บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 348 โดดเด่น
ตอนที่ 348
โดดเด่น
“หืม…”หลิวเซียนยกมือขึ้นไปหาอสูรปักษาที่บินเข้ามาหาตนเอง ที่ขาของมันปรากฏจดหมายที่เพิร์ลเขียนเพื่อเตือนเรื่องยาหลอมรวมอสูรที่ให้ชิงชิวไป
“โอ้ ชิงชิวเจ้าได้ยามาจากเพิร์ลด้วยงั้นหรือ”หลิวเซียนที่นั่งอยู่ในห้องของรถไฟถามพลางมองไปทางชิงชิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะคราวนี้เป็นคณะเดินทางของพี่น้องตระกูลหลิว พวกมันเลยใช้ห้องเดินทางที่กินพื้นที่ไปโบกี้หนึ่งเต็มๆ ทำให้ทุกคนอยู่ในห้องส่วนตัวของพวกมันกันครบไม่ได้ขาดไปไหน
“ขอรับ”ชิงชิวตอบพลางมองมาทางท่านหลิวเซียน
“ดูเหมือนเพิร์ลจะไม่ได้บอกเจ้าสินะยานั้นมีโอกาสสำเร็จแค่ 3 ใน 10 ส่วน ถ้าเจ้าหลอมรวมกับแก่นอสูรไม่ได้ก็จะตายทันที”หลิวเซียนอธิบายพลางยิ้มบางๆ โชคดีที่ชิงชิวไม่ได้รีบร้อนไปซื้อแก่นอสูรมาทดลองทันที ไม่อย่างนั้นได้ตายฟรีแน่ๆ
“งั้นหรือขอรับ ข้าต้องระวังเสียแล้ว”ชิงชิวกลืนน้ำลายลงคอ ไม่นึกว่ายาหลอมรวมอสูรจะมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรงเช่นนี้
“พี่ชิว ท่านจะกลืนแก่นอสูรหรือ”ไป๋หลินถามด้วยความสนใจ นางไม่เคยมีประสบการณ์หลอมรวมกับแก่นอสูรมาก่อนเพราะเกิดมาตนเองก็มีพลังอสูรอยู่แล้วเสียด้วย
“ขอรับ แต่ถ้ามันอันตรายขนาดนี้ข้าเองก็คงต้องยอมแพ้”ชิงชิวตอบพลางยิ้มเจื่อนๆ ท่าทางเม็ดยาหลอมรวมอสูรจะต้องวางทิ้งเอาไว้ในแหวนของมันไปก่อนเสียแล้ว
.
.
หลังจากเดินทางด้วยรถไฟมาจนถึงชายแดนอาณาจักรเฉิน ในที่สุดพวกพี่น้องตระกูลหลิวและขบวนสเด็จของไป๋หลินก็ต้องลงไปนั่งรถม้าตามปกติ จะใช้ไป๋ไป่บินไปเลยก็ไม่ได้ แถมรถไฟก็สิ้นสุดแค่เขตชายแดนอีกด้วย หากจะต่อเส้นทางไปยังอาณาจักรเฉินยังต้องร่างสนธิสัญญากันอีกหลายเรื่องทีเดียว ทำเอากว่าพวกมันจะเดินทางมาถึงเมืองหลวงของอาณาจักรเฉินที่เป็นสถานที่จัดงานฉลองก็เกือบ 2 อาทิตย์ ทำเอาหลิวเมิ่งบ่นไปหลายครั้งทีเดียว เพราะนางนี่ล่ะเป็นตัวตั้งตัวตีให้สร้างทางรถไฟเข้าไปในอาณาจักรเฉินด้วย โดยอ้างเหตุผลที่พี่น้องของนางเป็นมเหสีของว่าที่จักรพรรดิ แต่อาณาจักรเฉินกลับคิดเล็กคิดน้อยอยู่นานจนไม่สามารถสร้างทางรถไฟเข้าไปได้เสียที
“พี่ใหญ่”ทันทีที่มาถึงวังหลวง หลิวหลงและเหล่าพี่น้องตระกูลหลิวก็ถูกต้อนรับอย่างดี แน่นอนว่ารวมถึงไป๋หลินที่เป็นองค์หญิงต่างเมืองด้วย
“ไป๋หลิน เจ้ามาทางนี้สิ”หลิวเมิ่งว่าพลางพาไป๋หลินไปที่เตียงนอนเล็กๆที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อองค์ชายพระองค์ใหม่ของอาณาจักรเฉินโดยเฉพาะ
“น่ารัก….”ไป๋หลินว่าพลางเกาะขอบเตียงมองร่างเล็กๆที่กำลังขยับด้วยท่าทีงุนงง องค์ชายดูแปลกใจมากที่มีแขกไม่รู้จักเข้ามาเยี่ยมมากมาย
“แฮะๆ”แต่ทันทีที่ไป๋หลินเข้าไปอยู่ในสายตาขององค์ชาย พระองค์ก็มีท่าทีดีใจพลางพยายามเอื้อมมือมาหาไป๋หลินเหมือนอยากจะเข้าไปหา
“เห็นไหมพี่ไป๋ไป่ องค์ชายยังชอบข้าเลย แล้วทำไมเทียนหมิงถึงรังเกียจข้านักล่ะ”ไป๋หลินบ่นออกมาเมื่อนึกถึงองค์ชายอู๋เทียนหมิง รายนั้นไม่ชอบไป๋หลินตั้งแต่เด็ก แค่โดนไป๋หลินอุ้มก็ร้องให้จะเป็นจะตายทำเอาไป๋หลินหงอยไปหลายวันทีเดียว
“อาจจะเป็นเพราะพลังเทวะปราบมารนะขอรับ”ชิงชิวตอบพลางยิ้มออกมา พอฝึกพลังเทวะปราบมารได้สำเร็จชิงชิวก็ต้านทานพลังมารของไป๋หลินได้ และสัมผัสได้นิดหน่อยว่าพลังมารในตัวของไป๋หลินเป็นอย่างไร แม้จะไม่ได้ขยะแขยง แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีพลังเย็นๆอยู่ในร่างกายของไป๋หลิน ได้ข่าวว่าองค์จักรพรรดิอู๋เองก็ใช้เคล็ดวิชาเทวะปราบมาร บางทีอาจจะส่งผลมายังบุตรชายของท่านก็เป็นได้
“ข้าล่ะเกลียดวิชาเทวะปราบมารจริงๆ”ไป๋หลินว่าพลางทำหน้ามุ่ย มันก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็วิชานี้คิดค้นมาเพื่อต่อต้านมารนี่นา
หลังจากพวกไป๋หลินเข้ามาเยี่ยมองค์ชาย ไม่นานแขกคนอื่นๆก็เข้ามาเช่นกัน ทำให้พวกไป๋หลินต้องออกมาให้แขกคนอื่นได้เข้าเฝ้าองค์ชายบ้าง โดยมเหสีหลิวมู่เฉินพาพี่น้องของนางและพวกไป๋หลินไปที่งานเลี้ยงที่จัดขึ้นตอนค่ำแทน
“งานเลี้ยงอีกแล้ว….”ไป๋หลินบ่นนิดๆพลางมองงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยขุนนางและแขกต่างเมือง แน่นอนว่ามีเหล่าองค์ชายองค์หญิงต่างอาณาจักรมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก แต่เพราะงานนี้ไม่ใช่งานใหญ่โตอะไร องค์จักรพรรดิเลยไม่ได้มาด้วยตนเอง และอาณาจักรอู๋และชินที่อยู่ห่างออกไปก็ไม่ได้ส่งใครมา ทำให้แขกที่มีก็เลยเป็นพวกองค์หญิงองค์ชายจากอาณาจักรข้างเคียงเสียมากกว่า
“ไม่ได้นะเจ้าคะ องค์หญิงต้องออกงานให้เป็นด้วยนะเจ้าคะ”หลิวเมิ่งหัวเราะพลางเดินเข้ามายืนด้านหลังไป๋หลิน นางเอกสมัยเด็กก็บ่นเรื่องพวกนี้เช่นกัน แน่นอนว่านางไม่ได้เบื่อเท่าไป๋หลินหรอก นั่นเพราะ….
“องค์หญิงไป๋หลินนี่เอง เพียงท่านเดินเข้ามาก็โดดเด่นสะดุดตาจนข้ามองเห็นได้ตั้งแต่ประตูเปิดเลยขอรับ”ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาไป๋หลินด้วยท่าทีดีอดดีใจ มันคือองค์ชายจากอาณาจักรอินที่อยู่ทางตะวันตกของอาณาจักรไป๋
“โอ้ ท่านไป๋หลิน ท่านช่างงดงามจริงๆ”ชายอีกคนเดินเข้ามาพลางยิ้มกว้างมาทางไป๋หลิน เหล่าองค์ชายอาณาจักรต่างๆแม้แต่คนที่อายุเกิน 30 ไปแล้วยังเข้ามาหาไป๋หลิน ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณจะมีอายุยืนยาวพวกมันเลยไม่สนช่องว่างอายุเกือบ 20 ปี แน่นอนไป๋หลินหน้าเบ้ทันทีเพราะคนที่เข้ามาคุยกับตนแก่กว่าไป๋จูเหวินผู้เป็นพ่อเสียอีก
“องค์หญิง ทักทายพวกท่านหน่อยสิเจ้าคะ”หลิวเมิ่งยิ้มพลางเดินประกบองค์หญิงไป๋หลินพร้อมรอยยิ้ม สมัยก่อนหลิวเมิ่งก็รำคาณเรื่องพวกนี้แต่นางไม่ได้มีคนมาจอแจมากเหมือนไป๋หลินเสียด้วย นับว่าสถานการณ์ของไป๋หลินหนักหนากว่าหลิวเมิ่งมาก
“ยินดีที่ได้พบทุกท่านเจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มหวานพลางทักทายเหล่าองค์ชายต่างแดนด้วยท่าทีที่ถูกหลิวเมิ่งฝึกสอนมา ทำเอาชายหนุ่มตรงหน้าแทบจะละลายล้มลงไปกับพื้นเสียให้ได้
ว่ากันว่าความงามนั้นถือเป็นบาป ไป๋หลินยามนี้เหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรตามติดตลอดงาน ทำเอาชิงชิวที่อยู่ด้านหลังไม่ทราบจะทำเช่นไรดี พอมองไปทางไป๋ไป่นางก็ส่ายหัวเหมือนจะบอกว่าไม่รู้จะทำเช่นไรดีเหมือนกัน เพราะหากนางไม่ใช่อสูรคนพวกนี้ก็เข้าหานางเหมือนกันนั่นล่ะ
“โห เจ้าพวกนั้นมุงดูอะไรกัน”ชายคนหนึ่งที่ดูอายุราวๆ 15 ปีถามพลางมองไปทางกลุ่มขององค์ชายที่กำลังรุมไป๋หลินอยู่ เพราะที่นี่คืองานของอาณาจักรเฉิน ทำให้มีอาณาจักรอื่นที่อยู่คนละฝั่งกับอาณาจักรอู๋มาร่วมงานด้วย บางอาณาจักรไม่เคยพบคนของอาณาจักรไป๋เสียด้วยซ้ำ
“ดูเหมือนจะเป็นองค์หญิงจากอาณาจักรไป๋นะขอรับ”ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังตอบด้วยท่าทีเรียบเฉย ดูๆแล้วท่าทางมันหยิ่งไม่น้อย
“อาณาจักรไป๋ อาณาจักรอะไรกัน”ชายหนุ่มถามพลางขมวดคิ้วงุนงง มันไม่เคยได้ยินชื่ออาณาจักรไป๋มาก่อน
“ดูเหมือนจะเป็นอาณาจักรใหม่ขอรับ พึ่งก่อตั้งจากอาณาจักรโฮเมื่อ 6 ปีก่อน”ชายด้านหลังตอบพลางมองไปทางกลุ่มของไป๋หลินนิ่ง ในกลุ่มของนางก็มีเพียงหลิวหลงเท่านั้นที่มีกำลังพอจะเป็นผู้คุ้มกันได้ นอกนั้นออกจะกระจอกไปเสียหน่อยสำหรับผู้ติดตามขององค์หญิง
“ก็แค่องค์หญิงจากอาณาจักรเกิดใหม่ไม่ใช่หรือไง ทำไมพวกมันถึงไปล้อมขนาดนั้น”ชายหนุ่มนกจอกสุราขึ้นมาดื่มพลางมองไปทางกลุ่มขององค์ชาย พวกมันล้อมไป๋หลินเอาไว้เสียมิดทำเอามองไม่เห็นเลย
“ได้ข่าวว่านางงดงามมากขอรับ ท่าทางพวกองค์ชายอาณาจักรอื่นจะชื่นชอบไม่น้อย”ชายด้านหลังตอบด้วยท่าทีเรียบเฉยเช่นเดิม
“จะงดงามแค่ไหนก็เป็นแค่องค์หญิงที่พึ่งได้รับตำแหน่ง ก่อนหน้านี้คงไม่ใช่องค์หญิงเสียด้วยซ้ำ”ชายหนุ่มว่าพลางลุกขึ้นยืน แต่เห็นองค์ชายองค์อื่นๆมุงเสียเยอะแยะมันก็อยากจะเห็นหน้าเสียหน่อย
“องค์ชายกู่หาน…”เหล่าองค์ชายที่ล้อมไป๋หลินเอาไว้เห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาก็ถอยออกมาเล็กน้อย องค์ชายกู่หานเป็นองค์ชายจากอาณาจักรกู่ที่ยิ่งใหญ่มาก หากจะเทียบละก็อาณาจักรกู่ยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากอาณาจักรอู๋เลย
“ได้ข่าวว่าองค์หญิง……”องค์ชายกู๋หานพูดไม่ทันจบ ดวงตาของมันก็นิ่งค้างไปหลายอึดใจ พัดสีดำในมือของมันแทบจะหลุดลงพื้น แม้แต่มันเองก็ยังอยากจะตบปากตัวเองเสียที่บอกว่าเด็กสาวคนนี้จะงดงามได้เท่าไหร่ ไม่นึกเลยว่าวันนี้มันจะได้พบเทพธิดาตัวเป็นๆ
“องค์หญิงไป๋หลิน พี่ชายท่านนี้คือองค์ชายกู่หานเป็นองค์ชายรองแห่งอาณาจักรกู่ขอรับ”องค์ชายท่านหนึ่งพูดพลางผายมือไปทางกู่หาน ทำให้ตัวมันยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ยินดีที่ได้พบเจ้าค่ะองค์ชายกู่หาน”ไป๋หลินยิ้มพลางเดินเข้าไปทักทายตามมารยาท แต่วินาทีนั้นรอบตัวกู่หานราวกับเวลาหยุดชะงัก ใบหน้าของไป๋หลินแม้จะยังเด็กแต่ก็งดงามจนหญิงสาวส่วนใหญ่ยังต้องอับอาย ความงามของนางไม่ว่าจะชายใดก็ต้องหลงไหลทั้งสิ้น
“ยินดีที่ได้รู้จัก”องค์ชายกู่หานว่าพลางยิ้มออกมา มันเดินเข้ามาหาไป๋หลินพลางจ้องนางตาไม่กระพริบ
“ตัดสินใจแล้ว เจ้ามาเป็นชายาของข้าซะ”กู่หานว่าพลางยิ้มอย่างลำพอง อาณาจักรของมันนั้นยิ่งใหญ่มาก ทำให้อาณาจักรรอบๆเป็นเหมือนบริวารไม่มีผิด อาณาจักรเหล่านั้นพยายามหมั้นหมายองค์หญิงของตนเองกับมันมาตลอด ต่อให้มันไม่ใช่องค์ชายใหญ่ก็ตาม ทำให้มันคิดมาตลอดว่าการได้แต่งงานกับตัวมันนับเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเหล่านี้เลยทีเดียว
“…….หมายความว่าไงเจ้าคะ”ไป๋หลินกระพริบตาปริบๆ ไม่ใช่ว่านางไม่เข้าใจ แต่คิดว่าอีกฝ่านเล่นมุกเสียมากกว่า
“ท่าทางเจ้าจะยังตกใจอยู่ ข้าบอกว่าข้าจะรับเจ้ามาเป็นภรรยายังไงล่ะ”กู่หานว่าพลางเลื่อนมือมาเชยคางไป๋หลินหมายจะเชยชม
“ไม่เอา”ไป๋หลินตอบพลางเดินถอยออกมา
“อะไรนะ เจ้าไม่รู้หรือว่าอาณาจักรของข้าคืออาณาจักรกู่เชียวนะ”กู่หานว่าพลางเดินตามไป๋หลินมา
“ก็บอกว่าไม่ไง”ไป๋หลินว่าพลางปัดมือขององค์ชายกู่หานออก อยู่ๆจะมาแต่งงานกับนางได้อย่างไร ขนาดท่านพ่อยังปฏิเสธคำขอหมั้นทั้งหมดไปแล้วบอกให้ตนเองเลือกคนที่ชออบด้วยตนเองเลย
“เจ้า..กล้าปฏิเสธข้างั้นหรือ”องค์ชายกู่หานว่าพลางกำหมัดแน่น มันเตรียมจะยกมือหมายจะตบหน้าไป๋หลิน แต่ชายด้านหลังของมันกลับเข้ามาห้ามเสียก่อน
“องค์ชาย ที่นี่คนมาก เกรงว่าจะไม่งามนะขอรับ”ชายคนนั้นพูดก่อนจะกดมือขององค์ชายกลับไปไว้ข้างตัว นับว่าชายคนนั้นทำได้ถูกต้องแล้วเพราะหากตบลงมาละก็ไป๋ไป่ที่อยู่ข้างหลังได้ตบคืนเต็มแรงแน่นอน
“เจ้าจะต้องเสียใจ”องค์ชายกู่หานคาดโทษเอาไว้พลางเดินกลับไปพร้อมชายด้านหลัง
“ข้าไม่กลัวหรอก”ไป๋หลินทำแก้มป่องพลางเดินกลับไปหาพี่ไป๋ไป่กับชิงชิว ตัวหลิวเมิ่งเองเห็นสถาฯการณ์ไม่ดีก็ได้แต่พาไป๋หลินออกมาจากงานเท่านั้น