บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 947 ท้องสองจะคลอดแล้ว
หรงเยว่ยกมือขึ้นมานับนิ้วครู่หนึ่ง “เป็นไปไม่ได้ ยังเหลือเวลาอีกเกือบครึ่งเดือนจึงจะคลอด”
“บางครั้งก็คลอดก่อนกำหนด”ฮูหยินเหยาเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาก
หรงเยว่ส่ายหน้า “ไม่ เคยถามแล้ว ท้องโตเท่ากับฆ้อง ส่วนมากจะเป็นลูกสาว ลูกสาวมีแต่จะเลยกำหนดไม่มีคลอดก่อนกำหนด ลูกชายจึงจะคลอดก่อนกำหนดได้”
“เจ้ารู้มากเสียจริง”
หรงเยว่เอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “เกี่ยวกับเรื่องให้กำเนิดลูก ข้าได้ศึกษาค้นคว้ามานานแล้ว ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าข้าไม่เอาไหนหรือเขาไม่เอาไหน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ท้องเสียที ข้าร้อนใจจะตายแล้ว ทุกเดือนเมื่อระดูของข้ามา ข้าก็อยากจะฆ่าคน กำแพงด้านหลังบ้านข้าถูกข้าเตะจนล้มไปหลายครั้งแล้ว”
ฮูหยินเหยาพูดยิ้มๆว่า “เจ้าอย่าร้อนใจไปเลย นี่ก็ต้องรอบุญวาสนา”
หรงเยว่ยักไหล่ “ตอนนี้ข้าปล่อยวางแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเรื่องสามีก็รอมาตั้งหลายปีแล้ว รอลูกก็สามารถรอได้อีกหลายปี บำรุงร่างกายของเจ้าหกให้ดีก่อนค่อยว่ากัน”
พูดถึงเจ้าหก ทั้งใบหน้าและดวงตาของนางล้วนแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้ม สดใสน่ามอง ทำเอาฮูหยินเหยาต้องเบือนสายตาออกไปอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้อดนึกถึงคำพูดของหยวนชิงหลิงไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา
นางเองก็เคยใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรักเช่นนี้มองคนคนหนึ่ง เสียดายที่เวลาผ่านไปนานมากแล้ว คนคนนั้นก็ไม่คู่ควรที่จะฝากทั้งชีวิต เป็นคนสารเลวคนหนึ่ง
หยวนชิงหลิงไปเข้าห้องน้ำกลับมา ก็ยิ่งรู้นึกปวดเมื่อยเอวมากขึ้น นอนลงก็ไม่ได้ ยืนขึ้นยิ่งทำไม่ได้ ราวกับเอวจะหักเสียให้ได้
“จะให้เรียกหมอหลวงมาดูหรือไม่”แม่นมสี่เอ่ยอย่างเป็นห่วง
หยวนชิงหลิงพูดว่า “ไม่น่าจะมีอะไร เมื่อครู่ก้มเอวมากไปหน่อย”
หมันเอ๋อพูดว่า “เช่นนั้นท่านหันหลังไป ข้าน้อยจะนวดให้ท่าน”
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ใช้มือยันที่โต๊ะเอาไว้ ร่างกายโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย หมันเอ๋อจึงนวดเบาๆที่ด้านหลังของนาง นวดไปสักพัก นางก็โบกมือ “ไม่ไหว ข้าอยากไปห้องน้ำอีกแล้ว ”
“ไปอีกแล้ว ”ฮูหยินเหยานิ่งอึ้ง “เจ้าเพิ่งจะกลับมาเองนะ”
“ข้าคงท้องเสีย ปวดหน่วงมาก”หยวนชิงหลิงลุกขึ้นมา เพิ่งเดินไปได้สองก้าว รู้สึกผิดปกติขึ้นมา แล้วก็ยืนนิ่ง จากนั้นก็มองฮูหยินเหยาด้วยความสิ้นหวังอยู่บ้าง “สวรรค์ ข้ารู้สึกว่ารอให้ไปถึงห้องน้ำไม่ไหวแล้ว”
ฮูหยินเหยาหาหนึ่งเสียง “เกิดอะไรขึ้น เมื่อเช้าเจ้ากินอะไร”
นางยื่นมือไปประคองหยวนชิงหลิง หันหน้ากลับไปสั่งการแม่นมสี่ “แม่นม รีบไปเรียกหมอหลวงมา จะท้องเสียเวลานี้ไม่ได้ ”
พูดแล้ว ก็เดินไปพร้อมกับอะซี่คนหนึ่งอยู่หน้าอีกคนอยู่ข้างหลัง ประคองหยวนชิงหลิงออกจากประตู ตรงไปยังห้องน้ำ
แม่นมสี่ก็รีบร้อนไปตามตัวหมอหลวง
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่ในห้องน้ำชั่วครู่ ความรู้สึกปวดหน่วงนั้นก็ไม่หายไป เริ่มค่อยๆรู้สึกปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ยืนขึ้นเปิดประตู “ประคองข้ากลับไป ข้าเดาว่าจะคลอดแล้ว ”
“หา”ตอนนี้ฮูหยินเหยาเหลือเพียงความรู้สึกตกใจ รีบเข้าไปหิ้วปีกราวกับเป็ดพาหยวนชิงหลิงกลับไปยังตำหนักข้าง เพิ่งจะประคองให้นอนลงที่เตียง น้ำคร่ำก็ทะลักออกมา หมันเอ๋อรีบถอดเสื้อผ้านางออกอย่างรีบร้อน เพิ่งจะถอด ก็เห็นหัวดำๆหัวหนึ่งโผล่ออกมาแล้ว ทำเอาหมันเอ๋อตกใจจนร้องเสียงหลง เซถอยเหยียบอากาศ จนล้มลงไปที่พื้น
“ออกมาแล้วหรือ”ฮูหยินเหยาตกใจมาก นางเคยคลอดลูกแต่ไม่เคยทำคลอดมาก่อน “ทำไมจึงได้เร็วเช่นนี้ หรงเยว่ รับใช้ด้วยบังตอ”
“บังตอ”
“ไม่ กรรไกร ”ฮูหยินเหยาริมฝีปากสั่น กึ่งหมอบอยู่บนเตียง รับหน้าที่เป็นนางผดุงครรภ์
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่ามีพละกำลังสายหนึ่งเกิดขึ้นมาเอง กดและดันลงไป ตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกว่าปวดท้องขึ้นมาบ้างแล้ว ความปวดที่เอวก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ทนไม่ได้จนต้องร้องออกมา
ศีรษะและใบหน้าของเด็กโผล่ออกมา และชั่วครู่เดียวก็ลื่นไถลออกมาทั้งตัว ฮูหยินเหยารีบยื่นมือไปรับเอาไว้ หรงเยว่เอากรรไกรลนอยู่บนไฟด้วยมือที่สั่นเทา นางเกือบจะเป็นลมไปแล้ว ประสบการณ์ที่นางมีทั้งหมดล้วนอยู่แต่ในตำราเท่านั้น
อะซี่นั้นตกใจจนยืนบื้อไปแล้ว เพื่อท้องสองของหยวนชิงหลิง แม่นมสี่ได้เริ่มเตรียมการไว้ตั้งแต่หลายเดือนก่อน ในจวนมีการเตรียมพร้อมไว้ทุกอย่าง รอให้นางให้กำเนิด แต่คิดไม่ถึงว่า จะคลอดที่ตำหนักฉินคุนนี้
เต๋อกงกงรู้ว่าพระชายารัชทายาทจะให้กำเนิดแล้ว ก็วิ่งออกไปหาไท่ซ่างหวงอย่างล้มลุกคลุกคลาน คุกเข่าลงหน้าประตู ลื่นไถลเข้าไปโดยตรง“ไท่ซ่างหวง ไท่ซ่างหวง พระชายารัชทายาทคลอดแล้ว คลอดแล้ว”
“คลอดแล้ว ”ไท่ซ่างหวงลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน เซอยู่สองก้าวประคองโต๊ะเอาไว้ ตะคอกว่า
“ตามหมอหลวงหรือยัง เร็ว ไปรายงานรัชทายาท รายงานฮ่องเต้”
“พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ ”เต๋อกงกงลุกขึ้นมาก็รีบวิ่งไปทางด้านนอกทันที
ฮ่องเต้หมิงหยวนกำลังปรึกษาหารือกับเหล่าขุนนางใหญ่อยู่ในห้องทรงพระอักษร ได้ยินรายงานว่าพระชายารัชทายาทคลอดลูกในตำหนักฉินคุน ก็ทิ้งเหล่าขุนนางที่อยู่เต็มห้องออกไปทันที
เพิ่งจะถึงตำหนักฉินคุน ก็พบกับหวงกุ้ยเฟยเข้า ฝ่ามือของหวงกุ้ยเฟยสั่นเทา เป็นเพราะว่าท้องแรกของพระชายารัชทายาทนั้นคลอดยากมาก เมื่อครู่คนที่มารายงานไม่ได้แจ้งสถานการณ์อย่างชัดเจน ฉะนั้นตอนนี้จึงถูกทำให้รู้สึกตกใจจนหน้าซีด
วันนี้หยู่เหวินเห้าอยู่ที่กรมการพระนคร เขาก็รู้ว่าหยวนชิงหลิงเข้าวัง คิดว่าคืนนี้สามารถกลับไปเร็วหน่อยก็จะรวดเข้าวังไปรับนางกลับจวนด้วย
วันนี้มีคดีต้องเปิดศาลเพื่อไต่สวน คดีฆ่าสามีนี้ ฆาตกรกล่าวอ้างอยู่นานมาก ปฏิเสธที่จะยอมรับผิด และการเปิดศาลวันนี้มีพยานบุคคลใหม่ ฉะนั้นการเปิดศาลวันนี้สามารถตัดสินได้ทันที
หลังจากจัดการคดีนี้เสร็จสิ้นแล้ว เขาก็จะเริ่มลาหยุดอยู่เป็นเพื่อนยายหยวนช่วงคลอด
ในที่สุดฆาตกรก็ยอมรับผิด หลังจากหยู่เหวินเห้าตัดสินแล้ว ก็รีบกระตุ้นให้คนในกรมทำสำนวนคดีส่งให้กรมอาญา ให้กรมอาญาอนุญาตลงมา จึงสามารถประหารฆาตกรได้
“ใต้เท้า มีคนมาจากในวัง ต้องการพบท่าน ”พลตระเวนเข้ามารายงาน
“คนในวังมาหรือ เจ้าไปบอกว่าข้ารู้แล้ว ให้เขารอสักครู่ ข้าจะเข้าวังไปพร้อมเขา”หยู่เหวินเห้าเงยหน้าขึ้น คิดว่าบางทีอาจเป็นไท่ซ่างหวงให้คนมาบอกว ให้เขาไปรับตัวหยวนชิงหลิงช่วงพลบค่ำ ไท่ซ่างหวงตอนนี้จุกจิกมากเป็นพิเศษ แค่เรื่องเดียวก็คอยกำชับซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ขอรับ”พลตระเวนออกไป ไม่ทันไรก็วิ่งกลับมาด้วยสีหน้าร้อนรน “ใต้เท้า ใต้เท่า คนในวังคนนั้นบอกว่าพระชายารัชทายาทให้กำเนิดลูกในตำหนักฉินคุนแล้ว…… เอ๋ ใต้เท้าล่ะ”
หยู่เหวินเห้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุหมุน ตลอดทางได้ยินแต่เสียงหัวใจที่เต้นรัว มีความรู้สึกราวกับจะเป็นลมอย่างไรอย่างนั้น
จูงม้าได้ก็วิ่งทันที ไม่สนว่าเป็นม้าของใคร วิ่งห้อตะบึงอย่างไม่คิดชีวิต ข้างหูมีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดทรมานของยายหยวนตอนที่คลอดลูกดังขึ้น
สวรรค์ สวรรค์ สวรรค์ คุ้มครองด้วย
ห้อม้าวิ่งอย่างรวดเร็วเข้าวัง ไม่มีเวลาสนใจข้อห้าม ควบม้าในวังหลวงวิ่งตรงไปยังตำหนักฉินคุน จากนั้นก็พลิกตัวลงจากหลังม้า ชั่วขณะนั้นเท้ายืนไม่มั่นคงเกือบจะล้มคะมำไป วิ่งเข้าไปด้านในด้วยความโซเซ
“เจ้าห้า”ฮ่องเต้หมิงหยวนเห็นเขาวิ่งตรงไปยังหลังตำหนักอย่างไม่คิดชีวิต ก็ร้องเรียกขึ้น
หยู่เหวินเห้าได้ยินเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ถ้าหากยายหยวนคลอดลูกอยู่ข้างใน เขารู้ว่าต้องอยู่ที่ห้องไหน เพราะเคยอยู่มาก่อน
ด้านนอกตำหนักข้างมีคนอัดแน่นเต็มไปหมด หรงเยว่กับอะซี่นั่งอยู่ที่ระเบียงด้วยท่าทีขวัญหนีดีฝ่อ เห็นเขามาถึง อะซี่อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา “รัชทายาท ท่านมาแล้ว”
ดวงตาทั้งสองข้างของหยู่เหวินเห้าถูกลมพัดจนแดงก่ำ เห็นท่าทีของอะซี่เช่นนี้ คิดถึงตอนที่ยายหยวนสลบไปก่อนหน้านี้ ในสมองก็มีเสียงอื้ออึงดังขึ้นมา ความเจ็บปวดที่คุ้นเคยระลอกหนึ่งแล่นเข้ามาในใจ อากาศถูกบีบอัดอย่างรุนแรงให้ออกไปจากทรวงอก ชั่วขณะนั้นรู้สึกหายใจไม่ออก ล้มตัวแข็งลงไปทันที