บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 973 ช่วยกับไม่ช่วย
การที่จิ้งเหอเกิดเรื่องทำให้จวนอ๋องฉู่แก้ปัญหาไม่ทัน
แต่แน่นอน ไม่ใช่ว่าหงเย่พูดอะไรก็เชื่อ หยู่เหวินเห้าจึงขอให้กลุ่มสายสืบสำนักเหลิ่งหลังของท่านชายสี่ไปตรวจสอบ
ไม่นานก็สืบได้ความมา เจียงเป่ยจับผู้หญิงเป่ยถังคนหนึ่งไว้จริง แต่จะรอถึงวันฉลองปีใหม่แล้วค่อยเผาให้ตายบูชาสาวหมอผีกู้จือ
เช่นนั้นคนผู้นี้ก็ต้องเป็นจิ้งเหอแน่
เมื่อข่าวส่งกลับมา หยู่เหวินเห้าก็ตามโสวฝู่กับเหลิ่งจิ้งเหยียนมาหารือทันที จากนั้นก็เข้าวังรายงาน
หยวนชิงหลิงรอฟังข่าวอยู่ที่จวน หากบอกว่าเพื่อช่วยจิ้งเหออย่างเดียว ราชสำนักต้องไม่ยอมทำสงครามแน่ แผนการเกี่ยวกับหนานเจียงกำหนดไว้แต่แรกแล้ว ให้หนานเจียงเกิดศึกภายในแล้วราชสำนักค่อยเก็บเกี่ยวประโยชน์
แต่หงเย่ก็จัดการได้พร้อมสรรพจริงๆ พิสูจน์เรื่องจริงที่อ๋องหนานเจียงถูกเจียงเป่ยฆ่าล้างตระกูล เช่นนั้นราชสำนักก็มีเหตุผลในการส่งทหาร อยู่ที่ฮ่องเต้หมิงหยวนจะยอมหรือไม่เท่านั้น
ฮ่องเต้หมิงหยวนเรียกขุนนางเน่ย์เก๋อมาหารือเรื่องนี้ ส่วนหยู่เหวินเห้าก็เข้าร่วมในฐานะรัชทายาท
เนื่องจากมีแผนต่อกรกับหนานเจียงอยู่แล้ว คนส่วนมากในราชสำนักจึงไม่อยากส่งทหาร หลังจากผ่านสงครามที่เซียนเปยกับเป่ยโม่มา ท้องพระคลังก็เหลืองบประมาณเพียงน้อยนิด ยากจะรับกับค่าใช้จ่ายทางการทหารได้อีก
อีกอย่าง นี่ยังเกี่ยวข้องกับสงครามภายใน อย่างไรหนานเจียงก็เป็นอาณาเขตของเป่ยถัง แม้ไม่ยอมให้ราชสำนักปกครอง แต่ก็มีวิธีมากมายที่จะถ่วงเวลากับพวกเขา หรือพูดได้ว่าข้อเสียของการส่งทหารมากกว่าผลประโยชน์
ราชสำนักมีที่ว่าการรับผิดชอบการรบของหนานเจียงโดยเฉพาะ พวกเขาคิดว่าหนานเจียงในตอนนี้ยากจนข้นแค้น ประชาชนอยู่กับเมืองที่เหมือนเป่ยถังไม่ไหว
แค่ใช้เวลาไม่กี่ปีก็ทำให้พวกเขากลับใจได้แล้ว แต่หากทำสงครามจริง เช่นนั้นก็มีแต่ต้องให้เจียงเป่ยรบกับหนานเจียง ราชสำนักจะส่งทหารไปไม่ได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำให้คนหนานเจียงผิดหวัง
เพียงแต่สถานการณ์หนานเจียงในตอนนี้ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย พออ๋องหนานเจียงสิ้นก็พากันแตกกระจายไม่รวมกลุ่ม ไม่พอต่อต้านกับเจียงเป่ย
แต่หากบอกว่าให้ธิดาอ๋องหนานเจียงกลับไปตอนนี้ก็ไม่ใช่ไม่ได้ แต่นั่นต้องไม่ทันช่วยจิ้งเหอแน่
อีกอย่าง ขุนนางส่วนมากคิดว่า ในเมื่อมีวิธีแก้แค้นให้อ๋องหนานเจียง เช่นนั้นครั้งนี้จุดประสงค์ใหญ่ที่ส่งกำลังทหารก็คือจวิ้นจู่จิ้งเหอ หากจวิ้นจู่จิ้งเหอยังเป็นคนในราชวงศ์ การที่นางตกอยู่ในมือของคนหนานเจียงก็ถือว่าเสื่อมเสียเกียรติ
แต่ตอนนี้นางขึ้นชื่อว่าเป็นจวิ้นจู่เฉยๆ ไม่ใช่คนในราชวงศ์ จะใช้ทหารเพื่อนางเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ไม่อาจอธิบายกับประชาชนได้
มีคนเสนอว่าหากต้องการช่วยจวิ้นจู่จิ้งเหอ ก็ส่งคนแทรกซึมเข้าเจียงเป่ย แล้วแอบช่วยออกมา
แต่เรื่องนี้กลับถูกที่ว่าการรบหนานเจียงคัดค้านทันที พวกเขาคุ้นเคยกับภูมิศาสตร์หนานเจียง นอกจากลักษณะภูเขาหนานเจียงจะแย่แล้ว ยังมีจั้งชี่ตามธรรมชาติอีก แถมคนหนานเจียงยังรู้วิชาพิษกู่แทบทุกคน
ส่วนคนเจียงเป่ยจะจ้องเป็นศัตรูกับคนนอกมาก หากลอบส่งคนไปช่วย อุปสรรคมากมาย เป็นไปได้มากว่าคนที่ไปช่วยจะติดอยู่ในนั้นเสียเอง
หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้ว “ออกรบไม่ได้ ส่งคนไปช่วยก็ไม่ได้ แล้วยังมีวิธีอะไรอีก? จะเห็นจวิ้นจู่จิ้งเหอถูกคนเจียงเป่ยเผาไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้”
ใต้เท้าอู่ที่ว่าการรบจึงเอ่ย “องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้แผนการที่พวกเราวางไว้กับหนานเจียงก็ดำเนินไปตามขั้นตอนแล้ว เวลานี้ต้องระวังให้มาก หากการช่วยจวิ้นจู่จิ้งเหอทำให้สถานการณ์วุ่นวาย เช่นนั้นทุกสิ่งที่พวกเราทำไว้ก็จะสูญเปล่านะพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้ากดอารมณ์โทสะ “งั้นเจ้าก็คิดแผนมาสิ ยังไงก็เห็นคนตายอยู่ที่เจียงเป่ยไม่ได้”
ใต้เท้าอู่กล่าว “กระหม่อมคิดว่า การที่จวิ้นจู่จิ้งเหอถูกคนเจียงเป่ยจับตัวไปเป็นเพราะความแค้นส่วนตัว จวิ้นจู่เคยสังหารสาวหมอผีกู้จือของเจียงเป่ย และกู้จือก็เป็นอนุของอ๋องเว่ย หากจะพูดกันจริงๆ ก็เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสตรี ราชสำนักไม่เหมาะเข้าแทรกพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้าเดือดดาล “ความหมายถึงเจ้าคือไม่ทำอะไรทั้งนั้น?!”
ใต้เท้าอู่แน่วแน่ในความคิด “กระหม่อมคิดว่าทำไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ จะเป็นการทำลายแผนการของเรา”
หยู่เหวินเห้าตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น “แผนการ? พวกเจ้ามีแผนการอะไร?! จนถึงตอนนี้พวกเจ้ายังบอกสาเหตุสถานการณ์หนานเจียงมาไม่ได้เลย แผนการเป็นประโยชน์ทั้งหมดก็ล้วนแต่ข้าเป็นคนคิด!
ตั้งแต่อ๋องหนานเจียงเกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ผ่านไปสิบปีเต็มแล้ว แม้แต่ทายาทอ๋องหนานเจียงพวกเจ้าก็ยังหาไม่พบ และไม่เคยส่งคนไปสืบความ แผนการที่ว่าก็แค่ตั้งอยู่บนดูไฟชายฝั่งที่ข้าเสนอเท่านั้น!”
ใต้เท้าอู่ถูกหยู่เหวินเห้าตำหนิหนัก เริ่มเสียหน้าจึงพูดแก้ต่าง “องค์ชายผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ สถานการณ์หนานเจียงซับซ้อน ไม่ใช่ว่ากระหม่อมไม่อยากใช้อุบาย แต่ไม่มีอุบายตรงจุดจริงๆ ทำไปก็ไร้ประโยชน์
อีกอย่าง แผนที่องค์ชายเสนอสุดท้ายก็ไม่ใช่ต้องการให้ที่ทำการรบเข้าร่วมด้วยหรือ? ฉะนั้นกระหม่อมคิดว่าการช่วยเหลือมีความลำบากมาก ทั้งยังก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทำให้ความพยายามของเราเมื่อก่อนหน้านี้มลายสิ้น กระหม่อมขอคัดค้านการช่วยเหลือทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ
“ยังไงก็เอาแต่กอดอกดูไม่ได้!” หยู่เหวินเห้าตวาด
เมื่อใต้เท้าอู่เห็นสีหน้าเดือดดาลของหยู่เหวินเห้าแล้วจึงเอ่ยถาม “ขอถามองค์ชาย หากคนที่ถูกจับไปเจียงเป่ยเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาของเป่ยถัง ท่านจะสละทุกสิ่งส่งทหารไปช่วยหรือไม่? เกรงว่าแม้แต่ส่งคนไปก็เป็นไปไม่ได้กระมัง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเหตุใดถึงแตกต่างออกไปด้วยเพราะฐานะของจวิ้นจู่ล่ะพ่ะย่ะค่ะ? หากทรงทำเช่นนี้จริง ก็เท่ากับไม่ให้ความสำคัญกับส่วนรวม มิใช่สิ่งที่ผู้ทรงธรรมจะทำ”
การที่ใต้เท้าอู่กล้าคัดค้านรัชทายาทต่อหน้าฮ่องเต้หมิงหยวน ย่อมเป็นเพราะมีคนสนับสนุนเขามาก ทุกคนต่างคิดว่าทำการใหญ่เพื่อจิ้งเหอไม่ได้ ไม่คุ้มค่า
ทว่าหยู่เหวินเห้าก็ไม่ได้โกรธเรื่องนี้ การส่งกำลังทหารเพื่อจิ้งเหอจะทำลายแผนในตอนนี้จริง แต่ความหมายของใต้เท้าอู่ก็คือไม่จำเป็นต้องช่วย เขาโกรธในจุดนี้ต่างหาก
ดังนั้นเมื่อได้ฟังคำพูดสุดท้ายของใต้เท้าอู่แล้ว เขาจึงหัวเราะเย็น “ถูกต้อง ส่งทหารไปอาจไม่เหมาะ ข้าไม่ได้เสนอให้ส่งทหาร แค่บอกว่าส่งคนไปช่วย เชื่อว่าหากเป็นชาวบ้านสามัญ คนในครอบครัวก็ต้องพยายามหาวิธีไปช่วยแน่”
จวิ้นจู่จิ้งเหอเคยเป็นพี่สะใภ้ของข้า เป็นคนในครอบครัวข้า เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการรบของพวกเจ้าและแผนการของราชสำนักกับหนานเจียง ดังนั้นจึงเสนอให้หารือกับทุกคนว่าจะช่วยเหลืออย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด ไม่ได้ให้ใต้เท้าอู่ไปหนานเจียงด้วยตัวเองซักหน่อย ไม่เห็นต้องคัดค้านเรื่องนี้เลยนี่”
เมื่อใต้เท้าอู่ได้ฟังแล้วจึงพูด “หากองค์ชายส่งคนไปช่วย ก็จะทำลายแผนการของราชสำนัก กระหม่อมทำเพื่อแผ่นดิน ไม่ค้านไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“ส่งคนไปช่วย เป็นผลเสียกับส่วนรวมยังไง? เจ้าพูดมาให้ชัดนะ!” หยู่เหวินเห้าเอ่ย
เมื่อนั้นใต้เท้าอู่จึงประสานมือคารวะฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ย “ฝ่าบาท จวิ้นจู่จิ้งเหอเคยเป็นสะใภ้ราชวงศ์ก็จริง แต่ที่ตอนนี้ตกอยู่ในมือคนเจียงเป่ยก็เพราะสังหารสาวหมอผีเจียงเป่ย นั่นเป็นการหาเรื่องเองพ่ะย่ะค่ะ
แต่หากช่วยนางออกมา หมอผีเจียงเป่ยต้องคิดว่าเป็นราชวงศ์ส่งคนไปช่วยแน่ ด้วยเหตุนี้จะยิ่งเห็นราชวงศ์และราชสำนักเป็นศัตรูพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดเรียบ “ฉะนั้น ใต้เท้าอู่คิดว่า ไม่ต้องส่งทหาร ไม่ต้องช่วยงั้นหรือ?”
“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าหนึ่งหมากล้มทั้งกระดาน บุ่มบ่ามไม่ได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ”
สายตาฮ่องเต้หมิงหยวนกวาดมองขุนนางเน่ย์เก๋อคนอื่นๆ “พวกเจ้ามีความเห็นอื่นอีกหรือไม่?”
ขุนนางทั้งหมดจึงพากันกล่าว “กระหม่อมคิดว่าใต้เท้าอู่กล่าวมีเหตุผล สำหรับความรู้สึกที่อยากช่วยคนขององค์ชายนั้นก็เข้าใจได้ ทว่าจะส่งผลเสียต่อส่วนรวมจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนหน้าขรึมเล็กน้อย “เลิกได้ วันพรุ่งค่อยหารือ”