บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 273 บาดเจ็บ
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 273 บาดเจ็บ
บาดเจ็บ
โครม!! ร่างของริษยาล้มลงในป่าแห่งหนึ่ง หลังจากใช้พลังส่วนใหญ่เพื่อหนีออกมาจากเมืองร้อยแปดอสูร ไม่ทราบเช่นกันว่าตนเองบินมานานเท่าไหร่ แต่เมื่อแน่ชัดแล้วว่าเหม่ยหลินไม่ได้ตามมานางก็ร่อยลงพื้นด้วยพลังที่มี และผลก็เป็นอย่างที่เห็น นางทิ่มหน้าลงดินอย่างสวยงามที่เดียว
“โถ่เอ้ย แทงซะทะลุเลย”ริษยากัดฟันกรอดพลางคลานไปที่แม่น้ํา แผลของนางลึกและเจ็บมาก แต่อย่างไรนางก็ต้องล้างดินออกจากบาดแผล นางไม่เหมือนโทสะที่สามารถสร้างผลึกแร่ปิดบาดแผลได้ ทําให้เวลาบาดเจ็บนางจะอ่อนแอลงไม่ต่างจากคนธรรมดาเลย
“ให้ตายสิ เปื้อนไปหมด”ริษยามองร่างกายของนางที่เต็มไปดิน แถมยังมีบาดแผลจากกระบี่ของเหม่ยหลินอีกต่างหาก แม้จะไม่เท่าอัตตา แต่นางก็ไม่ชอบให้ร่างกายมอมแมมเช่นนี้เท่าไหร่
เมื่อมองซ้ายมองขวาดูแล้วไม่เห็นใคร ริษยาจึงถอดเสื้อผ้าส่วนหนึ่งออกเพื่อชําระร่างกายในแม่น้ํา แต่น่าเสียดายที่ผู้ใช้พลังมารไม่สามารถจับสัมผัสของผู้ใช้พลังวิญญาณได้ ทําให้ริษยาไม่ทราบว่ามีคนกําลังเดินมาที่แม่น้ําด้วยเช่นกัน
“ยังไงก็เถอะ เจ้าว่าจะแน่นอนแค่ไหนกัน”เสียงของชายคนหนึ่งดึงขึ้น ทําเอาริษยารีบขึ้นจากน้ําทันทีพร้อมคว้าเสื้อผ้าของตนเองเอาไว้ หมายจะเอามาสวมใส่ แต่ใจหนึ่งก็คิดขึ้นได้ว่าหากตรงนี้มีคนอยู่อาจจะมีหมู่บ้านหรือเมืองอยู่แถวนี้ก็ได้ ซึ่งนั่นก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะมีหมออยู่ที่เมืองหรือหมู่บ้านพวกนั้น
“นายน้อยเชียวนะ ท่านบอกว่าสัมผัสถึงพลังเล็กๆได้” ชายอีกคนพูดพลางหัวเราะออกมา
“แต่ข้าไม่เห็นสัมผัสได้เลย แต่ก็อย่างว่าล่ะ คนพูดเป็นนายน้อยก็คงเอาเราไปวัดไม่ได้ แต่นี่พึ่งไม่กี่เดือนเองนะ” ชายทั้งสองยังคงพูดกันขณะเดินผ่านแม่น้ําที่ริษยานั่งอยู่ นี่พวกมันไม่เห็นนางหรืออย่างไร
“พะ พวกท่าน”ในเมื่ออีกฝ่ายมองไม่เห็น ริษยาก็คงต้องออกปากเอง
“ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ”ริษยาว่าพลางใช้มือยันก้อนหินริมแม่น้ําเอาไว้ เสื้อของริษยาเป็นสีชมพูอ่อนทําให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าที่ไหล่ของนางมีเลือดซึมออกมา
“แม่นาง เกิดอะไรขึ้น” ชายสองคนนั้นเห็นริษยาอาการไม่ดี มันจึงกระโดดลงมาที่ริมแม่น้ําทันที
“ข้าโดนคนทําร้ายมา แถวนี้มีหมอหรือไม่เจ้าคะ”ริษยาจับมือของชายที่เข้ามาช่วยทันที พลางจับแขนของมันเอาไว้แน่นราวกับคนที่กําลังหวาดกลัวอยู่
“หมอ” ชายทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะอุ้มริษยาขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วง นายน้อยของพวกเราอยู่แถวนี้ ท่านรักษาเจ้าได้แน่” ชายคนที่อุ้มริษยาขึ้นมาพูดพลางพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทําเอาริษยาสะดุ้งโหยง นี่พวกมันเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับใดกันถึงได้รวดเร็วเช่นนี้ อย่าบอกนะว่าพวกมันก็เป็นยอดฝีมือด้วย เช่นนั้นนางก็ไม่สมควรอาลาวาดเพราะหากโดนยอดฝีมือ 2 คน รุ่มในตอนที่บาดเจ็บก็เท่ากับตายเท่านั้น นางจะต้องแกล้งเป็นสาวน้อยไร้เรี่ยวแรงจนกว่าจะแยกกับพวกมันเสียแล้ว
“นายน้อย มีคนบาดเจ็บขอรับ” ชายคนที่อุ้มริษยามาพูด พลางพาร่างของริษยาลงมานอนที่พื้นเบื้องหน้าชายคนหนึ่ง ท่าทางจะเป็นนายน้อยที่พวกมันพูดถึง
“โดนแทงมางั้นหรือ” ชายที่ถูกเรียกว่านายน้อยถามพลางมองที่ไหล่ของริษยา
“จะ-เจ้าค่ะ ข้า ”ริษยากําลังจะตอบ แต่เมื่อนางเหลือบมองใบหน้าของนายน้อยเข้า หัวใจของนางก็กระตุกวูบทันที นายน้อยของพวกมันช่างหล่อเหลาเสียเหลือเกิน แถมการที่มันมียอดฝีมือเป็นบ่าวเช่นนี้ฐานะของมันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ นี่นางเจอเพชรงามกลางป่างั้นหรือ
“นะ นายท่าน ข้าเจ็บ”ริษยาแกล้งร้องครวญครางออกมาด้วยท่าทีเย้ายวน ก่อนจะจับไปที่ชายเสื้อของตนเอง
“นายท่านเจ้าคะ ช่วยรักษาข้าด้วย”ริษยาเปิดเสื้อของตนเองตรงจุดที่โดนแทง แต่เพราะตรงจุดที่โดนแทงมันคือช่วงไหล่ ทําให้นางเปิดเสื้อกว้างมากทีเดียว ชนิดที่ว่าเห็นเนินอกได้ชัดตาเลย
กวาด
“ไม่ต้องกังวล ข้า”นายน้อยที่กําลังจะเอื้อมมือไปจับบริเวณปากแผลของริษยาชะงักค้างไปนิดหน่อย ทําให้ริษยาแอบยิ้มในใจ มันคงตะลึงกับเรือนร่างของนางกระมัง นี่หากไม่มีบาดแผลอยู่รับรองว่ามันต้องหลงยิ่งกว่านี้แน่ๆ
หมับ! อยู่ๆมือของนายน้อยก็จับเข้ามาที่คอของริษยา ทําเอาริษยาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“เจ้าเป็นมาร”ร่างของริษยาสะท้านวาบ มันรู้ได้อย่างไร นางยังไม่แม้แต่จะปล่อยพลังมารออกมาเลยเสียด้วยซ้ํา หรือบนเนินอกของนางมันมีสัญลักษณ์มารกัน?
เปรี้ยง!! ริษยากัดฟันกรอดใช้ฝ่ามือซัดไปที่แขนของนายน้อยทันที ไม่รู้หรอกว่ามันรู้ได้อย่างไร แต่นางหวาดระแวงเจ้าสองคนที่เป็นบ่าวมากกว่า ตอนนี้เมื่อรู้ว่านางเป็นมารแล้วก็ช่วยไม่ได้ คงต้องจับนายน้อยคนนี้ไปเป็นตัวประกันเท่านั้น
กึก.ฝ่ามือของริษยาที่ซัดไปที่แขนของนายน้อยไร้ผลอย่างสิ้นเชิง ทั้งกําลังที่ลดไปเพราะอาการบาดเจ็บ แถมแขนที่ซัดไปยังเป็นข้างที่โดนแทงอีกต่างหาก ทําให้กําลังโจมตีแทบไม่มีเลย แต่นั่นควรจะโจมตีพวกต่ํากว่าระดับเทียนเซียนได้ไม่ยากนี่นา หรือว่าแม้แต่นายน้อยของพวกมันยังเป็นยอดฝีมือ
“พี่ไป๋ มีอะไรงั้นเหรอ” อยู่ๆที่ด้านหลังของนายน้อยคนนั้นก็ปรากฏร่างของเด็กสาว 2 คนโผล่ออกมา ทําให้ริษยาได้โอกาศเข้าไปคว้าเด็กคนหนึ่งมาได้
“ปิงปิง!” เด็กอีกคนร้องลั่นเมื่อนางคว้าตัวเด็กคนหนึ่งมาได้ ท่าทางนางคงต้องจับเด็กนี่เป็นตัวประกันไปก่อนกระมัง
“กรี๊ดด” อยู่ๆแขนของริษยาก็เย็นวาบขึ้นมา ทําเอานางแทบปล่อยเด็กคนนั้นลงไปแทบไม่ทัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทําไมเด็กคนนั้นถึงปล่อยไอเย็นออกมามากมายขนาดนั้น
เปรี้ยง!! ปล่อยเด็กไปได้ไม่กี่วินาที อยู่ๆร่างของนางก็ถูกกระสุนวายุสายหนึ่งกระแทกเข้าอย่างจังจนร่างของนางลอยออกไปอีกทาง กระสุนวายุนั่นแรงกว่าของตะกละอีก นี่พวกมันเป็นตัวอะไรกันแน่
ฟุบ! โชคดีที่ริษยาเป็นธาตุลม ทําให้ระหว่างลอยอยู่กลางอากาศ ยังใช้ธาตุลมช่วยหนุนตนเองไม่ให้กระแทกหน้าผาด้านหลังได้ ก่อนที่นางจะใช้ลมพาตัวเองหนีอีกครั้ง
“ซวยจริงๆ ดันมาเจอยอดฝีมือที่สัมผัสพลังมารได้”ริษยาว่า พลางใช้แรงเฮือกสุดท้ายหนีไปให้ไกลที่สุด ไม่ใช่ว่าคนที่สัมผัสพลังมารได้ด้วยตนเองต้องเป็นยอดฝีมือที่ใช้ชีวิตมายาวนานจนประสาทสัมผัสแรงกล้าแล้วไม่ใช่หรือไง แต่ดูยังไงเจ้าหนุ่มนั่นก็ยังไม่น่าจะอายุเกิน 100 ปีด้วยซ้ํา
“ต้องรีบหาทางรักษาริษยากัดฟันแน่นพลางกุมไหล่ตัวเองเอาไว้ ถึงจะล้างน้ําแล้ว แต่แผลของนางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงแล้ว ท่าทางจะเพราะดินที่เข้าไปในแผลแน่ๆ
“พลังมาร?” ระหว่างกําลังบินโดยไม่รู้ทิศทาง อยู่ๆริษยาก็สัมผัสได้ถึงพลังมารสายหนึ่งอยู่ใกล้ๆ แม้จะไม่ได้สูงมากเหมือนพวกนาง แต่ก็อยู่ระดับเทียนเซียนแล้ว ถึงอย่างไรมารระดับล่างก็เป็นลูกน้องของมารทั้ง 7 หากได้เจอมันคงช่วยรักษาบาดแผลให้ได้แน่ๆ
ตุบ ร่างของริษยาร่อนลงมาที่หน้าถ้ําแห่งหนึ่งทันที ท่าทางเจ้ามารตนนี้จะหลบซ่อนเพื่อฝึกฝนพลังมารอยู่กระมัง ที่มาแอบในถ้ําแบบนี้เพราะไม่อยากให้ใครมาเห็นสินะ
“นั่นใคร”ยังไม่ทันเดินเข้าไปในถ้ํา เสียงของมารด้านในก็ดังออกมาเสียก่อน ไม่แปลกเลยที่มันจะสัมผัสพลังมารของนางได้ เพราะมันเองก็เป็นมารเช่นกัน
“ข้าคือริษยา หนึ่งในมารทั้งเจ็ด ริษยาพูดพลางเดินเข้าไปในถ้ําช้าๆ เจ้าบ้านี่ไม่จุดเทียนเลยหรือไง ในถ้ํามืดไปหมด
“ริษยา”เสียงนั่นตอบมาด้วยท่าที่ประหลาดใจ ท่าทางมันจะไม่ใช่มารที่ราคะรวบรวมมา เลยยังไม่เคยเจอมารระดับสูงสินี่
“พอดีเลย ข้ากําลังอยากเจอพวกเจ้าพอดี” อยู่ๆน้ําเสียงของคนในถ้ําก็เปลี่ยนไป ทําให้ริษยารู้ทันทีว่ามันมีอะไรแปลกๆเสียแล้ว
ฟุบ! ริษยาตัดสินใจออกจากถ้ําทันที แต่นางยังไม่ทันได้ออกไป ปากถ้ําที่นางเข้ามาก็พลันปิดลงทันที
“อะไรกัน”ริษยาเบิกตากว้างมองไปรอบๆ นางยังสัมผัสพลังมารของอีกฝ่ายได้ แต่มองไม่เห็นตัวมันเลย
พรึบ! ริษยาจุดไฟดวงหนึ่งขึ้นมาเพื่อส่องทาง แต่มองไปทางไหนก็มีแต่ถ้ําเปล่าๆเท่านั้น สําหรับผู้ใช้ธาตุลมแล้วการโดนจับในห้องปิดแบบนี้นับว่าเลวร้ายมาก แถมขนาดทางเดินของถ้ํายังไม่มากพอให้นางบินอย่างอิสระด้วย
“ไม่นึกว่าจะได้พบเร็วเช่นนี้”เสียงของมารตนนั้นราวกับกระซิบอยู่ข้างหูไม่มีผิด แต่นางกลับไม่สามารถมองหามันเจอเลย หรือว่ามันจะเป็นธาตุดิน?
คิดได้เช่นนั้นริษยาก็เรียกมีดออกมา พลางบังคับให้มันจ่อไปทั้ง 6 ทิศเผื่อมันจะออกมา
“เจ้าบาดเจ็บ…”ริษยาใจหายวาบไม่นึกว่าจะโดนเห็นบาดแผลที่ไหล่ ท่าทางการจุดไฟของนางจะทําให้นางเสียเปรียบมากกว่า แต่ตอนนี้หากนางไม่จุดไฟเอาไว้นางก็มองไม่เห็นมันเสียด้วย
ครีดดดด….อยู่ๆผนังด้านหนึ่งก็บิดเบี้ยวก่อนที่ร่างของชายคนหนึ่งจะเดินออกมาจากผนังราวกับมันสามารถเดินทะลุออกมาได้เฉยๆ
“ทะ โทสะ”ริษยาตะลึงวาบเมื่อเห็นดาบสีเขียวในมือของชายตรงหน้า
“ถึงข้าจะบาดเจ็บ แต่ข้าก็แข็งแกร่งกว่าเจ้านะ ริษยาคํารามพลางบังคับให้มีดของนางพุ่งเข้าใส่หยงเว่ย
เปรี้ยง!! โทสะฟาดหน้าดาบที่เดียวมีดของริษยาก็โดนตีกลับมาจนหมด เพราะพื้นที่ในถ้ําค่อนข้างแคบ ทําให้มีดของริษยาเคลื่อนไหวได้ไม่ดีนัก
เปรี้ยง! เห็นโทสะเดินเข้ามาใกล้ ริษยาก็พลันปล่อยฝามือเข้าหามันทันที แต่มืออีกข้างของโทสะก็จับมือของนางเอาไว้ได้
“อีก…”อยู่ๆมือของริษยาก็ร้อนวาบขึ้นมา ไม่ทราบทำไมมือของโทสะถึงมีไอสีดําลอยออกมาได้
“โทสะ นี่มันอะไร” ริษยากัดฟันแน่น พลังมารของโทสะร้อนจนน่าตกใจ แถมพอโดนสัมผัสพลังมารของริษยายังราวกับโดนกันกร่อนอีกต่างหาก
“เจ้าไม่จําเป็นต้องรู้”โทสะพูดพลางยกดาบขึ้นสูง พริบตานั้นริษยาปล่อยพลังมารเพื่อดึงเอามีดกลับมาโจมตีโทสะจากด้านหลัง
ฉีกๆๆๆๆ มีดของรายาปักเข้าที่หลังของโทสะ แต่เพราะบนร่างของมันมีเกราะมรกตอยู่ ทําให้ปลายมีดแทงเข้าได้ไม่ลึกเท่าไหร่ แต่ดาบของโทสะนั้นไม่ได้หยุดอยู่กับที่
“กรี๊- ” เสียงร้องของริษยายังไม่ทันออกมา ร่างของนางก็โดนฟันทิ้งไปเป็นที่เรียบร้อย
พริบตานั้นพลังมารในร่างของนางก็ไหลออกมา เข้าไปในตัวมีดทั้ง 6 เล่มทันที เมื่อพลังมารกลับมาในมีด พวกมันก็ลอยออกมาจากแผ่นหลังของโทสะ ก่อนจะรวมตัวกันเป็นทรงเหมือนดอกไม้ไม่มีผิด
แกรักโทสะก้มลงเก็บมีด 6 เล่มที่เรียงตัวกันอยู่ขึ้นมา ก่อนจะปล่อยให้พลังมารในมีดไหลเข้ามาในร่างของตนเอง
“กรี๊ดดดดดดด เจ้า เจ้าโทสะ แกฆ่าข้า”เสียงกรีดร้องที่ก่อนหน้านี้ไม่ออกมา ดังเข้ามาในหัวของโทสะในทันที เมื่อพลังมารของมีดบินเข้ามาในร่างของโทสะ
“ข้าไม่ใช่โทสะ” หยงเว่ยพูดพลางเก็บมีดบินและกาบมรกตเข้ามิติของตนไป ด้วยพลังของริษยา ทําให้พลังมารในร่างของหยงเว่ยเพิ่มขึ้นมาก ตอนนี้มันมั่นใจแล้วว่าจะสามารถต่อกรกับพวกมารทั้ง 7 ได้