บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 210 ข้อแลกเปลี่ยน
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 210 ข้อแลกเปลี่ยน
“องค์ชาย จะทําอย่างไรดี” หัวหน้าองครักษ์ถามไปทางอู๋หมิงเพราะมันเองก็คงสู้กับชิงจางไม่ไหวแน่ๆ
“กลับไปรายงานเรื่องนี้ให้องค์จักรพรรดิทราบ” อู๋หมิง กัดฟันแน่นพลางเก็บกระบี่เข้าไปในมิติของตน ด้วยระดับฝีมือของมันและเหล่าองครักษ์ การสู้กับชิงจางที่มีซูหลานเป็นตัวประกันนั้นเป็นเรื่องเสียงเกินไป มันอาจจะฆ่าซูหลานก่อนที่มันจะแพ้ก็เป็นได้
“แต่ว่าองค์ชาย พวกมันไปกันแล้ว”องครักษ์คนหนึ่ง ว่าพลางมองทางที่ชิงจางหายไปด้วยท่าที่กังวล หากปล่อยไปเช่นนี้พวกมั่นคงหนีไปไกลจนตามไม่ทันอย่างแน่นอน
“กลับกันก่อน พวกมันไม่ฆ่าองค์หญิงตอนนี้ แสดงว่าพวกมันไม่คิดจะฆ่า” หัวหน้าองครัก์ว่าพลางถอนหายใจออกมา พวกมันต้องการซูหลานไปเป็นตัวประกันหัน หมายความว่าพวกมันต้องการอะไรบางอย่างตอนนี้มัน ตามไปก็เท่านั้น อย่างมากก็ปะทะกันอีกรอบ และอาจจะบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย ตอนนี้พวกมันทําได้แค่รอดูว่าเจ้า พวกมือลอบสังหารจากอาณาจักรฮัวต้องการอะไรกันแน่
“กลับไปหาองค์จักรพรรดิก่อน”อู๋หมิงสั่งซ้ําอีกครั้งพลางพุ่งตัวออกไปเป็นคนแรก ด้วยความเร็วของมันเพียงไม่กี่นาทีก็กลับมาถึงจวนที่พักของอาณาจักรชูแล้ว
“พี่เขย เป็นอย่างไรบ้าง” ชูเฟิงที่ท่าทางจะรู้เรื่องแล้ว ถามขึ้นมาทันทีที่เห็นอู๋หมิงกลับมา แต่เห็นพวกองครักษ์กลับมามือเปล่า สีหน้าของชูเฟิงก็ไม่สู้ดีเลยแม้แต่น้อย
“เป็นไปตามที่พวกเราคาดการณ์ คนของอาณาจักรฮัวจับ ซูหลานไป พวกมันคงไม่อยากให้พิธีอภิเษกเกิดขึ้น”อู๋หมิงตอบพลางพาชูเฟิงเข้าไปหาองค์จักรพรรดิเพื่อปรึกษากันว่าจะทําเช่นไรต่อไปดี
“อาณาจักรอื่นๆคงไม่ยอมจริงๆสินะ”องค์จักรพรรดิว่าพลางนั่งลงด้วยท่าที่เครียดหนัก แม้จะเป็นเรื่องเดาได้อยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะส่งคนมาลักหาตัวกันอย่างนี้
“พวกมันคงอยากจะป้ายความผิดให้ซูหลานว่านางหนี งานแต่งด้วยตนเอง”อู๋หมิงพูดด้วยน้ําเสียงหม่นหมอง ทั้งๆที่ มีองครักษ์ตั้งมากมายกลับโดนลอบลักพาตัวไปได้ง่ายๆ
“ถูกแล้ว หากซูหลานหักหน้าองค์ชายชูเฟิงเช่นนั้น อาณาจักรของเราคงไม่สามารถติดต่อกันได้อีกแน่ๆ” เทียนเหวินพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ไม่หรอก ต่อให้ซูหลานหนีไปเองจริงข้าก็ไม่ถือโทษโกรธนางหรอก” ชูเฟิงส่ายหัวเบาๆเป็นการปฏิเสธ เพราะนอกจากเรื่องแต่งงานแล้วมันยังมีเรื่องปากท้องของประชาชนต้องดูแลอยู่ อย่างไรมันก็ต้องกาทางเปิดเส้นทางการค้าให้ได้ และต่อให้ซูหลานหนีไปจริง มันก็จะตามซูหลานไป พยายามเอาชนะใจนางให้จงได้
“โชคดีที่องค์ชายชูเฟิงใจกว้าง แต่คราวนี้นับว่าเกิดเรื่องเพราะอาราจักรฮัวเข้ามาแทรกแซง พวกเราสมควรร่วมมือกันรับมือกับคนของอาณาจักรฮัว”องค์จักรพรรดิว่าพลางนํากระดาษใบหนึ่งออกมาเขียนจนหมาย
“องค์จักรพรรดิคิดถูกแล้วขอรับ” ชูเฟิงพยักหน้าด้วยความรู้สึกเห็นด้วย พวกมันพยายามทําให้พิธีล่ม และสร้างความบาดหมางระหว่างอาณาจักร แต่เพราะพวกมันโด นตามทันและอู๋หมิงยังแยกแยะออกว่าพวกมันคือคนของอาณาจักรฮัว ทําให้แผนของพวกมันพังไปก่อนแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่เพียงว่ามันอยากได้อะไรเท่านั้น
“ข้าจะส่งจดหมายไปหาท่านอาวุโส ตอนนี้พวกเราได้แต่รอว่ามันจะส่งข้อเรียกร้องอะไรมา”องค์จักรพรรดิว่าพลางเรียกอสูรวิหคตนหนึ่งจากขบวนรถ อสูรตนนี้เป็นอสูรที่อาวุโสเทียนหมิงฝากเอาไว้ให้องค์จักรพรรดิโดยเฉพาะ หากมีเรื่องอะไรมันจะทําหน้าที่ส่งจดหมายไปให้อาวุโสเทียนหมิงในทันที
“ขอรับ”อู๋หมิงและคนอื่นๆต่างตอบรับด้วยท่าที่กังวลไม่ต่างกัน ไม่นึกเลยว่าอาณาจักรฮัวจะลงแรงขนาดส่งคนระดับชิงจางมา หากพลาดจนชิงจางโดนสังหาร พวกมันคงเสียกําลังคนหลักไปแล้ว
“องค์จักรพรรดิ” อสูรวิหคพึ่งบินไปยังไม่ทันลับตาอยู่ๆ คนขององค์จักรพรรดิก็รีบเข้ามาในเรือนรับรองในทันที ท่าทีของมันรีบร้อนมากเสียจนแทบไม่ต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีอะไร”องค์จักรพรรดิว่าพรากลึกขึ้นยืนในทันที
“มีคนมาขอเข้าเฝ้าขอรับ มันบอกว่ามันเป็นคนส่งสารของคนที่จับตัวองค์หญิงไปขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นองค์จักรพรรดิก็บอกให้มันพาตัวคนส่งสารเข้ามาทันที ไม่นึกว่าพวกมันจะติดต่อมาเร็วเช่นนี้
“ขอรับ” พูดจบ องครักษ์คนนั้นก็ออกไปพาชายคนหนึ่ง เข้ามามันคือชายที่ใช้เข็มบินก่อนหน้านี้นั่นเอง
“ไม่ได้พบกันสักพักนะขอรับองค์ชาย” ชายผู้ใช้เข็มบินว่าพลางมองมาทางอู๋หมิง ทําให้ดวงตาของอู๋หมิงจ้องมองมาทางมันด้วยท่าทีข่มขู่ทันที
“ดูเหมือนแผนของพวกเราจะถูกจับได้เสียแล้ว” ชายผู้ใช้เข็มว่าพลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีอย่างผิดสังเกตุ มันเดินเข้ามาหาองค์จักรพรรดิโดยไร้ท่าที่เคารพ และก็เป็นอย่างที่มันว่าแผนการปวนการหมั้นหมาย ของพวกมันโดนจับได้เสียแล้ว ต่อให้พวกมันจับซูหลานไปเรื่อยๆพวกมันก็ไม่มีทางปวนความสัมพันธ์ของ 2 อาณาจักร ได้แล้ว มีแต่จะเพิ่มความเกลียดชังของอาณาจักรตนเองเท่านั้น
“หัวหน้าของข้าตัดสินใจว่าจะปล่อยองค์หญิงซูหลานไป”ได้ยินเช่นนั้นคนในห้องก็มีท่าทีตกใจทันทีอยู่ๆ พวกมันก็จะปล่อยองค์หญิงซูหลานไปเนี่ยนะ
“พวกเราเพียงต้องการจะปวนงานเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้อยากมีเรื่องกับอาณาจักรชูและอาณาจักรอู่แต่อย่าง ไร” พูดจบ ชายคนนั้นก็ถอยไปด้านหลัง พริบตาเดียวพลังระ ดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ก็สลายหายไปจนราวกับเป็นคนธรรมดาไม่มีผิด
“พรุ่งนี้ข้าจะส่งตัวองค์หญิงซูหลานกลับมาที่เมือง ขอให้พวกท่านอย่าได้ถือสาอะไรเรื่องล้อเล่นเล็กๆ นี้เลย” พูดจบชายคนนั้นก็กระโดดถอยหลังออกไปพร้อมใช้ความเร็วสูงสุดของมันเพื่อหนีออกไปไม่ให้ใครรั้งตัวเอาไว้ ทําเอาแม้แต่อู๋หมิงที่คิดจะตามรอยมันไปยังตั้งตัวไม่ทัน สุดท้ายก็ได้แต่ปล่อนมันไปเท่านั้น
“มันจะง่ายดายเช่นนั้นหรือ”อู๋หมิงขมวดคิ้ว อยู่ๆ พวกมันก็จะปล่อยตัว แบบนี้มันไม่ง่ายไปหรือ
“หรือพวกมันจะวางแผนอะไรเอาไว้”องค์จักรพรรดิถามพลางนั่งครุ่นคิดอยู่นาน แต่ตอนนี้พวกมันห่วงความปลอดภัยของซูหลานมากกว่า
“เราคงต้องหาทางรับมือเอาไว้ ส่งคนไปรอที่หน้าเมือง รอพวกมันส่งตัวซูหลานมาแล้วเข้าจับกุมซะ”องค์จักรพรรดิ พูดจบหัวหน้าองครักษ์ก็สั่งการให้คนของตนแบ่งกําลังไปรอหน้าเมืองและเส้นทางเดินทางที่พวกมันเคยเข้าไปตามซูหลานเอาไว้
“ซูหลาน ลูกต้องปลอดภัยนะ” พระมเหสีว่าพลางเอามือทาบอกตนเองเอาไว้ในฐานะแม่นางเป็นห่วงจนแทบขาดใจ แต่เพราะนางไร้พลังจะออกไปตามตัวซูหลานด้วยตัวเองก็ไม่ได้ สุดท้ายเลยได้แต่รออยู่ที่นี่เท่านั้น
“ หวังว่าท่านอาวุโสจะมาช่วยเหลือพวกเราทัน”องค์จักรพรรดิว่าพลางจับมือของภรรยาเอาไว้ นี่เป็นครั้งแรก ที่มันนึกเสียใจที่ไม่ฝึกฝนพลัง หากมันมีพลังเท่าๆกับท่านอาวุโสมันไม่มีทางปล่อยให้ซูหลานโดนเอาตัวไปแน่ๆ
.
.
.
ตลอดทั้งคืน แทบไม่มีใครนอนหลับเลยแม้แต่คนเดียว ภายในจวนรับรองแทบจะว่างเปล่าเพราะคนของราชวงศ์ แทบจะออกมารอที่หน้าประตูกันหมดเพื่อหวังให้ซูหลานกลับมาอย่างปลอดภัย
“มาแล้วขอรับ” หัวหน้าองครักษ์พูดพลางชี้ไปที่ทางเดินเข้าเมือง ตรงนั้นปรากฏร่างของซูหลายที่เปราะเปื้อนไปด้วยดินและฝุ่นจนชุดเจ้าสาวหม่นหมองไปหมด โดยนางขี่ม้าตัวหนึ่งเข้ามาพร้อมองครักษ์ที่ทําหน้าที่ตรวจคราด้านนอก
“ซูหลาน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” พระมเหสีเป็นคนแรกที่พึ่งตัวไปหาซูหลาน นางรีบปัดเนื้อปัดตัวของลุกสาวอย่างรวดเร็ว พลางตรวจตราดูว่าบนร่างกายของนางมีรอยแผลหรือไม่ แต่เพราะซูหลานเป็นผู้มีพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ บาดแผลเล็กๆน้อยเลยหายไปหมดแล้ว
“ซูหลาน พวกมันทําอะไรกับเจ้าบ้าง”องค์จักรพรรดิ ถามด้วยความเป็นห่วง มันจับซูหลานไปทั้งคืน มันกลับเหลือเกินว่าพวกมันจะทําอะไรบุตรสาวของตนเอง
“ไม่เพคะ พวกมันเพียงจับข้ามัดเอาไว้เท่านั้น” ซูหลานว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ นางท่าทางเหนื่อยอ่อนมากคงเกิดจากความเครียดที่โดนจับตัวไป
“ซูหลาน” ชูเฟิงว่าที่สามีของนางเดินเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง แต่พอได้เห็นซูหลานยังปลอดภัยดีมันก็โล่งอกไปมาก
“เราเลื่อนพิธีไปก่อนดีหรือไม่ เกิดเรื่องเช่นนี้ข้าไม่สบายใจเลย” ชูเฟิงถามด้วยความเป็นห่วง มันเข้าใจดีว่าพิธีอภิเษกครั้งนี้สําคัญแค่ไหน แต่มันเห็นซูหลานเป็นเช่นนี้ก็อ ยากให้นางพักผ่อนและเตรียมตัวรับมือเรื่องต่างๆให้ดีกว่านี้
“ไม่เป็นไรเพคะ”ซูหลานว่าพลางยิ้มบางๆ
“อย่าให้เรื่องเล็กๆนี้มาขัดขวางงานสําคัญเลย” ซูหลานพูดด้วยสายตาแน่วแน่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางก็ควรทําหน้าที่ของตนเองให้ลุล่วง
“เจ้าแน่ใจนะ” ชูเฟิงว่าพลางมองตามร่างกายของซูหลาน แม้จะไม่มีบาดแผล แต่นางก็มีท่าที่อ่อนแรกมาก
“เพคะ พวกเราต้องทําเพื่อประชาชนมิใช่หรือ” ซูหลานด้วยท่าที่นิ่งเฉยราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เห็นซูหลานยืนยันหนักแน่นเช่นนี้ชูเฟิงก็ได้แต่ยอมรับเท่านั้น
“เช่นนั้นระหว่างเดินทางเจ้าจงพักผ่อนให้มาก เมื่อถึงเมืองหลวงพวกเราจะร่วมพิธีอย่างสมเกียรติ” ชูเฟิงพูดด้วยท่าที่เป็นห่วง
“พี่ใหญ่ แบบนี้มัน”เทียนเหวินพูดพลางมองซูหลานนิ่ง พวกมันปล่อยซูหลานออกมาอย่างปลอดภัยก็นับว่าดีมากแล้ว แต่มันไม่อาจทราบได้ว่าพวกมันยังมีแผนอะไรหรือ
“ก็คงได้แต่รอดูไป หลังจากนี้ต้องวางกําลังป้องกันมากกว่านี้”อู๋หมิงส่ายหน้าเบาๆ มันไม่คิดว่าพวกมันจะเลิกราเท่านี้ แต่พวกมันก็ทําได้แต่ป้องกันเอาไว้ก่อนเท่านั้นเอง