บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 954 เจ้าห้าก็มีของขวัญ
ขณะที่เปิดวิดีโออันที่สาม หยวนชิงหลิงร้องไห้จนตาทั้งสองข้างบวมแดงแล้ว
วิดีโออันที่สามเป็นของคุณแม่ นางเห็นใบหน้าของคุณแม่ปรากฏออกมาในกล้อง ก็แทบจะพังทลายแล้ว ทั้งร่างสั่นเทา เพราะคุณแม่ยังไม่ได้พูด ก็น้ำตาไหลแล้ว
“หลิงเอ๋อ ลูกอยู่ดีหรือเปล่า……” หางเสียงสะอึกสะอื้นเลือนราง กล่องสั่นไหวเล็กน้อย ได้ยินเสียงสะอื้นดังมา กล้องถ่ายไปที่ฝ้าเพดาน จากนั้นเสียงร้องไห้ใจสลายก็ดังมา
ครู่หนึ่ง ยังคงหันไปทางใบหน้าของพี่ชาย เขาสะอื้นอยู่เล็กน้อย “บันทึกคุณแม่ไม่ได้ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เล็กน้อย ครั้งหน้าค่อยบันทึกแม่อีกครั้ง”
หยวนชิงหลิงร้องไห้ยื่นมือไปลูบหน้าจอโทรศัพท์ น้ำตาไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง กล่าวพึมพำ: “คุณแม่ หนูสบายดีมาก หนูสบายดีมากๆ หนูอยากฟังแม่พูด อยากฟัง……”
นางคิดว่าอันที่สี่ยังคงเป็นของคุณแม่ จึงรอไม่ได้ที่จะกดเปิด แต่อันที่สี่เป็นฟางหวู
เธอใส่แว่นกรอบกลม อยู่ในสถาบันวิจัย ถ่ายวิดีโอตัวของเธอเองก่อนครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปทางคอมพิวเตอร์ข้อมูลสถิติเป็นกองใหญ่ เสียงดังมาจากด้านข้าง:
“นี่คือการตรวจสอบระดับการทำงานของสมองของคุณในระยะนี้ สามารถเห็นได้ว่าเซลล์เส้นประสาทยังคงปล่อยกระแสออกมา อีกเดี๋ยวฉันทำภาพถ่ายออกมา ให้คุณดูส่วนการทำงานของสมอง ตอนนี้ทังหยวนบอกฉันว่าคุณคลอดแฝดสองแล้ว ดังนั้นคุณจะเห็นระดับการทำงานของเซลล์สมองบางภาพลดลง ก็น่าจะเป็นหลังจากที่คุณคลอดลูกแล้ว
เด็กถือกำเนิด เซลล์สมองบางส่วนของคุณก็เริ่มค่อยๆเกิดการเสื่อมถอยและตายไปตามปกติ แต่ว่า ขณะเดียวกับที่เสื่อมถอยและตายไป ก็มีเซลล์ใหม่เกิดขึ้น รักษาปริมาณที่สมดุลไว้ ดูจากตอนนี้เป็นการชั่วคราวคุณไม่ได้มีอันตราย แต่การค้นคว้าวิจัยพัฒนายาก็ยังไม่สำเร็จ ฉันไม่รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นตรงไหน
คุณมองเห็นข้อมูลสถิติเหล่านี้ไหม?
หรือว่าประเดี๋ยวฉันถ่ายให้คุณดูทีละแถว แต่ภาพค่อนข้างเยอะ ไม่รู้ว่าแบตโทรศัพท์จะสามารถอยู่ได้จนคุณดูหมดหรือเปล่า หากสามารถถ่ายเอกสารออกมาได้ คาดว่ากระเป๋าใหญ่ๆสองสามใบก็ใส่ไม่หมด และไม่สามารถใส่ลงไปง่ายๆได้ กลัวว่าคุณจะไม่ได้รับ และกลัวรั่วไหลไปภายนอก หากสามารถยืนยันว่าสามารถรับอันนี้ได้ ครั้งหน้าฉันจะส่งข้อมูลสถิติไปให้อีกครั้ง ให้ทะเลสาบจิ้งรับบทบาททำหน้าที่เป็นบริษัทขนส่ง แม้ว่าแบบนี้จะช้าหน่อย แต่ว่า ดีที่สามารถรักษาการติดต่อกันได้”
ด้านล่างของวิดีโอ เป็นข้อมูลสถิติมากมาย หยวนชิงหลิงเช็ดน้ำตาแล้วดูผ่านๆอย่างรวดเร็ว หลังจากวิดีโอจบ เปิดอัลบัมรูป มีรูปภาพมากมาย เป็นส่วนที่ค่อนข้างสำคัญที่ฟางหวูเลือกถ่ายมาแล้ว
ตอนนี้จิตใจของหยวนชิงหลิงสับสนวุ่นวาย ไม่สามารถดูอย่างละเอียดได้ ถอยกลับไปดูวิดีโอที่คนในครอบครัวส่งมาอีกสองสามรอบ ฟังพวกเขาพูดจา ในไม่กี่ปีนี้ที่ข้ามเวลามาที่นี่ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าใกล้ชิดกับคนในครอบครัวได้ถึงเพียงนี้ ราวกับว่าไม่ได้แยกกันอยู่คนละมิติกับพวกเขา
จากนั้น นางก็ดูเสื้อผ้าทีละชิ้นทีละชิ้นในกล่อง สายสะพาย นม ของขวัญ รูปรวมของทั้งครอบครัวที่เก็บไว้ในช่องที่สอง นางกุมไว้ในอ้อมอก ร้องไห้จนเหมือนคนน้ำตาเช่นนี้
หยู่เหวินเห้ากอดปลอบโยนนางอยู่ครู่หนึ่ง จึงทำให้นางค่อยๆสงบลงมาได้
ผ่านไปครู่ใหญ่ๆ กล่าวอ้ำๆอึ้งๆ: “นั่น…….อันที่จริงข้าก็เตรียมของขวัญไว้แล้ว แค่ไม่ได้ดิบดีมากนัก”
หยวนชิงหลิงมองเขาด้วยดวงตาแดงๆ “ท่านก็เตรียมของขวัญแล้ว? ให้ลูกหรือ?”
“ให้เจ้า” สีหน้าท่าทางของหยู่เหวินเห้าค่อนข้างไม่เป็นธรรมชาติ “แต่ว่า เจ้าห้ามหัวเราะข้า”
หยวนชิงหลิงถูกเขาทำให้เกิดความสงสัยขึ้นในพริบตา เจ้าห้าไม่เข้าใจความโรแมนติก คิดไม่ถึงว่ายังจะมอบของขวัญเป็นด้วย?
หยู่เหวินเห้าหยิบกล่องใบหนึ่งและกระเป๋าเงินที่ใส่ของไว้ใบหนึ่งออกมาจากหน้าอกด้วยความเขินอาย ยัดทั้งหมดเข้าในมือของหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงเปิดกล่องที่มีสีสันสวยงามก่อน ด้านในเป็นหยกชิ้นหนึ่ง ทำเป็นจี้รูปหรูอี้ ดูแล้วไม่ใช่ของคุณภาพดีอะไร แต่การแกะสลักประณีตงดงาม มีความหมายมาก
“ข้าบอกให้คนทำตอนอยู่ที่เมืองเม่า” หยู่เหวินเห้าเกาศีรษะ ใบหน้าแดง “ตอนนั้นคิดถึงเจ้า ก็คิดว่าต้องทำสิ่งของให้เจ้าสักหน่อย ใครจะรู้ว่ากลับมาเจ้าก็เกิดเรื่องแล้ว หลังจากนั้นก็หาโอกาสที่เหมาะสมให้เจ้าไม่ได้มาโดยตลอด”
หยวนชิงหลิงถือจี้หรูอี้ไว้ คุณสมบัติของหยกอุ่นๆอยู่ในอุ้งมือ ไปทำสงครามยังเอาของขวัญมาให้นาง เห็นได้ว่าเขามีความตั้งใจ หยวนชิงหลิงน้ำตาคลอและยิ้มแล้ว “ขอบคุณ ข้าชอบมาก”
“ก็รู้ว่าเจ้าไม่ชอบหวงแหนของอย่างอื่น แต่หวงแหนพวกหยกพวกก้อนหินเหล่านี้เป็นอย่างมาก” หยู่เหวินเห้าหัวเราะแล้วกล่าว
“เช่นนั้นอันนี้ล่ะ?” หยวนชิงหลิงแกะถุงผ้าไหมออก กลับหยิบหวีออกมาอันหนึ่ง หวีเป็นผิวเรียบลื่นทั้งอัน พื้นสีดำมีลายเป็นทางสีเหลือง ด้านข้างยังมีรูเล็กๆรูหนึ่ง “ไม้จันทน์สีดำ?”
และที่ทำให้หยวนชิงหลิงแปลกใจเป็นที่สุดก็คือด้านบนของหวีอันนี้สลักคนไว้สองคน ปรากฏให้เห็นเพียงแค่ศีรษะ การแกะสลักไม่ได้นับว่าประณีต สามารถพูดได้ว่าค่อนข้างหยาบ ดูอย่างละเอียดก็ยังสามารถมองออกว่าเป็นผู้ชายหนึ่งคนผู้หญิงหนึ่งคน ศีรษะทั้งสองแนบชิดกัน สองข้างของแต่ละฝั่งมีชื่อหนึ่งชื่อ ทางซ้ายเป็นตัวอักษรห้าหนึ่งตัว ทางขวาเป็นอักษรหยวนหนึ่งตัว เชื่อมด้วยกันก็คือเป็นห้าหยวน
และก็หมายความว่า ศีรษะทั้งสองนี้ ผู้หนึ่งคือเขา ผู้หนึ่งคือนาง
การแกะสลักและตัวอักษรที่ไร้ความคิดสร้างสรรค์ที่“ฝีมือประณีตเป็นที่สุด”เช่นนี้ ทำให้หยวนชิงหลิงหัวเราะขึ้นมาแล้ว: “สัมผัสสบาย วัสดุเป็นวัสดุที่ดี ดีมาก”
หยู่เหวินเห้าก็รู้ว่าตัวเองหยาบ หยิบจี้หรูอี้มัดไว้บนรูเล็กๆของหวีไม้จันทน์สีดำเมื่อครู่ หรูอี้ห้อยลงมา ยังมีพู่กันเล็กๆอีก มองดูแล้วกลับประณีตงดงามอย่างมีระดับ แน่นอน ความดีงามที่ใหญ่ที่สุดนี้ก็คือหยกหรูอี้ชิ้นนี้กับวัสดุไม้จันทน์สีดำ การแกะสลักนั่นเพิกเฉยไปไม่คิดเล็กน้อยก็ได้แล้ว
เพียงแค่ความคิดที่เฉียบแหลมเช่นนี้ ก็ทำให้หยวนชิงหลิงซาบซึ้งมากแล้ว ที่ไม่เข้าใจก็คือ “ทำไมถึงมอบหวีให้?”
หยู่เหวินเห้ากล่าวว่า: “ตอนที่แต่งงาน ไม่ใช่บอกว่าถือหวีหวีผม ต้องพูดคำที่เป็นมงคลหน่อยหรือ? หวีอันนี้ สามารถใช้ได้นานมากนานมากๆ ตลอดจนพวกเราแก่เฒ่าผมขาว อย่างไรเสียในหมู่ประชาชนก็มีความคิดอะไรเช่นนี้ ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก ข้าถามแม่นมฉี สำหรับการแกะสลัก ข้าเห็นหมันเอ๋อมอบให้อะซี่ แกะสลักได้ไม่เลว รู้สึกว่าเป็นความหมายแฝงที่ดี”
ตัวเขาเองรู้สึกว่าค่อนข้างกระจอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอื่นเขาล้วนมอบอัญมณีให้มาเป็นกองใหญ่ๆ ฉะนั้น พูดถึงสุดท้าย น้ำเสียงก็เขินอายเล็กน้อย
“ข้าชอบมาก!” หยวนชิงหลิงถือหวีแล้วหวีผมเล็กน้อย ก็รู้สึกว่าใช้ได้ดีมากจริงๆ เล็กๆและสะดวก
หยู่เหวินเห้าโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง ยิ้มขึ้นมาแล้ว จากนั้นก็กล่าวด้วยความตื่นเต้นทันที: “เช่นนั้นห้าหยวน ควรเปลี่ยนเป็นคำกลอนประโยคหนึ่งดีหรือไม่ล่ะ? แสดงให้เห็นว่ามี……ความรู้สักหน่อยไง”
“ไม่เอา!” หยวนชิงหลิงก็หัวเราะขึ้นมาด้วย “แบบนี้ก็ดีมากแล้ว เป็นหยู่เหวินเห้ามาก”
ถ้าเขียนบทกลอนน้ำเน่าจริงๆ กลับเป็นไม่มีรสนิยมแล้ว
“ชอบจริงๆหรือ?” หยู่เหวินเห้ายังถามอีกคำแบบไม่ค่อยวางใจ ไม่ใช่ของดีอะไรจริงๆนี่นา
“ชอบ ชอบมากจริงๆ มีความหมายมาก เห็นได้ว่าท่านมีความทุ่มเท ดีกว่ามอบเงินทองอัญมณีให้ข้าเป็นอย่างมากแล้ว” หยวนชิงหลิงยิ่งรู้สึกว่าชอบจนวางไม่ลงมากขึ้น
“เช่นนั้นก็ชอบมากของที่ไท่ซ่างหวงมอบให้เสียอีกหรือ?”
“ใช่ ชอบมากกว่าของที่ไท่ซ่างหวงมอบให้เสียอีก”
หยู่เหวินเห้าสีหน้าท่าทางดีใจเป็นที่สุดขึ้นมา “เช่นนั้นที่ฝู่ฉู่มอบให้อันนั้นล่ะ?”
“ก็ชอบอันนี้ของท่าน”
“เช่นนั้นกับของที่มาจากทะเลสาบจิ้ง……”
หยวนชิงหลิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “ผยองแล้วใช่หรือไม่?”
หยู่เหวินเห้าตาละห้อย “เอ่อ……”