บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 235 เจอตัว
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 235 เจอตัว
“ทางนี้เจ้าค่ะ”แม่มดขาวที่กําลังเดินนําหน้าราชสีห์เพลิงพูดด้วยท่าที่กล้าๆกลัวๆ หางมองดีๆแล้วจะพบว่าบาดแผลบนใบหน้าของนางหายไปแล้ว ท่าทางราชสีห์เพลิงจะให้ยารักษาแก่นางแล้ว
“ที่นี่นะเหรอ” ราชสีห์เพลิงว่าพลางเดินมายืนอยู่ตรงหน้าผาสูง แถวๆนี้ยังมีกลิ่นคาวเลือดเลือนรางอยู่เลย ท่าทางจะเคยมีสงครามมาก่อนหน้านี้จริงๆ
“จะ เจ้าค่ะ”แม่มดขาวพูดด้วยท่าที่หวาดกลัว เพียงโดนต่อยเข้าไปหมัดเดียวร่างกายของนางก็บาดเจ็บขนาดที่ว่าไม่สามารถบอกนางราชสีห์เพลิงได้โดยไม่รักษา แถมพอนางได้ยารักษามาแล้วนางกลับกลัวราชสีห์เพลิงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะอาการบาดเจ็บปางตายเช่นนั้นกลับหายสนิทในเวลาไม่กี่อึดใจ ไม่ว่าราชสีห์เพลิงจะเป็นใครแต่มันต้องเป็นบุคคลที่น่ากลัวมากแน่ๆ
วูบบบ!! ร่างของราวสีเพลิงทะยานลงไปในทะเลทันทีที่ได้รับคํายืนยันจากแม่มดขาว พอเห็นราชสีห์เพลิงกระโดดลงไปแล้วแม่มดขาวก็มีท่าที่จะหนีทันที
ตูม!! แม่มดขาวยังไม่ทันหันหลัง น้ำในทะเลก็พลันแตกกระจายเป็นวงกว้างด้วยแรงหมัดของราชสีห์เพลิง พริบตานั้นน้ำในทะเลแทบจะเหือดแห้งกลายเป็นเกลือ ทําให้ราชสีห์เพลิงมองเห็นพื้นทะเลได้อย่างชัดตา
“…”ราชสีห์เพลิงกวาดสายตามองไปรอบๆ แม้จะมีซากศพอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีซากศพอันไหนเป็นของจูเอ๋อเลย
ซ่า…หลังจากโดยต่อยจนน้ำทะเลแห้งเหือดไปครู่หนึ่ง น้ำทะเลรอบๆก็เข้ามาแทนที่ทันที แต่แค่นั้นก็มากพอที่จะทําให้ราชสีห์เพลิงทราบแล้วว่าไม่มีศพของจูเอ๋ออยู่ที่นี่
“แถวนี้มีหมู่บ้านหรือเปล่า”ราชสีห์เพลิงถามพลางกระโดดกลับมายืนที่ด้านหลังของแม่มดขาว
“มะ มีเจ้าค่ะ” แม่มดขาวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นอกจากกําลังของราชสีห์เพลิงจะมหาศาลแล้ว นางยังได้เห็นอีกว่าพลังธาตุของมันก็แข็งแกร่งเช่นกัน ในผืนดินแห่งนี้นักรบแบ่งเป็น 2 ประเภทนั่นคือผู้ใช้ศาสตรากับมนตรา นางเป็นผู้ใช้มนตราที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง แต่กลับไม่กล้าเทียบกับชายคนนี้เลย
“นําทางไป”ราชสีห์เพลิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ อย่างน้อยเรื่องที่จูเอ๋อจะตายไปแล้วก็ลดโอกาศลงไปเพราะไม่เจอศพ บางทีมันอาจจะลอยไปอยู่ที่ไหนสักแห่งก็ได้
“เจ้าค่ะ” แม่มดขาวผู้เป็นยอดฝีมือด้านมนตราก้มหัวทําตามงกๆ ทําเอาผู้ผ่านมาพบเห็นดูแทบไม่ออกว่านางคือคนที่น่ากลัวขนาดไหน
หลังจากเดินเท้ามาไม่ถึงชั่วโมง หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่หลบออกมาจากสงครามก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าราชสีห์เพลิง ที่นี่มีคนของอาณาจักรเดียวกันกับแม่มดขาวอยู่ไม่น้อย ท่าทางทหารของฝั่งนางจะเข้ายึดที่นี่แล้ว
“ท่านแม่มดขาว” ทหารที่เฝ้าหมู่บ้านอยู่พูดพลางเดินเข้ามาหาแม่มดขาวที่พึ่งมาถึง หมู่บ้านนี้เองก็เป็นผลงานหนึ่งของแม่มดขาวทําให้ทหารในเมืองรู้จักนางอยู่บ้าง
“มีอะไรหรือครับ ข้านึกว่าท่านเตรียมตัวเข้าโจมตีเมืองต่อไปแล้วซะอีก”เหล่าทหารถามพลางมองแม่มดขาวและราชสีห์เพลิงด้วยสีหน้าสงสัย
“ข้ามีธุระนิดหน่อย ขอข้าเข้าไปได้หรือไม่” แม่มดขาวพยายามทําตัวให้ปกติที่สุด พลางพูดอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้เสียงตัวเองสั่น
“ขอรับ ตามสบายเลย” ทหารว่าพลางเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ นางไม่จําเป็นต้องขอพวกมันเสียด้วยซ้ำ
“เชิญเจ้าค่ะ”แม่มดขาวพูดพลางหันมามองราชสีห์เพลิง เห็นนางพูดด้วยท่าทีนอบน้อมเช่นนนี้นับว่าหายาก ชายผู้นี้คือใครกันนั้นคือคําถามที่ผุดขึ้นในหัวของเหล่าทหารที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แถมชายคนนี้ยังไม่มีพลังอะไรเลยอีกต่างหาก ท่าทางจะเป็นพวกมีเส้นสายกระมัง
“มีอะไรให้ข้าช่วยหรือขอรับ” แม่มดขาวพาราชสีห์เพลิงมาที่อาคารแห่งหนึ่งซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่หลายนายเลยทีเดียว
“ประมาน 3 เดือนก่อนมีคนของฝ่ายไชน์มาที่นี่หรือเปล่า”แม่มดขาวถามเสียงเรียบโดยไม่ต้องรอให้ราชสีห์เพลิงออกคําสั่งเลย
“ขอรับ เด็กหนุ่มที่สู้กับท่านยังมีชีวิตอยู่ พวกเราก็เลยจับตัวมันเอาไว้ขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นดวงตาของราชสีห์เพลิงก็พลันมีความหวังขึ้นมาทันที
“งั้นเหรอ ดะ ดี ขอข้าพบมันหน่อย” แม่มดขาวยิ้มกว้างอย่างโล่งอก บางทีหากเจ้าหนูนั่นยังไม่ตาย ราชสีห์เพลิงอาจจะไม่ฆ่านางก็เป็นได้
“ขอรับ…”นายทหารพูดด้วยท่าทีสงสัย หรือว่านางจะมาจัดการเจ้าเด็กคนนี้กัน…
“ท่านแม่ทัพบอกว่าให้เก็บตัวมันเอาไว้เพราะมันเป็นคนของตระกูลโรซารี่ พวกข้าก็เลยขังมันเอาไว้ในห้องขังที่พึ่งสร้างขึ้นมาขอรับ รับรองว่ามันไม่หนีไปไหนแน่ๆ” ทหารคนนั้นพูดจบก็เปิดประตูพาแม่มดขาวเข้าไปข้างใน แม้จะแปลกใจที่ราชสีห์เพลิงตามมาด้วย แต่แม่มดขาวที่มีฐานะสูงกว่ามันไม่ว่าอะไรตัวมันก็คงไม่อาจห้า
“มิน่าล่ะ” แม่มดขาวพยักหน้าช้าๆ แม่ทัพไม่ได้บอกอะไร นางทําให้นางเข้าใจว่ามันตายไปแล้ว แต่หากบอกว่าศัตรูที่กรีดหน้านางยังมีชีวิตอยู่นางก็คงกลับมาฆ่ามันด้วยตนเองเป็นแน่ ท่าทางท่านแม่ทัพจะคิดเอาไว้แล้ว ตอนนี้แม่มดขาวรู้สึกขอบคุณจริงๆ เพราะหากนางฆ่าชายหนุ่มคนนี้ไป ป่านนี้นางคงตายคาหมัดของราชสีห์เพลิงเป็นแน่
“กรงนี้ขอรับ”ได้ยินเช่นนั้น ราชสีห์เพลิงก็ก้าวพรวดเข้าไปดูที่กรงทันที
“ ” พริบตานั้นดวงตาของราชสีห์เพลิงก็ปรากฏอาคมโกรธออกมาทันที เพราะร่างของไป๋จูเหวินนั้นซูบผอมอย่างมาก นอกจากนี้แขนข้างขวาของมันยังโดนตัดขากไปอีกต่างหาก
“ทะ ท่าน ถึงอย่างไรมันก็มีชีวิตอยู่”แม่มดขาวเห็นสภาพแล้วก็พลันพยายามระงับอารมราชสีห์เพลิงทันที ดูจากบาดแผลแล้วแขนของมันคงขาดเพราะการโจมตีของนางแน่ๆ แบบนี้นางมีหวังซวยกันพอดี
“จูเอ๋อ…”ราชสีห์เพลิงพูดพลางกําซี่กรงที่ทําจากเหล็กแน่น พริบตานั้นกรงก็หลอมละลายหายไปในทันที ทําเอาทหารที่อยู่ด้านหลังหน้าซีดเผือด
“พวกมันทํากับเจ้าถึงเพียงนี้”ราชสีห์เพลิงพูดพลางมองคนที่มันคิดว่าคือไป๋จูเหวินด้วยสีหน้าโกรธจัด ยามนี้รอบๆตัวมันปรากฏเปลวเพลิงจํานวนหนึ่งไหลออกมาราวกับหินลาวาไม่มีผิด
ตูม!! ตึกที่แม่มดขาวพาราชสีห์เพลิงเข้ามาโดนระเบิดทิ้ง ในพริบตาหลังจากราชสีห์เพลิงระเบิดโทสะออกมา พื้นรอบๆยามนี้กลายเป็นทะเลเพลิงยกเว้นจุดที่ชายหนุ่มนอนอยู่เท่านั้น
“ทะ ท่าน” แม่มดขาวหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นราชสีห์เพลิงโกรธจัดมาก มันไม่เคยรับปากว่าจะไว้ชีวิตนาง ทําให้นางกลัวจนแข้งขาสั่น โชคดีที่นางยังพอหนีออกมาทัน แต่ทหารคนที่เปิดประตูและทหารที่เฝ้าอาคารอยู่โดนระเบิดจนไม่เหลือชิ้นดีเลย
“พวกแก” ราชสีห์เพลิงคํารามพลางกลายร่างเป็นสิงโตเพลิง ร่างก่อนที่มันจะกลายเป็นระดับบรรพกาลนั่นเอง
ตูม! บอลเพลิงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือหมู่บ้าน ก่อนจะตกลงมาระเบิดใส่หมู่บ้านจนวอดวายในทันที
“…”แม่มดขาวที่รอดจากระเบิดเพลิงอยู่คนเดียวมองภาพตรงหน้าอย่างหวาดกลัว พลังของมันเหนือกว่าคนระดับนางหลายขั้นนัก สิงโตตัวนี้คือปีศาจร้ายจากขุมนรกอย่างนั้นหรือ
โฮกกกกกกก! เสียงราชสีห์เพลิงคํารามพร้อมเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำจนกลายเป็นทะเลเพลิงในพริบตา แต่เมื่อสิ้นเสียงของเหล่าทหารเพลิงที่ลุกไหม้จนเกินควบคุมเมื่อครู่ก็ดับลงเหลือแต่ราชสีห์เพลิงที่กลับมาเป็นร่างมนุษย์อีกครั้งแล้ว
ตูม!! ราชสีห์เพลิงยิงลูกไฟลูกหนึ่งขึ้นฟ้าเพื่อบอกสัญญาณพวกราชาตนอื่นๆก่อนที่มันจะอุ้มร่างของชายหนุ่มที่มันคิดว่าเป็นไป๋จูเหวินขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วงจูเอ๋อ น้าอยู่ที่นี่แล้ว”ราชสีห์เพลิงว่าพลางมองอาการบาดเจ็บของชายหนุ่ม นอกจากแขนที่หายไปข้างหนึ่งแล้ว ลําตัวและใบหน้ายังมีบาดแผลที่เกิดจากสายฟ้าอีกต่างหาก แทบจะชัดเจนเลยว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะแม่มดขาวนั่นเอง
“…” เมื่อจิตสังหารส่องมาทางตัวนาง แม่มดขาวก็หน้าซีดเผือด นางขยับตัวหมายจะหนีทันที่เพียงแต่…
“หยุดอยู่ตรงนั้น” ราชสีห์เพลิงว่าพลางมองมาทางแม่มดขาวอย่างดุดัน
“เจ้าต้องอยู่ที่นี่ แล้วข้าจะให้จูเอ๋อได้แก้แค้น” ราชสีห์เพลิงสั่งพลางสร้างลูกไฟออกมารอบๆตัว หากนางหนีมันจะยิงให้ร่วงในทันที
“…”แม่มดขาวลังเลอยู่ครู่ใหญ่ ขึ้นให้เจ้าเด็กนั้นแก้แค้น นางก็ตายไม่ใช่หรือ สู้หนีแล้วหาโอกาสรอดเอาไม่ดีกว่าหรืออย่างไร
ฟุบ! ร่างของแม่มดขาวทะยานไปทันทีเมื่อคิดได้ แต่ราชสีห์เพลิงกลับไม่ได้ยิงลูกไฟตามที่บอกเอาไว้
พรึบ!! แรงลมสายหนึ่งเข้ากระแทกร่างของแม่มดขาวเข้าอย่างจัง พร้อมเงาปีกที่บดบังแสงจันทร์เอาไว้จนมิด ปีกที่บดบังท้องฟ้าเบื้องหน้าไปจนหมดทําเอาแม่มดขาวใจสั่นสะท้าน
เปรี้ยง! สายฟ้าสายหนึ่งพุ่งเข้ามาใส่ร่างของแม่มดขาวทันที ก่อนที่นางจะรู้ตัวว่าที่คอของนางนั้นมีมือข้างหนึ่งเกาะกุมเอาไว้
“ข้าได้ยินแล้ว” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางบีบคอของแม่มดขาวแน่น หากไม่ใช่เพราะราชสีห์เพลิงเสนอว่าจะให้จูเอ๋อล้างแค้นนางด้วยตนเอง มันคงฆ่าแม่มดขาวไปแล้ว
“กลับไป” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางเคลื่อนไหวเพียงพริบตาเดียวก็กลับมายืนหน้าราชสีห์เพลิงอีกครั้ง ทําเอาผู้ใช้วิชาธาตุสายฟ้าอย่างแม่มดขาวได้แต่ตื่นตะลึง วิชาสายฟ้าของพยัคฆ์อัสนีนั้นน่ากลัวมาก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มที่ราชสีห์เพลิงช่วยเอาไว้พูดพลางลุกขึ้นมาช้าๆ ใบหน้าของมันโดนสายฟ้าของแม่มดขาวเล่นงานจนเกิดรอดแผลเป็นไปครึ่งหน้า แต่ใบหน้าที่เหลืออีกครั้งนั้นก็ช่างเหมือนกับไป๋จูเหวินไม่มีผิด ไม่แปลกเลยที่คนอื่นๆจะมองว่าเขาคือไป๋จูเหวินที่พวกน้าๆตามหา
“พวกท่านเป็นใครกัน” ชายที่เหมือนไป๋จูเหวินถามพลางมองไปรอบๆ เมื่อครู่มันยังอยู่ในคุกอยู่เลย ทําไมเพียงหลับไปครู่เดียวมันถึงมาอยู่กลางทะเลเพลิงแบบนี้ได้กัน?