บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 239 ขัดขวาง
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 239 ขัดขวาง
“…” ทันทีที่แมรี่พาไป๋จูเหวินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ของเจ้าเมือง ภาพที่ไป๋จูเหวินเห็นนั้นทําเอาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่นี่คือบ้านพักของเจ้าเมือง ไม่ใช่ว่ามันเคยเห็นสถานที่อยู่ของเจ้าเมืองมาเยอะหรอก แต่อย่างน้อยมันก็เข้าใจว่าปราสาทแบบตระกูลโรซารี่นั้นยังเหมาะกับการที่เจ้าเมืองจะอยู่มากกว่าอีก
แกร๊งๆแกร๊ง สิ่งแรกที่สัมผัสได้เมื่อเข้ามาในบ้านของเจ้าเมืองคือความร้อนที่ออกมาจากเตาหลอมเหล็กและเสียงค้อนที่เกิดจากการตีเหล็กของคนงาน
“ตรงนั้นช่วยตีให้บางกว่านี้สัก 2 นิ้วนะ” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งพูดพลางชี้สั่งลูกน้องของตนอย่างแข็งขัน นางมีเส้นผมสีแดงสดราวกับผลแอปเปิ้ล และมีดวงตาสีแดงราวกับพลอย แต่ถึงนางจะดูงดงามเพียงใดความงามก็ต้องลดลงบ้างเมื่อนางอยู่ในชุดคนงานและมีเขม่าติดตามใบหน้า
“คุณหนู แบบนี้ได้หรือเปล่า” ชายร่างใหญ่ถามพลางนําท่อเหล็กที่พึ่งทําเสร็จมาให้ดู ด้วยอุปกรณ์ในยุคนี้การทําท่อจากโลหะเป็นเรื่องยุ่งยากและใช้เวลาทํามากทีเดียว
“แบบนี้แหละ ทํามาเพิ่มเรื่อยๆเลยนะ” หญิงสาวว่าพลางลงมือใช้ค้อนทุบแผ่นเหล็กที่พึ่งเอาเข้าเตาหลอมอย่างแข็งขัน แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าแขนบางๆแบบนั้นจะถือค้อนไหว แต่ถ้ามีพลังรูนเสียอย่างก็ใช้ได้สบาย
“ขอรับ” ชายร่างใหญ่ยิ้มกว้างพลางหันหลังไปทํางานของตนเองต่อ แม้ภาพที่เห็นตรงหน้าจะประทับใจดี แต่ไป๋จูเหวินก็สงสัยว่าตนเองมาบ้านของเจ้าเมืองหรือมาโรงงานที่เหล็กกันแน่
“พี่รูบี้”แมรี่ตะโกนพลางโบกมือไปทางหญิงสาวผมแดง เช่นนั้นนางก็คือคู่หมั้นของเพิร์ลนามว่า รูบี้ วาเลนไทน์ นั่นเอง
“แมรี่ “รูบี้ที่เห็นแมรี่โบกมืออยู่ตรงหน้าตนเองก็ทราบทันที่ว่ามีแขกมา แต่พอเลื่อนสายตาไปเจอไป๋จูเหวิน นางกลับมีท่าที่ตกใจมากกว่า
“เพิร์ล เจ้าปลอดภัย” รูบี้พูดพลางวางของในมือทิ้ง ข่าวล่าสุดที่นางทราบคือเพิร์ลหายตัวไปในสนามรบ ไม่ทราบว่าเป็นหรือต่าย บอกตามตรงว่านางเป็นห่วงมากจริงๆ พอเห็นว่าเพิร์ลยังไม่ตาย นางก็โล่งใจและดีใจอย่างมาก
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม บาดเจ็บอะไรหรือเปล่า”รูบี้ถามพลางตรงมาทางไป๋จูเหวิน นางจับมือทั้งสองข้างของไป๋จูเหวินเอาไว้แน่นทําให้ไป๋จูเหวินสัมผัสได้ถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
“ข้าไป๋จูเหวินไม่ทราบจะตอบว่าอย่างไร มันรู้สึกถึงความเป็นห่วง แต่หัวใจมันกลับไม่ตอบสนองเลย
“พี่เพิร์ลความจําเสื่อมเจ้าค่ะ แม่แต่ข้าเองยังขําไม่ได้เลย” แมรี่ตอบพลางยิ้มเงื่อนๆ
“ความจําเสื่อม?”รูบี้เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ อาการเช่นนี้ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ แต่เพราะเพิร์ลพ่ายแพ้ให้กับแม่มดขาว ผู้ใช้พลังธาตุสายฟ้า ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้
“ใช่ ขอโทษที แต่ข้าจําอะไรไม่ได้เลย”ไป๋จูเหวินว่าพลางปล่อยมือของรูบี้ลงช้าๆ
วูบ… ร่างของพยัคฆ์เมฆาก่อตัวขึ้นต่อหน้าร่างของราชสีห์เพลิงและพยัคฆ์อัสนี แม้พยัคฆ์เมฆาจะไม่เคยเห็นอสูรอย่างพยัคฆ์อัสนีมาก่อน แต่นางก็สัมผัสได้ถึงพลังที่รุนแรงจากอีกฝ่าย
“พวกเจ้ามาที่นี่ทําไม” พยัคฆ์เมฆาถามพลางปล่อยพลังอสูรของนางออกไป แต่พลังระดับมายาขั้นต้นของนางแทบจะไม่ทําให้อสูรระดับบรรพกาล 2 ตนรู้สึกรู้สาเสียด้วยซ้ำ
“พวกข้ามาตามหาคน” ราชสีห์เพลิงว่าพลางนํารูปของไป๋จูเหวินออกมา
“ พยัคฆ์เมฆาเห็นรูปในมือของราชสีห์เพลิงก็พลันใจหายวาบ ไม่นึกเลยว่าเพิร์ลจะโดนเจ้าสองตนนี้ตามอยู่ พวกมันตามเพิร์ลเพราะอะไรกัน หรือว่าจะจับเพิร์ลไป?
“ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้าข้ามเขตของข้ามาหรอก” พยัคฆ์เมฆาคํารามพลางปล่อยหมอกออกไปรอบๆ นางใช้พลังอสูรของนางสร้างเขตอสูรขึ้นมาทันทีเพื่อจะขวางทางอสูรทั้งสองตนเอาไว้
“พยัคฆ์เมฆา” พยัคฆ์อัสนีพูดพลางมองมาทางพยัคฆ์เมฆา ลักษณะพิเศษของมันนั้นชัดเจนมาก พยัคฆ์ขาวที่กลายร่างเป็นหมอกควันได้
“ตัวยุ่งยากเสียด้วย” ราชสีห์เพลิงถอนหายใจพลางพาเพิร์ลตัวจริงกระโดดลงจากหลังของพยัคฆ์อัสนี ก่อนที่มันจะกลายร่างเป็นราชสีห์เพลิงที่มีขนาดตัวไม่แพ้อสูรอีกสองตนเลย
“ข้าจะเข้าไปก่อน เจ้าคุ้นเคยกับเผ่าพยัคฆ์เมฆาไม่ใช่หรือ” ราชสีห์เพลิงยิงคําถามมาทางพยัคฆ์อัสนี แต่ก่อนที่ยังไม่สร้างเขตอสูรผาไร้กัน พยัคฆ์อัสนีเคยปะทะกับพวกพยัคฆ์เมฆามาก่อนซึ่งไปหูเองก็เป็นหนึ่งในเผ่านั้นเช่นกัน
“ไม่ต้องห่วง พริบตาเดียวก็จบแล้ว” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางจ้องมองไปยังพยัคฆ์เมฆาด้วยท่าทีสบายๆ
“ใครบอกให้เจ้าเข้าไป” พยัคฆ์เมฆาคํารามพลางพุ่งตัวเข้าไปหาราชสีห์เพลิง
พรึบ! อยู่ๆรอบๆตัวราชสีห์เพลิงก็ปรากฏเปลวเพลิงจํานวนหนึ่งลุกไหม้ขึ้นมา เหลือเว้นว่างเอาไว้แค่ตรงที่เพิร์ลตัวจริงนั่งอยู่เท่านั้น
“อึก….” พยัคฆ์เมฆาถอยออกมาด้วยความรวดเร็ว ร่างของนางเกิดจากเมฆหมอก นั่นหมายความว่านางเป็นเสือธาตุน้ำ และเมื่อพูดถึงน้ำกับไฟก็ย่อมเป็นสองธาตุที่ข่มกันเองอยู่แล้ว เมื่อไฟของราชสีห์เพลิงรุนแรงกว่าน้ำที่อ่อนแอ กว่าอย่างนางย่อมทําอะไรไม่ได้ เพียงรายสีห์เพลิงปลดปล่อยพลังเอาไว้แบบนี้นางก็เข้าใกล้ไม่ได้แล้ว
เปรี้ยง! สายฟ้าสายหนึ่งผ่าเข้าใส่ร่างของพยัคฆ์เมฆา ร่างที่สร้างจากเมฆหมอกแทบไม่ต่างอะไรกับก้อนเมฆ สายฟ้าที่ผ่าเข้าใส่กระจายไปตามละอองน้ำจนเกิดแสงวูบวาบไปทั่วร่างของนาง
โครม!! อยู่ๆร่างของพยัคฆ์อัสนีก็โผล่พรวดมาที่ด้านข้างของพยัคฆ์เมฆา มันใช้เพียงกรงเล็บกดลงบนร่างของพยัคฆ์เมฆาก็กดร่างของนางเอาไว้ได้ทั้งๆที่นางเป็นเมฆหมอกสมควรจะแตะต้องไม่ได้แท้ๆ
“งั้นฝากเจ้าด้วยก็แล้วกัน”ราชสีห์เพลิงปลดไฟรอบๆตัวออกก่อนจะพาเพิร์ลเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว ส่วนทางด้านพยัคฆ์อัสนีนั้นก็กําลังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ปล่อยข้า” พยัคฆ์เมฆาคํารามพลางใช้กรงเล็บตะปบเข้าที่หน้าของพยัคฆ์อัสนี
เปรี้ยง!! กระแสไฟฟ้าจากร่างของพยัคฆ์อัสนีแล่นวาบเข้าไปที่ร่างของพยัคฆ์เมฆาทันที แม้กรงเล็บของนางจะทําอะไรพยัคฆ์อัสนีไม่ได้ก็ตาม
“อึก…” พยัคฆ์เมฆากัดฟันแน่นไม่ยอมกรีดร้องออกมา ไม่รู้ทําไมตอนโดนสายฟ้าของพยัคฆ์อัสนีนางถึงแยกร่างออกมา
“ทีม…” พยัคฆ์อัสนีขมวดคิ้วพลางก้มลงใช้จมูกดมตามร่างกายของพยัคฆ์เมฆา ทําเอานางตกใจมากจนแทบจะหลุดเสียงร้องออกมา
“เจ้า” พยัคฆ์เมฆาพยายามจะดิ้นแต่ก็โดนขาหน้าอีกข้างของพยัคฆ์อัสนีกดเอาไว้
“เจ้ามีกลิ่นของจูเอ๋อ เจ้าเคยเจอจูเอ๋องั้นเหรอ” พยัคฆ์อัสนีถามพลางดมไปตามร่างกายของนางช้าๆ ทําเอาพยัคฆ์เมฆาพยายามดิ้นไปมามากขึ้น
วูบ ไม่ทราบเพราะสายฟ้าของพยัคฆ์อัสนีหมดฤทธิ์หรืออย่างไรก็ไม่ทราบนางถึงสามารถกลายร่างเป็นเมฆหมอกได้อีกครั้ง
“เจ้าทําบ้าอะไรของเจ้า” พยัคฆ์เมฆาตะโกนถามพลางถอยห่างออกไปอย่างระแวง
“บอกข้ามา เจ้าเคยเจอเด็กที่เราตามหาหรือสินะ” พยัคฆ์อัสนีไม่สนท่าทีของพยัคฆ์เมฆา มันต้องการจะทราบเรื่องของไป๋จูเหวินมากกว่า
“เด็กที่เจ้าตามหา…พวกเจ้าจะทําอะไรกับมัน” พยัคฆ์เมฆาถามด้วยสีหน้ากดดัน นางขวางราชสีห์เพลิงเอาไว้ไม่ได้ ป่านนี้มันคงใกล้ถึงเมืองแล้ว อย่างน้อยหากนางทราบว่าพวกมันจะทําอะไรนางก็จะใช้ความเร็วสูงที่สุดของนางกลับไปช่วยพาเพิร์ลหนีไป
“มันเป็นหลานของพวกเรา พวกเรามาตามหาเพราะจะพามันกลับบ้าน” พยัคฆ์อัสนีตอบพลางจ้องมองพยัคฆ์เมฆานิ่ง ปกติแล้วอสูรที่เจอไป๋จูเหวินแล้วจะเชื่องกับไป๋จูเหวินมาก การที่พยัคฆ์เมฆามีกลิ่นของไป๋จูเหวินอยู่นั่นหมายความว่านางเองก็เชื่องกับไป๋จูเหวินไปแล้ว มันเลยไม่จําเป็นต้องทําอะไรนางอีกนั่นเอง
“หลานของเจ้า แต่เพิร์ลเป็นมนุษย์นะ” พยัคฆ์เมฆาถามด้วยความประหลาดใจ
“ พวกเราเลี้ยงจูเอ๋อมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะเป็นมนุษย์แล้วไง” พยัคฆ์อัสนีตอบพลางเดินผ่านร่างของพยัคฆ์เมฆาไปราวกับไม่สนว่านางจะขวางอีกต่อไปแล้ว
“เดี๋ยวสิ งั้นหมายความว่าพวกเจ้าจะไม่ทําร้ายเด็กคนนั้นใช่ไหม” พยัคฆ์เมฆาถามด้วยสีหน้ากังวลไม่หาย
“ข้าจะร้ายหลานข้าไปทําไม” พยัคฆ์เมฆาตอบพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ทางนั้นขอรับท่านราชสีห์” เพิร์ลตัวจริงว่าพลางชี้ไปทางบ้านของรูบี้”
“เข้าใจแล้ว” ราชสีห์เพลิงกระโดดวูบขึ้นไปเหนือบ้านของเจ้าเมืองก่อนจะลงมาในสภาพมนุษย์พร้อมกับเพิร์ล
“ท่านเพิร์ล?”เหล่าทหารแปลกใจอย่างมากเพราะเมื่อครู่เพิร์ลพึ่งจะเข้าไปมาใช่หรือ แถมคราวนี้มันยังมากับปีศาจอีกต่างหาก
“ข้าจะไปหารูบี้ พวกเจ้าไม่ต้องเข้ามาขวาง” เพิร์ลว่าพลางวิ่งตรงไปยังห้องพักของรูบี้ หากเป็นอย่างที่พ่อมันบอกคนของราชสีห์เพลิงต้องมาหารมื้อย่างแน่นอน และหากมันความจําเสื่อมจริงมันคงกําลังสวมบทเป็นตัวมันเข้าไปหารูบี้เป็นแน่
“รูบี้”เพิร์ลเปิดประตูห้องของรูบื้อย่างรวดเร็วก่อนจะเห็นว่าทั้งรูบี้ แม่รี่ และ คนที่หน้าตาเหมือนมันไม่มีผิดกําลังนั่งอยู่ในห้อง แม้จะมีคนบอกมามากว่าหน้าตาของพวกมันเหมือนกันมาก แต่พอได้เห็นกับตาแบบนี้แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน
“จูเอ๋อ” ราชสีห์เพลิงเห็นไป๋จูเหวินอยู่ในห้องก็ปลื้มใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่มันสัมผัสพลังอสูรของไป๋จูเหวินได้ มันก็พร่ำบอกตัวเองว่าเจอแล้วๆอยู่ในใจ เมื่อได้เห็นหน้ามันก็โถมเข้าไปกอดร่างของหลานชายมันเอาไว้ทันที
“เจอแล้ว ข้าเจอเจ้าแล้ว”ราสสีห์เพลิงว่าพลางกอดร่างของไป๋จูเหวินเอาไว้แน่น ทั้งกลิ่นและสัมผัสรวมทั้งพลังอสูรต่างเป็นของไป๋จูเหวินทั้งหมด คราวนี้มันเจอแล้วไม่ผิดตัวแน่ๆ
“ทะ ท่าน…ท่านเป็นใคร”ไป๋จูเหวินถามพลางมองเคราสีแดงของราชสีห์เพลิง หรือมันจะเป็นญาติของรู!?
“ข้าเองไงจูเอ๋อ น้าราชสีห์ของเจ้า”ราชสีห์เพลิงตอบพลางยิ้มกว้าง มันได้รู้มาแล้วว่าไป๋จูเหวินความจําเสื่อม ทําให้มันทําใจเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้ว
หมับ… ไป๋จูเหวินไม่ได้พูดอะไร มันยื่นมือมาสัมผัสเคราของราชสีห์เพลิงเบาๆ แม้จะจําไม่ได้แต่ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างที่มันโหยหาเช่นนี้ทําให้มันเชื่อคําพูดของราชสีห์เพลิงจริงๆ ไม่เหมือนตอนโดนพ่อแม่หรือพี่น้องของเพิร์ลกอด ความรู้สึกคุ้นเคยเช่นนี้นี่ละคือสิ่งที่มันรู้สึกขาดหายไป
“ข้าขอโทษ ข้าจําท่านไม่ได้ แต่ข้าเชื่อท่านขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางลดมือลงช้าๆ สมัยเด็กมันจับเคราของราชสีห์เพลิงเล่นบ่อยๆ ความรู้สึกที่คุ้นเคยเช่นนี้เป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือยิ่งกว่าได้เห็นรูปของตระกุลโรซารี่เสียอีก
“งั้นเหรอ ดี ดีมาก ไปเถอะจูเอ๋อ เรากลับแผ่นดินของเรากิน”ราชสีห์เพลิงว่าพลางยิ้มกว้าง
“ไม่ได้…ข้ายังกลับไม่ได้”ไป๋จูเหวินว่าพลางหันไปมองทางรูบี้ เมื่อครู่มันได้คุยเรื่องหนึ่งกับรูบี้แล้ว นั่นทําให้มันยังกลับไปไม่ได้