บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 324 ข่าวลือ
ตอนที่ 324
ข่าวลือ
“วากกกกกก”เหล่าช่างฝีมือที่ไป๋จูเหวินพามาด้วยกำลังร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อต้องขึ้นมาบนหลังของหลินหลิน แต่เพราะคราวนี้ช่างฝีมือมีจำนวนมากเกินไป ทำให้ไป๋จูเหวินให้ไป๋ไป่เปลี่ยนร่างเป็นมังกรแล้วพาพวกช่างฝีมือที่เหลือบินตามหลินหลินมา แน่นอนว่าพวกมันได้รับประสบการณ์ระทึกใจกันถ้วนหน้า
“ฮ้าๆ ยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ หุบเขาหลิวขจีนั่นสามารถข้ามผ่านได้ในวันเดียวเชียวนะ”อิงยี่หัวเราะพลางคุยอวดกับเหล่าช่างฝีมืออย่างภูมิอกภูมิใจ เพราะมันมีประสบการณ์นั่งหลังหลินหลินมาหลายครั้งแล้ว เรียกได้ว่ามีเรื่องคุยอวดให้พวกช่างฝีมือที่พึ่งเคยขี่หลังหลินหลินครั้งแรกหลายเรื่องทีเดียว
“ยอดเลย แบบนี้ไม่กี่วันก็ไปถึงอาณาจักรโฮ…ข้าหมายถึงเมืองหลวงเก่าอาณาจักรไป๋แล้วสินะ”นายช่างคนหนึ่งพูดพลางหายใจอย่างโล่งอก พอนั่งบนหลังหลินหลินไปสักพักแล้วพวกมันก็รู้สึกชินขึ้นมา เอาจริงๆนอกจากแรงลมที่มากกว่าปกติแล้วมันนิ่งกว่ารถม้าเสียอีก นอกจากจะเร็วแล้ว ยังนั่งสบายอย่างน่าประหลาด ทำเอาพวกช่างฝีมือสนใจหลินหลินกันอย่างมาก แถมหลินหลินไม่ต้องมีคนบังคับ นางสามารถเดินทางได้เองโดยไม่หลง ทำให้นางเดินทางได้ตลอดวันตลอดคืน ทำให้เพียงพริบตาเดียวเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรไป๋ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกมันเสียแล้ว
“ท่านพ่อ”แทบจะทันทีที่มาถึงวังมังกร ไป๋หลินก็วิ่งเข้ามาหาไป๋จูเหวินเป็นคนแรก โดยมีเหม่ยหลินและปิงปิงเดินตามมาจากด้านหลัง
“เป็นยังไงบ้างเจ้าคะ ท่านพ่อชนะหรือเปล่า”ไป๋หลินถามด้วยท่าทีอยากรู้
“ชนะ”ไป๋จูเหวินตอบเบาๆพลางมองไปด้านหลัง ยังไงคนด้านหลังไป๋จูเหวินก็เป็นคนของอาณาจักรหลิวมาก่อน จะพูดเรื่องเอาชนะอาณาจักรหลิวได้แล้วให้บุตรสาวฟังอย่างโอ้อวดก็คงไม่ได้ ไป๋จูเหวินจึงเพียงตอบเบาๆพลางแนะนำเหล่าผู้ร่วมทางให้เหม่ยหลินและบุตรสาวรู้จัก
“องค์หญิงหลิวเมิ่ง ท่านติดตามมาด้วยเช่นนี้เกิดอะไรขึ้นหรือ”อยู่ๆเหม่ยหลินก็มองมาทางหลิวเมิ่งที่ตามมาด้วยเช่นกัน น่าแปลกองค์หญิงของอาณาจักรที่พึ่งโดนตีแตกไปทำไมถึงติดตามสามีนางมา เรื่องนี้มีกลิ่นแปลกๆเสียแล้ว
“ข้าขอร้องให้จักรพรรดิไป๋ปล่อยพี่น้องของข้าไปโดยแลกกับการที่ข้าจะรับใช้ท่านเจ้าค่ะ แล้วตอนนี้ข้าก็ไม่ใช่องค์หญิงแล้ว”หลิวเมิ่งตอบออกมาด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมอย่างมาก นางได้ช่วยงานไป๋จูเหวินมาได้หลายวันแล้ว เห็นมันไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่คิดเอาไว้ตอนแรก แม้จะยังมีความแค้นสังหารบิดาอยู่ แต่หลิวเมิ่งก็จนปัญญาจะทำอะไรไป๋จูเหวิน
คนๆนี้นอกจากจะมีฝีมือแล้ว ยังมีเหล่าอสูรคอยรับใช้อีกต่างหาก ลำพังอดีตองค์หญิงอย่างนางมีหรือจะทำอะไรได้
“งั้นหรือ ท่านยอมปล่อยพี่น้องของนางหลังจากสังหารบิดาของนางงั้นหรือ”เหม่ยหลินถามพลางมองมาทางไป๋จูเหวินนิ่ง
“ไม่ได้ปล่อยเสียทีเดียว แค่เปลี่ยนที่คุมขังเท่านั้น”ไป๋จูเหวินตอบออกไปตามตรง
“งั้นเหรอ ท่านทำเพื่อพวกมันขนาดนี้ข้าล่ะสงสัยจริงๆว่าท่านได้รับข้อเสนออะไร”เหม่ยหลินว่าพลางหันหลังเดินกลับเข้าไปในปราสาท ทำเอาไป๋จูเหวินได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
“ท่านพ่อ เมื่อกี้ท่านแม่โกรธด้วยล่ะ”ไป๋หลินว่าพลางกระตุกชายเสื้อไป๋จูเหวินเบาๆ
“พ่อรู้แล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางหันมาสั่งให้ทหารอสูรที่ประจำอยู่ในวังหลวงเก่าพาเหล่าช่างฝีมือไปที่โรงงานของรูบี้ ก่อนที่ตัวเองจะขอตัวไปตามง้อภรรยาเสียหน่อย
“เจ้าเองก็หึงเป็นเหมือนกันนะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินเข้ามานั่งข้างๆเหม่ยหลิน ตอนนี้วังหลวงเก่าจะถูกเปลี่ยนเป็นเมืองร้อยแปดอสูรสาขาไป๋แล้ว ทำให้ตอนนี้เหม่ยหลินเป็นเจ้าของวังแห่งนี้นางจึงนั่งอยู่บนบัลลังก์แทนไป๋จูเหวินเสียแล้ว
“ก็สามีข้าพาผู้หญิงสวยๆไปไหนมาไหนด้วยนี่นา”เหม่ยหลินตอบพลางกอดแขนของไป๋จูเหวินเอาไว้ราวกับท่าทีโกรธๆเมื่อครู่เป็นเรื่องโกหก
“ไม่มีใครสวยเท่าเจ้าเสียหน่อย”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองเหม่ยหลินที่กำลังกอดตนเองเอาไว้
“ช่วงนี้มีแต่ข่าวของท่านเต็มไปหมดเลย พวกอสูรเองก็บอกว่าท่านจะรับองค์หญิงหลิวเมิ่งมาเป็นมเหสีรองเสียด้วย”ได้ยินเช่นนั้นไป๋จูเหวินก็ทราบเสียทีว่าทำไมเหม่ยหลินถึงมีอาการเช่นนี้ ท่าทางข่าวของพวกอสูรจะเดินทางไวกว่าหลินหลินเสียอีก
“ข้าไม่มีความคิดแบบนั้นเสียหน่อย”ไป๋จูเหวินตอบพลางเลื่อนมือไปจับมือเหม่ยหลินเอาไว้
“ข้าไว้ใจท่านนะแต่ข้าไม่ไว้ใจนาง”เหม่ยหลินทำแก้มป่องพลางมองไปทางประตู สามีเนื้อหอมไม่น้อยเลย ในเมืองหลวงก็มีพวกสาวๆมาตามกรีดกราดกันตลอด แต่เพราะไม่เคยมีใครมาใกล้ชิดขนาดนี้เหม่ยหลินเลยไม่ได้คิดอะไรแท้ๆ
“ข้าพึ่งสังหารบิดานางไป นางคงไม่คิดแบบนั้นหรอก”พอหลังจากพี่น้องของนางถูกย้ายไปวังนอเมืองแล้ว หลิวเมิ่งก็ไม่มีท่าทีเช่นนั้นอีกเลย นางวางตัวเหมือนผู้ตรวจการที่มาเฝ้าดูการทำงานของไป๋จูเหวินไม่มีผิด แถมนางยังแนะนำได้ดี ทำให้ไป๋จูเหวินคิดว่าการยอมให้นางอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยก็ไม่เลว
“เรื่องนั้นก็ไม่แน่หรอก แถมตอนนี้ท่านยังเป็นจักรพรรดิแล้วด้วย”เหม่ยหลินทำหน้ามุ่ยพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีหงอยๆ ถึงจะรู้ว่าไม่มีอะไร แต่ข่าวช่วงนี้ค่อนข้างทำนางลำบากใจจริงๆ ไหนจะเรื่องผู้สืบราชบัลลังก์ ไหนจะมเหสีขององค์จักรพรรดิต้องมีหลายๆพระองค์อีก เรื่องพวกนี้เหมือนตอนที่อู๋หมิงเจอตอนรับตำแหน่งใหม่ๆไม่มีผิด
“เรื่องมเหสีรองข้าไม่คิดจะมีหรอก แต่เรื่องรัชทายาทนี่….”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางก้มลงหอมแก้มเหม่ยหลินช้าๆ ยังไงไป๋หลินก็เป็นองค์หญิง จะไม่มีองค์ชายไว้สืบราชบัลลังก์ก็คงโดนพวกขุนนางบ่นแน่ๆ
“…….ท่านยังมีงานต้องทำไม่ใช่หรือไง”เหม่ยหลินเปลี่ยนเรื่องพรากลุกจากบัลลังก์ไปทันที ทำเอาไป๋จูเหวินได้แต่หัวเราะออกมา แน่นอนมันยังมีงานอยู่ แต่ก็แค่ตอนกลางวันนะ
.
.
“องค์จักรพรรดิ”หลังจากเหม่ยหลินขอตัวไปหาไป๋หลินแล้ว ไป๋จูเหวินก็เดินทางมาที่โรงงานของรูบี้ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของวังหลวงเก่าแห่งนี้ แต่เพียงก้าวเข้ามาก็โดนเรียกตัวเสียแล้ว
“มีอะไรงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองไปรอบๆ คนงานใหม่กำลังฟังคำอธิบายจากเหล่าคนงานอสูรกันอย่างตั้งใจ เหลือแต่รูบี้กับเพิร์ลที่ยังปวดหัวกันอยู่ตรงโต๊ะวางแผนซึ่งตอนนี้นอกจากพิมพ์เขียวแล้วยังมีแผนที่อีกต่างหาก
“หุบเขาหลิวขจีมันชันไปหน่อย เราคงพาดรางรถไฟผ่านไม่ได้”รูบี้ตอบพลางชี้ไปบนแผนที่
“อ้อมไปไม่ได้หรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางเลิกคิ้วสงสัย ตอนวางแผนเส้นทางแรกก็ใช้การอ้อมเอาไม่ใช่หรืออย่างไร
“มันไกลเกินไป ขืนต้องอ้อมต้องเปลืองแร่โลหะในการทำรางเยอะกว่าเดิมมาก แถมถ้าใช้งานจริงได้ก็ต้องให้รถอ้อมเป็นวันเลย ข้าเลยอยากจะขอคำแนะนำว่าควรเจาะอุโมงค์ดีหรือไม่”เพิร์ลตอบพลางชี้ไปที่หุบเขาหลิวขจีที่อยู่บนเส้นทางระหว่างเมืองหลวงเก่าและเมืองหลวงใหม่ของอาณาจักรไป๋ หากจะสร้างรถไฟยาวถึงเขตอสูรผาไร้ก้น จุดนี้ก็เป็นปัญหาจริงๆ
“อืม…ข้าจะลองถามพวกอสูรดู น่าจะมีหลายๆตนที่สามารถสร้างอุโมงค์ได้”ไป๋จูเหวินตอบพลางเริ่มประชุมปัญหากับรูบี้ นอกจากเรื่องเส้นทางแล้วยังมีเรื่องเตาหลอมที่ไม่พอต่อความต้องการ เพราะมีช่างฝีมือเพิ่มขึ้นมา แถมการประกอบตัวรถไฟเองยังมีปัญหาอีกหลายๆอย่างที่ยังแก้ไม่จบ
“องค์จักรพรรดิ”อยู่ๆหลิวเมิ่งก็เดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินหลังจากนางเห็นแล้วว่าไป๋จูเหวินประชุมกับพวกรูบี้เสร็จแล้ว
“มีอะไรเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางนาง เห็นนางมีท่าทีกังวลใจเช่นนี้ก็พอเดาได้ว่าเรื่องที่นางจะพูดคืออะไร
“น้องชายของข้า หลิวอิง….”หลิวเมิ่งตอบด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ ความจริงสาเหตุที่นางดื้อแพ่งจะมาเมืองหลวงเก่าของอาณาจักรไป๋ให้ได้ไม่ใช่เพราะหน้าที่ผู้ช่วย แต่เพราะนางอยากมาเจอหลิวอิงที่ยังโดนจับอยู่ที่นี่
“ไม่ต้องห่วง หลังเสร็จงานข้าจะพาหลิวอิงไปอยู่กับพวกพี่น้องเจ้า”ไป๋จูเหวินตอบพลางถอนหายใจออกมา มันจับชูเจินไปอยู่เมืองทางเหนือแล้วตามที่ตกลงกันเอาไว้กับจักรพรรดิอาณาจักรชู แต่หลิวอิงยังอยู่ในคุกเพราะฝ่ายอาณาจักรหลิวไม่ยอมจำนน จนตอนนี้ต้องล่มสลายไปเองไป๋จูเหวินก็พึ่งจะได้กลับมาทำให้หลิวอิงยังอยู่ในคุกไม่ทราบข่าวคราวอะไรเลย
“เรื่องนั้นข้าทราบดีเจ้าค่ะ แต่…ข้าขอพบมันหน่อยได้หรือไม่”หลิวเมิ่งขอร้องพลางส่งสายตาอ้อนวอนมาทางไป๋จูเหวิน
“ข่าวที่ว่าเจ้าจะรับมเหสีรองนี่ท่าทางจะจริงแฮะ”เพิร์ลพูดพลางมองมาทางไป๋จูเหวินกับหลิวเมิ่ง แม้ตัวไป๋จูเหวินจะไม่ได้คิดอะไร แต่ท่าทางทั้งสองดูใกล้ชิดกันมากทีเดียว
“เจ้าไปฟังเรื่องไร้สาระนั่นมาจากไหน”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองมาทางเพิร์ล เรื่องแบบนี้ไม่มีอสูรตนไหนเอาไปบอกเหม่ยหลินหรอก ท่าทางต้นเหตุจะเป็นเพิร์ลนี่เองกระมัง
“พวกลูกน้องของอสูรวัวสามเศียรไง”เพิร์ลตอบพลางเลิกคิ้วเล็กน้อย นี่มันยังไม่ทราบใช่ไหมว่าทำอะไรผิด
“ท่าทางเจ้ากับอสูรวัวสามเศียรจะว่างงานกันจริงๆนะ คงต้องหางานให้พวกเจ้าเพิ่มซะแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางคาดโทษเพิร์ลที่ยังทำหน้าตางงๆอยู่เลย
.
.
ครืดดด…. กรงที่ทำจากโลหะถูกลากเปิดออกจนเกิดเสียงประหลาดดังไปทั่วห้องใต้ดิน แต่เพราะคุกพึ่งสร้างใหม่หลังจากไป๋จูเหวินทำลายเมืองไปกว่าครึ่ง คุกใต้ดินที่ควรจะสกปรกกลับเหมือนห้องใหม่เสียอย่างนั้น
“พี่เมิ่ง”ทันทีที่เห็นว่าใครเปิดประตูคุก หลิวอิงก็ยิ้มกว้างทันที
“พวกท่านบุกมาถึงวังหลวงแล้วสินะ อาณาจักรไป๋คงโดนอาณาจักรหลิวขยี้แล้วสินะขอรับ”หลิวอิงว่าพลางลุกขึ้นยืนเดินเข้ามาหาพี่สาวด้วยท่าทีดีอกดีใจ
เพี๊ย! ยังไม่ทันพูดพร่ำทำเพลง หลิวเมิ่งก็ตบหน้าหลิวอิงเข้าอย่างจัง ทำเอาตัวมันล้มลงไปอีกรอบ
“เจ้า…เจ้านี่มันไม่ได้รู้อะไรเลย”หลิวเมิ่งว่าพลางกำหมัดแน่น จนป่านนี้มันยังเชื่อว่าอาณาจักรตนจะสามารถถล่มอาณาจักรไป๋แล้วมาช่วยมันออกไปได้อีกงั้นเหรอ
“เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเจ้าทำอะไรลงไป ท่านพ่อสิ้นแล้ว ส่วนอาณาจักรหลิวก็ล่มสลาย ทั้งหมดเพราะเจ้า”หลิวเมิ่งพูดจบก็คุกเข่าลงกับพื้น พลางยกแขนทุบตีหลิวอิงไปหลายครั้ง แต่แรงของนางจะไปทำอะไรน้องชายที่มีพลังเหนือกว่านาได้กันนอกจากระบายอารมณ์เท่านั้น
“ท่านพ่อ….อาณาจักร…..”หลิวอิงตัวสั่นสะท้านพลางมองไปที่ด้านหลังของพี่สาวตนเอง ที่หน้าประตูคุกมีไป๋จูเหวินยืนอยู่ เพราะมันเป็นคนพาหลิวเมิ่งมาที่คุกแห่งนี้เอง ตอนนี้ยังปล่อยหลิวอิงไปไม่ได้ ทำได้แค่ให้หลิวเมิ่งได้เยี่ยมมันเท่านั้น
“ทำไมท่านถึงมากับมันท่านพี่”หลิวอิงสะดุ้งวาบพลางมองมาทางไป๋จูเหวิน
“เพราะเจ้าเป็นน้องชายของข้ายังไงล่ะ….ข้าถึงขอร้องให้จักรพรรดิไป๋ให้พาข้ามาเยี่ยมเจ้า”หลิวเมิ่งระบายอารมณ์ได้ไม่นานก็หยุดทำร้ายหลิวอิง ยังไงมันก็เป็นน้องชายผู้เสนน่ารักของนาง หากมีโอกาสนางก็อยากจะอบรมสั่งสอนมันอีก
“เจ้า เจ้าทำอะไรพี่สาวข้า”หลิวอิงว่าพลางชี้ไปทางไป๋จูเหวิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในสมองมันจินตนาการไปไหนต่อไหนแล้ว ทำเอาไป๋จูเหวินได้แต่ถอนหายใจเฮือกออกมา นี่องค์จักรพรรดิองค์อื่นๆทำอะไรกันไว้นักหนานะ ถึงมีแต่คนคิดแบบนี้