บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 317 เริ่มแผน
ตอนที่ 317
เริ่มแผน
“องค์จักรพรรดิอาณาจักรชูล้มป่วย?”อู๋หมิงได้รับข่าวขององค์จักรพรรดิอาณาจักรชูจากลูกน้องของตนก็ไม่ได้มีท่าทีตกอกตกใจแต่อย่างไร อาการของท่านอู๋หมิงทราบดีอยู่แล้วว่าไม่สู้ดีนัก แต่ไม่นึกเลยว่าอาการจะกำเริบเอาตอนนี้ แม้วันนี้จะเป็นวันพิธีแต่ก็คงต้องให้ท่านพักผ่อนไปก่อนเสียแล้ว
“ฝากดูแลท่านดีๆด้วย”อู๋หมิงตอบพลางกลับเข้าไปในงานทันที พิธีอภิเษกของอู๋หมิงกับหยุนฟางนั้นถูกจัดขึ้นที่วังหลวงอาณาจักรอู๋ งานเฉลิมฉลองถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการตามที่เทียนเหวินและเหล่าขุนนางลงแรงวางแผนเอาไว้ แม้จะมีเรื่องไม่คาดฝันนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรร้ายแรง
“ท่านพ่อ ท่านป้าสวยมากเลยเจ้าค่ะ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้าง แน่นอนว่าแม่สื่อตัวน้อยอย่างไป๋หลินย่อมได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้แขกผู้มีเกียรติไม่ต่างจากองค์จักรพรรดิอื่นๆ ทำให้นางสามารถมองเห็นพิธีอภิเษกได้อย่างชัดเจน งานพิธีสวยงามอลังการเช่นนี้เหมือนที่ไป๋จูเหวินเคยเห็นด้วยดวงตาสีเงินเลย หรือมันจะทำนายเรื่องนี้มาแต่แรกแล้ว?
“สักวันข้าจะได้แต่งงานบ้างหรือเปล่า”ไป๋หลินถามพลางหันมาหาพ่อของนาง ทำเอาตัวไป๋จูเหวินไม่ทราบจะตอบเช่นไรดี ไป๋หลินพึ่งจะเกือบ 6 ขวบอีกนานกว่าจะถึงวัยนั้น แต่หากถึงวันที่ไป๋หลินจะออกเรือนจริงมันย่อมลงแรงจัดงานให้ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน หากพวกท่านน้าไม่แย่งลงมือเสียก่อนละก็…
“สักวันนะ แต่เจ้าต้องโตกว่านี้ก่อน”เหม่ยหลินตอบพลางลูบศีรษะบุตรสาวเบาๆ เห็นความน่ารักไร้เดียงสาของนางแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
.
.
“เพิร์ลเดินทางกลับแล้วงั้นเหรอ?”หลังจากงานพิธีต่างๆจบลง ช่วงกินเลี้ยงก่อนส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหออู๋หมิงก็ปลีกตัวมานั่งร่วมโต๊ะกับไป๋จูเหวินและครอบครัวของมัน ทำให้มันสังเกตเห็นว่าเพิร์ลและรูบี้หายไปแล้วทั้งๆที่ตอนงานพิธียังอยู่เลยแท้ๆ
“เปล่า พวกมันแค่ไปที่เรือเพื่อแจ้งข่าวให้ลูกน้องที่มาด้วยกันเท่านั้นเอง”ไป๋จูเหวินตอบ เพราะรูบี้และเพิร์ลอยากจะอยู่ช่วยไป๋จูเหวินดูแลอาณาจักรไป๋อีกสักระยะ ทำให้เวลาเดินทางที่พวกมันวางแผนเอาไว้เลยกำหนดมานานแล้ว รูบี้จึงจะไปบอกให้พวกลูกเรือเดินทางกลับอาณาจักรไชน์ไปก่อนโดยจะฝากจดหมายไปให้พ่อของนางและครอบครัวของเพิร์ลด้วย ส่วนพวกมันเมื่อเสร็จงานแล้วจะใช้อสูรบินกลับไปเอง
“ว่าแต่ อาณาจักรเจ้าคิดจะทำอะไรต่อ”อู๋หมิงถามพลางยกจอกสุราขึ้นดื่ม แม้สุราจะไม่มีผลกับไป๋จูเหวินแต่กับอู๋หมิงก็ทำให้หน้ามันแดงระเรื่อได้หลังจากโดนผู้ร่วมงานบังคับดื่มไปหลายจอก
“ดูเหมือนรายได้หลักของอาณาจักรโฮก่อนหน้านี้จะมาจากการขนส่ง”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ อาณาจักรโฮแต่เดิมไม่มีผลผลิตอะไรมากมาย แถมยังไม่มีการบุกเขตอสูรเพื่อหาสมุนไพรหรือวัตถุดิบหายากแต่อย่างไร แต่อาณาจักรก็ยังดำลงอยู่มาได้ สาเหตุมาจากอาณาจักรโฮเป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่กลางแผ่นดิน หากอาณาจักรรอบๆจะเดินทางหรือนำสินค้าไปขายอาณาจักรอื่นๆที่อยู่ตรงกันข้ามกับอาณาจักรตน การเดินทางผ่านอาณาจักรโฮเก่านั้นเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด ทำให้จักรพรรดิอาณาจักรโฮก่อนหน้านี้เก็บค่าผ่านทางรวมทั้งรับจ้างขนส่งอีกต่างหาก ทำให้มีเงินไหลเวียนในอาณาจักรไม่น้อย แต่ก็จำกัดวงอยู่แค่ในขุนนางเท่านั้น ทำให้ในอาณาจักรที่ประชาชนจนถึงขีดสุดกลับมีเจ้าเมืองตรงชายแดนที่ร่ำรวยไม่น้อย และลูกหลานส่วนใหญ่ของพวกมันก็อยู่ในเมืองหลวงนั่นเอง
“เจ้าก็เลยจะพัฒนาการขนส่งต่องั้นเหรอ”อู๋หมิงถามพลางเลิกคิ้วอย่างสนอกสนใจ ก่อนหน้านี้อาณาจักรอู๋ไม่ได้ทำการค้าอะไรกับอาณาจักรโฮเพราะอาณาเขตไม่ได้อยู่ติดกัน แถมอาณาจักรอู๋ยังเป็นอาณาจักรที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เพียงหาเลี้ยงกันเองในอาณาจักรก็สุขสบาย
“ใช่ ถึงอาณาจักรอู๋จะมีชื่อเสียงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ แต่อาณาจักรหลี่ที่อยู่ทางเหนือก็มีชื่อเสียงเรื่องหินแร่เช่นกัน ได้ข่าวว่าพวกมันค้นพบแร่ประหลาดที่แข็งแกร่งพอจะสร้างอาวุธวิเศษที่แข็งแกร่งกว่ากระบี่ทัณฑ์สวรรค์เสียอีก”อู๋หมิงตอบพลางยิ้มออกมา เรื่องนี้มันได้ทราบจากจักรพรรดิอาณาจักรหลี่ด้วยตนเอง
“…..”อู๋หมิงนิ่งไปพักหนึ่ง แม้มันจะเป็นจักรพรรดิ แต่มันก็เป็นมือกระบี่มาก่อน ได้ยินว่าสามารถสร้างกระบี่ที่แข็งแกร่งกว่ากระบี่ทัณฑ์สวรรค์ได้มันก็ตาลุกวาวแสดงท่าทีสนอดสนใจออกมาอย่างชัดเจน
“แต่อาณาจักรหลี่ขาดแคลนเสบียง ข้าวปลาอาหารของอาณาจักรเจ้าคงสามารถขายได้ดีที่อาณาจักรหลี่”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมา แม้จะใส่แหวนมิติ แต่เวลาของสิ่งที่ใส่ลงไปก็ไม่ได้หยุดลง การขนเสบียงอาหารข้าม 2 อาณาจักรใช้เวลาไม่ใช่น้อย ปกติอาณาจักรหลี่จึงไม่ได้ซื้อเสบียงจากอาณาจักรอู๋แต่ไปซื้อกับอาณาจักรชินแทน แต่ก็อย่างที่ทราบกันดี เรื่องความอุดมสมบูรณ์ไม่มีอาณาจักรไหนสู้อาณาจักรอู๋ได้ ทำให้การรับซื้อจากอาณาจักรชิน และ โฮ ก่อนหน้านี้ค่อนข้างจำกัด ไม่พอเพียงต่ออาณาจักรทางเหนือที่มีหิมะตกเกือบจะตลอดปี
“เจ้าจะใช้อสูรขนเสบียงงั้นเหรอ”อู๋หมิงถามพลางออกไปด้วยท่าทีอึ้งๆ มันได้เห็นการขนเสบียงด้วยมังกรของไป๋จูเหวินยามสงครามแล้ว ความรวดเร็วเช่นนั้นสามารถส่งเสบียงอาหารสดใหม่ไปให้อาณาจักรหลี่ได้โดยไม่เน่าเสียอย่างแน่นอน
“เปล่า ไม่ใช่แค่นั้น”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“บังเอิญตอนนี้ข้าได้ผู้ช่วยฝีมือดีมา นางมีวิธีเก็บเสบียงเอาไว้ได้นาน ต่อให้ขนจากอาณาจักรอู๋ด้วยรถม้าก็สามารถขนไปให้อาณาจักรหลี่ได้โดยไม่เน่าเสีย”ไป๋จูเหวินตอบพลางดื่มสุราในมืออย่างอารมณ์ดี แม้การเจรจากับอาณาจักรหลิวจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อาณาจักรอื่นๆที่เคยค้าขายกับอาณาจักรโฮมาก่อนก็ยังมีหลายอาณาจักรที่ยินดีจะทำการค้าด้วย แค่ขาดอาณาจักรหลิวไปไม่สะเทือนแต่อย่างไร
.
.
“เจ้านั่น ถือว่าเป็นสหายของจักรพรรดิอาณาจักรอู๋ ก็เลยสามารถนั่งร่วมโต๊ะได้งั้นหรือ”ชูเจินว่าพลางดื่มสุราเข้าไปหลายจอก
“องค์ชายชูเจิน ท่านเรียกหาข้าหรือขอรับ”เพราะเสด็จพ่อล้มป่วยทำให้โต๊ะของชูเจินค่อนข้างว่าง มันจึงถือโอกาสนี้ชวนเชิญขุนนางของอาณาจักรหลิวและพ่อค้าของอาณาจักรหลิวเข้ามาร่วมพูดคุยแผนการของตน
“องค์ชายหลิวอิง ไม่ได้พบกันนานเลย”ชูเจินว่าพลางมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย มันคือองค์ชายคนเล็กแห่งอาณาจักรหลิวนั่นเอง
“ได้ข่าวว่าท่านมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับเรา”หลิวอิงว่าพลางนั่งลงบนเก้าอี้ร่วมโต๊ะกับองค์ชายชูเจิน
“แน่นอน ข้าทราบข่าวมาว่าท่านอยากจะสร้างผลงานให้บิดาภูมิใจใช่หรือไม่”ชูเจินถามพลางรินสุราให้องค์ชายหลิวอิง ตัวมันก็เหมือนชูเจิน เป็นองค์ชายลำดับหลังๆ แทบไม่มีสิทธิ์ครอบครองบัลลังก์ แต่ชูเจินโชคดีที่พี่น้องฆ่ากันเองหมดเหลือแต่มันคนเดียว ทำให้ตำแหน่งจักรพรรดิไม่หนีไปไหน แต่หลิวอิงกลับมีพี่ชายพี่สาวมากมาย หากไม่สร้างผลงานมันก็คงหมดหวังที่จะชิงบัลลังก์กับเข้าแล้ว
“ท่านมีเรื่องอะไรน่าสนใจงั้นหรือ”หลิวอิงถามพลางรับจอกสุรามาดื่มช้าๆ
“ข้ารู้สึกว่าตอนนี้อาณาจักรใหม่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่”ชูเจินว่าพลางยิ้มบางๆ แม้บิดามันจะห้ามเอาไว้แต่มันกลับคิดว่าบิดากลัวอำนาจของอาณาจักรอู๋เกินไป
“แค่กำลังทหารของท่านกับข้าก็คงสามารถยึดอาณาจักรใหม่ได้ไม่ยาก”ชูเจินพูดจบ หลิวอิงก็มีท่าทีสนใจในทันที ไม่ใช่แค่ชูเจินที่คิดเช่นนั้น อาณาจักรอื่นๆเองก็เห็นว่าอาณาจักรไป๋ยามนี้อ่อนแออย่างมาก ไร้ยอดฝีมือ ไร้กำลังรบ มีเพียงชาวบ้านไร้กำลัง หากตั้งกองทัพที่มียอดฝีมือสัก 10 คนคงสามารถโจมตีได้ไม่ยาก แม้องค์ชายทั้งสองจะไม่สามารถควบคุมยอดฝีมือได้ทั้งอาณาจักร แต่พวกมันก็มีคนสนิทอยู่บ้าง
“ท่านจะบอกว่าให้พวกเราตั้งกองทัพขึ้นมาแล้วบุกชิงอาณาจักรไป๋งั้นหรือ”หลิวอิงว่าพลางมองไปทางโต๊ะของไป๋จูเหวิน ตัวมันเคยส่งสายลับเข้าไปดูแล้ว แม้จะมีขุนนางและทหารมากมายเข้ามาดูแลชาวเมือง แต่พวกมันก็ไร้พลังวิญญาณเกรงว่าจะเป็นชาวบ้านเก่าแต่งชุดทหารเท่านั้น
“จะว่าแบบนั้นก็ได้ จักรพรรดิองค์ปัจจุบันได้ชื่อว่าฉวยโอกาสชิงอำนาจอาณาจักรโฮตอนกำลังลำบาก ท่านกับข้าชิงกลับมารับอาณาจักรไป๋เข้าร่วมอาณาจักรตนเองคนละครึ่ง นับว่าได้ช่วยเหลือประชาชนจากพวกฉวยโอกาสนับว่าไม่เลวจริงหรือไม่”ชูเจินถามออกไปด้วยท่าทีมั่นใจ ยอดฝีมือในมือมันมี 7 คนหากโจมตีจริงๆจำนวนเท่านี้ก็คงพอ แต่แบบนั้นอาจจะเสี่ยงเกินไป ชูเจินจึงเสนอให้องค์ชายหลิวอิงเข้ามาร่วมมือด้วย
“แบบนั้นก็ไม่เลว เส้นทางการค้าที่ผ่านอาณาจักรโฮก่อนหน้านี้เก็บค่าผ่านทางแพงเอาเรื่อง หากสามารถผ่านได้ฟรีพวกพ่อค้าย่อมดีใจเป็นแน่”ขุนนางคนหนึ่งของอาณาจักรหลิวตาลุกวาว พวกมันเป็นคนรุ่นใหม่ที่พึ่งรับตำแหน่งจากบิดา ความคิดของพวกมันรวดเร็วและเห็นผลประโยชน์ชัดเจน
“ก็ได้ หลังจากจบงานพวกเรากลับอาณาจักรกันทันที ข้าจะพากองทหารของข้าไปที่เมืองชายแดนของอาณาจักรอู๋และชู”หลิวอิงพูดพลางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย อาณาจักรอ่อนแอที่ยังไม่ฟื้นตัวดีเป็นเป้าหมายที่โจมตีได้ง่าย ยิ่งเปลี่ยนองค์จักรพรรดิใหม่สัญญาที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ก็ไร้ความหมาย หากพวกมันไม่ชิงลงมือ อาณาจักรอื่นๆคนลงมือเป็นแน่ แถมจักรพรรดิอาณาจักรไป๋ยังอยู่ทำธุระที่อาณาจักรอู๋อีกต่างหาก แบบนี้ไม่เรียกว่าทางสะดวกแล้วจะเรียกอะไร
“ตกลงตามนี้”ชูเจินว่าพลางชนจอกสุรากับองค์ชายหลิวอิงอย่างครื้นเครง ในความคิดของพวกมัน กว่าไป๋จูเหวินจะกลับถึงอาณาจักรตนเอง พวกมันก็คงตีเมืองแตกไปหลายเมืองแล้ว
.
.
“ท่านเจ้าเมือง”หลังจากงานพิธีอภิเษกจบลง ไป๋จูเหวินก็ยังไม่ได้กลับมายังอาณาจักรไป๋ แต่แผนการขององค์ชายชูเจินและหลิวอิงก็เริ่มขึ้นแล้ว
“มีอะไร”อสูรกิเลนขาวถามพลางเดินออกมาจากห้องเรียนที่มันรับหน้าที่สอนพวกเด็กๆอยู่
“ฝั่งอาณาจักรชูมีท่าทีแปลกๆขอรับ”ได้ยินรายงาน อสูรกิเลนขาวก็ไม่ได้มีท่าทีแตกตื่น มันบอกให้เหล่าลูกศิษย์กลับไปทำการบ้าน ก่อนที่มันจะตามลูกน้องของตนออกมาที่กำแพงเมือง
“พวกมันทำอะไร”อสูรกิเลนขาวถามพลางมองไปยังเมืองชายแดนของอาณาจักรชู แม้คนธรรมดาจะมองไม่เห็น แต่อสูรที่สายตาดีหน่อยสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ภายในเมืองชายแดนของอาณาจักรชูกำลังมีเหล่าทหารเดินเพ่นพ่านไปมาเต็มไปหมด ทั้งม้าที่มากขึ้นอย่างผิดสังเกต แม้จะจับสัมผัสพลังไม่ได้ แต่จากสายตาของเหล่าอสูรแล้วพอจะเห็นมนุษย์ที่มีฝีมืออยู่ไม่น้อย
“เรียกทหารมา หากพวกมันบุกพวกเราจะตอบโต้ทันที”อสูรกิเลนขาวตอบพลางใช้ดวงตาของมันจ้องมองเมืองชายแดนของอาณาจักรชูเอาไว้ ยามนี้เมืองของมันเปรียบเสมือนเขตอสูรของมัน หากศัตรูลุกล้ำเข้ามาด้วยท่าทีคุกคาม มันก็จะปกป้องเต็มกำลัง
“ท่านเจ้าเมือง”อยู่ๆข้างกำแพงก็มีเสียงตะโกนมาจากชาวเมืองที่ไม่ใช่อสูร
“ดูนี่สิขอรับ ข้าวพวกนี้โตเร็วมาก นี่พึ่งจะเดือนเดียวเองนะขอรับ”ชาวเมืองยิ้มพร้อมรายงานเรื่องน่ายินดีด้วยท่าทีไม่ทุกร้อน พวกมันไม่สามารถมองเห็นท่าทีแปลกๆของอาราจักรชูได้ ทำให้อสูรกิเลนขาวเปลี่ยนท่าทีจริงจังของมันกลับไปเป็นเจ้าเมืองผู้เมตตาเช่นเดิม
“คงจะเป็นเพราะได้รับน้ำเพียงพอเป็นแน่”อสูรกิเลนขาวตอบออกไปด้วยท่าทีสบายๆ จริงๆแล้วข้าวพวกนี้คงได้รับผลจากเขตอสูรทำให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มันเคยสร้างเขตอสูรมาก่อน เรื่องแค่นี้เป็นเพียงจุดเริ่มเท่านั้น หลังจากนี้คงเริ่มมีพืชสายพันธ์แปลกๆ บ่อน้ำวิเศษหรือแร่ประหลาดออกมาแน่ๆ