บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 246 หักหน้า
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 246 หักหน้า
โครม!! เครั้ง! อย่างกับมีแมวเข้าไปกระโดดทําลายข้าวของในตัวสํานัก เพราะหลังจากหวังจิ้งเอาตําราเข้าไป เสียงเอะอะโวยวายก็ดังไปทั่วสํานัก
“พวกท่านไม่ทันไรร่างของชายคนหนึ่งก็พุ่งวาบเข้ามาหาต้าชิงกับต้าเฉิน มันแทบจะก้มลงคารวะทั้งสองทันที่ที่มาถึง
“พวกท่านนําตํารากลับมาจริงๆหรือ” ชายคนนั้นว่าพลางคุกเข่าลงกับพื้น มันดีใจอย่างมากและตื้นตันอย่างมากจริงๆ
“ชะ ใช่”ต้าชิงพูดจบร่างของชายตรงหน้าก็พุ่งวาบเข้ามาหาต้าชิง มันกุมมือต้าชิงเอาไว้แน่นด้วยสีหน้าสุดแสนจะตื้นตัน
“ขอบพระคุณขอรับ ขอบพระคุณท่านมาก เท่านี้ข้าก็สามารถกราบไหว้ท่านบรรพบุรุษได้โดยไม่รู้สึกผิดแล้ว”ชายตรงหน้าร้องให้ออกมาอย่างไม่อายฟ้าดิน พวกต้าชิงนั้นไม่ทราบหรอกว่าการเป็นเจ้าสํานักของสํานักที่เคยยิ่งใหญ่นั้นยากลําบากแค่ไหน แถมพวกมันไม่ได้มีกิจการเป็นของตัวเองอย่างกลุ่มนักล่าอสูรด้วย ทําให้พวกมันแทบจะหมดตัวอยู่รอมร่อแล้ว การได้จําราเทพประสานกลับมานันช่างเหมือนสวรรค์ทรงเมตตาจริงๆ
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่นําตํารากลับมาให้จะเป็นคนของอาณาจักร ท่าทางการร่วมอาณาจักรอาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ก็เป็นได้”เจ้าสํานักเทพจุติว่าพลางยิ้มอย่างพึงพอใจ การโดนยึดอาณาจักรนั้นสร้างผลกระทบไปทั่ว แต่อู่หมิงก็ไม่ใช่ผู้นําที่แย่ขนาดนั้น มันไม่ได้กดขี่คนเก่าของอาณาจักร และพยายามรักษารูปแบบเมืองตั้งแต่เริ่มเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่นับแต่นี้ไปจะไม่มีกีดกั้นเขตแดนอีกแล้ว แม้แต่พื้นที่ของอาณาจักรชูเองก็ยังสามารถเดินทางเข้าออกได้ราวกับเป็นอาณาจักรเดียวกัน
“ท่านเจ้าสํานัก ข้ามีเรื่องอยากตะถามท่าน”ต้าชิงพูดด้วยท่าทีลําบากใจ เพราะยังมีเรื่องหนึ่งที่มันต้องบอกออกไปให้ชัดเจน
“มีอะไรหรือท่านผู้มีพระคุณ”เจ้าสํานักเทพจุติถามพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน ตัวมันในเวลานี้นั้นต่อให้ใช้มีดแทงต่อหน้าก็คงยังสามารถยิ้มได้กระมัง
“ข้ากับน้องชายได้ตํารานี้มาโดยบังเอิญ จึงไม่ทราบว่าสํานักของท่านยังคงอยู่ พวกเราเลยฝึกฝนวิชาในตําราไปด้วยความไม่รู้…”ต้าชิงกําลังจะถามว่าเจ้าสํานักต้องการให้มันทําลายวิชาหรือไม่ แม้จะไม่ส่งผลต่อระดับพลังที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่พวกมันก็คงไม่สามารถเพิ่มระดับไปยังระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ได้อย่างรวดเร็วแน่ๆ
“เรื่องนั้นพวกท่านไม่ต้องคิดมาก ตําราเล่มนี้พกเราทําสูญหายไปเอง นับว่าพวกมันมีวาสนาต่อพวกท่านเถอะ แต่ขอเพียงพวกท่านไม่เอาไปถ่ายทอดให้ใครอีกก็พอแล้ว”เจ้าสํานักยังคงยิ้มทําให้ต้าชิงและต้าเฉินโล่งใจไม่น้อย
“มาเถอะขอรับ ข้าจะพาท่านไปเลี้ยงฉลองเพื่อเป็นการตอบแทน”เจ้าสํานักว่าพลางยิ้มกว้าง แม้เงินในสํานักจะเหลือไม่มาก แต่เรื่องดีๆเช่นนี้จะไม่ฉลองได้อย่างไร เจ้าสํานักจัดการให้คนใช้จัดเตรียมอาหารที่ดีที่สุดและสุรารสเลิศออกมา
ปังๆๆ ยังไม่ทันเตรียมอาหารเสร็จ ที่หน้าประตูสํานักก็มีเสียงเคาะประตูดังกึกก้องไปทั่วสํานัก ทําให้เห็นได้ว่าคนที่ลงมือทุบประตูใช้แรงมากแค่ไหน
“พวกมันมาอีกแล้ว”เจ้าสํานักว่าพลางกัดฟันแน่น
“พวกมันคือใครหรือขอรับ”ต้าชิงถามด้วยความสงสัย ท่านเจ้าสํานักที่อารมณ์ดีสุดๆจนถึงเมื่อครู่ถึงกับหน้างอได้คนที่มาคงไม่ใช่ข่าวดีแน่ๆ
“พวกมันเป็นคนของสํานักดาบอัคคี ตั้งแต่รวมอาณาจักรพวกมันก็มาระรานพวกเราอยู่บ่อยครั้งทีเดียว”เจ้าสํานักว่าพลางถอนหายใจออกมา
“ดาบอัคคี นั่นเป็นสํานักในอาณาจักรอู๋ไม่ใช่หรือ ทําไมถึงมาระรานพวกท่านได้”ต้าเฉินขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ พวกมันเป็นสํานักใหญ่ที่อยู่ติดชายแดนระหว่างอาณาจักรอู๋และอาณาจักรซุย แต่เพราะสงครามก่อนหน้านี้เมืองที่พวกมันตั้งสํานักคงโดนทําลายไปแล้วกระมัง
“พวกมันต้องการสํานักของเราเพราะเห็นว่าพวกเราไม่มีกําลังคนแล้ว”เจ้าสํานักถอนหายใจพลางเดินออกไปที่ประตู เพราะหากมันไม่เปิดพวกมันก็จะฟังเข้ามาอยู่ดี
“พวกเจ้าต้องการอะไร ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ยกสํานักนี้ให้พวกเจ้า”เจ้าสํานักเทพจุติพูดด้วยท่าทีแข็งกร้าว ทําเอาภาพชายใจดีเมื่อครู่บินหายไปทันที
“ฮ่าๆ สํานักกระจอกแบบพวกเจ้ายึดครองสถานที่ดีๆ แบบนี้เอาไว้มันน่าเสียดาย” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่แถวหน้าสุดพูดพลางยิ้มกว้าง สํานักดาบอัคคีนั้นได้ชื่อว่าสามารถควบคุมไฟได้ไม่แพ้คนของอาณาจักรฮุยเก่าเลย
“หวา..โชคชะตาเล่นตลกจริงๆ” ต้าเฉินว่า พลางมองชายที่เข้ามาหาเรื่อง ชายคนนั้นเป็นคนที่ต้าชิงคงไม่มีวันลืมไปทั้งชีวิตแน่ๆ เพราะมันคือคนที่แย่งเอาผู้หญิงที่ต้าชิงเคยหลงรักไปต่อหน้าต่อตานั้นเอง มันคือนายน้อยแห่งสํานักดาบอัคคี เจอเต๋อ นั่นเอง
“เรื่องมันผ่านไปแล้ว ข้าไม่สนใจหรอก”ต้าชิงกัดฟันพูดพลางกอดอกแน่น มันจะไม่สนใจได้อย่างไร ในเมื่อก่อนหน้านี้มันรักหญิงสาวคนนั้นจนหมดใจ แต่เจอเต๋อกลับเข้ามาและใช้อํานาจและความร่ํารวยดึงหญิงสาวที่มันรักไป
“ข้าชอบสํานักของพวกเจ้ามาก ถือว่าเป็นเกียรติของพวกเจ้านะที่สํานักของพวกเจ้าจะได้เป็นสํานักดาบอัคคี” เสียงหวานของหญิงสาวนางหนึ่งดังขึ้น พร้อมร่างของหญิงสาวที่ต้าชิงเคยเรียกว่ายอดรักที่ปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าสํานักเทพจุติ
“ซิ่วอิง…”ต้าชิงคราวนี้แทบจะเก็บอาการไม่อยู่ หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายเจอเต๋อนั้นคือซิ่วอิง หญิงสาวที่มันเคยหลงรัก และเป็นคนที่สร้างบาดแผลลึกในใจต้าชิงนั่นเอง มันไม่ได้โกรธเจอเต๋อเท่าไหร่ แต่คนที่มันโกรธจริงๆคือซิ่วอิงนั่นเอง แม้เจอเต๋อจะพยายามจีบนาง แต่หากนางมั่นคงในรักและคําสัญญาที่ให้กันไว้ สิ่งที่เจอเพื่อทําก็คงไร้ความหมาย แต่นางกลับสนใจเงินทองและฐานะมากกว่าความรักที่นางมีให้กับต้าชิง สุดท้ายนางก็ทิ้งต้าชิงไปอยู่กับนายน้อยแห่งสํานักดาบอัคคี แถมยังทิ้งคำพูดทิ้งท้ายเอาไว้อีกว่า นางต้องเลือกคนที่ดีกว่าใช่หรือไม่
“เรื่องนี้ท่านจัดการเองแล้วกัน”ต้าเฉินว่าพลางถอนออก มายืนอยู่ข้างๆหวังจิ้งและหวังลี่ ก่อนที่มันจะโดนหวังลี่ซักถามเป็นการใหญ่ว่าต้าชิงมีความสัมพันธ์อะไรกับซิ่วอิง ทําให้หวังลิ้งได้ฟังเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสอง
“ท่านเจ้าสํานัก” ต้าชิงเดินไปหาเจ้าสํานักพลางยืนตระหง่านต่อหน้าคนของสํานักดาบอัคคี
“ท่านผู้มีพระคุณ ท่านไม่จําเป็นต้องเข้ามาเดือดร้อนกับปัญหาของพวกเราเลยขอรับ”เจ้าสํานักว่าพลางพยายามกันต้าชิงออกไป จะให้ปัญหาของมันไปรบกวนผู้มีพระคุณได้อย่างไร
“ต้าชิง?”เจอเต๋อเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ไม่นึกเลยว่ามันจะได้เจอคนรู้จักที่นี่ แถมยังเป็นคนที่มันแย่งคนรักมาอีกต่างหาก
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเจอเต๋อ ซิ่วอิง” ต้าชิงว่าพลางยิ้มออกมาอย่างสุดฝืน สิ่งที่มันจําทําคือการขัดขวางความต้องการของพวกมันทั้งสองนั่นเอง
“เจ้ามาทําอะไรที่นี่ แล้วชุดนั่นมันอะไร”เจอเต๋อถามพลางมองชุดของกลุ่มนักล่าอสูรนิ่ง แม้กลุ่มนักล่าอสูรจะ ไม่ค่อยมียอดฝีมือ แต่กลุ่มนักล่าอสูรก็มีเส้นสายกับวังหลวง ทําให้คนทั่วไปต้องเกรงใจเครื่องแบบของกลุ่มนักล่าอสูรอยู่หลายส่วน
“ตอนนี้ข้าเป็นคนของกลุ่มนักล่าอสูร ข้าก็เลยต้องสวมเครื่องแบบของกลุ่มนักล่าอสูรยังไงล่ะ”ต้าชิงยิ้มพลางยืดอกขึ้นเล็กน้อย ยามนี้มันไม่ใช่เจ้ากระจอกต้าชิงที่อยู่เพียงขั้นแรกเริ่มอีกต่อไปแล้ว เมื่อเทียบกับสํานักดาบอัคคี กลุ่มนักล่าอสูรนั้นมีอํานาจมากกว่าหลายเท่า เพียงสั่งคําเดียวสํานักดาบอัคคีก็จะโดนสํานักอื่นๆตัดขาดทันที เพราะนอกจากเส้นสายของกลุ่มนักล่าอสูรแล้ว พวกมันยังคุมสายการผลิตยาของอาณาจักรอุเอาไว้อีกต่างหาก ไม่มีสํานักไหนยอมขัดใจกลุ่มนักล่าอสูรเพื่อสํานักที่พึ่งโดนทําลายอย่างดาบอัคคีหรอก
“อะไรกัน เจ้าคิดจะใช้อํานาจมาข่มพวกเรางั้นหรือ เจ้าเป็นอะไรในกลุ่มนักล่าอสูรกัน เด็กเช็ดรองเท้าหรือ” ซิ่วอิงแผดเสียงออกมาด้วยความไม่พอใจ เมื่อเห็นคนที่นางทิ้งมาทําท่าจะต่อต้านนาง
“ตําแหน่งของข้าจะเป็นอะไรมันสําคัยงั้นหรือ”ต้าชิงพูดพลางมองหญิงสาวตรงหน้านิ่ง มันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่มุมมองที่มันมีต่อซิวอิงเปลี่ยนไป อาจจะเพราะมันได้เห็นสาวงามล่มเมืองมาหลายต่อหลายคนแล้วกระมัง ยิ่งเหม่ยหลินที่มันแทบจะเห็นเป็นประจําแล้วหากเอา มาเทียบกับซิ่วอิงยามนี้คงราวกับเอาดอกไม้มาวาง ข้างๆก้อนหินไม่มีผิด นางในฝันของมันยามนี้ช่างดูแสนธรรมดาเหลือเกิน
“แล้วไง เจ้าจะขัดขวางพวกเรางั้นหรือ”เจอเต๋อถามพลางแสดงท่าที่ไม่พอใจออกมา
“ถูกต้อง ข้าอยากจะให้สํานักเทพจุติเป็นพันธมิตรกับ กลุ่มนักล่าอสูรของพวกเรา และข้าก็คงปล่อยพันธมิตรให้โดนพวกเจ้ารุกรานไม่ได้”ต้าชิงพูดออกมาอย่างหนักแน่น เพราะตําแหน่งรองอาวุโสของมันนั้นสามารถกระทําเรื่องแบบนี้ได้ ขอเพียงขอความร่วมมือจากเหม่ยหลินสักหน่อย ต้าชิงเชื่อว่านางจะเข้าใจเหตุผลของมัน
“เจ้า”ซิ่วอิงกัดฟันพลางชี้มาทางต้าชิง ยามนั้นที่ด้านข้างต้าชิงกลับปรากฏร่างของหวังจิ้งเดินออกมาพลางจับแขนของต้าชิงเอาไว้ราวกับเป็นคนรักกัน
“พี่ต้าชิง ท่านไม่จําเป็นต้องไปสนใจนางหรอก”หวังจิ้งที่ได้ยินเรื่องของต้าชิงจากต้าเฉินมาเห็นท่าทีของซิ่วอิงเหมือนยังคิดว่าต้าชิงเป็นลูกไก่ในกํามือของนางอยู่ หวังจิ้งเลยช่วยต้าชิงเล็กน้อย ถึงอย่างไรนางก็มั่นใจว่านางนั้นงดงามกว่าซิวอิงแน่นอน แต่เจอเต๋อยังแอบมองพวกนางตลอดเวลาเข้ามาหาเรื่องเลย
“…”การกระทําและคําพูดธรรมดาเมื่อครู่ทําเอาซิ่วอิงไม่ทราบจะพูดอะไรออกมา เหมือนนางจะได้ทราบแล้วว่านางไม่ใช่คนที่จะจูงจมูกข้าชิงได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
“ท่านรองงงง”ยังไม่ทันจะได้พูดคุยกันจบ เสียงตะโกนก็ดังมาจากด้านหลังของสํานักดาบอัคคี
“ท่านรอง มีข่าวด่วนขอรับ” ลูกน้องของพวกต้าชิงที่ตอนแรกไม่ได้ตามพวกมันมารีบขึ้นเขามาพร้อมกับสาวใช้ของหวังจิ้ง พวกมันมีท่าที่รีบร้อยมากทีเดียว
“ท่านรองอาวุโส มีจดหมายมาจากท่านหัวหน้าขอรับ” แม้จะไม่ได้พูดต่อหน้าเจอเต๋อ แต่คําเรียกรองอาวุโสนั้นก็ราวกับค้อนกระแทกเข้ากลางหน้าผากของเจอเต๋อไม่มีผิด หากต้าชิงเป็นสมาชิกธรรมดามันยังพอจะใช้อํานาจของสํานักดาบอัคคีกดดันอีกฝ่ายได้บ้าง แต่มันมีตําแหน่งเป็นรองอาวุโสเลยงั้นหรือ คนอย่างเจ้ากระจอกต้าชิงเนี่ยนะ
“มีอะไร”ต้าเฉินที่ยืนดูอยู่ข้างหลังรีบเข้ามาทันทีเพราะเห็นท่าที่แตกตื่นของลุกน้องตนเอง ท่าทางเรื่องเล่นสนุกคราวนี้จะต้องปล่อยเอาไว้ก่อนแล้ว
“นายน้อยขอรับ นายน้อยกลับมาแล้ว”ได้ยินเช่นนั้น เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับจิ๋วอิงกับเจอเต๋อก็มลายหายไปทันที
“นายน้อย…”ต้าชิงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะแสดงท่าทีดีใจออกมา แม้จะทราบข่าวจากเหม่ยหลินแล้วว่าไป๋จูเหวินยังไม่ตาย แต่พวกมันก็ยังอดกังวลไม่ได้ เธอได้ทราบข่าวว่าไป๋จูเหวินยังมีชีวิต แถมยังกลับมาที่กลุ่มนักล่าอสูรแล้วทําเอาท์ทั้งต้าชิงต้าเฉินดีใจกันแทบบ้า
“ท่านเจ้าสํานัก ข้ามีเรื่องด่วนต้องไปก่อน เสียดายที่ไม่ได้อยู่ร่วมงานฉลองกับท่าน”ต้าชิงว่าพลางมองไปทางหวังจิ้งนิดหน่อย มันก็ออกเสียดายนิดหน่อยที่จะต้องจากนางไป แต่มันอยากจะเห็นนายน้อยด้วยตาตนเองมากกว่า
“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ”เจ้าสํานักเทพจุติว่าพลางกุมมือของต้าชิงด้วยความซาบซึ้ง นอกจากจะนําตํารามาคืนแล้วมันยังไล่ศัตรูให้อีก ยามนี้เจอเต๋อกับคนของมันเผ่นหายไปแล้ว หลังจากนี้พวกมันคงไม่มารบกวนอีก
“ถ้าเช่นนั้นขาขอลา”ต้าชิงและลูกน้องออกเดินทางทันที โดยไม่สนว่าจะเป็นกลางวันกลางคืน แต่คนที่ใจหายที่สุด กลับเป็นหวังจิ้งที่มองแผ่นหลังของต้าชิงจนลับตา
“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่หญิง ข้าเชื่อว่าท่านยังไม่หมดวาสนาหรอก” หวังลี่ยิ้มพลางมองหวังจิ้งด้วยท่าทีทะเล้น
“ต้องขอบคุณท่านต้าชิงจริงๆที่ช่วยสํานักของเราเอาไว้ หวังจิ้ง หวังลี่ พวกเจ้าฝึกฝนวิชาเทพประสานซะ คู่แฝดอย่างเจ้าต้องสามารถฝึกได้อย่างรวดเร็วเป็นแน่ เมื่อพวกเจ้าฝึกสําเร็จแล้วข้าอยากให้พวกเจ้านของสิ่งนี้ไปตอบแทนท่านผู้มีพระคุณ” เจ้าสํานักว่าพลางนําตําราเล่มหนึ่งออกมา มันคือตําราวิชาร่วมผสาน ซึ่งเป็นวิชาสุดยอดของสํานักเทพจุติ เพียงแต่คนที่จะฝึกวิชาดังกล่าวจําเป็นต้องฝึกวิชาเทพประสาน มาแล้วเท่านั้น ทําให้สํานักเทพจุติที่ไม่มีวิชาเทพประสานนั้นตกต่ําลงเรื่อยๆอย่างที่เห็น
“เจ้าค่ะ” หวังจิ้งรับตําราด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ วิชาร่วมผสานมีพื้นฐานเดียวกับวิชาเทพประสาน เพียงแต่วิชานี้ต้องฝึกระหว่างชายหญิงเท่านั้นเพื่อใช้สมดุลระหว่างหยินและหยางในการเพิ่มพูนการฝึกฝน ว่ากันว่าในสมัยก่อนผู้ที่ฝึกวิชาร่วมผสานสําเร็จได้ก้าวถึงระดับเจ้าสรรค์เลยที่เดียว