บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 282 ยุคสมัยใหม่
บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 282 ยุคสมัยใหม่
ตอนที่ 282
ยุคสมัยใหม่
“นี่มันบ้าอะไรกัน” ทันทีที่ราคะกลับมายังปราสาททางเหนือของอาณาจักรสิ่งที่รอนางอยู่คือร่องรอยการต่อสู้และสภาพห้องใต้ดินที่เหลือแต่ความว่างเปล่านอกจากมารที่นางเลี้ยงเอาไว้ทั้งหมด จะไม่อยู่แล้วเสบียงอาหารยังหายไปจนเกลี้ยงนี่มันโจรขึ้นหรืออ ย่างไรกัน
“หรือว่าพวกเด็กๆจะรวมตัวกันหนี”โลภะว่าพางมองไปรอบๆ
“ไม่ นี่เป็นฝีมือของโทสะ” อัตตาว่าพลางนําแขนมรกตที่เกียจคร้านหักทิ้งเอาไว้มาโยนกลางห้องใต้ดิน แขนมรกตข้างนี้มันเคยเห็นมาก่อนมันติดอยู่กับร่างของโทสะแน่ๆ แต่ที่อัตตาสงสัยคือตอนนี้เกียจคร้านเสร็จโทสะไปหรือยัง
“ทั้งริษยาทั้งเกียจคร้านน่าจะพลาดท่าไปแล้ว ข้าถึงได้บอกไงว่าให้พวกเราทะลุผ่านระดับเทียนเซียนกันให้หมดก่อน” อัตตาว่าพลางเหยียบแขนมรกตของหยงเว่ยจนหักเป็นชิ้นๆ
“เจ้าจะโทษว่าเป็นความผิดข้างั้นเหรอ” ราคะถามพลางหันมามองอัตตาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ก็ใช่ มันเป็นความผิดเจ้า หากเจ้าไม่ใจร้อนอยากล่อลวงจักรพรรดิของอาณาจักรอู่ขนาดนั้นเราคงไม่เสียพวกเด็กๆไป” อัตตาว่าพลางมองมาทางราคะด้วยท่าที่เอาเรื่อง ต่างจากก่อนหน้านี้ที่มันทําเหมือนราคะเป็นหัวหน้าลิบลับ
“คนที่อยากครองอาณาจักรชูจนตัวสั่นมันเจ้าไม่ใช่หรืออย่างไร” ราคะถามพลางมองอัตตากลับ ด้วยพลังระดับเดียวกันทําให้ทั้งสองกลืนกันไม่ลง แถมราคะยังเหลื่อมล้ํากว่านิดหน่อยเพราะนางสามารถดูดกลืนเอาพลังวิญญาณจากผู้ร่วมหลับนอนกับนางได้แต่ตอนนี้นางบาดเจ็บจากพิษของอสูรปักเป้า ทําให้อัตตาดูจะได้เปรีย บกว่า
“แผนของข้าไม่ได้ผิดพลาดเสียหน่อย หากไม่ใช่เพราะเจ้าดื้อดึงจะไปอาณาจักรอู่ต่อ” อัตตาเถียงพลางปล่อยพลังมารออกมาจนในห้องหนักอึ้งไปหมด
“มันเพราะอาณาจักรชูสู้อาณาจักรโฮไม่ได้ไม่ใช่หรือไง”ราคะว่าพลางปล่อยพลังมารออกมาเช่นกัน อาณาจักรโฮที่นางว่าคืออาณาจักรที่อยู่เหนืออาณาจักรซูโดยมันมีอาณาเขตทางใต้ติดกับอาณาจักรหลิวและมีเขตทางตะวันออกติดกับอาณาจักรชินนั่นเอง แต่ เดิมพวกมารนั้นมาจากอาณาจักนโฮเนื่องเพราะอาวุธของมารทั้ง 7 นั้นอยู่ที่อาณาจักรโฮทั้งหมด พวกของราคะแต่เดิมเป็นเด็กที่เกือบจะตายเพราะความยากจนในอาณาจักรโฮ ทําให้พวกนางอยากจะยึดครองอาณาจักรโฮมาเป็นของตนเอง แต่เพราะอาณาจักรโฮมียอดฝีมือเป็นจํานวนมาก แถมยอดฝีมือเกือบทั้งหมดยังขึ้นตรงต่อ ราชสํานักถึงแม้พวกนางจะมีคนระดับเจ้าสวรรค์ 2 คนแล้วก็ตาม พวกนางก็ยังไม่คิดว่าจะสามารถสู้กับเหล่ายอดฝีมือพวกนั้นได้ พวกนางจึงอยากได้กําลังเสริมโดยขั้นตอนแรกราคะใช้ศพของชูเฟิงเพื่อแฝงอัตตาลงไป แต่กําลังของอาณาจักรชูกลับไม่มากพอที่จะต่อต้านอาณาจักรโฮ แถมอาณาจักรโฮยังเป็นมิตรกับอาณาจักรรอบๆการโจมตีของอาณาจักรชูยังไม่เพียงพอ ทําให้ราคะเลือกที่ จะล่อลวงหมิงเพื่อบังคับอาณาจักรอู่ให่ร่วมมือกับอาณาจักรชูเพื่อยึดอาณาจักรโฮมาให้ได้เพราะหากทําแบบนั้นนอกจากจะได้กําลังมหาศาลแล้วอาณาจักรชินยังไม่เข้ามายุ่งอีกต่างหาก แต่แผนทั้งหมดกลับล่มไม่เป็นท่า ทั้งเพราะไปจูเหวินมาเจอมารในวัง ทั้งอูหมิงที่ดันฝึกวิชาเทวะปราบมารจนสําเร็จ ไหนจะอาวุโสเทียนหมิงอีกต่า งหาก ทําให้แผนทั้งหมดล้มไม่เป็นท่าสุดท้ายพวกนางก็ต้องกลับมาใช้แผนสํารองแต่มารที่พวกนางเตรียมเอาไว้เพื่อฟูมฟักกลับโดย พาตัวไปจนหมด
“เช่นนั้นก็เก็บตัวก่อน ข้ากับตะกละจะออกตามหาพวกเด็กๆเองพวกเจ้าก็ฟื้นพลังซะ เมื่อพวกข้าทะลุผ่านระดับเทียนเซียนไปได้เมื่อนั้นเราจะบุกอาณาจักรโฮกัน” โลภะเสนอพลางมองทั้งสองคนที่กําลังแยกเขี้ยวใส่กันอย่างกับสุนัขกําลังจะกัดกัน ตอนนี้หากอัตตากับราคะแตกคอกัน แผนการโจมตีอาณาจักรโฮก็แทบเป็นไปไม่ได้
“ได้ เรื่องนี้เอาไว้ก่อน” ราคะว่าพลางถอยออกมา ตอนนี้นางเสียเปรียบจริงๆ
“หึ” อัตตาไม่ได้ตอบอะไรเพียงส่งเสียงออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจเท่านั้น มันเดินออกไปที่ประตูทางใต้ดินพลางหันมามองตะกละครู่หนึ่ง
“ข้าเองก็ตามหาพวกเด็กๆด้วย ไม่นานพลังมารของพวกมันก็จะตื่นและก็คงก่อเรื่องเข้าแน่ๆ” อัตตาพูดจบก็เดินหายไปเหลือแต่พวกราคะตะกละและโลภะเท่านั้น
“โอเค ตกลงตามนี้ เจ้าเองก็อย่าลืม.”โลภะกําลังจะหันมาสั่งราคะแต่นางกลับค้อนขวับใส่มันเสียก่อน
“ข้าจะไปเพิ่มพลังวิญญาณให้ถึงระดับเทียนเซียน เจอกันคราวหน้าเจ้าแก่นั้นเอาชนะข้าไม่ได้แน่”สิ้นเสียงราคะเองก็เดินออกไปเช่นกันเหลือแต่ตะกละกับโลภะเท่านั้น
“ท่านอาจารย์” ขณะเดียวกันอี้หมิงที่กําลังดูแลการซ่อมแซมวังหลวงอยู่ก็เรียกหาอาวุโสเทียนหมิงที่กําลังจะออกเดินทางเพื่อตามจัดการพวกมารให้เรียบร้อย
“ข้ารู้สึกไร้พลังจริงๆ”อูหมิงว่าพลางถอนหายใจเบาๆ ตอนที่ราคะจับมันกดกับเตียงมันแทบต่อต้านอะไรไม่ได้เลยครั้งหนึ่งมันเคยนึกว่าตัดใจจากโลกแห่งการต่อสู้แล้ว แต่พอโดนศัตรูที่เหนือกว่า ข่มเหงตัวมันกลับสันเพิ่มด้วยความรู้สึกต้อยต่ํา ไม่ว่าอย่างไรมันก็อยากจะแข็งแกร่ง
“เจ้าทํางานหนักเกินไปแล้ว”อาวุโสเทียนหมิงว่าพลางส่ายหัวช้าๆ แต่เดิมมันคิดว่าอู่หมิงจะก้าวขึ้นมาเป็นยอดฝีมือร่วมกันกับไปจูเหวินเสียอีกแต่เพราะตําแหน่งองค์จักรพรรดิทําให้มันไม่อาจ ฝึกฝนได้อย่างเต็มที่มันทราบว่าอู่หมิงยังคงแอบฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ เพราะพลังวิญญาณของอี้หมิงใช่ว่าจะหยุดนิ่ง แต่ก็ไม่ได้ฝึกฝนหนักจน สามารถเติบโตได้เช่นเดียวกับไปจูเหวินที่ตอนนี้ใกล้ถึงระดับเทียนเซียนเต็มที่ด้วยวัยเพียง 20 ปีไม่ว่าจะไปที่ไหนมันก็ต้องถูกนับว่าเป็นยอดอัจฉริยะยิ่งไม่ต้องนับเหม่ยหลินที่ก้าวเข้าระดับเทียนเซียนไปแล้วแถมยังรักษาพลังอสูรเอาไว้ได้อีก ยุคสมัยใหม่ได้ก้าวขี้ นมาแล้วแต่อี้หมิงกลับไม่ได้รวมอยู่ในนั้น
“เสด็จพี่”ในขณะที่อี้หมิงกําลังลําบากใจ คนที่เดินออกมาจากด้านหลังของมันคืออู่เทียนเหวินนั่นเอง
“เทียนเหวิน” อู่หมิงขมวดคิ้วพลางมองมาทางอู่เทียนเหวิน ไม่ใช่มันกําลังพาเหม่ยฮวากลับบ้านไปหาพ่อแม่ของนางหรือ
“ข้าได้ยินว่ามีมารบุกเข้ามาในวัง” อู่เทียนเหวินว่าพลางมองไปรอบๆ สภาพวังส่วนที่อัตตาสู้กับอสูรปักเป้าค่อนข้างเละเทะทีเดียว
“ไม่ต้องห่วง ไปจูเหวินกับอาจารย์กลับมาพอดี
“ความจริงข้าได้ฟังเรื่องที่เกิดกับท่านแล้ว”อูเทียนเหวินว่าพลางมองมาทางอู่หมิง มันทราบนิสัยของพี่ชายดีครั้งหนึ่งมันเคยบาดเจ็บสาหัสเพราะไม่ยอมแพ้กับศัตรูที่เก่งกว่า วันนี้มันโดนกดดันมันไม่มีทางนั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างสงบสุขได้หรอก
“พี่ไม่”
“ข้าจะช่วยงานท่านเอง” อู่เทียนเหวินว่าพลางยิ้มออกมา ครั้งก่อนเพื่อมันอูหมิงยอมรับตําแหน่งองค์จักรพรรดิ มาคราวนี้มันก็อยากจะทําอะไรเพื่อพี่ชายคนนี้บ้าง
“ข้าจะรับตําผู้สําเร็จราชการแทน ส่วนท่านก็ทําอย่างที่อยากทําเถอะ”ได้ยินเทียนเหวินพูดออกมา อี้หมิงก็ยังคงมีท่าที่ลังเลอยู่จักรพรรดิที่ไม่ดูแลบ้านเมืองเอาแต่ออกฝึกฝนวิชาแบบนั้นดีแล้วหรือ
“สงครามก็จบลงแล้ว การจัดการหลังจากนั้นก็เสร็จไปเกือบหมดแล้วแถมข้ายังมีทั้งพี่ 3 พี่หญิงคอยช่วย ข้าไม่ทําเละหรอก”อู่เทียนเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง แน่นอนว่ามันจะไม่รับตําแหน่งองค์จักรพรรดิ ตําแหน่งนั้นยังคงเป็นของคู่หมิงอยู่ มันเพียงดูแล แทนให้ชั่วคราวเท่านั้น
“ขอบใจ”อู่หมิงว่าพลางเรียกเอากระบี่ทัณฑ์สวรรค์ออกมาก่อนจะถอดฉลองพระองค์ตัวนอกออกเหลือเอาไว้แต่ชุดสีขาวด้านในเท่านั้น
“พอใจแล้วก็กลับมานะ ข้าดูแลให้ท่านได้ไม่นานหรอก” เทียนเหวินว่าพลางโบกมือลาพี่ชายมันอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะฝึกฝนให้หนักแล้วรีบกลับมาให้ไวที่สุด”อูหมิงยิ้มรับพลางหันไปมองอาจารย์ของมัน เห็นอูหมิงตัดสินใจจะออกเดินทางอีกครั้งอาวุโสเทียนหมิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะพาอูหมิงออกไปพร้อมกับมัน
“เจ้าว่าอะไรนะ ลูกสาวงั้นเหรอ” จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางมองมาทางมังกรธรณีที่กําลังจับท้องของเหม่ยหลินอยู่ หากมองดูแล้วก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าท้องของเหม่ยหลินนั้นโตขึ้นมากตอนนี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่านางเป็นคนท้อง
“ใช่ เป็นผู้หญิงไม่ผิดแน่”มังกรธรณีว่าพลางหลับตาลงเพื่อสัมผัสทารกในครรภ์ ในที่สุดอายุครรภ์ก็มากพอที่จะแยกแยะเพศของเด็กแล้วทําให้เหล่าราชารวมทั้งตัวไปจูเหวินเองมารวมตัวกันอยู่ในห้องของเหม่ยหลินจนแน่นไปหมด
“ท่านพี่เองก็โตมาแบบนี้สินะ” เหม่ยหลินว่าพลางมองพวกท่านน้าที่กําลังวนไปวนมาอยู่ในห้องอย่างวุ่นวาย
“ก็ ประมานนั้นไปจูเหวินตอบพลางมองไปรอบๆ มันก็ชินกับความวุ่นวายของพวกท่านน้าแล้วล่ะ เพราะพวกท่านก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วพอไปจูเหวินบอกอยากได้อะไรก็พากันแย่งหา มาให้ตลอดบางที่พวกท่านอาจจะเอาใจไปจูเหวินมากเกินไปเสียด้วยซ้ํา
“แต่จริงๆท่านเองก็ไม่ต่างกันนะ”เหม่ยหลินว่าพลางมองมาทางไปจูเหวินตั้งแต่พามาที่เขตอสูรผาไร้ก้น ไปจูเหวินก็เตรียมของรอลูกเกิดออกมาอยู่ทุกวันจนบางทีก็ดูเหมือนพวกท่านน้ามีเพิ่มขึ้นมาอีกคนไม่มีผิด
“ช่วยไม่ได้นี่นา”ไปจูเหวินยิ้มพลางจับไปที่ท้องของเหม่ยหลินเพราะในท้องของนางคือลูกสาวของไปจูเหวินไม่ใช่หรือมันก็ต้องกังวลเป็นธรรมดา
“จริงสิ ถ้าเป็นลูกสาวละก็”เหม่ยหลินว่าพลางจับไปบนมือของไปจูเหวินพลางกุมือของมันที่อยู่บนท้องของนางเอาไว้
“ไปหลินสินะ”ไปจูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา เพราะเป็นลูกสาวไปจูเหวินเลยคิดจะเอา หลิน จากชื่อเหม่ยหลินมาใช่ตั้งชื่อลูกส่วนไปก็เป็นแซ่ของตัวมันเองที่ได้มาจากท่านน้าตั้งให้จากสีของตัวมารดามันจึงยึดติดกับแซไปมากกว่าแซ่ชินเสียอีก แถมนางยังเป็นลูกสาวที่ได้พลังอสูรต่อจากตัวมันแซไปและชื่อหลินจึงเป็นสิ่งที่ไปจูเหวินเลือกเอาไว้หากลูกออกมาเป็นลูกสาวนั่นเอง
“เหมือนของไปไปเลย”
“เหมือนของหลินหลินเลย” อสูรน้อยสองตนพูดพลางมองไปที่ท้องของเหม่ยหลินทําเอาตัวเหม่ยหลินหัวเราะออกมา
“พอน้องคลอดออกมาแล้ว ก็ต้องฝากพวกเจ้าช่วยกันดูแลด้วยนะ” เหม่ยหลินเลื่อนมือไปลูบหัวไปไปกับหลินหลินช้าๆ ไปหลินเองก็มีพลังดึงดูดเหล่าอสูรอย่างไม่ต้องสงสัยนางเองก็น่าจะได้รับความรักจากเขตอสูรแห่งนี้ด้วยอย่างแน่นอน