บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 335 หวังผล
ตอนที่ 335
หวังผล
“ถ้าอย่างนั้นละก็ เริ่มได้”มังกรธรณีเห็นแขกมากันพร้อมแล้วก็เริ่มสั่งให้เหล่าอสูรทำการประลองได้ โดยการประลองครั้งนี้ไม่ได้จัดเป็นรอบๆเหมือนการประลองของพวกมนุษย์ อสูรเกือบ 30 ตนที่เข้าร่วมต่างตรงเข้าห้ำหั่นกันทั้งๆแบบนั้น อสูรที่เหลืออยู่ 5 ตนก็จะได้รับตำแหน่งไป
ตูม!!! เริ่มมาเหล่าอสูรยังไม่ทันเปลี่ยนร่างเป็นอสูรกันครบทุกตัว อสูรค้างคาวตนหนึ่งก็ยิงลิ่มน้ำแข็งขนาดเท่าเสาบ้านใส่อสูรอีกตนหนึ่งทันที แต่เท่านี้มีหรือจะล้มอสูรระดับมายาขั้นที่ 10 ได้ง่ายๆ อสูรหมีที่มีร่างกายแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้าไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับลิ่มน้ำแข็งนั่นเลย มันตรงเข้าไปหาอสูรค้างคาวพลางหวดกรงเล็บใส่อสูรค้างคาวไม่ยั้ง แต่เพราะความเร็วของอสูรค้างคาวมีมากกว่ามันเลยหลบการโจมตีของอสูรหมียักษ์ได้อย่างรวดเร็ว
พลัก!! ระหว่างกำลังไล่ตามโจมตีอสูรค้างคาวตัวของอสูรหมียักษ์ก็โดนอสูรแพะตนหนึ่งอัดจนหลิวไปชนกับภูเขาทำเอาทั้งภูเขาถล่มลงมาทับร่างของอสูรหมียักษ์จนมิด แต่ไม่นานมันก็ลุกขึ้นมาไล่โจมตีอสูรค้างคาวกับอสูรแพะต่อ
เปรี้ยง!! อสูรค้างคาวที่กำลังบินวนไปมาอยู่บนอากาศโดนสายฟ้าฟาดเข้าอย่างจัง โดยผู้ยิงสายฟ้าออกมานั้นเป็นมังกรเขาเดียวที่มีกระแสไฟฟ้าแล่นอยู่รอบตัวนั่นเอง
“ฮ้าๆ ไม่เลวเลย”อสูรค้างคาวว่าพลางบินออกไปให้ห่างจากอสูรมังกรเขาเดียว พวกอสูรบินมีความได้เปรียบตรงที่จับตัวได้ยาก แต่พวกมันก็มีความต้านทานต่ำกว่าอสูรบนพื้นอย่างหมียักษ์ ทำให้มันไม่อยากเสี่ยงโดนสายฟ้าของมังกรเขาเดียวหลายๆครั้ง
ตูม!! อยู่ๆกรงเล็บของอสูรหมียักษ์ก็ตะปบเข้าที่ร่างของอสูรค้างคาวได้เสียที เพราะมันมัวแต่หลบการโจมตีของมังกรเขาเดียวทำให้มันลืมหลบกรงเล็บของอสูรหมียักษ์ไปเสียสนิท
“จับได้สักที”อสูรหมียักษ์ที่โดนเล่นงานไปหลายทีกลับไม่มีท่าทีบาดเจ็บเลย มันใช้อุ้งมือกดร่างของอสูรค้างคาวเอาไว้ ก่อนจะใช้อุ้งมืออีกข้างตะปบเข้าใส่ร่างของอสูรค้างคาวอย่างแรง
“อากกก”อสูรค้างคาวกรีดร้องพลางพยายามดิ้นหนีออกจากอุ้งมือของอสูรหมียักษ์ แต่ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันเกินไปทำให้มันไม่อาจหลุดรอดออกจากอุ้งมือได้เลย
เปรี้ยง!!! อยู่ๆอสูรค้างคาวก็หายไปจากอุ้งมือของอสูรหมียักษ์ทำเอามันได้แต่ตะลึงตาค้างเพราะมันตามสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน
“พอแล้ว เจ้าค้างคาวแพ้แล้ว”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางปล่อยอสูรค้างคาวออกจากปากตนเอง เมื่อครู่เป็นมันนั่นเองที่เอาอสูรค้างคาวออกมา
“ขอรับ”อสูรหมียักษ์เหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นแค่การประลองเท่านั้นพวกมันยังไม่ชินกับการอยู่ร่วมกันกับราชาตนอื่นเสียเท่าไหร่
“นี่มันอะไรกัน”หลิวหลงที่มองอยู่ด้านบนเบิกตากว้างมองการต่อสู้ตะลุมบอนเบื้องหน้าด้วยท่าทีตื่นตระหนก ตัวหลิวหลงที่เคยเป็นองค์ชายใหญ่มาก่อนย่อมศึกษาเรื่องต่างๆในอาณาจักรมาอย่างดี ซึ่งเรื่องของเขตอสูรนั้นก็เป็นอีกเรื่องที่พวกมันต้องศึกษาเอาไว้
หากอิงจากตำนานที่เล่าขานกันมาในราชวงก์ เจ้าหมีตนนั้นคืออสูรหมีที่ปกครองเขตอสูรจันทร์เสี้ยวที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอาณาจักรไป๋ในปัจจุบัน แต่ก่อนหน้านี้นั้นเคยมีองค์จักรพรรดิรุ่นก่อน หรือก็คือท่านปู่ของหลิวหลงผู้นี้เคยยกกองทหารไปบุกเขตอสูรจันทร์เสี้ยวเพื่อชิงสมุนไพรมีค่ามารักษาลูกชายของมัน หรือก็คือพ่อของหลิวหลงนั่นเอง แต่ยอดฝีมือที่พาไปร่วม 10 คน ตายไป 4 บาดเจ็บอีก 2 พวกมันไม่สามารถทำอะไรราชาแห่งเขตอสูรจันทร์เสี้ยวได้เลย ว่ากันว่าแม้แต่อาวุธวิเศษก็ไม่อาจเจาะผิวหนังของมันเข้าได้ โชคยังดีที่ปู่ของมันไม่บาดเจ็บและยังสามารถชิงสมุนไพรกลับมาได้ ทำให้พ่อของมันรอดชีวิตมาจนถึงเมื่อเร็วๆนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องของราชาแห่งเขตอสูรจันทร์เสี้ยวก็ยังคงเป็นตำนานที่มันได้ฟังจากปู่โดยตรง และยังทำให้มันฝังใจอยู่ไม่น้อย
ตูม!! ร่างของอสูรหมียักษ์โดนร่างของกระต่ายจนหนึ่งที่มีขนสีขาวไปทั้งตัวพุ่งวาบเข้าเตะอย่างจังจนล้มลงไปนอนกับพื้น ทำเอาหลิวหลงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ อสูรที่มันหวาดกลัวอย่างหมียักษ์แห่งเขตอสูรจันทร์เสี้ยวโดนเตะล้มต่อหน้าต่อตา ทำเอาหลิวหลงไม่ทราบจะบรรยายความรู้สึกว่าอย่างไร
“ทุกตนเก่งกันจริงๆ”หลิวมู่เฉินชื่นชมออกมาด้วยท่าทีใสซื่อ นางเป็นหญิงสาวที่โตมาในวังแทบจะไม่เคยเจอเรื่องภายนอกเลย เป็นหญิงสาวใสซื่อที่ไม่แม้แต่จะกลัวพวกอสูรที่กำลังห้ำหั่นกันอยู่กลางภูเขา
“ไม่หรอกเจ้าค่ะ อสูรที่นั่งอยู่รอบๆเราเก่งกาจยิ่งกว่าพวกมันเสียอีก”แม้จะพูดกับหลิวมู่เฉิน แต่หลิวหลงกลับเป็นฝ่ายสั่นสะท้านเสียเอง จะบอกว่าอสูรที่อยู่รอบๆตัวมันแข็งแกร่งกว่าอสูรที่มันหวาดกลัวเสียอีกงั้นเหรอ…
กึก…มือของหลิวหลงสั่นขึ้นมาเสียเฉยๆ ตัวมันได้เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมหลิวเมิ่งถึงบอกว่าพวกมันไม่มีทางชนะ หากเทียบกันโดยตามที่ปู่ของมันเล่าให้ฟัง อสูร 30 ตนด้านล่างก็เทียบได้กับยอดฝีมือนับสิบคน แถมอสูรพวกนี้ยังไม่ใช่ทั้งหมดอีกต่างหาก ยังมีอสูรที่อยู่ทางเหนือของอาณาจักรไป๋ และอสูรที่ทำหน้าที่ขุนนางและเจ้าเมืองอีกต่างหาก
“ท่านพี่”หลิวอิงที่อยู่ด้านหลังของหลิวหลงเห็นท่าทีของพี่ชายมันอย่างชัดเจน มันทราบดีว่าท่านกำลังตระหนักถึงความจริง ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ตนเองจะทำอะไรไป๋จูเหวิน
“ข้าควรทำเช่นไรดี”หลิวหลงกัดฟันพลางกำหมัดแน่น ตัวมันได้ทราบแล้วว่าไม่มีทางเอาชนะไป๋จูเหวินได้ ไม่มีทางแม้แต่จะยึดอาณาจักรคืนได้ในช่วงที่ไป๋จูเหวินไม่อยู่ ตัวมันช่างไร้กำลังเสียเหลือเกิน
“เพราะแบบนี้ข้าถึงได้มาเป็นผู้ช่วยขององค์จักรพรรดิไงละเจ้าคะ”หลิวเมิ่งตอบพลางมองไปทางพี่ชายของนาง แม้มันจะชอบดูถูกคนอื่นไม่ต่างจากหลิวอิง แต่มันฉลาดกว่าหลิวอิง รู้เรื่องอาณาจักรมากกว่าหลิวอิง และมีความเป็นผู้นำมากกว่า พี่ใหญ่ของนางไม่ใช่คนกระจอกที่จะเก็บตัวอยู่แต่ในวังนอกเมือง แม้หลิวเมิ่งจะไม่ชอบใจนักที่เหมือนโดนมังกรธรณีจัดฉากให้ตนพาพี่ใหญ่มาเจอความจริงที่เจ็บปวดเช่นนี้ แต่หากพี่ใหญ่ทำใจได้และเข้ามาช่วยงานของไป๋จูเหวินแทน ชีวิตมันก็จะมีความหมาย อย่างน้อยมันก็ยังทำงานเพื่อประชาชนของตนได้อย่างที่มันฝัน
“……….”หลิวหลงนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะคลายมือที่กำเอาไว้แน่นของตนออก มันมองไปทางหลิวเมิ่งพลางแสดงสีหน้าลังเลออกมาครู่หนึ่ง
“น้องเมิ่ง…องค์จักรพรรดิกลับมาเมื่อไหร่ ข้าอยากจะเข้าพบท่าน เจ้าช่วยหาโอกาสให้ได้หรือไม่”ได้ยินพี่ชายของนางพูดเช่นนั้นหลิวเมิ่งก็พยักหน้าช้าๆ ก่อนจะเริ่มชมดูการประลองกับพี่หญิงของนางต่อด้วยท่าทีจริงจัง สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นการประลองชิงตำแหน่งที่สามารถเข้ามาชมได้สนุกๆ แต่กับหลิวเมิ่งแล้วนางต้องจับจ้องความสามารถของพวกมันให้ดี วันหนึ่งหากต้องใช้งานพวกมันขึ้นมาตัวนางเองต้องสามารถช่วยสนับสนุนจักรพรรดิได้
ตูม!! ในที่สุดอสูรตนสุดท้ายก็ล้มลงไปนอนกับพื้น เหลือเพียงอสูร 5 ตนเท่านั้นที่ยังยืนอยู่โดยอันดับแรกคือมังกรเขาเดียวผู้ใช้ธาตุสายฟ้า ร่างกายของมันแข็งแกร่งและทนทานมากสมกับที่เป็นมังกร แต่ที่น่ากลัวคือมันสามารถปล่อยสายฟ้าได้เรื่อยๆราวกับพลังไม่มีหมด แม้มันจะไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วเหมือนฮสูรธาตุสายฟ้าตนอื่นๆ แต่มันเหมือนป้อมปราการที่ยิงกระสุนออกมาได้ไม่จำกัดเลย
ตนที่สองคืออสูรกระต่ายขาวนางเป็นอสูรที่ไวมากแม้จะเป็นธาตุทองก็ตาม ร่างของนางแข็งแกร่งจนน่าตกใจ เมื่อใช้ความเร็วที่ติดตัวมาแต่เกิดกับธาตุทองที่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งกระแทกเข้ากับเป้าหมาย แม้แต่หมียักษ์ที่หนังหนาสุดๆยังล้มไม่เป็นท่า
ตนที่สามคืออสูรกิ้งก่า มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็วแถมยังสามารถเปลี่ยนสีตนเองได้อีกต่างหาก ยามมันต่อสู้และเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุดมันแทบจะล่องหนหายไปเลยทีเดียว
ตนที่สี่เป็นอสูรนกที่มีสีสันงดงามทีเดียว หากมองภายนอกแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะสามารถเอาชนะเหล่าอสูรตนอื่นมาได้ แต่นางก็ฉลาดมาก และมีวิธีการต่อสู้ที่แยบยลและน่าสนใจทีเดียว ยิ่งในการต่อสู้เป็นกลุ่มแบบนี้นางยิ่งแสดงฝีมือออกมาได้ดี
ส่วนตนสุดท้ายเป็นอสูรเต่าที่มีเกราะแข็งแกร่งมาก เอาจริงๆการประลองครั้งนี้มันไม่ได้โจมตีใครเลย มันแค่ยืนเฉยๆเท่านั้นเพียงแค่อสูรตนอื่นโจมตีมันไม่เข้าเท่านั้นเอง
“แต่ละตนใช้ได้ทีเดียวเจ้าคิดว่าไง”มังกรธรณีถามพลางมองไปทางไก่ฟ้าหงอนทองที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่มันกลับกำลังเอาแร่ที่มันสะสมออกมาเรียงและนั่งพิจารณาเสียอย่างนั้น
“หะ เจ้าถามว่าอะไรนะ”ไก่ฟ้าหงอนทองถามพลางเลิกคิ้วสงสัย ทำเอามังกรธรณีได้แต่เหงื่อตก ไอ้เจ้าไก่อ้วนนี่ไม่ได้สนใจงานเลยหรืออย่างไร
“เอาเถอะ หลังจากองค์จักรพรรดิกลับมา ให้พวกเจ้าเข้ามารายงานตัว เท่านี้ก็แยกย้ายได้”มังกรธรณีสั่งพลางลุกขึ้นยืน สนามประลองคราวนี้จงใจจัดขึ้นที่หุบเขาหลิวขจี นั่นเพราะทางรถไฟที่กำลังจะสร้างจะต้องสร้างผ่านกลางหุบเขา ทำให้มังกรธรณีพาเหล่าอสูรมาประลองที่นี่ และผลที่ได้ก็ไม่เลวเลยเพราะภูเขาพังไปเป็นแถบๆ เหลือปรับดินอีกไม่มากก็คงสามารถเดินทางรถไฟผ่านได้แล้ว การจัดงานประลองครั้งนี้นอกจากจะสามารถคัดตัวอสูรที่จะได้รับตำแหน่งแล้ว ยังสามารถทำให้พวกองค์หญิงองค์ชายเก่าของอาณาจักรหลิวปลงตกเสียที แถมยังได้ถมที่สร้างทางรถไฟอีกต่างหาก นับว่างานนี้คุ้มค่าจริงๆ
.
.
“ท่านพ่อๆ ดูสิๆ”ไป๋หลินพูดพลางนำอวนที่ทำจากใยแมงมุมออกมาให้ไป๋จูเหวินดู เพราะมันช่วยงานของกองทัพเรือทำให้พวกกองทัพเรืออาสาจะพาไป๋จูเหวินไปส่งที่ท่าเรือทางเหนือเอง
แม้ความจริงไป๋จูเหวินจะสามารถเดินทางได้เร็วกว่าด้วยการนั่งหลินหลินไป แต่คราวนี้พวกมันไม่ได้รีบ แถมยังเป็นการพาไป๋หลินร่องเรือเล่นได้ดีอีกด้วย
“เจ้าคิดจะจับปลากี่ตัวกัน”ไป๋จูเหวินถอนหายใจพลางมองอวนที่ไป๋หลินช่วยกันทำกับหลินหลิน ใยแมงมุมของพวกนางเหนียวและแข็งแกร่งมาก ต่อให้ในทะเลมีอสูรปลาอยู่ก็คงโดนจับขึ้นมาแน่ๆ แถมพวกนางยังให้ไป๋ไป่เป็นคนดึงอีกต่างหาก ท่าทางเย็นนี้ลูกเรือของกองทัพเรือคงได้กินปลากันทุกคนแน่ๆ
“ดูเหมือนจะเริ่มวางรางรถไฟกันแล้วสินะ”รูบี้ว่าพลางมองจดหมายที่หลิวเซียนส่งมาทางนกอสูร เพราะไป๋จูเหวินจัดการพวกโจรสลัดไปได้ ทำให้พ่อของรูบี้ยอมให้รูบี้ไปมากับไป๋จูเหวินได้อย่างวางใจและยอมให้นางมาช่วยงานไป๋จูเหวินได้อีกต่างหาก นับว่าโชคดีทีเดียวเพราะหากพ่อของรูบี้ไม่ยอมให้รูบี้กลับมาที่อาณาจักรไป๋ละก็ งานสร้างรถไฟคงล่าช้าแน่ๆ