บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 128 โลภมาก
ตอนที่ 128
โลภมาก
หลังจากพาเหม่ยหลินกลับไปยังวังมังกร หวงหลงก็บอกเรื่องที่ไป๋จูเหวินจะเดินทางไปยังเมืองของเหล่าผู้ฝึกอสูร และบอกอีกด้วยว่าจะให้นางเดินทางไปกับมันด้วย ทำเอาเหม่ยหลินที่พึ่งออกมาจากถ้ำฝึกฝนวิชาถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ นางไม่คิดเลยว่าบิดาของนางจะบอกให้นางไปกับไป๋จูเหวินทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันยังแทบจะฆ่าไป๋จูเหวินเพราะพานางออกไปอยู่เลย
“คราวนี้ข้าไม่ได้พาเจ้าหนีออกไปนะ ท่านหัวหน้าคงไม่ทำอะไรหรอก”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางพาเหม่ยหลินออกจากเมืองโดยขี่หลังของหลินหลินตามเคยโดยคราวนี้นอกจากเหม่ยหลินแล้วยังมีอสูรแมวอย่างหยวนหยวนและอสูรสุนัขอย่างหมิงฮุ่ยติดตามมาด้วย
“คิกๆคุณหนู ท่านรู้หรือเปล่าว่าตอนที่ท่านอยู่ในถ้ำ เหล่าอาวุโสต่างนินทากันว่าหัวหน้ากำลังจะรับศิษย์เอกคนใหม่ด้วยนะ”หยวนหยวนว่าพลางกลายร่างเป็นแมวขึ้นไปนั่งบนตักของเหม่ยหลิน พวกนางไม่ได้เจอกันหลายเดือนท่าทางจะคิดถึงกันไม่น้อย แม้หยวนหยวนจะเป็นอสูรเลี้ยงของเหม่ยหลิน แต่นางก็ไม่ได้รู้ว่าถ้ำฝึกฝนของหวงหลงอยู่ตำแหน่งใด เลยมีเพียงจูเชวี่ยเท่านั้นที่กลายเป็นคนส่งเสบียงไป
“ศิษย์เอก? ท่านพ่อนะเหรอ”เหม่ยหลินขมวดคิ้วอย่างงุนงง บิดาของนางไม่ได้ไว้ใจคนง่ายเช่นนั้น ยิ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาบิดาของนางทุ่มแรงเพื่อฝึกฝนตัวเหม่ยหลินอย่างหนัก ทำให้ไม่มีวี่แววเลยว่าบิดาของนางจะรับใครเข้ามาเป็นศิษย์ได้
“ท่านหัวหน้ามอบตำราร่างสถิตมังกรให้คนๆนั้นเรียนไปแล้ว จะบอกว่ากลายเป็นศิษย์ของท่านหัวหน้าไปแล้วก็ว่าได้ขอรับ”หมิงฮุ่ยที่ยังอยู่ในร่างของชายชราตอบด้วยท่าทีนอบน้อม
“เอ๊ะ ท่านพ่อให้คนอื่นดูตำราร่างสถิตมังกร? ศิษย์คนใหม่ของท่านพ่อเป็นใครกัน?”เหม่ยหลินขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมมาก แม้แต่เหล่าอาวุโสหรือแม้แต่รองหัวหน้ายังไม่มีสิทธิ์ได้ดูตำราร่างสถิตมังกรเลย
“เรื่องนั้น”หยวหนยวนยิ้มหวานพลางเหล่มองไปทางไป๋จูเหวิน
“พี่ไป๋?”เหม่ยหลินเบิกตากว้างพลางมองไปทางไป๋จูเหวิน จะว่าไปตอนนี้พลังวิญญาณของไป๋จูเหวินเองก็อยู่ห่างกับนางเพียงขั้นเดียวเท่านั้นทั้งๆที่แต่ก่อนห่างกันอยู่หลายขั้น นั่นไม่เท่ากับว่ามันพัฒนาแบบก้าวกระโดดมาเลยงั้นหรือ แถมทางด้านพลังอสูรไม่ใช่ว่าเหนือกว่านางไปแล้วหรืออย่างไร
“เรื่องมัน ค่อนข้างยาวน่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆ ตัวมันเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าหัวหน้าหวงหลงจะเปลี่ยนมาทำดีกับมันขนาดนี้
“ไม่เป็นไรนี่นา พวกเรายังมีเวลาอีกเยอะ”เหม่ยหลินยิ้มหวานพลางส่งสายตาขอร้องให้ไป๋จูเหวินเล่าเรื่องให้นางฟัง
.
.
.
ฟุบ!… ระหว่างเดินทางไปยังเมืองที่มารดาของเหม่ยหลิน อยู่ๆที่ด้านหลังของไป๋จูเหวินก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของใครบางคน เพียงแต่ทันทีที่สัมผัสได้ร่างของชายคนนั้นก็ทะยานเข้ามาหาไป๋จูเหวินในทันที พริบตานั้นดวงตาของไป๋จูเหวินเปลี่ยนเป็นสีแดงเพื่อต้านรับการโจมตีของอีกฝ่าย
ผั๊วๆๆๆๆๆ ฝ่ามือของไป๋จูเหวินปะทะกับฝ่ามือของผู้มาเยือนอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าฝ่ามือของไป๋จูเหวินรวดเร็วกว่า แต่กำลังทำลายของฝ่ามือประกายอัสนีกลับไม่สามารถทำอันตรายอีกฝ่ายได้เลย
“พี่ไป๋”เหม่ยหลินที่อยู่ข้างๆได้ยินเสียงการต่อสู้ นางก็รีบหันมาทางไป๋จูเหวินทันที พริบตานั้นนางก็เรียกอาวุธออกมาพลางใช้พลังอสูรสร้างลูกบอลน้ำขึ้นมาทันที
ตูม! ลูกบอลน้ำของเหม่ยหลินกระแทกใส่ร่างของผู้โจมตีอย่างแรง แต่กำลังของนางกลับไม่ทำให้ชายในชุดสีดำตรงหน้าเป็นอันตรายอะไรได้เลย ราวกับว่าบอลน้ำเมื่อครู่ทำให้มันตัวเปียกได้เท่านั้น
หมับ! ชายในชุดดำคว้ามาที่คอของไป๋จูเหวินอย่างรวดเร็ว กำลังของมันเหนือกว่าไป๋จูเหวินมากทำให้ไป๋จูเหวินไม่อาจดิ้นหลุดจากมือของมันได้
วูม…อยู่ๆมือออีกข้างของผู้โจมตีก็แทงเข้าที่ข้างๆตัวไป๋จูเหวิน แต่มือของมันกลับทะลุหายเข้าไปในมิติแห่งหนึ่งเสียมากกว่า
“ลุกล้ำมิติ?”หัวใจของเหม่ยหลินสะท้านวาบ ชายที่เข้ามาโจมตีกำลังพยายามชิงของจากมิติของไป๋จูเหวิน วิชาที่ยากเย็นระดับนี้หาคนใช้งานได้น้อยมาก แถมคนที่จะใช้ได้ย่อมต้องเป็นระดับเทียนเซียนขึ้นไปทั้งนั้น นั่นหมายความว่าคนตรงหน้าแข็งแกร่งกว่าพวกมันมาก
“ผู้เฒ่าประทับสวรรค์”ไป๋จูเหวินที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเขียวพูดพลางมองผ่านผ้าปิดหน้าที่ชายชุดดำสวมอยู่ พริบตาที่ชื่อเฒ่าประทับสวรรค์ถูกพูดออกมามันก็มีท่าทีตกใจไปครู่หนึ่งก่อนจะพยายามล้วงเข้าไปในมิติของไป๋จูเหวินให้สำเร็จ
วูบ….มือของเฒ่าประทับสวรรค์ดึงตำราเล่มหนึ่งออกมาจากมิติของไป๋จูเหวิน เพียงมองพริบตาเดียวไป๋จูเหวินก็ทราบทันทีว่ามันคือตำราของท่านน้าพยัคฆ์นั่นเอง
ฟุบๆๆๆ เหม่ยหลินพยายามใช้กระบี่ของนางแทงใส่ร่างของเฒ่าประทับสวรรค์ แต่ด้วยความเร็วที่ต่างชั้นกันอย่างมากทำให้นางคว้าได้แต่อากาศ เพียงแต่เพราะต้องหลบกระบี่ของเหม่ยหลินเฒ่าประทับสวรรค์ก็ต้องยอมปล่อยป๋จูเหวินไป
ตูม! เมื่อตนถูกปล่อยไป๋จูเหวินก็เร่งพลังใช้ฝ่ามือเพลิงพิโรธทันที ทำเอาร่างของเฒ่าประทับสวรรค์กระเด็นออกไปหลายก้าว
“ชิ”เฒ่าประทับสวรรค์ส่งเสียงรอดไรฟันออกมาพลางกำตำราในมือแน่น ไม่นึกเลยว่าเจ้าหนูนี่จะดูออกว่าภายใต้หน้ากากผ้าคือตัวมัน แต่มันได้ของที่ต้องการแล้วมันก็ต้องถอยกลับ
ฟุบ! ใยแมงมุมของไป๋จูเหวินพันขาของเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“หนอย”เฒ่าประทับสวรรค์ใช้ฝ่ามือฟันลงไปบนใยแมงมุม แต่มีหรือที่ฝ่ามือจะตัดของที่แม้แต่ดาบวิเศษยังตัดไม่ขาดได้
ผลัก ผลัก ผลัก!! ฝ่ามือบังคับหกปักษาของไป๋จูเหวินเข้าปล่อยออกมาโจมตีขจากระยะไกลทำให้เฒ่าประทับสวรรค์ได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่มันกลับทำให้เฒ่าประทับสวรรค์บุกเข้ามาโจมตีไป๋จูเหวินแทน
วูมมมม….. อยู่ๆกำลังของไป๋จูเหวินก็พุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประหลาด วินาทีนี้ไป๋จูเหวินทราบดีว่าไม่ควรประมาทแม้แต่น้อย มันรีบรวบรวมพลังจากวิชาอสูรวัฒนะรวบรวมพลังจนบรรยากาศรอบๆผิดเพี้ยน
ตูม!! ไป๋จูเหวินซัดฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสำนึกใส่เฒ่าประทับสวรรค์อย่างรุนแรง ทำเอาร่างของเฒ่าประทับสวรรค์ลอยค้างอยู่บนฟ้า แต่น่าเสียดายที่กำลังของไป๋จูเหวินกับอาวุโสระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 นั้นห่างกันมากเกินไป เพียงไม่นานเฒ่าประทับสวรรค์ก็ต้านกำลังของฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสำนึกได้ ก่อนจะดันพลังของไป๋จูเหวินเดินเข้ามาอย่างช้าๆ เพียงแต่ในใจมันกลับสั่นสะท้านเป็นอย่างมาก ยามนี้มันเข้าใจแล้วว่าทำไมศิษย์ของมันถึงรับฝ่ามือท่านี้ของไป๋จูเหวินไม่ได้ ขนาดตัวมันที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้น 10 ยังลำบากในการต้านพลังของไป๋จูเหวิน ศิษย์ของมันเองก็ไม่แปลกที่จะต้านไม่ไหว
“ปล่อย”เฒ่าประทับสวรรค์ว่าพลางบีบคอไป๋จูเหวินอีกครั้ง
“ไม่”ไป๋จูเหวินกัดฟันพลางพยายามดิ้นให้หลุดจากฝ่ามือของเฒ่าประทับสวรรค์ เมื่อเห็นว่าไป๋จูเหวินไม่มีท่าทีจะยอมแพ้เฒ่าประทับสวรรค์ก็พุ่งตัวไปจับคอของเหม่ยหลินเอาไว้อีกข้าง
“หากเจ้าไม่ปล่อย นางตาย”เฒ่าประทับสวรรค์ขู่ออกไป แน่นอนว่ามันไม่สามารถฆ่าบุตรสาวของหวงหลงได้อยู่แล้ว
“….”เพียงแต่ แม้จะเป็นคำขู่ไป๋จูเหวินก็ไม่อาจละเลยความปรอดภัยของเหม่ยหลินได้ มันปลดใยแมงมุมที่ขาของเฒ่าประทับสวรรค์ออก ทำให้เฒ่าประทับสวรรค์รีบปล่อยทั้ง 2 ให้เป็นอิสระก่อนจะกระโจนหนีไปก่อนที่ไป๋จูเหวินจะใช้ใยแมงมุมจับมันเอาไว้อีก
“พี่ไป๋ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า”เหม่ยหลินทันทีที่ถูกปล่อยก็เข้ามาหาไป๋จูเหวินในทันที
“ข้าไม่เป็นไร”ไป๋จูเหวินตอบพลางจับที่คอของมัน เฒ่าประทับสวรรค์เหมือนจะมาเพื่อแย่งชิงตำราเท่านั้นมันเลยไม่ได้ทำร้ายพวกไป๋จูเหวินเท่าไหร่
“แล้วเจ้าล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางเหม่ยหลิน ที่คอของนางมีรอยแดงอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าอาการไม่ได้หนักหนาอะไร
“ขะ ข้าไม่เป็นไร”เหม่ยหลินว่าพลางจับที่คอของตนเอง
“เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา ถึงมันจะไม่อยากเสียตำราของท่านน้าไป แต่จะให้แลกด้วยความปรอดภัยของเหม่ยหลินก็คงทำไม่ได้
“แล้วตำราของท่านล่ะ”เหม่ยหลินถามพลางมองไป๋จูเหวินอย่างเป็นห่วง นางไม่ทราบว่าตำราที่ถูกชิงไปเป็นตำราอะไร เพียงแต่มันไม่ใช่วิชาร่างสถิตมังกรแน่นอนเพราะนางเคยเห็นตำราเล่มนั้นมาแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก”ไป๋จูเหวินว่าพลางถอนหายใจออกมาแม้จะพูดอย่างนั้นใบหน้าของมันก็มีท่าทีหม่นหมองให้เห็น ท่านน้าพยัคฆ์ใช้เวลาไปไม่น้อยในการเขียนตำราเล่มนั้น แต่ถึงอย่างนั้นไป๋จูเหวินก็จำเนื้อหาได้หมดแล้ว ถึงถูกชิงไปก็ไม่เสียหายอะไร จึงเหลือแต่ความเสียดายเท่านั้น