บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 330 เหตุด่วน
ตอนที่ 330
เหตุด่วน
“ท่านป้า เมืองของท่านเป็นแบบไหนเหรอ”ไป๋หลินถามขณะไป๋จูเหวินพาอสูรมังกรสำหรับเดินทางมารับพวกรูบี้และเพิร์ลเพื่อเดินทางต่อไปยังอาณาจักรไชน์
“เมืองของป้าเป็นเมืองท่าที่อยู่ติดกับทะเล ทุกๆวันจะมีเรือเข้ามาจอดเทียบท่าหลายลำเลย”รูบี้เล่าพลางเดินขึ้นไปนั่งบนหลังของมังกรด้วยท่าทีดีใจ แม้นางจะส่งจดหมายให้ครอบครัวแล้ว แต่คงไม่มีอะไรดีกว่าลูกสาวตัวเป็นๆกลับไปหาหรอก แถมตอนนี้รูบี้ยังมีองค์ชายหลิวเซียนคอยช่วยงานประกอบหัวรถจักร ต่อให้นางไม่อยู่งานก็ยังเดินต่อได้สบาย
“ว่าแต่เจ้าเถอะ งานที่เมืองหลวงใหม่เรียบร้อยดีแล้วหรือไง”เพิร์ลถามพลางนั่งลงบนหลังมังกรเช่นกัน
“เพราะหลินเอ๋อช่วยก็เลยไวขึ้นเยอะ ตอนนี้ส่งอสูรไปช่วยเหลืองานเจ้าเมืองแล้วก็ส่งสำนักทางใต้ขึ้นมาทางเหนือบางส่วนด้วย”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีผ่อนคลาย ในที่สุดงานที่ทำมาก็เป็นรูปเป็นร่างเสียที การส่งสำนักต่างๆขึ้นไปทางเหนือนั้นนอกจากจะลดความขัดแย้งตามเมืองต่างๆได้แล้วยังช่วยเพิ่มผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณทางเหนือด้วย บางทีไม่กี่สิบปีข้างหน้าอาณาจักรไป๋อาจจะสามารถปกป้องตนเองได้โดยไม่ต้องยืมมืออสูรก็ได้
“เรียบร้อยก็ดี เจ้าจะได้พักบ้าง”เพิร์ลหัวเราะพลางตบบ่าไป๋จูเหวินเบาๆ มันเล่นเดินทางตลอดทั้งปี จนไป๋หลินจะอายุ 6 ขวบอยู่แล้วมันยังเอาแต่ทำงานเลย ให้ไป๋จูเหวินได้พักผ่อนบ้างก็เป็นสิ่งที่ทุกคนหวังเช่นกัน
“งั้นไปกันเถอะ เราต้องไปรับหงเยว่อีก”ไป๋จูเหวินตอบพลางบังคับมังกรบินให้เริ่มออกบินทันที ตอนนี้อสูรแมงมุมของไป๋จูเหวินเริ่มแยกย้ายกันทำงานแล้ว หลินหลินยังคงอยู่กับไป๋จูเหวิน ส่วนปิงปิงมักจะไปตามไป๋หลิน ส่วนหงเยว่นั้นนางรับงานแทนที่อาณาจักรอู๋ ทำให้ไม่ได้อยู่ร่วมกันเลยตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรไป๋ ในเมื่อมันตัดสินใจจะไปพักผ่อนแล้วก็อยากจะพาพวกนางไปด้วยกันทั้งหมด แม้จะน่าเสียดายสักหน่อยที่พวกท่านน้าไม่สามารถร่วมทางมาด้วยได้ก็ตาม
“จะว่าไปองค์จักรพรรดิอู๋ก็ผ่านงานอภิเษกมาพักหนึ่งแล้วนะ ป่านนี้มันทำมเหสีท้องแล้วหรือ”เพิร์ลถามพลางมองไปทางอาณาจักรอู๋ มันได้อู๋หมิงช่วยเหลือตอนมาถึงแผ่นดินนี้ใหม่ๆ พอบอกว่าต้องแวะอาณาจักรอู๋ก่อนก็อดคิดถึงอู๋หมิงขึ้นมาไม่ได้
“จริงด้วย ท่านพ่อข้าขอแวะไปหาท่านลุงกับท่านป้าด้วยได้หรือไม่”ไป๋หลินนึกขึ้นได้ก็ขอร้องทันที ทำให้ไป๋จูเหวินยิ้มออกมาพลางลูบหัวบุตรสาวตนเองเบาๆ
“ได้สิ แต่เจ้าต้องไปหาท่านตาก่อนนะ”ไป๋จูเหวินตอบด้วยรอยยิ้ม หวงหลงเองก็คงคิดถึงหลานสาวอยู่เช่นกัน
.
.
“องค์จักรพรรดิ มีมังกรบินมาลงที่เมืองร้อยแปดอสูรพระเจ้าข้า ทหารที่พบเห็นรายงานว่าองค์จักรพรรดิไป๋เดินทางมาพร้อมกับมังกรตนนั้น”ทันทีที่ไป๋จูเหวินมาถึงเมืองร้อยแปดอสูรก็ราวกับมีทหารคอยจับตามองอยู่ไม่มีผิด ทำเอาอู๋หมิงที่กำลังเขียนหนังสืออยู่ชะงักมือในทันที
“ช่วยตามตัวจักรพรรดิไป๋มาที่วังหลวงที ข้ามีเรื่องจะปรึกษากับท่านเสียหน่อย”อู๋หมิงว่าพลางวางพู่กันลง มันทราบดีว่าไป๋จูเหวินงานยุ่งแค่ไหนช่วงฟื้นฟูอาณาจักร สภาพอาณาจักรโฮและเทะกว่าอาณาจักรอู๋ตอนมันขึ้นมาเป็นจักรพรรดิหลายเท่าตัว งานของไป๋จูเหวินสมควรมากกว่ามันนับสิบเท่าแน่ๆ แต่ในเมื่อมันเดินทางมาเองอู๋หมิงก็ไม่รอช้าที่จะเรียกมันมาหา
“ท่านลุง”หลังจากรออยู่พักใหญ่ ในที่สุดพวกไป๋จูเหวินก็เดินทางมาที่เมืองหลวงเสียที แน่นอนว่าคนที่วิ่งนำมาคนแรกคือไป๋หลินกับพวกอสูรตัวน้อยนั่นเอง
“ท่านป้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”ไป๋หลินถามพลางยิ้มกว้าง ทำเอาอู๋หมิงได้แต่ยิ้มรับอย่างอารมณ์ดี
“เดี๋ยวลุงจะพาเจ้าไปหาป้าของเจ้าเอง”อู๋หมิงตอบพลางมองไปทางไป๋จูเหวินที่อยู่ด้านหลัง
“ได้ข่าวว่าเจ้ามีเรื่องจะปรึกษา มีอะไรงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองร้อยยิ้มของอู๋หมิงด้วยท่าทีประหลาด
“เป็นยังไงล่ะ ภาระของจักรพรรดิ”อู๋หมิงว่าพลางหัวเราะออกมา ไม่นึกเลยว่าไป๋จูเหวินเองก็ต้องกลายเป็นจักรพรรดิเหมือนกัน เพียงสัมผัสพลังในตัวของไป๋จูเหวินก็แทบไม่ต้องถามเลยว่ามันงานยุ่งแค่ไหน เพราะมันแทบไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
“ใกล้เข้ารูปเข้ารอยแล้ว อีกไม่นานข้าจะรวมอาณาจักรไป๋เข้ากับอาณาจักรอู๋ให้เจ้าเป็นจักรพรรดิแต่เพียงผู้เดียว”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีหยอกล้ออีกฝ่าย
“ฝันไปเถอะ ข้าจะไปคุมอาณาจักรที่เต็มไปด้วยอสูรได้ยังไง”อู๋หมิงตอบพลางพาพวกไป๋จูเหวินเดินเข้าไปยังวังชั้นใน
“แล้ว เจ้ามีเรื่องอะไรจะปรึกษาข้าล่ะ”ไป๋จูเหวินถามพลางเดินตามอู๋หมิงเข้ามาในห้องของหยุนฟาง นางนั้นกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะด้วยท่าทีแปลกๆเพราะท่านั่งของนางนั้นดูฝืนๆเหมือนกำลังระวังอะไรบางอย่าง
“ข้าอยากจะให้เจ้าดูให้หน่อย”อู๋หมิงว่าพลางกระแอมกระไอออกมา
“ดู? ภรรยาเจ้าก็แข็งแรงดีไม่ใช่หรือไง”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองไปทางหยุนฟางพลางก้มหัวทักทายนิดหน่อย
“ข้าหมายถึงเด็กในท้องต่างหาก เจ้ามองออกไม่ใช่หรือว่าเด็กในท้องเป็นเพศอะไร”อู๋หมิงว่าพลางเกาแก้มเขินๆ ทำให้เหม่ยหลินที่อยู่ด้านหลังหัวเราะออกมา
“ได้สิ ไม่มีปัญหา”ไป๋จูเหวินได้ยินคำขอร้องก็เปลี่ยนดวงตาเป็นสีเขียวทันที เรื่องที่หยุนฟางตั้งท้องอยู่พอเข้าห้องมาก็รู้ในทันทีโดยไม่ต้องใช้ดวงตาพิเศษอะไรเลย แต่เรื่องเพศของเด็กคงต้องพึ่งพาไป๋จูเหวินหรือไป๋หลินเพียงเท่านั้น
“ยินดีด้วย เจ้าได้บุตรชาย”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมา ทีนี้อู๋หมิงก็คงหมดห่วงเรื่องรัชทายาทแล้วสินะ
“จริงหรือ”อู๋หมิงถามพลางเลิกคิ้วด้วยท่าทียินดี
“ข้าจะหลอกเจ้าเล่นไปทำไม ไม่เชื่อลองถามหลินเอ๋อสิ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมา
“อื้อ น้องเป็นผู้ชายเจ้าค่ะ”ไป๋หลินตอบออกมาเช่นกัน ทำเอาทั้งอู๋หมิงทั้งหยุนฟางต่างยิ้มออกมาด้วยความยินดี
“เท่านี้ท่านก็เลือกชื่อลูกได้เสียทีนะ”หยุนฟางว่าพลางมองมาทางอู๋หมิง
“ชื่องั้นหรือ เจ้าจะตั้งชื่อว่าอะไร”ไป๋จูเหวินถามพลางเลิกคิ้วสงสัย
“ข้าตั้งใจว่าหากเป็นบุตรชาย ข้าจะใช้ชื่อของอาจารย์”ได้ยินที่อู๋หมิงพูด ไป๋จูเหวินก็เข้าใจทันที มันตั้งใจจะตั้งชื่อบุตรชายคนแรกว่าอู๋เทียนหมิงนั่นเอง
“ดี เป็นชือที่ดี”ไป๋จูเหวินยิ้มรับพลางจับบ่าของอู๋หมิงเอาไว้ มันเสียใจมากกับการเสียอาจารย์ไป ซึ่งตัวไป๋จูเหวินเองก็เสียใจไม่น้อย
“ว่าแต่เจ้าเถอะ จะเดินทางไปไหนกัน”หยุนฟางถามออกมาเพราะนางเห็นพวกไป๋จูเหวินแต่งตัวแปลกๆ พวกมันแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายที่อาณาจักรไชน์ใช้ทำให้แปลกตามากสำหรับคนอาณาจักรอู๋
“ข้าจะเดินทางไปเยี่ยมบ้านของสหายข้าเสียหน่อย”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางมองไปทางเพิร์ลกับรูบี้
“หมายถึงแผ่นดินอีกฟากของทะเลงั้นหรือ”อู๋หมิงมีท่าทีสนใจอย่างเห็นได้ชัด แต่จะให้มันเดินทางตอนภรรยากำลังตั้งท้องก็คงไม่ได้
“ใช่ ที่นั้นเรียกว่าอาณาจักรไชน์”ไป๋จูเหวินตอบพลางนึกภาพของอาณาจักรไชน์ที่ตนเคยไป ที่นั่นแม้จะเป็นอาณาจักรของมนุษย์เช่นกัน แต่ก็มีหลายๆอย่างแตกต่างกันมากทีเดียว
“งั้นเหรอ น่าเสียดาย โอกาสหน้าข้าเองก็อยากจะไปเที่ยวชมเช่นกัน”อู๋หมิงพูดออกมาด้วยท่าทีเสียดายจริงๆ มันเองก็ไม่ได้งานยุ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะอาณาจักรอู๋ตอนนี้แทบจะเป็นเหมือนไข่ในหิน อาณาจักรไป๋และอาณาจักรชินต่างล้อมรอบอาณาจักรอู๋เอาไว้ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องข้าศึกเลยก็ว่าได้ แถมได้ข่าวว่าอาณาจักรชูกำลังจะมีรัชทายาทองค์ใหม่อีกด้วย ความกังวลเรื่องที่ชูเจินจะขึ้นมาครองราชแล้วทำให้ความสัมพันธ์ของอาณาจักรเปลี่ยนไปหายไปเช่นกัน
“หากองค์จักรพรรดิอู๋เสด็จมา พวกเราก็ยินดีต้อนรับเช่นกัน”เพิร์ลยิ้มรับพลางก้มหัวให้อู๋หมิงอย่างสง่างาม น่าเสียดายที่การเดินทางคราวนี้มีเวลาจำกัด หลังจากพูดคุยกันได้ไม่นานพวกไป๋จูเหวินก็ต้องเดินทางต่อแล้ว คราวนี้พวกมันบินตรงไปยังอาณาจักรไชน์ทันทีโดยไม่ได้แวะที่ไหนอีก
.
.
“รูบี้ ถึงแล้ว”มังกรของไป๋จูเหวินบินได้อย่างรวดเร็วจริงๆ ไม่นานก็บินข้ามทะเลจนมาถึงอาณาจักรไชน์แล้ว และเมืองแรกที่ได้เห็นก็ย่อมเป็นเมืองท่าของรูบี้นั่นเอง
“ไป๋หลินดูสิ นั่นไงล่ะเมืองของป้า”รูบี้ยิ้มพลางพาไป๋หลินมาดูเมืองของนาง
“ท่านป้า ทำไมไม่เห็นมีเรือเลยล่ะ”ไป๋หลินถามพลางมองไปทางท่าเรือ รูบี้มักเล่าเสมอว่าเมืองของนางมีเรือเข้ามาจอดเทียบท่ามากมายเป็นประจำ เพราะท่าเรือของรูบี้เป็นท่าเรือใหญ่ทางภาคกลางของอาณาจักรไชน์ เรือสินค้าของทางใต้และทางเหนือจะมาจอดที่นี่ทั้งนั้น
“นั่นสิรูบี้ ทำไมไม่มีเรือเลย”เพิร์ลที่เคยมาเมืองของรูบี้บ่อยครั้งรู้สึกแปลกๆเช่นกันหลังจากมังกรบินลงมาจนเห็นเมืองได้ชัดเจรยิ่งขึ้น
“นั่นสิ มันแปลกๆ”รูบี้เองที่เกิดและโตที่เมืองนี้ยิ่งรู้สึกประหลาด ตอนนี้ไม่ใช่หน้าฝน การเดินเรือควรคึกคักเสียด้วยซ้ำ ทำไมถึงได้ไม่มีเรือเทียบท่าเลย อย่าว่าแต่เรือสินค้าต่างแดนเลย แม้แต่เรือหาปลาของเมืองเองก็ไม่มีสักลำ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”เพิร์ลถามพลางมองไปที่ท้องทะเล มันเงียบไม่ต่างจากท่าเรือของเมืองเลย ไม่มีเรืออยู่บนน้ำเลยสักลำ
“รีบไปที่ปราสาทก่อนเถอะ”รูบี่ว่าพลางชี้ไปที่ปราสาทของเจ้าเมือง ทำให้ไป๋จูเหวินออกคำสั่งให้มังกรบินลงไปจอดที่ปราสาททันที
“รูบี้?”แน่นอนว่าคนในปราสาทต้องแตกตื่นอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่เพราะมังกรเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ผู้คนแตกตื่น แต่เพราะได้เห็นรูบี้กับเพิร์ลที่อยู่บนหลังของมันด้วยนั่นเอง
“เจ้ายังไม่ตาย รูบี้ นั่นเจ้าจริงๆ”พ่อของรูบี่ที่บังเอิญอยู่แถวนั้นพอดีพูดออกมาพลางกระโดดขึ้นมาบนหลังมังกรโดยลืมความกลัวที่มีต่อมังกรไปเสียสนิท
“ท่านพ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ข้าส่งจดหมายมาบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือ”รูบี้ถามพลางมองพ่อของนางด้วยความประหลาดใจ
“จดหมาย….เจ้าฝากมากับเรืองั้นหรือ”พ่อของรูบี่ถามพลางกุมมือบุตรสาวตนเองแน่น
“เจ้าค่ะ ข้าอยู่ช่วยงานไป๋จูเหวินที่อาณาจักรของมันก็เลยไม่ได้กลับมากับเรือ ข้าเลยฝากจดหมายมาให้ท่าน”รูบี้ตอบพลางกระพริบตาถี่ๆ นี่มันเหมือนพ่อของนางไม่รู้เรื่องนั้นเลย
“เทพพระเจ้าคุ้มครองเจ้าจริงๆ หากเจ้ากลับมากับเรือคงจะจากพวกเราไปแล้ว”พ่อของรูบี้ว่าพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ท่านพ่อ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”รูบี้ถามพลางกำมือพ่อตนเองแน่น
“โจรสลัดนะสิ มันไล้ปล้นเรือบนน่านน้ำของเราจนหมด เรือของเจ้าเองก็ถูกโจมตีจนจมไปแล้วเช่นกัน”ได้ยินเช่นนั้นรูบี้ก็ใจหายวาบ บนเรือมียอดฝีมือที่เก่งกว่าเพิร์ลอยู่หลายคนทีเดียว หากพวกมันยังสู้ไม่ได้จนเรือจมโอกาสที่รูบี้และเพิร์ลจะรอดมาได้ก็น้อยเต็มที หรือนี่จะเป็นเหตุผลที่ไม่มีเรือจอดเทียบท่าอยู่เลย