บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 1 ท่านแม่
ตอนที่ 1
ท่านแม่
ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น
วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน
แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก
ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้
“หรือจะเป็นโชคชะตากัน..”อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน….. แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้
วูบ.. อยู่ๆร่างของอสูรแมงมุมก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นร่างของมนุษย์อย่างแช่มช้า มันอยู่ในโลกนี้มานับแสนนับล้านปี แค่การเปลี่ยนร่างมันสามารถทำได้อยู่แล้ว มันก้มมองร่างของเด็กชายพลางเอียงคอเล็กน้อย ร่างมนุษย์ช่างบอบบาง เพียงพบแรงกระแทกเท่านี้ก็ทนไม่ได้ อย่าว่าแต่เด็กคนนี้เลย เมื่อนานมากแล้วมีมนุษย์ตกลงมาที่นี่เช่นกัน แน่นอนมันไม่ได้กินมนุษย์คนนั้นอีกเช่นกัน แต่ไม่ใช่เพราะความสงสารเช่นนี้ แต่เพราะร่างของมนุษย์นั่นกลับแตกสลายแหลกและไม่เหลือสิ่งใดให้มันกินเลยแม้แต่น้อย
วูบ… มือของอสูรแมงมุมทางลงบนร่างของเด็กชาย ไม่นานบาดแผลตามร่างก็ทุเลาลง แม้แขนขาที่หักจะต้องอาศัยเธอดัดตรึงใหม่แต่ด้วยพลังของมันกลับช่วยเยียวยาให้ร่างอันบอบบางของเด็กชายได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องใช้สมุนไพรหายากหรือวัตถุลึกลับแต่อย่างไร เพียงพลังของมันก็สามารถรักษาแผลส่วนใหญ่ของเด็กชายได้อย่างไม่ยากเย็น
ฟึบ! เพียงสะบัดมือใยแมงมุมก็ปรากฏออกมาจากนิ้วของมัน เพียงลูบมือผ่านแขนขาของเด็กชายเฝือกที่ทำจากใยแมงมุมก็เสร็จสิ้น
ทำไมมันถึงกำลังรักษาเด็กคนนี้กัน… มันควรจะกินไม่ใช่หรือไง แล้วดูตอนนี้สิ บัดนี้มันกำลังอุ้มร่างของเด็กชายกลับไปยังถ้ำของมัน
.
.
ดวงตาทั้ง 8 ข้างของอสูรแมงมุมกำลังมองร่างของเด็กชายที่กำลังนอนอยู่บนใยของตนเอง ทำไมเธอถึงไม่กินมันทั้งๆที่เธอสามารถกินได้ทุกสิ่ง อาจจะเพราะเธออยู่ในช่วงกำลังจะดับสลายกระมัง ต่อให้กินมันไปก็ไม่ได้ทำให้เธออยู่ได้นานขึ้นกว่านี้แต่อย่างไร
“ท่านแม่…”ขณะครุ่นคิดอยู่นั้น เด็กชายที่นอนอยู่บนใยแมงมุมก็เริ่มส่ายไปมาราวกับกำลังฝันร้าย ตาของเขาเปิดขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ราวกับกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น เธอรักษาร่างกายของเขาจนหายดีแล้วที่เขายังกระวนกระวายอยู่ต้องเป็นเพราะฝันร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาดิ้นอยู่แบบนั้นเพียงพักเดียวก็หลับไปอีก ทำให้อสูรแมงมุมเป็นกังวล แต่พอนั่งเฝ้าเด็กน้อยอยู่พักใหญ่เด็กน้อยก็ไม่กระสับกระส่ายอีก ทำให้เธอวางใจลงได้บ้าง แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานแต่ยามได้มองเด็กน้อยเธอกลับรู้สึกว่าเด็กมนุษย์ก็น่ารักน่าชังดี หรือว่าเธอจะเก็บมันมาเลี้ยงดี
คงเป็นเช่นนั้น การที่เธอเก็บมันมาคงเพราะอยากจะเลี้ยงไว้ดูเล่นเช่นสัตว์เลี้ยงกระมัง เธอที่กำลังนับถอยหลังสู่การดับสูญแค่เพียงอยากหาอะไรฆ่าเวลาเท่านั้น
“ท่านแม่…”ขณะไตร่ตรองภายในจิตใจ อยู่ๆเด็กน้อยบนเตียงก็รำพึงออกมาอีกครั้ง เธอมองเด็กชายราวกับจะดูว่ามันฝันร้ายอีกหรือไร แต่เมื่อมองไปดวงตากลมโตของมันกลับสว่างชัดไม่ได้หลับหรือเช่นคราแรก
“ท่านแม่”เด็กชายยิ้มพลางมองเธอที่อยู่ในร่างมนุษย์ด้วยดวงตาปริ่มน้ำ เจ้าตัวน้อยลงจากเตียงพลางเดินเข้ามากอดเธอเอาไว้แน่น ไม่ทราบว่าร่างนี้เหมือนแม่ของมันหรือมันจำแม่ของตัวเองไม่ได้กันแน่
“ท่านแม่…”มันเพียงกล่าวเสียงเบาพลางซุกหน้าลงที่ไหล่ของเธอ แก้มของเด็กชายสร้างสัมผัสอ่อนนุ่มที่อสูรแมงมุมไม่เคยสัมผัสมาก่อน ด้วยเพราะมันเป็นอสูรที่ใช้ชีวิตมายาวนาน เรื่องการสืบพันธุ์จึงไม่เกิดขึ้นมานานแล้ว และต่อให้เป็นลูกแมงมุมก็คงให้ความรู้สึกไม่เหมือนสิ่งที่เป็นอยู่
“เด็กน้อย เจ้าพักผ่อนต่อเถอะ”อสูรแมงมุมพูดพลางใช้ตาทั้ง 8 ของมันมองท่าทีออดอ้อนของเด็กชายอย่างเอ็นดู วินาทีนั้นบางอย่างภายในจิตใจของอสูรแมงมุมกลับสว่างขึ้นมาราวเทียนดวงน้อยที่ถูกจุดท่ามกลางความมืดมิด ตัวมันแม้จะอยู่มาเนิ่นนาน แต่ความทรงจำแรกของมันกลับเป็นการกิน มันเดินทางไปทุกที่และคว้าสิ่งต่างๆเข้าปากโดยไม่สนว่ากินได้หรือไม่ มันกระทำเช่นนั้นมานานนับหมื่นๆปี กว่าจะสำนึกว่าตนเองเป็นตัวอะไรก็ตอนที่ได้รับสติปัญญามาแล้วนั่นเอง แต่ถึงจะมีสติปัญญามันก็ไร้ความรู้สึกแบบมนุษย์หรืออสูรตัวอื่นๆ มันใช่เวลาอีกหลายหมื่นปีเพื่อเรียนรู้จนเริ่มเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเหล่าอสูร บัดนี้มันถึงกับรับเด็กชาวมนุษย์มาเลี้ยงดูราวกับบุตรของตนเอง
.
.
“เจ้าหิวงั้นหรือ”อสูรแมงมุมถามพลางถามเด็กชาย มันพยักหน้าอย่างน่ารักน่าชังทำให้นางอารมดียิ่งนัก
ตูม! เธอโยนร่างของอสูรตัวหนึ่งให้เด็กชาย อาหารที่หาได้แถวนี้ก็คงมีแต่อสูรพวกนี้เท่านั้น
“……” เด็กชายนิ่งเงียบไปทันทีเมื่อเห็นร่างของอสูรตรงหน้า เจ้าหนูไม่ยอมแตะอสูรที่มีรูปร่างเหมือนไฮยีน่าแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เนื้อมันก็ไม่ต่างจากอสูรตนอื่นเลยแท้ๆ หรือเด็กเผ่ามนุษย์ไม่กินเนื้ออสูรกัน แล้วพวกมันกินอะไรกันละ
“แล้วมนุษย์กินอะไรกันละ”หญิงสาวผู้มีดวงตาแปดดวงทำท่าทีครุ่นคิดความทรงจำตอนบุกหมู่บ้านมนุษย์เมื่อหลายพันปีก่อนก็ช่างลางเลือนเหลือเกิน หรือเธอควรขึ้นไปดูข้างบนกันแน่ว่ามนุษย์กินอะไรกัน…
ตึงๆๆ เมื่อคิดได้ขาแมงมุมยักษ์ทั้ง 8 ข้างก็ตะกุยดินขึ้นไปยังขอบหน้าผา แต่ทันทีที่ขึ้นมาถึงภาพตรงหน้าก็ทำเอาอสูรแมงมุมนิ่งค้างไปทันที
“ไม่มีอะไรเลย…”อสูรแมงมุมมองไปรอบๆ ครั้งแรกที่เธอมาที่นี่ก็ตอนลงไปสร้างรังใต้ผาไร้ก้น เธอจำได้ว่าขณะเดินทางมายังผาแห่งนี้เธอผ่านหมู่บ้านมนุษย์มาบ้าง แต่ทำไมตอนนี้ถึงไม่เหลือสิ่งใดเลย รอบๆบริเวณไม่พบสิ่งมีชีวิตใดเลย อย่าว่าแต่มนุษย์เพียงอสูรสักตัวยังไม่พบ…
ตึงๆๆๆๆ ขาแมงมุมทั้ง 8 ข้างเดินทางต่อมาที่ป่าช่วงทางออกของผาไร้ก้น ที่นี่สุดเขตแดนของเธอแล้วทำให้มีอสูรตัวอื่นเดินกันขวักไขว่ไม่น้อย แต่ทันทีที่เห็นเธอ ตัวที่บินได้ก็จะบินหนี ตัวที่วิ่งได้ก็จะวิ่งหนี มีกระทั่งบางตัวมุดดินหรือว่ายน้ำหนีทันทีที่ร่างมหึมาของเธอปรากฏขึ้น
ตูม! ขณะเดินทางอยู่ๆร่างของอสูรรูปร่างคล้ายเสือตนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ มันคือพยัคฆ์อัสนีที่มีขนาดไล่เลี่ยกับเธอนั่นเอง และแน่นอนมันคือเจ้าถิ่นของที่นี่
“เจ้าออกมาทำอะไร”พยัคฆ์อัสนีถามด้วยน้ำเสียงกดดัน ตัวมันแม้เป็นเจ้าถิ่นแถบนี้ แต่ก็เพราะอสูรแมงมุมไม่ได้ออกมาจากเขตของตนเท่านั้น พลังของมันน้อยกว่าอสูรแมงมุมอยู่หลายขั้น แม้ตอนนี้เธอจะเสียพลังไปมากแต่เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี
“ข้ามาหาเจ้า”อสูรแมงมุมพูดพลางชี้ขาข้างหนึ่งมาทางพยัคฆ์อัสนี ทันทีที่ถูกชี้สายฟ้ารอบตัวของมันก็แล่นวาบราวกับเตรียมจะตอบโต้ แต่ไม่เห็นอสูรแมงมุมเข้ามาโจมตีมันจึงทำได้เพียงตั้งรับเท่านั้น
“มาหาข้า…เจ้าต้องการอะไร”พยัคฆ์อัสนีถามด้วยท่าทีหวาดระแวง อสูรแมงมุมตั้งแต่มาที่นี่ก็เก็บตัวอยู่ในถ้ำมานานนับพันปี มันล่าอสูรไปกินบ้างเล็กน้อยแต่ก็เพียงเล็กน้อยจริงๆมันเลยไม่ใส่ใจอะไร
“ข้าอยากรู้”อสูรแมงมุมพูดพลางวางขาที่ใช้ชี้พยัคฆ์อัสนีลง
“ว่ามนุษย์กินสิ่งใดเป็นอาหาร” คำถามของอสูรแมงมุมทำเอาพยัคฆ์อัสนีนิ่งค้างไป ศัตรูที่เข้ามายึดถิ่นของเขาไปครึ่งหนึ่งมานับพันปี กลับเอ่ยคำถามแรกออกมาเป็นคำถามว่า มนุษย์กินอะไรเป็นอาหารงั้นเหรอ…
“จะ เจ้าจะรู้ไปทำไม”พยัคฆ์อัสนีถามด้วยน้ำเสียงตื่นตลึง
“ข้าเก็บเด็กเผ่ามนุษย์มาคนหนึ่ง ข้าอยากจะเลี้ยงมันไว้ดูเล่นแต่ข้าไม่รู้ว่ามันกินอะไร”ได้ยินคำตอบของอสูรแมงมุมพยัคฆ์อัสนีกลับนิ่งเงียบไป ครึ่งหนึ่งมันกำลังครุ่นคิดว่าอสูรแมงมุมกำลังเล่นอะไรกับมัน อีกครึ่งมันกำลังครุ่นคิดว่ามนุษย์กินอะไรเป็นอาหารกันแน่
“นายท่าน หากเป็นผลไม้ในป่า มนุษย์น่าจะสามารถกินได้”อยู่ๆข้างกายของพยัคฆ์อัสนีก็ปรากฏเสียงของเต่าตัวหนึ่ง มันมีขนาดใหญ่กว่าเต่าทั่วไปมาก น่าจะพอๆกับบ้านของมนุษย์เลยทีเดียว แต่หากถามว่าทำไมมันไม่หนีไปเมื่อราชาของทั้ง 2 เขตแดนออกมาปะทะกัน นั่นก็เพราะมันช้าเกินกว่าจะหนี มันเลยหดตัวอยู่ในกระดองและได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว
“ผลไม้?”ทั้งอสูรแมงมุมทั้งพยัคฆ์อัสนีต่างพูดด้วยความประหลาดใจ ในป่ามีผลไม้มากมาย และอสูรที่กินพืชก็กินมันเป็นอาหาร ทำให้พยัคฆ์อัสนีย้อนคิดไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนที่มีมนุษย์บุกเข้ามาในเขตของตน หากมันจำไม่ผิดพวกมันเองก็เก็บผลไม้ในป่าไปเช่นกันก่อนที่มันจะฆ่าพวกนั้นทิ้งเพราะบังอาจบุกรุกเขตของมัน
“น่าจะเป็นเช่นนั้น มนุษย์คงกินพวกมันได้”พยัคฆ์อัสนีกล่าวพลางมองไปทางต้นไม้กลุ่มหนึ่งที่มีผลสีแดงสดขึ้นอยู่
“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอพวกมันไปได้หรือไม่” ได้ยินคำถามของอสูรแมงมุม พยัคฆ์อัสนีก็ลอบเหลือบสายตาขึ้นสูง แต่ก่อนเจ้ามาจับอสูรในเขตข้าไปกินเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้ทำมาเป็นขอซะละ
“ย่อมได้ หากเจ้าต้องการสามารถนำผลไม้ในป่าไปได้ แต่อย่างถอนมันไปทั้งต้น ให้เจ้านำไปแค่ผลของมันเท่านั้น”พยัคฆ์อัสนีกล่าวพลางหันหลังเดินออกไป
“ขอบใจเจ้ามาก”คำที่ไม่เคยคิดจะได้ยินจากอสูรแมงมุมทำให้พยัคฆ์อัสนีมองนางเปลี่ยนไป พวกมันไม่เคยคุยกันมาก่อน แต่พอได้ลองดูมันกลับมองว่านางไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ไม่เหมือนกับอสูรแมงมุมที่เขาได้เห็นเมื่อพันปีก่อนเลยแม้แต่น้อย