บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 168 ข่าวร้าย
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 168 ข่าวร้าย
“ข้าไม่เป็นอะไรมากแล้ว ตอนนี้ก็แค่เจ็บแผลนิดหน่อยเท่านั้นเอง”องค์จักรพรรดิว่าพลางมองบุตรชายที่ไม่ได้พบหน้ากันมานาน ยามนี้มันกลายเป็นหนุ่มรูปงามผู้เปี่ยมไปด้วยพลัง แม้แต่ผู้ไม่เคยฝึกฝนพลังวิญญาณอย่างตัวมันเองยังสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่เอ่อล้นออกมาจากร่างของบุตรชาน
“สเด็จพ่อทรงพักผ่อนเถอะ ข้าจะพักอยู่ที่วังระยะหนึ่งแล้วข้าจะมาหาท่านบ่อยๆ”อู๋หมิงว่าพลางมองที่ท้องของบิดาดูเหมือนไป๋จูเหวินจะใช้วิธีกรีดท้องเพื่อนําส่วนที่ก่อเกิดอาการบาดเจ็บออกมา แม้แต่ตัวมันก็ไม่ทราบว่าสามารถใช้วิธีนี้ได้นับว่าไป๋จูเหวินมีความสามารถจริงๆ
“ขอโทษที่ให้รอ”อู๋หมิงเดินออกมาจากห้องขององค์จักรพรรดิพลางมองพวกหยุนฟางที่รออยู่ด้านนอก
“ไปกันเถอะ” เซียนดาบว่าพลางมองดวงตาขออู๋หมิงราวกับจะบอกให้มันเป็นผู้นําทาง แน่นอนว่าตัวมันสามารถสัมผัสพลังของอาวุโสเทียนหมิงได้อยู่แล้ว แต่ในเขตวังหลวงพื้นที่ห้ามเข้ามีมากมาย แต่หากให้องค์ชายใหญ่อย่างอู๋หมิงนําทางมีหรือจะมีใครกล้าขวาง
การกลับมาวังหลวงในครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะอาการป่วยขององค์จักรพรรดิ แต่ที่มาในครั้งนี้เพราะเซียนดาบต้องการปรึกษากับอาวุโสเทียนหมิงต่างหาก
“โอ้ พวกเจ้ามากันได้ยังไง” ทันที่ที่เข้ามาในสวนของอาวุโสเทียนหมิง ตัวมันก็เข้ามาต้อนรับทันทีเพราะมันสัมผัสพลังของคนกลุ่มนี้ได้ตั้งแต่ตอนเข้ามาแล้ว
“พี่หมิง ไม่ได้พบกันนาน” เซียนดาบว่าพลางประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม
“อืม…เรื่องอะไรหอบเจ้ามาถึงที่นี่กัน” อาวุโสเทียนหมิง ถามพลางมองผู้มาเยือนในครั้งนี้ นอกจากเซียนดาบแล้วยังมีศิษย์ของมันอย่างอู๋หมิงและไป๋จูเหวิน นอกจากนี้ยังมีศิษย์ของเซียนดาบหยุนฟางและองค์หญิงซูหลานที่ไม่ทราบว่ามาได้อย่างไรอีกต่างหาก
“ก่อนหน้านี้ข้าได้เข้าไปช่วยศิษย์ของท่านที่โดนกักตัวเอาไว้” เซียนดาบว่าพลางแสดงสีหน้าลําบากใจออกมา
“ใครกัน จับอู๋หมิงเอาไว้ได้เชียว” อาวุโสเที่ยนหมิงเลิกคิ้วขึ้น การจะจับตัวธุ์หมิงเอาไว้ได้ไม่ใช่มีพลังอย่างเดียวจะทําได้ ต่อให้เป็นนระดับเทียนเซียนหากเร่งความเร็วเท่าอู๋หมิงไม่ได้ก็ไม่มีทางจับตัวมันได้หรอก
“มันคือเฒ่าประทับสวรรค์ขอรับ”ได้ยินอู๋หมิงพูดเช่นนั้น ดวงตาของอาวุโสเทียนหมิงยิ่งตกตะลึง มันกับเฒ่าประทับสวรรค์ไม่ได้มีความแค้นต่อกัน เหตุใดมันถึงเข้าโจมตี อู๋หมิงกัน
“เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องที่ข้ากังวลหรอกพี่หมิง…เรื่องที่ข้ากังวลนั้นเป็นเพราะท่านผู้เฒ่าแปลกๆไป” เซียนดาบพลันนึกถึงตอนที่ตนได้เจอกับเฒ่าประทับสวรรค์ แม้แต่มันเองยังรู้สึกว่าตาฝาด เพราะท่าทางของมันราวกับสัตว์ปาไม่มีผิด
“แปลกไป?”อาวุโสเทียนหมิงขมวดคิ้วสีขาวของมันจนแทบจะติดกัน
“ขอรับ ท่านผู้เฒ่ามีท่าที่ประหลาดมาก สติของท่านเลอะเลื่อนและคํารามราวกับสัตว์ ข้าคาดเดาว่าท่านคงธาตุไฟเข้าแทรกขอรับ”อู๋หมิงว่าพลางหยิบตําราเล่มหนึ่งออกมา
“ข้าคาดว่าสาเหตุจะมาจากตําราเล่มนี้ขอรับ” ได้เห็นตําราที่อู๋หมิงนําออกมา ทั้งอาวุโสเทียนหมิงทั้งไป๋จูเหวินต่างก็มีท่าที่แปลกใจเป็นอย่างมาก
“นั่นมัน…”อาวุโสเทียนหมิงกระพริบตาปริบๆมองตําราด้วยท่าที่ประหลาดใจ ตัวมันเคยได้อ่านเนื้อความด้านในอยู่ครู่หนึ่ง แต่เพียงพริบตาเดียวมันก็เข้าใจว่ามนุษย์ไม่อาจฝึกวิชาในตําราเล่มนี้ได้ อย่าบอกนะว่าเฒ่าประทับสวรรค์พยายามฝึกวิชาจากตําราเล่มนี้
“ตําราเล่มนี้เป็นของเจ้าไม่ใช่หรือไป๋จูเหวิน เหตุใดมันถึงไปอยู่กับเฒ่าประทับสวรรค์ได้” เซียนดาบถามพลางมองมาทางไป๋จูเหวิน คราวก่อนตอนไป๋จูเหวินน้ํามันออกมาให้ดู มันจําได้อย่างชัดเจนเลยว่าไป๋จูเหวินเก็บตําราเอาไว้อย่างดีในมิติของมันเอง
“เป็นท่านผู้เฒ่าชิงไปขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางถอนหายใจออกมา
“ชิงไป..จริงงั้นเหรอ” เซียนดาบถามราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ไป๋จูเหวินพูด แต่อาวุโสเทียนหมิงกลับไม่มีท่าทีแปลกใจเท่าไหร่นัก
“เรื่องนี้มีเหม่ยหลินอยู่ในเหตุการณ์ด้วยนางสามารถยืนยันได้”ไป๋จูเหวินตอบพลางจ้องมองเซียนดาบอย่างประหลาดใจ ท่าทางมันจะมีสัมพันธ์อันดีกับเฒ่าประทับสวรรค์จนไม่คิดว่ามันจะลงมือชิงตําราจากเด็กรุ่นใหม่สินะ
“ในโลกนี้มีผู้ใช้วิชาแทรกแซงมิติได้ไม่กี่คนหรอก ในหมู่พวกเราก็มีเพียงเฒ่าประทับสวรรค์เท่านั้น” อาวุโสเที่ยนหมิงตอบพลางถอนหายใจออกมา เรื่องความโลภของ เฒ่าประทับสวรรค์แม้จะมีคนรู้เรื่องอยู่บ้างแต่ส่วนใหญ่มักจะปล่อยๆไปเพราะความดีความชอบที่เฒ่าประทับสวรรค์ทํามีมากกว่าเรื่องทั่วๆ แต่ก็ไม่นึกเลยว่ามันจะลงมือชิงตําราจากไป๋จูเหวินไป
“แค่เห็นก็น่าจะรู้แล้วแท้ๆว่าฝึกไม่ได้ ทําไมท่านยังดื้อดึงที่จะฝึกให้ได้นะ” เซียนดาบว่าพลางถอนหายใจออกมา แน่นอนอยู่แล้วเหตุผลที่มันต้องฝึกวิชาของไป๋จูเหวินนั้นเพราะในงานประลองพวกมันได้ทําลายชื่อเสียงของเฒ่าประทับสวรรค์ไปไม่น้อย แถมยังทําให้มันเสียชื่อฝามือไวอันดับ 1 ไปอีกต่างหาก
“เรื่องนั้น ไม่เท่าไหร่หรอกแต่ข้ากังวลเรื่องงานชุมนุมของเฒ่าประทับสวรรค์นี้สิ” เซียนดาบว่าพลางกุมขมับตัวเองกรอบ
“จริงของเจ้า หากเฒ่าประทับสวรรค์ไม่ไปโผล่ที่งานมีหวังได้เกิดเรื่องแน่ๆ”อาวุโสเทียนหมิงส่ายหน้าเบาๆ แม้มันจะไม่ค่อยยอมรับนัก แต่เฒ่าประทับสวรรค์ก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือสูงสุดของอาณาจักร หากอาณาจักรข้างเคียงทราบว่าเฒ่าประทับสวรรค์เป็นบ้าไปแล้ว ความสงบสุขที่มีมาหลายปีอาจจะมลายหายไปเลยก็ได้
“ท่าทางเจ้ากับข้าจะต้องไปจับตัวเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้แล้วล่ะ”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางถอนหายใจออกมา ในอาณาจักรอู่คงไม่มีใครอีกแล้วนอกจากพวกมัน 2 คนที่จะสามารถจับตัวเฒ่าประทับสวรรค์มาได้ในขณะที่มันกําลังคุ้มคลั่ง
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเลยมาขอแรงท่าน” เซียนดาบว่าพลางกุมด้ามดาบแน่น หากปล่อยเอาไว้แบบนี้มันกลัวว่าเรื่องเฒ่า ประทับสวรรค์บ้าไปแล้วจะถูกแพร่งพรายออกไปก่อนงานชุมนุมนี่สิ ต้องบอกว่าโชคดีมากที่อู๋หมิงตรึงเฒ่าประทับสวรรค์เอาไว้ที่เดียวได้หลายเดือน ไม่อย่างนั้นหากผู้คนรู้เข้าคงแย่กว่านี้
“คงต้องรีบไปแล้วสินะ อู๋หมิงเจ้ากับหยุนฟางอยู่ที่นี่ ไปก่อนจนกว่าพวกเราจะกลับมา”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางเดินออกไปจากห้องพร้อมเซียนดาบ พวกมันไม่ทราบว่าเฒ่า ประทับสวรรค์จะไปที่อื่นหรือเปล่า หากพวกมันอยากจะตามให้ทันต้องรีบไปให้ไว้ที่สุด
พริบตาเดียวยอดฝีมือทั้ง 2 ก็พูดคุยธุระเสร็จสิ้น แถมยังปลีกตัวออกไปแล้วอีกต่างหากทําให้ยามนี้ในห้องเหลือแต่อี้หมิง ไป๋จูเหวิน หยุนฟาง และ ซูหลาน เท่านั้น
“ขอโทษที่นะ กลับมาก็วุ่นวายเลย”อู๋หมิงว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ธุระของมันจบแล้วที่เหลือก็ได้แต่ฝากความหวังเอาไว้กับยอดฝีมือทั้ง 2 เท่านั้น
“จริงสิ นี่เป็นของเจ้าสินะ” อู๋หมิงว่าพลางยื่นตํารามาให้ไป๋จูเหวิน
“ขอบใจ ข้านึกว่าจะไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมาพลางรับตําราไปอย่างโล่งอก คราวก่อนมันลองปรึกษาหวงหลงกับหัวหน้าถังเรื่องนี้แล้ว แต่ทั้ง 2 ก็ไม่ แม้แต่จะหาตัวเฒ่าประทับสวรรค์เจอ ทําให้เรื่องนี้แทบไม่คืบหน้าเลย
“แล้วก็ขอโทษด้วย” อยู่ๆอี้หมิงก็พลันกล่าวคําขอทาออกมา ทําเอาไป๋จูเหวินงงไปครู่หนึ่งว่ามันขอโทษเรื่องอะไรกันแน่
“ตอนนั้น เพราะข้าต้องพยายามหลบหนีจากเฒ่าประทับสวรรค์ ข้าเลยเปิดตําราของเจ้าเพื่อศึกษากระบวนท่าของมัน…ข้าเลยบังเอิญเรียนวิชาของเจ้ามาด้วย”ได้ยินเช่นนั้นไป๋จูเหวินก็มีท่าที่งุนงงทันที หรือว่าอู๋หมิงจะบังเอิญสําเร็จวิชาด้านหลังไปแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอก เป็นความผิดของข้าเองที่ทําให้มันถูกชิงไป”ไป๋จูเหวินว่าพลางเก็บตําราเข้ามิติของมันไป
“แถมเจ้าก็จําเป็นต้องฝึกเพราะต้องเอาชีวิตรอดด้วย”ไป๋จูเหวินว่าพลางเกร็งฝามือครู่หนึ่งพริบตานั้นฝ่ามือของมันก็พุ่งเข้าโจมตีอู๋หมิงด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่มันทําได้
เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กระบี่ทัณฑ์สวรรค์ที่อู๋หมิงรีบดึงออกมาปะทะเข้ากับฝามือของไป๋จูเหวินอย่างรวดเร็ว เสียงราวกับเหล่าบักษานับร้อยนับพันพากันร้องประสานกันดังออกมาทําเอาทั้งหยุนฟางและซูหลานเบิกตากว้างกันถ้วนหน้า แม้แต่หยุนฟางที่อยู่ระดับก่อกําเนิดพลังเซียนยังมองตามไม่ทัน มีหรือที่ซูหลานจะสามารถมองตามได้ นางได้ยินแต่เสียงปะทะเท่านั้น ในสายตานางทั้งสองราวกับยืนอยู่เฉยๆก็ไม่ปาน
“ฝึกได้ไม่เลว”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา
“เจ้าเองก็เก่งขึ้นเหมือนกัน”อู๋หมิงเองก็อดยิ้มไม่ได้ ตอนแรกมันเห็นว่าพลังวิญญาณของไป๋จูเหวินยังไม่ค่อยพัฒนานึกว่ามันอ่อนซ้อมไปเสียอีก ที่ไหนได้ฝามือของมันถึงกับเสมอกับกระบี่ของมันเลยทั้งๆที่ตัวอู๋หมิงที่มีธาตุสายฟ้าควรจะไวกว่านิดหน่อยเสียด้วยซ้ํา