บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 915 เอาล่ะ แบไพ่ออกหมดแล้ว
หมันเอ๋อมองดูทุกคนจากไป ในใจค่อนข้างเศร้าเล็กน้อย วันนี้เป็นอะไรกัน? เหมือนทุกคนตั้งใจแกล้งนาง แม้แต่อะซี่กับลู่หยาต่างไม่สนใจนาง ยังพูดจากระแทกนาง
ตอนนี้ทุกคนล้วนไปทานข้าวแล้ว เหลือนางอยู่ที่เพียงคนเดียว นางไม่ได้สนใจว่าต้องทำงานหนัก เพียงแค่เสียใจที่ถูกทอดทิ้ง
แม่นมฉินมองดูนาง แล้วค่อยๆเดินจากไป สายตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ได้ยินเสียงหยวนชิงหลิงเรียกขึ้นตรงหน้าประตูว่า “แม่นมฉิน? เจ้าลุกขึ้นมา ข้ามีงานจะให้เจ้าทำ”
นางกำหมัดไว้เบาๆ สักพัก แล้วก็หันไปมองหยวนชิงหลิง ดวงตายังคงแสดงถึงความเชื่อฟังอย่างเคย พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาทต้องการสั่งให้ทำอะไรหรือ?”
“มา ข้าสั่งงานเจ้าบางอย่าง” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
แม่นมฉินอดทนไว้ หันหน้าเดินตามหยวนชิงหลิงออกไป จากนั้นเมื่อออกไปแล้ว งานที่หยวนชิงหลิงสั่ง เป็นงานทั่วไป ไม่จำเป็นต้องให้นางทำก็ได้ ใช้บ่าวคนไหนทำก็สามารถทำได้
นางใช้ไปมาอยู่สักพัก แล้วก็เลยเวลาทานข้าวแล้ว นางรีบไปยังห้องครัว ยังคงมีของกินเหลืออยู่ อ นางเก็บอาหารใส่กล่องแล้วนำไปที่ห้องเก็บของ
ภายในห้องเก็บของนอกจากหมันเอ๋อ ก็ไม่มีใครอื่นอีก พวกนางล้วนเที่ยวชมจวนใหม่อยู่ด้านนอก เจ้านายกลับบ่าวใช้มากมาย คุยกันอยู่อย่างมีความสุข สนุกสนาน
นางแอบเข้าไปภายในห้องเก็บของ หมันเอ๋อกำลังจัดของอยู่ เห็นมีคนเข้ามา หมันเอ๋อเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับนาง
แม่นมฉินมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าชื่อหมันเอ๋อ?”
“ใช่ แม่นมฉิน ข้าชื่อหมันเอ๋อ” หมันเอ๋อยืดเอวตรง ยื่นมือตีหลัง แล้วก็ได้ยินเสียงท้องร้องดังขึ้น หมันเอ๋อก้มหน้าลงอย่างเก้อเขิน
แม่นมฉินถอนหายใจอย่างไม่ให้ได้ยิน วางกล่องข้าวลงบนโต๊ะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ามีกับข้าวอยู่บ้าง เจ้ามาทานเถอะ”
หมันเอ๋อรีบโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ได้ ข้าทานแล้วท่านล่ะ ท่านจะทานอะไร? ข้าไม่หิว ท่านทานก่อนเลย”
“มาทานด้วยกัน” แม่นมฉินพูดขึ้นด้วยสายตาซับซ้อนว่า “ข้าทานคนเดียวไม่หมด จะได้ไม่สิ้นเปลือง”
หมันเอ๋อลูบท้องของตนเอง ยื่นคอยาวมองดูแววหนึ่ง แล้วก็ได้กลิ่นหอมของกับข้าว อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย พร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “งั้น…. สิ้นเปลืองไม่ดี ไม่ควรที่จะสิ้นเปลืองอาหาร”
นางนั่งลง รอแม่นมฉินแบ่งให้กับ
แม่นมฉินวางกับข้าวทั้งหมดออกมา มองดูนางพร้อมพูดขึ้นว่า “รีบทาน”
หมันเอ๋อเคยทุกข์เพราะการอดอยากมาก่อน ตรงนั้นเมื่อเห็นของกินแล้วก็ไม่เกรงใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ทานด้วยกัน”
ท่าทีการทานของนางไม่เคยเรียบร้อยมาตลอด เมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉู่หมิงหยาง เพราะข้างกายนางไม่สามารถที่จะไม่มีคน เวลาทานข้าวจึงต้องทานอย่างเร่งรีบ เพื่อที่จะรีบไปคอยปรนนิบัติ
รับใช้ ความเคยชินนี้ มาถึงจวนอ๋องฉู่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
แม่นมฉินไม่ทาน นั่งนิ่งมองดูนาง หมอกจางๆลอยขึ้นในตา พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงสะอึกสะอื้นอย่างไม่รู้ตัวว่า “เจ้าไม่เคยได้ทานอิ่มมาตลอดหรือ?”
“วันนี้ไม่ได้ทาน” หมันเอ๋อยื่นคอยาว กลืนเนื้อลงไป เห็นนางไม่ทานอะไร จึงนิ่งไปสักพักแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าทำให้ทันตกใจหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ ข้าไม่หิว ทานมื้อไปเยอะแล้ว พวกเขาเก็บกับข้าวไว้ให้กับข้า คิดว่าไม่ควรที่จะสิ้นเปลือง จึงเอามาให้เจ้าทาน” แม่นมฉินก้มหน้าลง ปกปิดอารมณ์ในแววตา
“อ้อ งั้นข้าทานแล้วนะ” หมันเอ๋อตั้งใจทานขึ้นมาอีกครั้ง
แม่นมฉินรอนางใกล้จะทานเสร็จ จึงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เจ้าอยากมาทำงานที่จวนอ๋องชุนไหม?”
“ไม่ได้” หมันเอ๋อส่ายหัว หลังจากกลืนข้าวลงไปแล้วก็พูดขึ้นว่า “ข้าต้องปรนนิบัติรับใช้พระชายารัชทายาท ไม่นานพระชายารัชทายาทก็จะคลอดลูกแล้ว”
“เจ้ารับใช้อยู่ข้างกายพระชายารัชทายาทมาตลอดหรือ?”
หมันเอ๋อพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ตลอด ก่อนหน้านี้เคยรับใช้เจ้านายคนอื่น”
นางหัวเราะ วางตะเกียบลงพร้อมพูดขึ้นว่า “อยู่ที่จวนอ๋องฉู่ดี พระชายารัชทายาทดีกับข้ามาก ยังมีพวกแม่นางอะซี่ ล้วนชอบข้า”
“อะซี่ก็คือผู้หญิงที่วันนี้ด่าเจ้าคนนั้นหรือ?” สีหน้าแม่นมฉินเคร่งขรึมลง
หมันเอ๋อพูดอธิบายว่า “ปกติแม่นางอะซี่ไม่เป็นแบบนี้ วันนี้นาง….. อารมณ์น่าจะไม่ค่อยดี”
“อารมณ์ไม่ดีแล้วจะระบายกับเจ้าอย่างไรก็ได้หรือ?” แม่นมฉินพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “คนพวกนี้เป็นอย่างไรกัน? ต่อไปจะต้องสั่งสอนเสียหน่อย”
หมันเอ๋อพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าจะพูดแม่นางอะซี่เช่นนี้ไม่ได้ นางเป็นคนดีมาก ปกติมีของอร่อยล้วนยกให้ข้า”
แม่นมฉินมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ทุบตีเจ้าแล้วก็ให้ของกินเจ้า ใช่ไหม?”
“นั่นไม่ใช่การทุบตี เราฝึกฝีมือการต่อสู้กัน ข้าแค่สู้แม่นางอะซี่ไม่ได้ พ่ายแพ้ให้กับนางแค่นั้นเอง แต่ทุกครั้งที่นางชนะก็จะทำของกินอร่อยให้กับข้า ยังมีของขวัญให้ข้าด้วย” หมันเอ๋อยื่นมือไปจับปิ่นปักผม พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูสิ ปิ่นปักผมนี้แม่นางอะซี่เป็นคนให้ข้า”
แม่นมฉินมองดูปิ่นปักผมบนหัวของนาง ถึงแม้สีจะสวย แต่สำหรับคุณหนูตระกูลผู้ดี นี่เป็นเพียงของเล่น ยกให้กับบ่าวใช้ไปเรื่อยก็ไม่เสียดาย ไม่ผลกระทบในสายตาพวกนั้นเลย นางเป็นแค่บ่าวใช้คนหนึ่งที่ใครก็สามารถใช้ระบายอารมณ์
สายตาของนางฉายแววเจ็บปวด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ามาที่จวนอ๋องชุนเถอะ อยู่ที่นี่ ได้กินอิ่มทุกมื้อ ไม่มีใครทำให้เจ้าเสียใจ ไม่มีใครใช้เจ้าเป็นที่ระบายอารมณ์ ยิ่งไม่มีใครทำร้ายเจ้า”
“ขอบคุณในความหวังดีของท่าน แต่ข้ามาไม่ได้จริงๆ” หมันเอ๋อรู้สึกว่าคนคนนี้แปลกๆ จึงไม่พูดอะไรอีก เพียงพูดว่า “ขอบคุณที่ท่านเอาอาหารมาให้ข้า ข้าต้องทำงานแล้ว รีบทำให้เสร็จจะได้รีบกลับ”
แม่นมฉินยื่นมือคว้าจับข้อมือของนางไว้แน่น พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงจริงจังว่า “เจ้าต้องมาจวนอ๋องชุน”
หมันเอ๋อตกใจอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่าน…”
หยวนชิงหลิงอุ้มท้องโตเดินเข้ามาจากด้านนอก ยิ้มกริ่มพร้อมพูดขึ้นว่า “แม่นมฉิน จวนอ๋องชุนขาดคน ข้ารู้ ข้าได้สั่งคนมองหาแล้ว เจ้าจะแย่งคนของข้าไม่ได้”
แม่นมฉินปล่อยหมันเอ๋อ ก้มหน้าลงไม่พูดอะไร แต่ท่าทีค่อนข้างเยือกเย็น
หมันเอ๋อเห็นหยวนชิงหลิงเข้ามา ก็ค่อยโล่งอก มามาน่าแปลกคนนี้ ถึงแม้จะให้นางทานข้าวแต่พูดจาน่าแปลก ทำให้นางรู้สึกไม่สบายอย่างมาก
“หมันเอ๋อ อะซี่เอาขนมกุ้ยฮวามาให้เจ้า รีบไปเถอะ” หยวนชิงหลิงพูดกับหมันเอ๋ออย่างอ่อนโยน
“แต่ว่างาน…”
หยวนชิงหลิงยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องแล้ว คนจวนอ๋องชุนสามารถเก็บได้ เจ้าไปเถอะ”
หมันเอ๋อร้องอ้อหนึ่งที ขอบคุณแม่นมฉินอีกครั้ง แล้วก็เดินจากไป
แม่นมฉินรีบเงยหน้าขึ้นมามองดูนาง มืออยากที่จะยื่นไปคว้าจับหมันเอ๋ออย่างไม่รู้ตัว แต่สบกับสายตาที่เฉียบคมของหยวนชิงหลิง นางลังเลสักพัก ค่อยชักมือกลับ มองสบตาหยวนชิงหลิง ความไม่พอใจเผยให้เห็นผ่านสายตา
หยวนชิงหลิงหันไปปิดประตู เหมือนได้ยินถึงความขุ่นเคืองของนาง นางถามขึ้นอย่างเฉยเมยว่า “เจ้ากับหมันเอ๋อ เกี่ยวข้องเป็นอะไรกัน?”
ประโยคนี้หันหลังถามแม่นมฉิน เมื่อนางหันหน้ามา ก็พบกับสายตาอาฆาตของแม่นมฉิน ความอาฆาตนั่นเผยออกมาอย่างกะทันหัน นางเองไม่สามารถระงับไว้ได้ จึงเผยตรงหน้าให้หยวนชิงหลิงได้เห็นเช่นนี้
นางไม่ได้รวบเก็บอาการ จ้องมองหยวนชิงหลิง พร้อมขึ้นว่า “ข้าน้อยไม่รู้ว่าพระชายารัชทายาทพูดอะไร?”
“เจ้ารู้” หยวนชิงหลิงไม่เกรงกลัวสายตาที่อาฆาตของนาง กลับเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พร้อมพูดขึ้นว่า “ทุกอย่างที่เจ้าเห็นในวันนี้ ล้วนเป็นแผนการลองใจของข้า หมันเอ๋อไม่ได้มีชีวิตที่แยะ อะซี่ก็ตั้งใจดุนางต่อหน้าเจ้า เพื่อดูปฏิกิริยาของเจ้า”
แม่นมฉินค่อยๆหัวเราะขึ้นมา รอยยิ้มของนางค่อนข้างแปลก หนังยิ้มเนื้อไม่ยิ้ม แววตาเยือกเย็น พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท ไม่รู้ว่าท่านต้องการลองใจอะไรหรือ?”