บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 344 ไม่รอด
ตอนที่ 344
ไม่รอด
“……..”ชิงชิวที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋หลินเช่นเดียวกับไป๋ไป่กำลังมองไปตรงหน้าด้วยท่าทีประหลาดใจ ตอนแรกที่มันได้เห็นไป๋หลิน นางดูเป็นเจ้าหญิงที่เรียบร้อยน่าเอ็นดูดีอยู่หรอก แต่พอได้มาเจอกับองค์ชายเทียนหมิงกลับทำตัวเป็นพี่สาวเห่อน้องเสียอย่างนั้น ขนาดในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดขององค์ชาย ไป๋หลินก็ยังไปนั่งข้างๆพลางหยอกล้อเทียนหมิงอย่างสนุกสนานเสียอย่างนั้น
แต่ถึงจะเปลี่ยนไปจากตอนแรกอยู่มาก แต่ไป๋หลินก็ไม่มีท่าทีจะหนีไปไหนอย่างที่ไป๋จูเหวินกังวลเลยนี่นา หรือที่ท่านต้องการคนแบบชิงชิวเพราะท่านกังวลไปเองหรือเปล่า
“ท่านพ่อ ขอข้าไปเยี่ยมท่านตาได้หรือเปล่า”ไป๋หลินถามหลังจากพิธีฉลองจบลงแล้ว พอแขกกลับไปเทียนหมิงน้อยก็ไม่ยอมเจอไป๋หลินอีกทำให้นางว่างมากเลยทีเดียว แถมไป๋จูเหวินจะอยู่คุยกับอู๋หมิงต่ออีกหน่อย นางก็เลยจะขอไปหาท่านตาที่เมืองร้อยแปดอสูรแทน
“ก็ได้ แต่ต้องตรงไปที่เมืองร้อยแปดอสูรเลยเข้าใจนะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองมาทางชิงชิวครู่หนึ่งราวกับจะบอกว่าคำพูดเมื่อครู่เน้นย้ำให้มันฟัง
“เจ้าค่ะ”ไป๋หลินตอบพลางพาไป๋ไป่เดินออกไปจากวังหลวงอย่างรวดเร็ว ทำให้ชิงชิวต้องรีบตามไปทันที ปกติแล้วองค์หญิงจะไปที่ไหนสมควรมีขบวนสเด็จไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมีแค่นางกับอสูรของนางเท่านั้นล่ะ?
“พี่ชิว ข้ากับพี่ไป๋ไป่จะไปแวะร้านขายของตรงนั้นหน่อย ท่านรออยู่ตรงนี้ได้ไหม”ไป๋หลินถามพลางมองมาทางชิงชิวที่วิ่งตามมา
“แต่ องค์จักรพรรดิบอกว่าให้ตรงไปเมืองร้อยแปดอสูรเลยนะขอรับ”ชิงชิวตอบพลางกระพริบตาปริบๆ
“แต่จะไปหาท่านตามือเปล่ามันไม่ดีไม่ใช่หรือเจ้าคะ ข้าอยากจะหาของฝากไปให้ท่านตาหน่อย”ไป๋หลินตอบพลางมองชิงชิวด้วยท่าทีขอร้อง
“ก็จริงขอรับ…แต่ข้าต้องตามองค์หญิงไปด้วย”ชิงชิวตอบด้วยท่าทีจริงจัง เห็นได้ชัดเลยว่างานของมันคืออย่าปล่อยให้องค์หญิงคลาดสายตา
“ก็ได้”ไป๋หลินตอบพลางพาไป๋ไป่เข้าไปในร้านขายของตามข้างทาง แต่เพียงเข้าไปร้านแรก คนในร้านก็แตกตื่นรีบก้มหัวกันยกใหญ่ เพราะชื่อเสียงของไป๋หลินไม่ได้อยู่แค่ในอาณาจักรไป๋เท่านั้น ด้วยสายเลือดของนาง ทำให้นางเป็นองค์หญิงของ 3 อาณาจักร น้าของนางอย่างเหม่ยฮวาเป็นน้องสะใภ้ของจักรพรรดิอู๋หมิง พ่อของนางเป็นหลานของจักรพรรดิอาณาจักรชินและตัวพ่อเองก็เป็นจักรพรรดิอาณาจักรไป๋ ทำให้ตัวไป๋หลินไม่ว่าจะอยู่ในอาณาจักรไหนก็ยังถือเป็นองค์หญิงของอาณาจักรนั้นทั้งสิ้น
“ไป๋น้อยมานี่ก่อน”ไป๋ไป่ว่าพลางลากไป๋หลินไปที่ร้านขายเสื้อผ้าแทนที่จะเข้าไปที่ร้านขายของที่เตรียมจะเข้าไปตอนแรก ดูท่าเปิดเผยหน้าตาเดินแบบนี้จะเป็นเรื่องไม่ดีเท่าไหร่
“ชุดนี้ดีหรือเปล่าพี่ไป๋ไป่”กลายเป็นว่าอย่างแรกที่ไป๋หลินต้องทำคือปลอมตัวให้แนบเนียนกับคนในเมืองเสียก่อน โดยที่ชิงชิวไม่ได้ปล่อยให้นางคลาดสายตา มันยังคงยืนมองไป๋หลินและไป๋ไป่เลือกชุดกันตามประสาผู้หญิง แม้เจ้าของร้านจะเกร็งจนตัวแข็งก็ตาม
“พี่ชิว พวกข้าจะเข้าไปเปลี่ยนชุดหน่อยนะ”ไป๋หลินว่าพลางเดินเข้าไปหลังร้าน เรื่องนี้ชิงชิวไม่บังอาจตามไปจับตามองแต่อย่างไร มันจึงได้แต่รอหน้าร้านเท่านั้น
“……..”หลายนาทีผ่านไป ไม่ทราบว่าไป๋หลินเปลี่ยนชุดไปกี่ชุดกันแน่ นางถึงได้ใช้เวลานานนัก แต่เพราะนางหายไปหลังร้านนานมากทำให้ชิงชิวเริ่มรู้สึกระแวง ทำให้มันเริ่มดมหลิ่นรอบๆช้าๆ แต่กลิ่นของไป๋หลินกับไป๋ไป่ก็ยังอยู่ในหลังร้าน ดูแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ….
ฟุบ!! อยู่ๆชิงชิวก็วิ่งพรวดออกจากร้าน ก่อนจะกระโดดวูบข้ามตัวร้านไปที่ทางออกด้านหลังทันที
“องค์หญิง ท่านจะไปไหนหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางมองไป๋หลินที่กำลังย่องออกทางหลังร้าน แม้นางจะทิ้งชุดเก่าเอาไว้เพื่อทิ้งกลิ่นของนางเอาไว้ในร้าน แต่เพราะกลิ่นของไป๋หลินแยกเป็น 2 จุดทำให้ชิงชิวทราบทันทีว่านางออกมาข้างนอก
“เปล่านะพี่ชิว ในห้องแต่งตัวมันมืดข้าก็เลยออกมาส่องกระจกหลังร้าน”ไป๋หลินตอบพลางหลบสายตาของชิงชิว
“แต่หลังร้านไม่เห็นมีกระจกนะขอรับ แถมนี่ก็เป็นทางออกแล้วด้วย”ชิงชิวว่าพลางมองไปรอบๆ บอกตามตรงว่าข้อแก้ตัวนี้ไม่เนียนเอาเสียเลย
“จริงๆนะ นั่นไงกระจก”ไป๋หลินว่าพลางชี้ไปทางขวา ทำให้ชิงชิวหันไปมองตามที่นางชี้ทันที
ฟุบ… อยู่ๆร่างของไป๋หลินกับไป๋ไป่ก็พุ่งวาบออกไปจากจุดที่นางอยู่ ทำเอาชิงชิวถอนหายใจออกมา นี่มันโดรหลอกงั้นหรือ
โครม!! ชิงชิวกำลังจะตามไป๋หลินไป แต่ทันทีที่ก้าวเดินร่างของมันก็ล้มลงนอนกับพื้นทันที สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะที่เท้าของมันมีอะไรบางอย่างมัดมันเอาไว้กับประตูของร้านขายเสื้อผ้า
“……..”ชิงชิวมองไปที่ขาของตัวเองก็พบว่ามันคือใยแมงมุมนั่นเอง แม้จะยังไม่ทราบว่าใยแมงมุมนี้มาได้อย่างไรแต่ชิงชิวก็เอามีดออกมาจากแหวนมิติที่ท่านขุนพลมอบให้ก่อนจะฟันใส่ใยแมงมุมเพื่อตัดทิ้ง
กึด….ใยแมงมุมที่โดนมีดเฉือนไม่ยอมขาด ทำเอาชิงชิวอึ้งไปเลย ใยแมงมุมอะไรถึงได้เหนียวขนาดนี้ แต่ตัวมันต้องรีบตามองค์หญิงไปเสียด้วย
ฟุบๆ…ชิงชิวตัดสินใจฟันไปที่ประตูแทน มันหั่นตรงส่วนที่ใยแมงมุมยึดอยู่ออกจนใบแมงมุมหลุดออกมา ก่อนที่มันจะกระโดดไปบนหลังคาเพื่อตามหาไป๋ไป่อีกรอบ
แม้จะคลาดสายตาไปแล้ว แต่ความสามารถของชิงชิวไม่ได้กระจอก มันสูดหายใจเข้าเพียงครั้งเดียวก็ทราบแล้วว่าองค์หญิงกับไป๋ไป่ไปทางไหน เมื่อทราบทิศทางมันก็พุ่งวาบออกไปทันที
“องค์หญิง”ไม่นานร่างของชิงชิวก็ตามไป๋หลินกับไป๋ไป่มาทัน ด้วยวิชาท่าเท้าของมันและพลังธาตุที่เป็นธาตุลม เทียบกับไป๋หลินที่เป็นธาตุน้ำแล้วมันเร็วกว่ามาก
กึก….เมื่อเห็นชิงชิวตามมาไป๋หลินก็หยุดยืนบนหลังคาของบ้านหลังหนึ่ง ทำให้ชิงชิวโล่งใจ ท่าทางนางจะทราบแล้วว่าหนีมันไม่พ้น
“องค์หญิง เราต้อ…..”โครม!!! ทันทีที่ขึ้นไปยืนบนหลังคา ร่างของชิงชิวก็ลื่นลงมากระแทกพื้นทันที เมื่อครู่บนหลังคามีน้ำแข็งเกาะอยู่ หรือจะเป็นฝีมือองค์หญิงกัน
ฟุบๆ ใบแมงมุมสองสายพุ่งเข้ามาพันแขนของชิงชิวเอาไว้ คราวนี้ชิงชิวเห็นชัดตาแล้วว่าไป๋หลินนั่นเองเป็นผู้สร้างใยแมงมุมพวกนั้นออกมา
“ขอโทษนะพี่ชิว”ไป๋หลินยิ้มทะเล้นพลางเริ่มออกวิ่งไปพร้อมกับไป๋ไป่ต่อ ทำเอาชิงชิวไม่ทราบจะหัวเราะหรือร้องให้ดี มิน่าเล่าองค์จักรพรรดิถึงต้องการความสามารถของมัน องค์หญิงจริงๆแล้วแสบใช่ย่อยเลยไม่ใช่หรือไง
เพร๊ง!! เพราะใบแมงมุมของไป๋หลินผูกเข้ากับกระเบื้อง ทำให้ชิงชิวต้องทุบกระเบื้องให้แตกเพื่อหนีออกมา มันม้วนเอาใยแมงมุมที่ติดตามแขนขาของมันเพื่อไม่ให้ใยแมงมุมไปโดนอะไรเข้า ก่อนจะเริ่มตามกลิ่นของไป๋หลินต่อ
“……..”กว่าชิงชิวจะตามไป๋หลินมาทัน มันก็พบว่านางอยู่ที่สถานีรถไฟเสียแล้ว จำนวนคนที่ขึ้นลงรถไฟในอาณาจักรอู๋นั้นมีมากกว่าอาณาจักรไป๋เสียอีกเพราะทางรถไฟในอาณาจักรอู๋ยังมีไม่มาก จำนวนรอบรถก็น้อยกว่า ทำให้คนขึ้นรถไฟครั้งหนึ่งมีมากกว่าอาณาจักรไป๋หลายเท่าเลย
“………”ชิงชิวมองไปรอบๆพลางสูดกลิ่นเข้าปอด องค์หญิงไม่รู้ไปทราบมาจากไหนว่าความสามารถของมันคือการดมกลิ่น ตอนนี้ในสถานีรถไฟมีกลิ่นของไป๋หลินและไป๋ไป่กระจายไปรอบๆหลายจุดทีเดียว หรือว่านางจะจงใจทิ้งกลิ่นเอาไว้รอบๆให้มันสับสน
ฟุบ…ร่างของชิงชิวกระโดดวาบไปที่จุดๆหนึ่งที่กลิ่นเด่นชัดที่สุด แม้จะวางของติดตัวเพื่อกระจายกลิ่นอย่างไร ชิงชิวก็ยังทราบตำแหน่งของไป๋หลินอยู่ดี เพราะของที่วางล่อเอาไว้หากปล่อยทิ้งกลิ่นก็จะจางลง
“องค์หญิง…”ชิงชิวว่าพลางเข้าไปยืนด้านหลังไป๋หลินกับไป๋ไป่ที่กำลังต่อคิวเข้าซื้อตั๋วรถไฟอยู่
“พี่ชิว….ท่านเก่งจังเลยนะเจ้าคะ”ไป๋หลินยิ้มเจื่อนๆออกมาเมื่อทราบว่าชิงชิวตามตนมาทันแล้ว นี่ท่านพ่อไปหาคนแบบนี้มาจากไหนกัน พวกองครักษ์คนก่อนๆไม่มีใครตามนางได้ขนาดนี้มาก่อน และหากเป็นอสูรนางก็แค่ขอร้องพวกมันนิดหน่อยพวกมันก็ยอมปล่อยนางแล้ว แต่ชิงชิวไม่ใช่อสูรทำให้ไป๋หลินทำแบบนั้นไม่ได้
“องค์หญิง ท่านจะทำอะไรกันขอรับ”ชิงชิวถามพลางถอนหายใจออกมา ตอนนี้ชิงชิวเด่นสะดุดตาประชาชนมากๆ แม้ไป๋หลินกับไป๋ไป่จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มิดชิดมากเพื่อปิดบังตัวตน แต่ชิงชิวกลับยังใส่เครื่องแบบขององครักษ์อาณาจักรไป๋อยู่ ทำให้คนรอบๆหันมามองกันยกใหญ่ แถมมันยังพูดแต่องค์หญิงๆ พวกที่ได้ยินคงทราบแล้วว่าไป๋หลินคือใคร
“ข้า..ข้าแค่อยากลองนั่งรถไฟดู”ไป๋หลินตอบพลางทำหน้ามุ่ย ถึงนางจะเคยนั่งแล้วตอนเปิดใช้งานรถไฟครั้งแรก แต่นางกลับไม่มีโอกาสนั่งรถไฟร่วมกับประชาชนปกติเลย นางก็เลยอยากจะเดินทางไปเมืองร้อยแปดอสูรด้วยรถไฟเสียหน่อยแท้ๆ
“แบบนั้นไม่ได้หรอกนะขอรับ”ชิงชิวถอนหายใจออกมาพลางลดท่าทีดุลง
“พี่ชิว งั้นท่านก็มากับเราสิ นั่งรถไฟเร็วกว่าเดินไปตั้งเยอะไม่ใช่หรือ”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา
“แบบนั้นประชาชนได้แตกตื่นกันพอดี ดูรอบๆตัวท่านสิขอรับ”ชิงชิวว่าพลางมองไปรอบๆ ถึงความจริงจะเป็นเพราะชุดองครักษ์ของชิงชิว แต่คนรอบๆก็มองมาทางไป๋หลินเป็นตาเดียว แถมบางคนยังทราบแล้วด้วยว่านางคือองค์หญิง ทำให้บางคนถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นไปแล้วเสียด้วยซ้ำ
“โถ่….”ไป๋หลินถอนหายใจเดินเข้าไปหาชิงชิว ในเมื่อหนีไม่รอดก็ต้องใช้ไพ่ตายล่ะ
“พี่ชิว ข้าอยากลองนั่งรถไฟจริงๆนะ แค่นั่งไปเมืองร้อยแปดอสูรเอง ขอร้องนะเจ้าคะ”ไป๋หลินส่งเสียงอ้อนพลางจ้องมองดวงตาของชิงชิวไม่ยอมละ พริบตานั้นใบหน้าของชิงชิวก็แดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“กะ ก็ได้ขอรับ แค่ครั้งเดียวนะขอรับ”ชิงชิวว่าพลางก้มหน้าลง กว่ามันจะรู้ตัวก็ซื้อตั๋วแล้วมานั่งบนรถไฟกับองค์หญิงเสียแล้ว นี่มันทำอะไรลงไป?