บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 308 ผู้จ้าง
ตอนที่ 308
ผู้จ้าง
“ไม่นึกว่าจะมียอดฝีมือมาช่วยมันได้ เจ้าสามคนนั้นตายในดาบเดียวเลย”หลังจากชิงตัวไป๋จูเหวินไม่สำเร็จ เหล่านักล่าค่าหัวก็แยกย้ายกันออกไปเพราะตอนนี้ไป๋จูเหวินสมควรอยู่ในเมืองร้อยแปดอสูรกับยอดฝีมือที่มาช่วยมัน ได้แต่รออยู่ข้างนอก รอลุ้นว่าไป๋จูเหวินจะเดินทางออกมาคนเดียวหรือไม่
“เฮ้ย ข้างหลังๆ”ชายอีกคนพูดพลางส่งสัญญาณให้คนที่จ้องไปทางเมืองร้อยแปดอสูรมองไปข้างหลังตนเอง
“อะไรกัน ทำไมมันมาจากทางนั้นล่ะ หรือมันแอบออกไปตอนกลางคืน”เหล่านักล่าค่าหัวมองไปทางทิศใต้ของเมืองร้อยแปดอสูร ตรงนั้นปรากฏร่างของไป๋จูเหวินกำลังนั่งอยู่บนแมงมุมอสูร
“มันมีอสูรแมงมุมคอยรับใช้จริงๆด้วย”นักล่าค่าหัวว่าพลางมองแมงมุมยักษ์ตรงหน้าด้วยท่าทางนิ่งเฉย พวกมันสืบทราบมาแต่แรกแล้วว่าไป๋จูเหวินมักจะขี้อสูรแมงมุมไปไหนต่อไหนเสมอ ว่ากันตามตรงการที่เห็นเมื่อวานไป๋จูเหวินนั่งรถม้ามานับว่าน่าแปลกใจยิ่งกว่าเสียอีก
“จะโจมตีเลยไหม”ชายอีกคนถามพลางมองไปรอบๆ เมื่อวานพวกมันขัดขากันเองทำให้งานไม่สำเร็จ วันนี้พวกมันตกลงร่วมมือกันจับตัวไป๋จูเหวินเสียก่อนค่อยมาตกลงผลกระโยชน์กัน
“ได้”ชายอีกคนว่าพลางกระโดดวาบขึ้นไปบนหลังของหลินหลินเช่นเดียวกับอีก 7 คนที่เหลือ
“อย่าขยับ พวกเราต้องการจับตัวเจ้า……”ยังไม่ทันพูดตบชายคนนั้นก็โดนฝ่ามือประกายอัสนีกระแทกเข้ากลางหน้าร่วงลงไปจากหลังของหลินหลินก่อนจะโดนนางเหยียบซ้ำในทันที
“อากกกก”คนที่เหลือยังไม่ทันได้เอ่ยปากบอกเป้าหมายก็โดนซัดจนปลิวไปตามๆกันเหลือเพียงคนที่มีพลังอ่อนที่สุดเอาไว้เท่านั้น
ฟุบๆๆๆๆ ใยแมงมุมของปิงปิงพุ่งเข้าพันร่างของชายคนนั้นเอาไว้ทำให้ร่างส่วนที่โยนใยแมงมุมถูกไอเย็นเข้าเล่นงานทันที
“ท่านพ่อ พวกนักล่าค่าหัวอีกแล้ว”ไป๋หลินตอบพลางชี้ไปที่ป้ายผ่านทางที่แขวนอยู่ตรงเอวของชายคนนั้น ไม่ใช่แค่ที่นี่ที่ไป๋จูเหวินเจอกับนักล่าค่าหัว ตลอดทางมาจากเขตอสูรพวกนักล่าค่าหัวก็โผล่มาประปรายตลอด เรียกได้ว่าเวลามีคนโจมตีเข้ามาก็ไม่ต้องเดาอะไรให้มากความ โจมตีก่อนให้จบๆไปก็พอ
“ระวังเอาไว้เถอะ หากท่านเทพนักล่าลงมือเองเจ้าคงรอดไปได้ไม่ถึงวัน”ชายที่โดนใยน้ำแข็งมัดเอาไว้พูดพลางหัวเราะออกมา
“เทพนักล่า..”ไป๋จูเหวินว่าพลางนำกรงเล็บติดโซ่สีแดงฉานออกมาจากมิติของตน
“ใช่คนที่ใช้กรงเล็บอันนี้หรือเปล่า”ไป๋จูเหวินถามพลางปากรงเล็บไปใส่ร่างของชายคนนั้นจนกรงเล็บโลหะจิกเอาที่ไหล่ของมันแน่น
“เป็นไปไม่ได้ กรงเล็บแดงชาดของท่านทำไมมาอยู่ที่เจ้าได้”ชายคนนั้นหน้าซีดไปทันทีเมื่อเห็นอาวุธประจำตัวของเทพนักล่า นักล่าค่าหัวอันดับ 1 แห่งอาณาจักรหลิว
“มันลอบโจมตีข้าเมื่อคืน เก่งใช้ได้แต่ก็โดนจัดการไปแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางเอาโซ่สีแดงสดัดร่างของชายคนนั้นไว้ก่อนจะซัดเปรี้ยงจนชายคนนั้นตกจากหลังของหลินหลินไป ในเมื่อพวกมันเชื่อถือความสามารถของเทพนักล่าอะไรนั่นมากก็ให้พวกมันไปบอกกันเองแล้วกันว่าคนที่พวกมันนับถือได้แพ้ไปแล้ว และหวังว่านักล่าค่าหัวจากอาณาจักรหลิวจะเลิกมาตอแยเสียที
หลังจากกำจัดพวกนักล่าเสร็จไป๋จูเหวินก็เดินทางต่อกลับเข้าไปในเมืองร้อยแปดอสูรในทันที แน่นอนว่าเมื่อมาถึงอาวุโส 7 ก็เดินทางมาแจ้งข่าวที่หน้าประตูเมืองด้วยตนเอง
“ท่านหัวหน้า มีแขกมารอพบท่านแนะ”อาวุโส 7 ว่าพลางหัวเราะออกมา ตอนที่เพิร์ลเข้ามาทำเอาเหล่าอาวุโสงงกันเป็นไก่ตาแตก นึกถึงตอนนั้นนางยังขำไม่หาย
“แขก? คงจะเป็นหยงเว่ยสินะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางบอกให้หลินหลินเดินเข้าไปในเขตกลางทันที
“ก็ใช่ แต่ยังมีแขกท่านอื่นอีก”อาวุโส 7 ว่าพลางนำกระจกบานหนึ่งออกมา
“หน้าตาเขาก็แบบนี้”เมื่อส่องกระจกไปทางไป๋จูเหวินก็ย่อมมองเห็นเงาของไป๋จูเหวิน แต่เพียงเท่านั้นก็มากพอให้ไป๋จูเหวินเข้าใจได้ว่าอาวุโส 7 หมายถึงอะไร
“เพิร์ลมาที่นี่งั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพรากเลิกคิ้วสงสัย
“ท่านหัวหน้าช่างฉลากยิ่งนัก มาเถอะแขกของท่านมารอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”อาวุโส 7 ว่าพลางตามไป๋จูเหวินเข้าไปในวังมังกร
“โอ้ ไม่ได้พบกันนานเลย”ทันทีที่ไป๋จูเหวินเดินเข้ามา เพิร์ลก็พูดทักทายพลางเดินเข้ามาหาในทันที
“ใช่ ไม่ได้เจอกันนานเลย รูบี้ก็มาด้วยงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองไปทางรูบี้ที่กำลังยิ้มตอบอย่างอ่อนหวานเช่นกัน
“แน่นอน พวกเรากว่าจะเดินทางมาได้ก็ต้องกล่อมพวกขุนนางกันยกใหญ่เลย”เพิร์ลพูดพลางเริ่มเล่าตอนที่ตนเองทำเรื่องขอเดินทางไปยังแผ่นดินลึกลับที่ไม่เคยมีใครเดินทางไปถึงมาก่อน
“แล้วเป็นอย่างไรบ้าง แผ่นดินลึกลับของพวกเรา”ไป๋จูเหวินถามพลางยิ้มบางๆ ตอนที่รูบี้เล่าให้ฟังทำเอาแผ่นดินของไป๋จูเหวินเหมือนสถานที่ที่มีปีศาจมากมายเสียอย่างนั้น
“ธรรมดากว่าที่คิดละมั้ง”เพิร์ลหัวเราะพลางยิ้มเจื่อนๆ พอมาจริงๆที่นี่ก็เหมือนอีกอาณาจักรหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ก็มีเรื่องน่าตื่นเต้นไม่น้อย
“รู้กับไม่รู้นี่ต่างกันจริงๆ”รูบี้บ่นพลางถอนหายใจออกมา ตอนแรกตนเองก็แอบกลัวอยู่มาก แต่พอมาถึงก็พบว่าไม่ต่างจากการเดินทางไปอาณาจักรอื่นเท่าไหร่จริงๆ แถมนางยังสามารถพูดภาษาของอาณาจักรนี้ได้จึงไม่มีปัญหาอะไรต้องกังวล
“จริงด้วย ทั้งสองคนหน้าเหมือนกันเปี๊ยบเลย”หลินหลินว่าพลางมองเพิร์ลสลับกับไป๋จูเหวิน แม้นางจะสามารถแยกออกได้อย่างง่ายดายว่าใครคือไป๋จูเหวินใครคือเพิร์ลเพราะพลังอสูรและความสามารถดึงดูดอสูรก็ตาม แต่หากมองด้วยตาเปล่าทั้งสองคนเหมือนกันอย่างกับฝาแฝด
“ไม่เหมือนขนาดนั้นหรอก”เหม่ยหลินว่าพลางเดินออกมายืนข้างๆไป๋จูเหวิน สำหรับนางแล้วเพิร์ลกับไป๋จูเหวินต่างกันอยู่มาก ไม่ใช่ที่พลังอสูรแต่เป็นที่ความรู้สึกของนางต่างหาก
“ใช่ เอาจริงๆก็ไม่เหมือนกันขนาดนั้น”รูบี้ตอบพลางยิ้มให้เหม่ยหลินราวกับจะสื่อใจกันได้
“แต่ตอนแรกเจ้าก็นึกว่าไป๋จูเหวินเป็นข้าไม่ใช่เหรอ”เพิร์ลว่าพลางมองมาทางรูบี้ ทำเอามันโดนศอกของคู่หมั้นไปทีหนึ่ง
“ตอนนี้ภารกิจของพวกเจ้าก็สำเร็จแล้ว จะทำอะไรต่อ?”ไป๋จูเหวินถามหลังจากเพิร์ลและรูบี้เล่าเรื่องการเดินทางให้ไป๋จูเหวินฟังแล้ว
“ตอนแรกพวกเรากะจะเดินทางสำรวจอาณาจักรของเจ้าก่อน แต่เพราะมีพวกนักล่าค่าหัวมาคอยเล่นงานก็เลยต้องยกเลิกไป”เพิร์ลตอบพลางถอนหายใจออกมา หากวันนั้นไม่ได้หยงเว่ยช่วยเอาไว้มีหวังโดนจับตัวไปแล้วแน่ๆ
“เช่นนั้นก็ทำตามแผนเดิมเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมาบางๆ
“แผนเดิม? จะให้พวกเราไปสำรวจอาณาจักรของเจ้าทั้งๆที่มีนักล่าค่าหัวคอยรอเล่นงานอยู่งั้นเหรอ”เพิร์ลถามด้วยความสงสัย
“ใช่ ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวชมอาณาจักรโฮเสียหน่อย”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ
ก่อนหน้านี้มันได้ส่งจดหมายไปหาไช่จินแล้วเรื่องผู้ออกหมายจับไป๋จูเหวิน โดยได้ความว่าเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรโฮตายหมดแล้ว ทำให้ผู้ยึดครองอำนาจคือหัวหน้าองครักษ์แห่งอาณาจักรโฮ ดูเหมือนในวันนั้นมันจะหลบซ่อนอยู่ในวัง ทำให้เห็นเหตุการณ์ตอนไป๋จูเหวินสู้กับราคะ มันจึงเอาเรื่องนั้นมาโยนความผิดให้ไป๋จูเหวินโดยไม่พูดถึงยอดฝีมือของตนเองที่หลงเสน่ห์ของราคะจนลงมือฆ่าคนของอาณาจักรอื่นเลย
สุดท้ายด้วยการใส่ร้ายป้ายสีของหัวหน้าองครักษ์ไป๋จูเหวินกลายเป็นคนฆ่ายอดฝีมือของอาณาจักรโฮ และแขกผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้งยังเป็นคนทำลายเมืองหลวงอีกด้วย แน่นอนว่าอาณาจักรอู๋ ชิน และ ชู ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เพราะคนของตนก็อยู่ในเหตุการณ์ แต่อาณาจักรอื่นๆกลับเชื่อและส่งข่าวให้ประชาชนของตนเอง ทำให้ยามนี้ในสายตาประชาชนของอาณาจักรอื่นๆไป๋จูเหวินดูเป็นคนร้ายจริงๆ
.
.
“ทำไมข้าถึงไปด้วยไม่ได้ล่ะ”ไป๋หลินถามพลางมองแก้มป่องด้วยท่าทางงอนๆเช่นเดียวกับไป๋ไป่และปิงปิงที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย
“เจ้ายังควบคุมพลังได้ไม่ดี แม่ไม่อยากให้เจ้าไปอยู่ในอันตราย”เหม่ยหลินว่าพลางลูบหัวบุตรสาวอย่างอ่อนโยน ตอนนี้ระดับฝีมือของไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินไม่ได้ด้อยไปกว่าระดับเจ้าสวรรค์ แน่นอนว่าในอาณาจักรต่างๆแทบไม่มีใครอยู่ระดับเจ้าสวรรค์เลย หากจะมีก็คงมีเพียงยอดฝีมือลึกลับอย่างพ่อของไป๋จูเหวินเท่านั้น แน่นอนว่าการเดินทางครั้งนี้จะต้องเจอพวกนักล่าระหว่างทางแน่ๆ แม้พวกมันจะสู้ไม่ไหว แต่ก็ไม่อยากใหเกิดเรื่องอย่างที่ราคะจับตัวไป๋หลินเป็นตัวประกันอีก
“เดี๋ยวแม่กับท่านพ่อของเจ้าก็กลับมาแล้ว อยู่เล่นกับท่านตาไปก่อนนะ”เหม่ยหลินตอบพลางกอดลูกสาวเอาไว้แน่น พลางหันไปมองพวกไป๋ไป่กับปิงปิงที่ไม่ได้ไปด้วย ความจริงไป๋ไป่สามารถไปด้วยได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่นางก็อยากให้ไป๋ไป่อยู่ดูแลไป๋หลินมากกว่า
“ค้า….”ไป๋หลินตอบด้วยท่าทีอ่อนลง ความจริงไป๋จูเหวินอยากให้ไป๋หลินอยู่กับพวกท่านน้าเสียด้วยซ้ำ แต่เพราะนางอยากตามมาเมืองร้อยแปดอสูรด้วยก็เลยยอม แต่เพราะโดนเล่นงานระหว่างทางหลายครั้งเข้าไป๋จูเหวินจึงตัดสินใจจะเดินทางไปอาณาจักรโฮเพื่อจบปัญหากับผู้ให้รางวัลเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“ได้ข่าวว่าเจ้าเจอพวกนักล่าค่าหัวมาแล้วงั้นเหรอ”เพิร์ลถามขณะนั่งอยู่บนหลังของหลินหลินอย่างเคยชิน มันเคยนั่งบนหลังพวกท่านน้ามาแล้ว แค่หลังแมงมุมยักษ์จะเป็นอะไรไป
“ใช่ ตลอดทางมาเจอหลายกลุ่มทีเดียว”ไป๋จูเหวินตอบพลางถอนหายใจออกมา ตอนแรกก็ไม่คิดว่าพวกมันจะเดินทางมาลงมือถึงอาณาจักรอู๋ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกมันแทบจะลงมือโดยไม่สนใจกฎที่อู๋หมิงตั้งเลย
“แล้วเป็นยังไง เจ้าจัดการได้ไหม”เพิร์ลถามด้วยท่าทีสนใจ คราวก่อนมันเกือบแต่เพราะพวกนักล่าค่าหัว มันอยากทราบว่าไป๋จูเหวินรับมือได้หรือไม่
“ก็ซัดฝ่ามือใส่พวกมันคนละฝ่ามือ”ไป๋จูเหวินตอบออกมาตามตรง แม้จะมีเทพนักล่าอะไรนั่นที่ต้องลงมือหนักหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครรับมือยากนัก
“หระ เหรอ”เพิร์ลยิ้มเจื่อนๆด้วยท่าทีอึ้งๆ ทำเอาคำพูดของหยงเว่ยเมื่อวานแทงเข้าใจดำอีกรอบ หน้าตาพวกมันเหมือนกันราวกับฝาแฝดแต่เหตุใดฝีมือมันถึงได้ห่างชั้นขนาดนี้