” นางเพียงแค่อยากพูดว่า สามารถตามหานางผดุงครรภ์คนนั้นได้ไหมยังไม่รู้เลย
“องค์ชายรัชทายาทรู้เรื่องนี้หรือยัง?” หมันเอ๋อถามขึ้นมาในทันใด
“เขาไม่รู้”
“เขารู้แล้วจะต้องดีใจอย่างมากแน่” หมันเอ๋อพูดขึ้นอย่างแน่วแน่
หยวนชิงหลิงหัวเราะ ไม่แน่ ก่อนหน้านี้ตอนที่คลอดแฝดสามทำให้เขาตกใจมากแล้ว ในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ เขาตัวสั่นทุกครั้งเมื่อพูดถึงวันประสูติของพระพุทธเจ้า กลัวอย่างที่สุด
อะซี่มองดูท้องของหยวนชิงหลิง แล้วจับมือของแม่นมสี่ พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นม เจ้าว่า จะเป็นแฝดสามอีกไหม?”
แม่นมสี่เอามากุมปาก ดีใจจนน้ำตาไหล พร้อมพูดขึ้นว่า “คาดหวังอย่างมาก”
หยวนชิงหลิงทำท่าเป็นลม
“งั้นเด็กสามคนที่เกิดมาชื่ออะไรดี? ก่อนหน้านี้ชื่อเล่นล้วนเป็นขนมหวาน ครั้งนี้จะใช้เป็นชื่อผลไม้หรือผัก?”
“ไม่ดี ไม่ดี ข้าคิดดูก่อน สัตว์ สัตว์เป็นอย่างไร? สุนัข ม้า แมว กระต่าย….”
“ไม่น่าฟังเลย แม่นม อะซี่ ข้าคิดว่า ชื่อเล่นหนานเจียงของเราน่าฟังกว่า ชื่อแมงป่อง ตะขาบ แมลงทอง หยู่เหวิน ตะขาบ น่าฟังมากเลย”
หยวนชิงหลิงมองดูทั้งสามเสวนากันอย่างตื่นเต้น รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันกับพวกเขา จึงค่อยๆถอยออกไป
นางเดินไปอย่างรวดเร็ว ชื่อหยู่เหวินไข่ไก่ หยู่เหวินไข่เป็ดต่างๆ ยังดังออกมาให้ได้ยินอย่างไม่ขาดสาย ทุกคนต่างดีใจอย่างมาก ใช่ ก่อนหน้านี้เป็นแฝดสาม ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ
นางก็ควรที่จะดีใจ แต่เพราะหัวใจดวงนี้ไม่สามารถที่จะสงบลงได้
หลังจากพูดกับพวกแม่นมสี่แล้ว รอเมื่อไท่ซ่างหวงตื่นมาจากการนอนพักกลางวัน หยวนชิงหลิงก็สามารถพูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติว่า “ข้าท้องแล้ว”
พูดเสร็จ แล้วก็หยิบเสื้อคลุมไปสวมให้กับไท่ซ่างหวง
ไท่ซ่างหวงยังงัวเงียง่วงนอน เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็หันไปมองนางอย่างตกใจเล็กน้อย มองขึ้นลงพิจารณาดูพร้อมพูดขึ้นว่า “ดูไม่ออกเลยว่าร่างกายของเจ้านี้จะแข็งแรง มีบุตรง่าย”
หยวนชิงหลิงกลอกตามองบน พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเด็กๆได้สองขวบกว่าแล้ว”
ไท่ซ่างหวงไม่มีอาการทุกข์สุข เพียงแค่ยกมือเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อท้องแล้ว เจ้าก็ไม่ต้องมาคอยปรนนิบัติ กลับไปพักผ่อนให้ดี ใช้ตาเฒ่านั่นมากปรนนิบัติเถอะ”
ท่าทีนี้ทำให้ในใจหยวนชิงหลิงรู้สึกดีอย่างมาก ตอนนี้สิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คือ ท่าทีเดี๋ยวตระหนกเดี๋ยวดีใจ
ยังไงก็เป็นคนที่เคยผ่านอุปสรรคมามากมาย สงบ
ฉางกงกงเข้าไปได้ไม่นาน ก็ออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เดินวนอยู่ด้านนอก หยิบสุราหนึ่งเหยือกแล้วก็เข้าไป หยวนชิงหลิงห้ามไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมถึงได้ดื่มสุรา? นี่ตอนกลางวันนะ”
“ไท่ซ่างหวงบอกว่าจะดื่มเหล้า” ฉางกงกงพูดเสร็จ แล้วก็รีบวิ่งไปเชิญโสวฝู่มา ชายชราทั้งสามคนดื่มด้วยกันโดยไม่มีกับแก้ม หยวนชิงหลิงเปิดม่านมองดูแวบหนึ่ง ไท่ซ่างหวงหน้าแดง โบกมือให้กับนางพร้อมพูดขึ้นว่า “กลับไปพัก ไปพัก ไม่ต้องคอยปรนนิบัติ”
“ไม่ต้องดื่มแล้ว นี่เพิ่งหยุดดื่มไปแล้วก็ดื่มขึ้นมาอีก ชักไม่แน่ใจแล้วนะ” หยวนชิงหลิงพิงอยู่ด้านข้างประตูแล้วพูดบ่นขึ้น เห็นสุราเหยือกนั้นว่างเปล่าแล้ว ฉางกงกงยกเหยือกขึ้นมาเท ก็เทออกมาได้เพียงหยดสองยอด สุรา เหยือกนี้มีสุรากว่าครึ่งโลกว่าเลยนะ
“รู้ตัวดีอยู่ กลับไป กลับไปเถอะ คนท้องอย่ายุ่งเรื่องอะไรมากมาย” ไท่ซ่างหวงหัวเราะจนตาหรี่ไม่มองเห็น
โสวฝู่ฉู่มองดูไท่ซ่างหวงด้วยสายตาอิจฉา แต่แล้วก็พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ภรรยาอ๋องฉีก็ท้องแล้ว หลานชายก็คือหลาน”