บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 287 ป่วนงานแต่ง
บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 287 ป่วนงานแต่ง
ตอนที่ 287
ปวนงานแต่ง
“ท่านพ่อ ดูสิ ของตกแต่งเยอะแยะเลย” หลังจากไปจูเหวินจัดการงานที่เมืองร้อยแปดอสุรเสร็จเรียบร้อยตัวไปจูเหวินก็พาไปหลินมาที่สํานักเทพจุติที่ตั้งอยู่บนยอดเขาทางเหนือของอาณาจักรกู้เพื่อร่วมพิธีแต่งงานของต้าชิงและต้าเฉิน แน่นอนว่าพวกมันไม่ยอมแต่งแน่ถ้าไปจูเหวินไม่ร่วมงานด้วย แถมพอไปจูเหวินมาเทียนเหวินและซูหลานเองก็มาด้วยเช่นกัน ทําเอาเจ้าสํานักคนก่อนหรือพ่อของหวังจิ้งและหวังลี่ยิ้มแก้มปริ เพราะนอกจากบุตรสาวจะได้คู่แล้วมันยังได้หน้าอย่างมากเพราะนอกจากหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรจะมาร่วมงานแล้วยังมีผู้สําเร็จราชการแทนและพระขนิษฐายังมาร่วมงาน อีกต่างหากแบบนี้ชื่อเสียงของสํานักเทพจุติจะยิ่งโด่งดังแน่ๆ
“ไปหลิน เจ้าอย่าซนล่ะ”ไปจูเหวินว่าพลางเดินเข้าไปทักทายแขกในงานวันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนตกแต่งสถานที่เพราะไปจูเหวินเพิ่ง จะมาถึงเท่านั้นแถมฤกษ์ดีของปีนี้ยังอีก 2 วันกว่าจะถึงทําให้ไปจูเหวินและพวกไปหลินต้องพักอยู่ที่สํานักเทพจุติร่วม 3 วันก่อนจะเดินทางต่อไปยังอาณาจักรชิน เรียกได้ว่าการเดินทางคราวนี้ของไป หลินและพวกอสูรคุ้มค่าไม่น้อย
“ท่านพ่อ พี่หลินหลินจะพาข้าไปเที่ยวในเมืองตีนเขาข้าขอไปได้ไหม” หลังจากเที่ยวชมในสํานักจนหมดไปหลินก็มาขอออกไปเที่ยวในเมือง
“ท่านหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร เมืองข้างๆเป็นเมืองในปกครองของเรารับรองไม่มีใครกล้าทําอะไรบุตรสาวท่านหรอก” พ่อของหวังจิ้งและหวังลี่พูดพลางยิ้มแก้มปริ
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ”ไปจูเหวินว่าพลางยิ้มบางๆถ้ามีหลินหลินกับไปไปอยู่ไปจูเหวินก็ไม่ค่อยห่วงไปหลินเท่าไหร่เพราะหลินหลินเก่งเรื่องเดินทางนางไม่หลงทางอย่างแน่นอนส่วนไปไปนั้นเป็นอสูรระดับบรรพกาลหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนางช่วยได้มากทีเดียว
“เย้”ไปหลินพอได้รับอนุญาตก็วิ่งไปหาหลินหลินกับไปไปทันทีส่วนปิงปิงเองก็เดินตามไปอย่างรวดเร็วท่าทางพวกนางจะชอบอยู่กับไปหลินไม่น้อยเลยส่วนหงเยวนั้นกําลังช่วยงานของสํานักเทพจุ ติอยู่ทําให้นางไม่สามารถลงไปกับเด็กๆได้
“ท่านหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร ข้ายินดีอย่างมากจริงๆขอรับที่ท่านให้เกียรติมาในงานแต่งของบุตรสาวข้า” พ่อของหวังจิ้งและหวังลี่พูดพลางยิ้มบางๆ
“ด้วยความยินดีขอรับ แถมเจ้าบ่าวก็เป็นคนของข้าด้วยข้าจะไม่มาได้อย่างไร”ไปจูเหวินยิ้มรับพลางพูดคุยกับพ่อของหวังจิ้งและหวังลื่อย่างจริงจัง เพราะหลังจากนี้ตัวไปจูเหวินอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากต้าชิงและต้าเฉิน หากทําเช่นนั้นก็อยากให้เจ้า สํานักคนก่อนอย่างพ่อของหวังจิ้งและหวังลี่ได้เข้าใจเสียก่อน
ตูม!! ยังไม่ทันคุยกันจบ อยู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นที่ประตูสํานักทําให้พ่อของหวังจิ้งและหวังลี่รีบออกไปดูทันที
“นี่มันอะไรกัน” พ่อของหวังจิ้งและหวังลี่พูดพลางมองรอยฝ่ามือบนประตูสํานักอยู่ๆที่ประตูสํานักก็มีรอยมือกดลงไปบนเนื้อไม้ลึกกว่า 5 เซ็นท่าทางจะเป็นฝ่ามือที่รุนแรงไม่น้อย ส่วนด้านข้างฝ่ามือนั้นติดกระดาษเอาไว้ว่า
“อย่าหวังจะได้จัดงานมงคล ตราบใดที่ข้ายังอยู่”
ข้อความในกระดาษนั้นทําให้พ่อของหวังจิ้งและหวังลี่หน้าเสียไปมากทีเดียว ทําให้ไปจูเหวินอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่ามันเกิดอะไร
บน
“น่าจะเป็นชายคนหนึ่งที่เคยมาขอหวังจึงกับหวังลี่แต่งงานขอรับ” พ่อของหวังจิ้งและหวังลี่พูดพลางแกะกระดาษออกมาก่อนหน้านี้ชื่อเสียงของสํานักเทพจุติเริ่มกว้างไกลมากขึ้น ทําให้มีคนมาขอบุตรสาวของมันไปเป็นลูกสะใภ้ไม่น้อย แต่เพราะพวกนางคือ บุตรสาวของสํานักเทพจุติ ทําให้พวกนางไม่อาจแต่งงานกับคนที่ต้องการให้พวกนางออกจากสํานักไปอยู่กับสามีได้ และเหนืออื่นได้พวกนางต่างมีคนในใจกันอยู่แล้ว ทําให้พวกนางปฏิเสธคําขอไปจนหมดทําให้มีบางคนที่ยังแค้นอยู่
“ท่านพอจะทราบไหมว่าคนทําคือใคร”ไปจูเหวินถามเสียงเรียบพลางมองรอยฝ่ามือบนประตู เรื่องกําลังนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ผู้ลงมือควบคุมฝามือได้ไม่เลวเลยเพราะนอกจากรอยมือแล้วก็ไม่มีรอยแตกบนประตูเลยแม้แต่น้อย คาดว่าผู้ลงมือคงมีวิชาฝามือไม่เลว
เลย
“น่าจะเป็นสํานักฝามือเร้นลับขอรับ พวกมันอยู่ในเมืองด้านล่าง” พูดจบพ่อของหวังจิ้งกับหวังลี่ก็หน้าซีดเผือดทันทีไม่นึกว่าพวกมันจะกําแหงกับสํานักเทพจุติเอาตอนนี้ ทั้งๆที่พวกมันกลายเป็นสํานักขนาดใหญ่แล้วแท้ๆ แต่ที่แย่ที่สุดคือมันพึ่งรับปากเรื่อง ความปลอดภัยของบุตรสาวไปจูเหวินไปเมื่อครู่เองแท้ๆยังไม่ถึง 10 นาทีก็เกิดเรื่องกับสํานักในเมืองแล้ว
“งั้นหรือ ข้าจะลงไปตามบุตรสาวข้าก่อนก็แล้วกัน”ไปจูเหวินว่าพลางเดินออกจากสานักไป อันที่จริงมันไม่ได้ห่วงความปลอดภัยของไปหลินนักหรอกเพราะสํานักที่ว่าคงทําอะไรไปไปไม่ได้แต่กลัวพวกนางจะลงมือเกินไปต่างหาก
“ลูกพี่ เด็กพวกนั้นพึ่งออกมาจากสํานักเทพจุติไม่ใช่เหรอ” ชายสองคนในชุดสีม่วงพูดพลางมองมาทางกลุ่มของพวกไปหลินในสายตาคนนอกแล้วมีเพียงไปหลินเท่านั้นที่มีพลังวิญญาณแม้จะน่าตกใจสําหรับเด็ก 5 ขวบ แต่ก็ไม่ใช่พลังฝีมือสูงส่งไร้เทียมทานอะไร
“ท่าทางจะเป็นแขกของพวกมันแน่ๆ” ชายอีกคนว่าพลางยิ้มออกมาเห็นพวกนางเดินเข้าเมืองโดยไม่มีคนคุ้มกันแบบนี้มันกลับคิดว่าช่างประมาทเสียเหลือเกิน จริงอยู่ที่สํานักเทพจุติขึ้นมาเป็นใหญ่ในเมืองแห่งนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสํานักอื่นๆจะยอมจํานนยิ่งนายน้อยของพวกมันที่โดนปฏิเสธการหมั้นหมายมากยิ่งแตกหัก กันเข้าไปใหญ่พอรู้ว่าแม่นางฝาแฝดจะแต่งงาน มันก็ออกคําสั่ง ให้ไปปวนงานแต่งทันที
“ดูชุดพวกนางสิ พวกนางต้องเป็นลูกหลานของเศรษฐีแน่ๆถ้าจับตัวพวกนางไว้สํานักเทพจุติต้องโดนตําหนิยกใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย” ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้มออกมา ตอนนี้เทพธิดาคู่อย่างหวังจิ้งและหวังลี่เก็บตัวในพิธีแต่งงาน คงไม่ออกมาแน่ๆ ส่วนคนอื่นๆในสํานักก็ยังไม่มีพลังสูงมากเท่าไหร่ ทั้งนี้เพราะวิชาเทพประสานไม่ ได้ถ่ายทอดให้กับศิษย์ทั่วไปนั่นเอง
“เอาเลย” ชายชุดม่วงที่ถูกเรียกว่าลูกพี่พูดพลางพุ่งตัวไปข้างหน้า เพียงอุ้มเด็กไปคนละ 2 ก็สามารถลักพาตัวพวกนางได้อย่างง่าย ดายแล้ว
โครม! ทันทีที่ชายคนหนึ่งอุ้มร่างของไปไปขึ้นมามันก็ล้มคว่ํากับพื้นทันทีเพราะน้ําหนักของไปไปไม่ธรรมดาเลย
“อากก” ส่วนอีกคนนั้นพอจับโดนตัวปิงปิงเข้าก็แทบจะโดนไอเย็นแช่แข็งทันที ทําเอามือข้างที่แตะปิงปิงเข้าขยับไม่ได้ในพริบตา
“หนักชะมัด นี่เจ้ากินอะไรเข้าไปเนี่ย” ชายชุดม่วงว่าพลางมองมาทางไปไป
“เจ้าว่าข้าหนักงั้นเหรอ”ไปไปว่าพลางยกแขนหมายจะทุบอีกฝ่ายสักทีเพราะร่างจริงของนางคือมังกรหินทําให้นางมีน้ําหนักมากแม้จะอยู่ในร่างมนุษย์ก็ตาม ทําให้เรื่องน้ําหนักเป็นปมด้อยหนึ่งของนางเลยพอโดนพูดว่าหนักใส่นางก็เตรียมตัวเหวี่ยงทันที
หมับ! ไปจูเหวินที่ตามมาทีหลังเข้ามาห้ามไปไปเอาไว้ก่อนเจ้านี่ยังระดับไม่ถึงเทียนเซียนเสียด้วยซ้ํา ขึ้นโดนไปไปตบเอาได้เละแน่
“พวกเจ้าเป็นคนของสํานักไหน”ไปจูเหวินว่าพลางมองชายชุดม่วงทั้งสองคนด้วยสีหน้าดุดัน ไม่ว่ามันจะเป็นคนของสํานักฝามือเร้นลับหรือไม่แต่การพยายามลักพาตัวบุตรสาวและอสูรของไปจูเหวินนั้นนับเป็นเรื่องผิดพลาดร้ายแรงทีเดียว
“ พวกข้า…” ชายชุดม่วงทั้งสองสัมผัสพลังวิญญาณของไปจูเหวินได้ก็หน้าซีดเผือดก่อนจะวิ่งออกไปทันที
วูบ..อยู่ๆร่างของพวกมันก็โดนดันกลับมายืนที่เดิมด้วยฝ่ามือหมอกควันกบดาน ทําเอาพวกมันหน้าเหรอหราทันที
“พาข้าไปหาหัวหน้าพวกเจ้าไปจูเหวินว่าพลางใช้สองมือจับบ่าของชายทั้งสองเอาไว้ ทําเอาพวกมันไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย
“ขะ ขอรับ เข้าใจแล้วขอรับ” ชายทั้งสองพูดพลางรับปากไปจูเหวินแต่โดยดี แม้พวกมันจะสู้ไปจูเหวินไม่ได้ แต่หากเป็นเจ้าสํานักของพวกมันละก็…
“ท่านพ่อ คนพวกนี้พยายามจะอุ้มไปหลินเจ้าค่ะ”ไปหลินว่าพลางทําแก้มปองด้วยท่าที่ไม่พอใจ นางอยากจะมาเดินเที่ยวในเมืองอื่นที่ไม่ใช่เมืองร้อยแปดอสูรบ้างแท้ๆ แต่พวกนี้กลับเข้ามาทําเสียเรื่องซะได้
“ได้ พ่อจะจัดการให้”ไปจูเหวินว่าพลางเดินตามทั้งสองคนไปช้าๆ
“ท่านเจ้าสํานัก” ทันทีที่มาถึงหน้าประตู ไปจูเหวินก็เห็นคําว่าสํานักฝามือเร้นลับแขวนเอาไว้บนประตูอย่างชัดเจนแถมคนในสํานักยังแต่งกายเหมือนเจ้าสองคนที่พยายามลักพาตัวไปหลินอีกต่างหากนี่พวกมันกล้าทําเรื่องแบบนี้ทั้งๆที่อยู่ในชุดสํานักเนี่ยนะ หรือเจ้าสํานักเองก็ให้ท้ายพวกมัน?
“มีอะไร ทําไมเจ้าถึงจับคนของเราเอาไว้” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินออกมาด้วยท่าทีรีบร้อนเมื่อเห็นคนของมันโดนจับเอาไว้มันก็หันมาถามไปจูเหวินทันที
“พวกมัน….”
“ท่านเจ้าสํานัก พวกเราแค่กําลังจะเข้าไปชวนพวกเด็กๆคุยเท่านั้นเองมันก็หาว่าพวกเราลักพาตัวเด็กแล้วจับพวกเรามาที่นี่”ชายชุดม่วงพูดออกมาก่อนที่ไปจูเหวินจะพูดเสียอีก
“คุณชาย เรื่องนี้เข้าใจผิดกันหรือไม่”เจ้าสํานักว่าพลางเดินเข้ามาหาคนของมัน
“ไม่ เรื่องนี้ข้าเห็นกับตา”ไปจูเหวินว่าพลางปล่อยชายทั้งสองไป
“เจ้าสํานัก มันเป็นแขกของงานแต่ง” ชายคนหนึ่งกระซิบที่ข้างหูเจ้าสํานักทันที ทําให้เจ้าสํานักท่าที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
“เรื่องเข้าใจผิดนี้ปล่อยมันไปเถอะ กลับไปซะแล้วข้าจะไม่เอาเรื่องอะไร” เจ้าสํานักว่าพลางจ้องไปจูเหวินตาเขม็ง พอทราบว่าไปจูเหวินคือแขกของพิธีแต่งงานมันก็กาหน้าไปจูเหวินว่าเป็นศัตรูทันทีแม้ตอนนี้ไปจูเหวินจะเข้าระดับเทียนเซียนแล้ว แต่ก็ยังอยู่แค่ระดับ 3 เท่านั้นส่วนเจ้าสํานักฝามือเร้นลับนั้นกลับอยู่ระดับ 8 ทํา ให้มันเชื่อว่าไปจูเหวินนั้นกระจอกกว่าตนเอง
“ท่านพ่อ พวกมันพยายามจะจับตัวพวกเราจริงๆนะ แต่พวกมันยกพี่ไปไปไม่ขึ้นก็เลยล้ม”ไปหลินว่าพลางชี้ไปทางคนลักพาตัวทั้งสอง
“ปากนี้สินะที่พูดออกมา”ไปไปว่าพลางเข้าไปหยิกแก้มไปหลินด้วยท่าที่หมั่นเขี้ยว ใครใช้ให้นางพูดปมด้อยของตัวเองออกมากเล่า