บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 251 ดีกว่า
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 251 ดีกว่า
“พี่หลง ท่านเอาแต่มองนางมาตั้งแต่เย็นแล้วนะ” หญิงสาวในกลุ่มคุ้นกันพูดขณะนั่งเฝ้าระวังภัยให้กับกลุ่มพ่อค้าที่เริ่มตั้งแคมป์สําหรับพักผ่อนแล้ว เพราะพ่อค้าส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาหรือไม่ก็มีพลังวิญญาณไม่มากทั้งนั้น ส่วนใหญ่เลยยังต้องการพักผ่อนเช่นเดียวกับมนุษย์อยู่
“ข้าแค่สงสัยเท่านั้นล่ะ”ชายที่ถูกเรียกว่าพี่หลงตอบพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ช่วยไม่ได้หรอก นางงามขนาดนั้นใครก็อยากมอง”หัวหน้าของกลุ่มคุ้มกันว่าพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี หากมันไม่มีภรรยารออยู่ที่เมืองมันก็คงมองเหม่ยหลินไม่วางตาเช่นกันล่ะ
“ไม่ใช่ว่านางเป็นภรรยาของพ่อค้าคนนั้นเหรอ” หญิงสาวถามพลางมองไปทางไป๋จูเหวิน สําหรับนางแล้วทางนี้เจริญหูเจริญตากว่ากันเป็นไหนๆ เอาแต่มองเหม่ยหลินมากๆมีแต่จะทําให้นางจิตตกมากกว่า
“ก็นั่นล่ะข้าถึงสงสัย” หลงอู่พูดพลางถอนหายใจออกมา
“ตอนข้าไปช่วยนาง เจ้าพ่อค้านั่นห่วงแต่สินค้าจนไม่ได้สนใจจะปกป้องนางเลย ช่างน่าอายจริงๆ” หลงอู่พูดพลาง กําหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ในตอนนนั้นไป๋จูเหวินเอื้อมมือไปห้ามพวกหงเยวที่อยู่ด้านหลัง แถมมันก็ไม่จําเป็นต้องปกป้องเหม่ยหลินแต่อย่างไร เพียงแต่ในสายตาคนนอกกลับไม่มองเป็นแบบนั้นนี่สิ
“ก็ธรรมดาของพ่อค้านี่นา” หญิงสาวตอบพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ พ่อค้าก็มีคนที่หวงสมบัติของตนเองมากกว่าครอบครัวอยู่ แม้จะไม่มากก็ตาม
“ก็แล้วทําไมนางต้องเลือกไอ้เจ้านั่นด้วยเล่า มันมีดีตรงไหนกัน” หลงอู่ว่าพลางตบเข่าตัวเองด้วยความไม่พอใจ
“อย่างแรกเลย พ่อค้าคนนั้นหล่อกว่าพี่” หญิงสาวตอบอย่างไม่เกรงใจ เพราะหน้าตาของหลงอู่แม้จะไม่ได้แย่ แต่ก็ให้เอามาเทียบกับไป๋จูเหวินก็คงใจร้ายเกินไป
“แถมยังรวยกว่าพี่ด้วย” ข้อนี้เองหลงอู่ก็ไม่มีอะไรจะเถียง เพราะพ่อค้าที่ได้รับสิทธิ์เดินทางมาขายของนอกอาณาจักรนั้นย่อมเป็นพ่อค้าที่ร่ํารวยในระดับหนึ่ง ไม่มีพ่ออค้ากระจอกๆคนไหนได้รับการยอมรับให้เดินทางข้ามอาณาจักรหรอก เรื่องนั้นคนที่รับจ้างคุ้มกันอย่างหลงอู่รู้ดี
“แต่ข้ามีพลังมากกว่า ข้าสามารถปกป้องนางได้นะ” หลงอู่ว่าพลางยืดอกอย่างภาคภูมิใจ
“ปกป้องจากอะไรล่ะ นางก็ดูมีความสุขดีไม่ใช่หรือไง” หญิงสาวว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ข้าจะคอยปกป้องนางจากอสูรยังไงล่ะ เรายังต้องเดินทางอีก 1 วัน หากมีอสูรโผล่ออกมาข้าจะจัดการพวกมันทั้งหมดเอง” หลงอู่พูดอย่างมั่นใจ
“ไม่รู้ละ ในสายตาข้าตรงนั้นไม่มีที่ให้ท่านแทรกหรอก” หญิงสาวว่าพลางชี้ไปตรงรถม้าของไป๋จูเหวิน ตอนนี้เหม่ยหลินกําลังหลับอยู่บนบ่าของไป๋จูเหวินพร้อมห่ม ผ้าห่มผืนเดียวกันดูแล้วใกล้ชินอิงแอบกันอย่างมากทําเอาหลงอู่ที่ดูอยู่อิจฉาจนตาแทบไหม้
“ให้ตายสิ เจ้าพวกนั้นคิดว่าจะไม่มีใครได้ยินหรือยังไง”ไป๋จูเหวินถอนหายใจพลางมองเหม่ยหลินที่นอนซบไหล่มันอยู่ เพราะเห็นได้ชัดว่าหลงอู่มีท่าทียังไงกับเหม่ยหลิน นางเลยขอร้องไป๋จูเหวินว่าให้แสดงเป็นสามภรรยาให้แนบเนียน เพราะนางไม่อยากโดนหลงอู่ตามตื๊อ
“พี่ไป พวกเราก็ต้องแกล้งหลับจริงๆเหรอ” หลินหลินถามพลางซุกตัวอยู่ในรถม้าข้างๆหงเยว่ อากาศในทะเลทรายตอนกลางคืนเย็นมากต่างจากตอนกลางวัยคนละขั้ว ทําให้ปิงปิงที่มีร่างกายเย็นมากส่งผลตรงกันข้ามกับตอนกลางวันเสียอย่างนั้น ตอนนี้ต่อให้มีผ้าห่มก็ยังโดนไอเย็นของปิงปิงเลย แต่หลินหลินก็ไม่อยากแสดงท่าที่ถอยห่างปิงปิงเพราะกลัวว่านางจะเสียใจ
“ตอนนี้พวกเจ้าเป็นคนธรรมดา ต้องนอนหลับทุกวันเข้าสิ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเอนหลังลงช้าๆ ปกติมันหลับตาอยู่แล้ว เลยไม่มีใครทราบว่ามันแกล้งหลับหรือไม่
“พี่ไป ท่านลําบากใจหรือเปล่า”เหม่ยหลินที่นอนอยู่บนไหล่ของไป๋จูเหวินถามโดยไม่ได้ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้นางแนบชิดกับไป๋จูเหวินยิ่งกว่าตอนฝึกฝนพลังเสียอีก บอกตามตรงว่าตอนนี้หัวใจนางเต้นไม่เป็นจังหวะเลย
“ข้าไม่เป็นอะไรหรอก หากเจ้าต้องการก็ทําต่อไปเถอะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ มันเข้าใจว่าเหม่ยหลินไม่อยากยุ่งกับหลงอู่เท่าไหร่
“เจ้าค่ะ” เหม่ยหลินยิ้มพลางซบบ่าของไป๋จูเหวินต่อ ไป๋จูเหวินเป็นคนใจดี แม้จะไม่ทราบว่าไป๋จูเหวินใจดีแบบนี้กับนางเพียงคนเดียวหรือกับทุกคน จะทําให้นางสับสนก็ตาม
“แล้วทําไมถึงไม่มีอสูรโผล่มาสักตัวเลยละโว้ย” หลงอู่บ่นพลางมองไปทางทะเลทราย กลายเป็นว่าพวกมันเดินทางมา 2 วันแล้วยังไม่มีอสูรโผล่มาสักตัวเดียว แน่นอนว่ามันเป็นผลดีกับงานและผลดีกับพวกพ่อค้า แต่หลงอู่กลับจดจ่อรอให้พวกอสูรหรือโจรเข้ามามันจะได้แสดงฝีมืออีกครั้ง
“แล้วทําไมพี่ต้องรอพวกอสูรมาด้วยล่ะ” หญิงสาวในกลุ่มคุ้มกันถามพลางมองไปทางหลงอู่
“หึม” หลงองงไปครู่หนึ่งพลางมองไปทางเหม่ยหลิน จะว่าไปก็ไม่จําเป็นต้องรอให้อสูรเข้ามาเลย แค่มันเข้าไปคุยตรงๆก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ แต่การจะเข้าไปคุยระหว่างงานก็คงไม่ดี หลงอู่จึงรอให้ถึงเวลากลางคืนก่อนถึงจะเข้าไปหาเหม่ยหลินดู
“การเดินทางเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” หลงอู่ถามพลางเดินเข้าไปหารถม้าของไป๋จูเหวิน ก่อนหน้านี้มันได้เข้ามาใกล้ไม่กี่ครั้งจึงประหม่าไม่น้อย ยิ่งเห็นดวงตาของเหม่ยหลินที่มองมาทางมันก็ทําเอาหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอกให้ได้
“ราบรื่นดี พวกท่านทํางานกันได้อย่างยอดเยี่ยมมาก”ไป๋จูเหวินกล่าวชมพลางเดินเข้ามาหาหลงอู่ด้วยตนเอง
“อยะ อย่างนั้นหรือขอรับ” หลงอู่ตอบพลางมองไปทางเหม่ยหลินที่นั่งอยู่บนรถม้าไม่ได้ลงมา มันไม่ได้อยากจะมาพูดคุยกับไป๋จูเหวินเลย มันอยากจะมาหาเหม่ยหลินต่างหาก
“พวกข้ารับหน้าที่คุ้มกันมานาน ไม่เคยเห็นพวกท่านเลย พวกท่านพึ่งเคยเดินทางมาที่อาณาจักรชินสินะขอรับ” หลงอู่ถามพลางยิ้มบางๆ
“ถูกแล้ว พวกเรามาจากอาณาจักรอู๋ เลยพึ่งจะเคยเดินทางไปยังอาณาจักรชินเป็นครั้งแรก”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆเช่นเดิม ในขบวนสินค้าขบวนนี้มีพ่อค้ามาจากอาณาจักรอู๋ไม่มาก เพราะการรวมดินแดนที่พึ่งเกิดขึ้น ทําให้พ่อค้าส่วนใหญ่เป็นคนของอาณาจักรซุยเดิม
“อาณาจักรข้าได้ข่าวว่าที่นั่นอุดิสมบูรณ์ไม่น้อย สินค้าของพวกท่านคงมีค่าแน่ๆ” หลงอู่ยิ้มพลางเหลือมองไปบนรถม้า ความจริงรถม้าของไป๋จูเหวินออกจะเก่าทําให้หลงอู่แอบคิดว่าไป๋จูเหวินอาจจะเป็นพ่อค้ามือใหม่ก็ได้ แถมยังพาคนมาด้วยมากมาย มันต้องเป็นพ่อค้าไร้ประสบการณ์แน่ๆ และแน่นอนมันเดาถูก เพราะไป๋จูเหวินจึงได้ตราประจําตัวพ่อค้ามาไม่นานนี้เอง
“แม้จะมีค่าไม่มาก แต่ข้าก็นํายาจากอาณาจักรอู๋มาขายทํากําไรขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มรับ มันเอื้อมมือไปหยิบ กล่องยาในรถม้าพลางยื่นมันให้หลงอู่ได้ชม ความ จริงของพวกนี้เป็นของพี่หงเยว่เอาออกมากองๆกันเพื่อตบตาเท่านั้น ยาส่วนใหญ่เลยเป็นยาที่นางปรุงเอง หรือก็คือมันเป็นยาที่ได้มาจากการฝึกกับมังกรธรณีนั่นเอง ทําให้ยาส่วนใหญ่สูงกว่ามาตรฐานของมนุษย์ไปมาก
“…”หลงอุ่มองยาตรงหน้าด้วยท่าทางตื่นตะลึง มันไม่ทราบว่ายาตรงหน้าคืออะไร แต่กลิ่นที่ซับซ้อนและกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากเม็ดยานี้เป็นสิ่งยืนยันได้เลยว่ามันเป็นยาที่น่าพิศวงมาก ได้ข่าวว่าช่วงสงครามอาณาจักรอู๋มียารักษามากมายราวกับไม่มีวันหมด แถมยายังมีประสิทธิภาพสูงกว่าอาณาจักรอื่นมากอีกด้วย
“เป็นยาที่ยอดเยี่ยมมากขอรับ” หลงอู่ส่งกล่องยาคืนให้ไป๋จูเหวินด้วยมือที่สั่นเทา หากรถม้าของไป๋จูเหวินมียาแบบนี้อยู่เต็มคันรถ อย่าว่าแต่มันเป็นพ่อค้ามือใหม่เลย ต่อให้เป็นหัวหน้าขบวนที่ออกเงินจ้างพวกมันยังไม่สามารถหาของแบบนี้มาได้เสียด้วยซ้ํา หรือว่ามันจะเป็นพ่อค้ามีชื่อของอาณาจักรอู๋กัน ความจริงในข้อนี้นั้นทําเอาหลงคู่หน้าซีดเผือด ตัวมันที่หวังในสาวงามมีอะไรไปสู้มันกัน อยู่ที่อาณาจักรอู๋มันคงเป็นเจ้าของร้านค้าใหญ่ที่ทําให้สาวงามเช่นเหม่ยหลินสามารถใช้ชีวิตสุขสบายได้แน่ๆ
“ต้องขอบคุณพวกท่านมากที่ตั้งใจทํางาน ข้าและภรรยาจึงสามารถเดินทางได้อย่างสบายใจ”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้มือของมันซ้อนฝ่ามือของเหม่ยหลินขึ้นมาจับเอาไว้ แสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดของทั้งสอง ทําเอาหลงอู่ที่ได้เห็นในระยะประชิดแทบกระอักเลือด
“จะ จริงสิ ไม่ทราบว่าท่านจะไปขายสินค้าที่ไหนหรือ ในเมืองหน้าด่านคงไม่มีใครซื้อยาของท่านได้หรอก” หลงอู่ว่าพลางหายใจเข้าลึกๆ มันยังพยายามคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ สิ่งหนึ่งที่มันมั่นใจคือระดับพลังฝฝีมือ แม้จะไม่โดดเด่นจนโด่งดัง แต่มันก็สามารถเข้าถึงระดับเทียนเซียนได้โดยอายุยังไม่มาก ภายภาคหน้ามันจะไม่ทําแค่งานคุ้มกันแน่ๆ
“ข้าอยากจะขายสินค้าพวกนี้ให้กลุ่มเขี้ยวโลหิต ไม่ทราบท่านรู้จักหรือไม่”ไป๋จูเหวินถามพลางมองท่าทีของหลงอู่อย่างสนใจ
“นะ แน่นอนข้ารู้จัก เมืองของกลุ่มเขี้ยวโลหิตอยู่ระหว่างทางไปเมืองหลวงของอาณาจักรชิน ข้าสามารถนําทางให้ท่านได้นะขอรับ” หลงอู่ราวกับได้เห็นเส้นทางสว่าง หากมันอาสานําทางให้ไป๋จูเหวินมันก็จะมีโอกาสแสดงฝีมืออีกมากแน่ๆ
“ท่านรู้จักงั้นหรือ เช่นนั้นช่วยบอกทางพวกเราได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี หากทราบตําแหน่งละก็จะช่วยประหยัดเวลาให้ได้มากเลย
“ไม่ต้องบอกหรอก ข้ายินดีจะพาพวกท่านไปด้วยตัวเองเลย อ่อ ข้าไม่คิดเงินพวกท่านหรอกนะ” หลงอู่เสนอตัวอย่างกระตือรือร้น ทําเอาสีหน้าของเหม่ยหลินไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นางไม่อยากให้หลงอู่ตามมาแม้แต่น้อย
“ท่านอาจจะได้ยินไม่ชัด ข้าเพียงอยากทราบตําแหน่งเท่านั้น”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปทางพวกหลินหลินและปิงปิง
“การเดินทางคราวนี้ข้าอยากจะพักผ่อนร่วมกับภรรยาและลูกๆโดยไม่มีใครอื่นเข้ามายุ่งมากกว่า เพราะฉะนั้นแค่ท่านบอกตําแหน่งมาก็เพียงพอแล้ว”ไป๋จูเหวินพูดเสียงเรียบ แต่ก็แอบแฝงความเย็นยะเยียบเอาไว้นิดหน่อย ความจริงมันก็รําคาญที่หลงอู่เอาแต่มองเหม่ยหลินมาตลอด 3 วันที่เดินทางแล้ว
“ขอ ขอรับ………….”หลงอู่สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคําว่าลูกๆ นี่พวกมันถึงขั้นมีลูกกันแล้วงั้นหรือ แบบนี้จะไปเหลือที่ให้มันได้อย่างไร