บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 387 กองทัพที่แข็งแกร่ง
ตอนที่ 387
กองทัพที่แข็งแกร่ง
ตึง!! ตึง!! เสียงฝีเท้าของทหารนับแสนกังกึกก้องราวกับเสียงแผ่นดินไหว ยามนี้ทัพทั้งหมดของอาณาจักรอีมอร์กำลังเคลื่อนพลเข้าไปใกล้อาณาจักรไชน์เต็มที แต่ยิ่งเข้าใกล้จักรพรรดิอีมอร์กลับไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“เจ้าพวกปีศาจนก…”ชายคนหนึ่งในกลุ่มขุนพลพูดพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ตอนนี้พวกมันสามารถมองเห็นเมือหลวงของอาณาจักรไชน์ได้แล้ว แต่หากโผล่ออกไปจากสันเขาละก็อสูรนกที่บินราดตระเวนอยู่รอบเมืองหลวงต้องเห็นกองทัพของอีมอร์แน่ๆ ทำให้พวกมันไม่มีทางเลือกต้องบุกเข้าไปตรงๆเลย
“พวกมันมีการป้องกันที่แน่นหนาอย่างที่พวกเราไม่เคยเจอมาก่อนเลย”ชายหนุ่มที่อยู่บนหลังม้าพูดพลางกำด้ามหอกอันใหญ่ในมือแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันต้องบุกอาณาจักรหนึ่งโดยแทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย สายสืบที่ส่งไปอาณาจักรไชน์หลังจากทัพหนุนมาช่วยไม่มีใครกลับมารายงานเลย ทำให้ตอนนี้พวกมันไม่ทราบว่าอีกฝ่ายมีกำลังเท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นองค์จักรพรรดิก็เหมือนจะไม่ได้กลัว ท่านสั่งให้ยกทัพทั้งหมดมาโจมตีอาณาจักรไชน์เพียงอาณาจักรเดียวทั้งๆที่แต่ก่อนท่านสั่งให้เพียงทัพเดียวเท่านั้นที่บุกเข้าไปยึดอาณาจักรไชน์
“อาณาจักรอื่นเราก็ยึดมาหมดแล้ว พวกมันไปหาทัพเสริมมาจากไหนกัน”ขุนพลคนหนึ่งถามขณะเริ่มเดินทัพออกจากสันเขา ทันทีที่ทหารแนวหน้าโผล่ออกไปเหล่าอสูรปักษาก็บินด้วยท่าทีแปลกๆทันที ท่าทางพวกมันจะรู้ตัวแล้วและคงเตรียมกำลังเอาไว้ต่อต้านพวกมันอยู่ๆแน่ๆ
“หรือว่าจะเป็นกองทัพของอาณาจักรที่แผ่นดินอื่น”ชายหนุ่มที่รายงานเรื่องแผ่นดินอีกผืนถามด้วยท่าทีสนใจ
“เป็นไปได้”ชายอีกคนรับคำ อาณาจักรรอบๆนี้โดนพวกมันยึดจนหมดแล้ว และการสืบข่าวในอาณาจักรไชน์ช่วงแรกยังมีข่าวความสัมพันธ์กับอาณาจักรที่อีกแผ่นดินด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปได้ว่ากองทัพที่มาช่วยจะมาจากอีกแผ่นดิน
“พวกมันออกมากันแล้ว ปีศาจนกนี่ใช้เฝ้ายามได้ดีจริงๆ”ชายร่างใหญ่พูดด้วยท่าทีเจ็บใจ ต้องยอมรับว่าเรื่องการป้องกันของอีกฝ่ายเหนือกว่า เพราะพวกมันยังเผลอปล่อยสายสืบเข้ามาได้ แต่ท่าทางอีกฝ่ายจะไม่แม้แต่ให้สายสืบเข้ามาในเมืองสำเร็จเสียด้วยซ้ำ
“จัดทัพให้เรียบร้อย โอเร็มอยู่ด้านหลังคอยจับตาพวกล่องหน”จักรพรรดิสั่งพลางบอกให้เหล่าขุนพลแยกย้ายกันไปตามกองทัพของตนเอง
.
.
“อลังการจริงๆ”มังกรธรณีพูดขณะยืนอยู่บนกำแพงเมือง เมื่อเทียบกับกองทัพของอาณาจักรไป๋ที่มรี 8 ขุนพลอสูร และ 8 ขุนพลมนุษย์แล้ว จำนวนกองทัพของอาณาจักรโอเร็มก็ดูมากกว่าหลายเท่าอยู่ดี แต่สิ่งที่มังกรธรณีพูดนั้นไม่ได้หมายถึงจำนวนคน
“ระดับเจ้าสวรรค์ 23 คน”ไป๋จูเหวินพูดพลางลุกเดินมายืนข้างๆท่านน้ามังกร เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ขุนพลทั้งหมดของอาณาจักรอีมอร์เป็นระดับเจ้าสวรรค์ทั้งหมด 20 คน ส่วนอีก 3 คนนั้นน่าจะเป็นแม่ทัพซ้ายขวาขององค์จักรพรรดิและตัวองค์จักรพรรดิเอง
ในทางกลับกันอาณาจักรไป๋มีอสูรระดับบรรพกาลไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลย ท่านน้าทั้ง 5 ตนที่อยู่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 2 ไป๋ไป่ที่อยู่ระดับ 2 เช่นกัน อสูรปักเป้าระดับ 10 นางพญาผีเสื้อระดับ นางพญาผึ้งและอสูรนกระดับ 1 ขุนพลระดับบรรพกาลทั้ง 3 และอสูรบรรพกาลที่ไปขอความร่วมมือมาจากเขตอสูรในอาณาจักรไชน์อีก 2 ตน รวมเป็น 15 ตนพอดี
ส่วนในด้านกองกำลังมนุษย์ผู้ที่อยู่ระดับเจ้าสวรรค์นั้นมีไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินเท่านั้น แม้ไป๋หลินจะเก่งพอจะสู้ระดับเจ้าสวรรค์ได้แล้ว แต่ยังนับพลังของนางให้แน่นอนขนาดนั้นไม่ได้ ส่วนคนอื่นยังอยู่เพียงระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 เท่านั้นอย่างเช่นหลิวหลงเป็นต้น นั่นคือเหตุผลที่จำนวนระดับเจ้าสวรรค์ 23 คนเป็นจำนวนที่ผิดปกติจริงๆ
“พวกมันดื่มเลือดจากอสูรตนหนึ่งสินะ ถึงได้มีพลังแปลกประหลาดแบบนั้น”ไป๋จูเหวินถามพลางมองไปทางอสูรกิ้งก่าที่กลับมารายงาน ก่อนที่มันจะโดนจักรพรรดิอีมอร์ลงดาบ มันใช้ลิ้นของมันดึงตัวเองออกมาจากระยะโจมตี ก่อนจะรีบหายตัวไปในป่าด้านนอก เพราะฝุ่นควันที่จักรพรรดิอีมอร์สร้างขึ้นทำให้มันรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
“ขอรับ อสูรตนนั้นแปลกมาก ระดับน่าจะอยู่เพียงระดับตำนานเท่านั้น แต่บาดแผลของมันแทบจะหายทันทีขอรับ”อสูรกิ้งก่ารายงานเรื่องที่มันเจอในเต้นท์ของอาณาจักรอีมอร์ ไม่ว่าจะเรื่องของอสูรปริศนา หรือเรื่องที่ในกองทัพของอีกฝ่ายมีผู้ใช้เนตรจิตเช่นกัน
“ท่านน้า…”ไป๋จูเหวินหันมาทางน้ามังกร อสูรเช่นนั้นไป๋จูเหวินไม่เคยได้ยินมาก่อน ขนาดมังกรระดับบรรพกาลที่ครอบครองพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่ตอนนี้เป็นปุ๋ยให้ต้นท้ออสูรอยู่ยังไม่ได้มีพลังรักษาขนาดนั้น ฟังจากที่อสูรกิ้งก่ารายงานพวกมันปาดคออสูรตนนั้นจนเลือดอาบ แต่กลับรักษาตนเองจนหายในอึดใจเดียวเท่านั้น
“ข้าเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน”มังกรธรณีส่ายหน้า ทั้งรูปลักษณ์ที่เหมือนจะเป็นงู หรือเป็นมังกร ก็ยิ่งไม่คุ้นตาเข้าไปใหญ่
“ดูเหมือนเลือดของอสูรตนนั้นจะทำให้พวกมันฝึกฝนพลังวิญญาณได้ง่ายขึ้น ข้าคิดว่าพวกมันคงจะจับอสูรตัวนั้นได้เมื่อไม่นานมานี้ ไม่อย่างนั้นอาณาจักรอีมอร์คงบุกยึดอาณาจักรอื่นๆไปนานแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองกองทัพนับแสนที่กำลังรายล้อมเมืองหลวงของอาณาจักรไชน์ในตอนนี้ หากพึ่งเพียงพลังของอาณาจักรไป๋หนทางชนะก็ค่อนข้างก้ำกึ่งจริงๆ เพียงแต่…
“มิน่าล่ะเจ้าถึงกับต้องขอความช่วยเหลือมา”อู๋หมิงพูดพลางมองไปทางกองทัพของฝ่ายตรงข้าม จำนวนเจ้าสวรรค์เยอะจนน่าใจหายจริงๆ
“ข้าเองก็ไม่มั่นใจหรอกนะ ข้าไม่ได้ต่อสู้มานานมากแล้ว”หยงเวยส่ายหน้าพลางถอนหายใจออกมา แม้จะไม่ได้ขยันฝึกฝนวิชานัก แต่หยงเวยก็เลื่อนขึ้นมาเป็นมารระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 4 แล้ว ไม่ว่าจะมองอย่างไรความเร็วในการเพิ่มพูนพลังของมารนี่ก็น่ากลัวจริงๆ หากหยงเวยปล่อยให้ตัวเองโดนมารครอบงำแล้วรับพลังมารมาอย่างเต็มที่ ป่านนี้มันคงกลายเป็นมารระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 10 ไปนานแล้ว แต่แบบนั้นเกรงว่าจะอันตรายยิ่งกว่ากองทัพอีมร์ตรงหน้าเสียอีก
“กำลังของเจ้าช่วยได้มากทีเดียว แน่ใจนะว่าเด็กๆจะไม่เป็นไร”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมารอีก 2 คนที่เดินตามหยงเวยมา จำนวนเด็กที่ฝึกฝนวิชามารเหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และทั้ง 2 คนด้านหลังก็เป็น 2 คนที่ควบคุมพลังมารได้ดีและแข็งแกร่งมากทีเดียว พวกมันทั้ง 2 อยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 กันทั้งคู่ แม้จะไม่ใช้วิชามารทั้ง 7 ก็ยังทำให้เด็กเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็วจริงๆ
“ไม่เป็นไร หลายปีที่ผ่านมานี่พวกมันฝึกฝนจนเชี่ยวชาน ตอนนี้แทบจะไม่มีทางโดนมารครอบงำแล้ว”หยงเวยตอบพลางยิ้มบางๆออกมา แม้จะเหลือเด็กๆอยู่ไม่มาก แต่ก็มีคนที่สามารถควบคุมมารได้จริงๆ เรื่องนั้นทำให้หยงเวยพอจะสบายใจขึ้นมาก
“นายน้อย พวกมันเริ่มบุกเข้ามาแล้วขอรับ”ต้าชิงที่ตอนนี้เป็นเจ้าสำนักเทพจุติพูดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มบุกเข้ามาแล้ว
“เร็วมาก.. ทหารม้างั้นหรือ”ต้าเฉินมองทหารแนวหน้าที่ควบม้าทะยานเข้ามาในโจมตีพวกมันอย่างรวดเร็ว ทัพหน้าของอาณาจักรอีมอร์เป็นทหารม้าถือหอกยาวสำหรับทะลวงโดยเฉพาะ
“ถ้าอย่างนั้น เราก็เริ่มกันบ้างเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปที่อสูรปักเป้าที่อยู่ข้างๆ ทำเอาคนรอบๆที่เคยเห็นฤทธิ์เดชของอสูรปักเป้ามาแล้วต่างยิ้มออกมาด้วยท่าทีเจื่อนๆ
วูบ… อสูรปักเป้าลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะขยายร่างกลับไปเป็นขนาดเดิม ทำเอาสนามรบโดนบดบังแสงแดดไปเกือบหมด
“อะไรวะนั่น”เหล่าทหารของอาณาจักรอีมอร์ใจหายวาบเมื่อเห็นภาพตรงหน้า พวกมันไม่เคยเจออาณาจักรไหนที่ทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน
ตูม!!!! อสูรปักเป้าเล็งโจมตีไปด้านหลังอย่างที่ไป๋จูเหวินบอก ทำให้กองทัพของอาณาจักรอีมอร์หายไปกับตาถึง 2 กองทัพเลยทีเดียว
“เกิดอะไรขึ้น”ทหารของอาณาจักรอีมอร์มองไปรอบๆด้วยความตกใจ
“ท่านขุนพล ลุกขึ้นก่อนขอรับ”ขุนพลของกองทัพที่โดนกระสุนวายุของอสูรปักเป้าเข้าไปถึงกับลุกไม่ขึ้น ระเบิดโจมตีของอสูรปักเป้าที่อัดเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนพวกเดียวกันนั้นรุนแรงจนแม้แต่ขุนพลระดับเจ้าสวรรค์ยังเอาตัวไม่รอด
“แม่ทัพซ้าย ไปจัดการเจ้านั่นซะ”จักรพรรดิอีมอร์สั่ง ก่อนที่แม่ทัพซ้ายที่อยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 3 ใช้พลังธาตุลมลอยตัวขึ้นไปโจมตีอสูรปักเป้าที่อยู่บนฟ้า
“กิ้ววว”อสูรปักเป้าโดนหอกในมือของแม่ทัพซ้ายโจมตีเข้าอย่างจัง แม้จะไม่บาดเจ็บมาก แต่อีกฝ่ายก็สร้างความเสียหายให้กับอสูรปักเป้าได้ ท่าทางการยิงกระสุนวายุครั้งต่อไปจะเป็นเรื่องยากเสียแล้ว
“บุก”ไป๋จูเหวินสั่งพลางกระโดดลงไปร่วมการต่อสู่ด้วย
เปรี้ยงๆๆๆๆๆๆ!!! หอกของทัพหน้าแห่งอาณาจักรอีมอร์กระแทกเข้ากับร่างของอสูรในกองทัพของขุนพลเต่าอย่างจัง เกราะหนาๆของอสูรธาตุดินและทอง รวมถึงสายพันธุ์ที่มีเกราะหนาอยู่แล้วรับหอกของเหล่ายอดฝีมืออย่างสบาย เพียงแต่
เปรี้ยง!!! ขุนพลระดับเจ้าสวรรค์คนหนึ่งพุ่งเข้ามาโจมตีอสูรเต่าเข้าอย่างจัง อีกฝ่ายมีพลังระดับเจ้าสวรรค์ แม้แต่เกราะของอสูรเต่ายังสะเทือน
“ไม่เลว”อสูรเต่ายิ้มก่อนจะยกง้าวในมือของมันเหวี่ยงใส่ร่างของชายคนนั้น แต่อีกฝ่ายไม่รอให้อสูรเต่าโจมตีมันรีบควบม้าออกไป ก่อนจะวนกลับมาแทงใส่อสูรเต่าอีกครั้ง ทำเอาอสูรเต่าถึงกับถอยไปหลายก้าว
เปรี้ยง!! ทู่เยว่ขุนพลกระต่ายพุ่งวาบเข้ามาเตะอัดไปที่ชายที่ใช้หอก อีกฝ่ายระดับสูงกว่า ทำให้พวกนางต้องรุมจัดการเท่านั้น ส่วนพวกระดับยอดฝีมือคงต้องปล่อยให้ลูกน้องของพวกตนจัดการไป
“พร้อมนะไป๋ไป่”นางพญาผีเสื้อว่าพลางบินออกไปพร้อมกับไป๋ไป่และกองทัพของจื่อหนิง
“เจ้าค่ะ”ไป๋ไป่ว่าพลางห่อปีกตนเองให้กลายเป็นหอก ก่อนจะพุ่งวาบเข้าไปใส่กองทัพหนึ่งอย่างจัง
ตูม!!! แรงโจมตีของไป๋ไป่กระแทกเอาทหารระดับยอดฝีมือกระเด็นไปตามๆกัน ก่อนที่ปีกของไป๋ไป่จะคลายกลับมาตามปกติ
ฟุบๆๆๆๆๆๆ ทันทีที่ยืนบนพื้นไป๋ไป่ก็ใช้ปีกทั้ง 6 ข้างกวาดเอาพวกยอดฝีมือรอบๆตัวล้มตายกันจนหมดในพริบตา
“ดีมาก”นางพญาผีเสื้อร่อนลงมาอยู่เหนือหัวของไป๋ไป่พอดี วูบต่อมานางก็เรียกเอาผีเสื้อเพลิงออกมารอบตัวก่อนจะส่งพวกมันออกไประเบิดรอบข้างจนกองทัพ 2 กองทัพที่อยู่บริเวณนั้นโดนระเบิดจนปั่นป่วนไปตามๆกัน
เคร๊ง!!! ดาบในมือชายคนหนึ่งโจมตีเข้ามาใส่นางพญาผีเสื้อทันที ตอนนี้พวกนางเป็นพวกที่ล้ำหน้าเข้ามาที่สุดในกองทัพอาณาจักรไป๋เลยก็ว่าได้
“ท่านแม่ทัพขวา…”ทหารคนหนึ่งที่ยังรอดอยู่ใต้ปีกของไป๋ไป่มองภาพตรงหน้าด้วยท่าทีตกใจ แม่ทัพขวาถึงกับกระโดดลงมาร่วมสู้ด้วยตนเองตั้งแต่เริ่มสงครามเลยงั้นหรือ
“ถอยไป พวกเจ้ารับมือปีศาจพวกนี้ไม่ไหวหรอก”แม่ทัพขวาที่อยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 4 ว่าพลางใช้ดสบในมือโจมตีใส่นางพญาผีเสื้อกับไป๋ไป่ แต่เพราะนางพญาผีเสื้ออยู่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 5 ทำให้มันรับมือได้ลำบากมากทีเดียว
ตูม!!! คลื่นดาบสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่กองทัพของอาณาจักรไป๋เข้าอย่างจัง ทำเอาอสูรและคนของอาณาจักรไป๋จำนวนมากตายในดาบนี้ทันที
“เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งมาก”จักรพรรดิอีมอร์ยิ้มพลางชี้ดาบในมือมาทางไป๋จูเหวินที่อยู่ตรงหน้ามัน คลื่นดาบเมื่อครู่สมควรลากยาวไปมากกว่านี้ แต่เพราะโดนไป๋จูเหวินป้องกันเอาไว้ได้ทำให้ความเสียหายหยุดลงตรงนั้น
“ฝั่งเจ้าเองก็เหมือนกัน”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองแขนของตนเองที่ยกขึ้นรับคลื่นดาบเมื่อครู่ เกราะแมงมุมของมันโดนเฉือนจนเลือดออก แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากกระตุ้นพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ในร่าง บาดแผลก็หายไปช้าๆ