บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 389 จอมมาร
ตอนที่ 389
จอมมาร
เปรี้ยง!! ร่างของยอดฝีมือคนหนึ่งโดนทหารมรกตของหยงเวยฟาดเข้าที่กลางลำตัวทำเอาทั้งร่างงองุ้มเหมือนกุ้ง แต่เพราะเกราะที่ใส่ทำให้พลังโจมตีที่ได้รับน้อยลงมากทีเดียว
“ไอ้พวกนี้มันอะไรกัน”เหล่ายอดฝีมือฝั่งอีมอร์ถามซึ่งคนของฝั่งอาณาจักรไชน์เองก็ตอบไม่ได้เช่นกัน เหล่าทหารมรกตที่หยงเวยเรียกออกมามีจำนวนมากนับร้อยตน แต่ละตนแข็งแกร่งพอจะรับมือชนชั้นยอดฝีมือได้อย่างเหลือเฟือ แม้จะโจมตีได้ไม่แรงนัก แต่การจะล้มพวกมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“เจ้ามาช้านะ”นางพญาผีเสื้อพูดขณะยืนอยู่ท่ามกลางเถ้าถ่านที่เกิดจากการระเบิกของนาง
“ข้าไม่ได้มีปีกเหมือนเจ้านี่นา”หยงเวยตอบพลางยักไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่
“งั้นฝากช่วงต่อด้วยแล้วกัน”นางพญาผีเสื้อพูดจบก็บินออกไปทันที ตัวนางพญาผีเสื้อนั้นแต่เดิมไม่ได้รับหน้าที่รับมือแม่ทัพขวาอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ตัวนางนั้นต้องบินไล่ระเบิดปูพรมใส่กองทัพอาณาจักรอีมร์เพื่อลดจำนวนของอีกฝ่ายที่มากกว่ากองทัพของอาณาจักรไชน์เกือบเท่าตัว ตอนนี้แม้ฝั่งอาณาจักรไชน์จะได้เปรียบเรื่องกำลังที่สูงกว่า แต่เรื่องจำนวนเสียเปรียบอย่างชัดเจน แม้พลังของพวกอสูรระดับสูงจะฆ่าพวกทหารไปเท่าไหร่ก็เหมือนจะไม่หมดเสียที
“เจ้าเองก็เป็นปีศาจแหมือนกันสินะ”แม่ทัพขวาของอาณาจักรอีมอร์พูดพลางใช้ดาบยันร่างของตนเอาไว้ การรับมือนางพญาผีเสื้อนั้นกินแรงเป็นอย่างมาก แต่การถ่วงเวลานางเอาไว้ได้ก็ทำให้รูปสงครามออกมาดูดีมากทีเดียว แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีแรงพอจะไปหยุดนางเอาไว้แล้ว
“เปล่า ข้าเป็นมนุษย์”หยงเวยว่าพลางเดินเข้าไปหาแม่ทัพขวาด้วยท่าทีสบายๆ
“โกหก เจ้าไม่มีพลังรูน แต่กลับใช้พลังได้ ไม่ใช่พวกปีศาจแล้วจะเป็นอะไรกัน”แม่ทัพขวาว่าพลางชี้ดาบมาทางหยงเวย
“อืม…อย่างน้อยก็เคยเป็นมนุษย์ละนะ”หยงเวยพูดจบก็เรียกกระบี่เล่มหนึ่งออกมาจากมิติของตน ก่อนจะปักกระบี่ลงพื้น
ฟุบๆๆๆ ทันทีที่กระบี่ของอัตตาปักลงพื้น รากไม้จำนวนมากก็พุ่งเข้าใส่ร่างของแม่ทัพขวาทันที
“อะไรกัน…”แม่ทัพขวาเบิกตากว้างมองรากไม้ที่เข้ามารัดร่างตนเองเอาไว้ รากไม้สีดำพวกนี้เคยขังแม้แต่อสูรปักเป้าเอาไว้มาแล้ว มีหรือที่แม่ทัพขวาจะหลุดออกมาง่ายๆ
ตึง!! หยงเวยเก็บดาบมรกตของตนเข้าไปในมิติก่อนจะเอากระบองของตะกละออกมาถืออีกข้างหนึ่ง ก่อนที่กระแสลมจะเริ่มมารวมกันที่ปลายกระบอง
“……..”เห็นเช่นนั้นแม่ทัพขวาถึงกับพูดไม่ออก ปกติแล้วคนเราจะสามารถควบคุมพลังธาตุได้ดีเพียงธาตุเดียวที่เหมาะกับร่างกายเท่านั้น ส่วนธาตุอื่นๆจะสามารถใช้ได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่อาจเอามาฝึกฝนจริงๆจังๆได้ แต่หยงเวยตอนนี้กลับใช้พลังออกมาถึง 3 ธาตุแล้ว แถมแต่ละธาตุยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย
ทหารมรกตที่อยู่ด้านหลัง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นธาตุทอง รวมทั้งเกราะมรกตบนตัวของหยงเวยด้วยเช่นกัน รากไม้พวกที่รัดร่างมันเอาไว้ก็ควรจะเป็นธาตุไม้ และลมที่อยู่รอบๆกระบองนั่นก็ต้องเป็นธาตุลมอยู่แล้ว ทำไมมันถึงใช้พลังธาตุออกมาได้มากมายเช่นนี้กัน?
ตูม!!! หยงเวยยิงกระสุนวายุออกมา แม้จะไม่รุนแรงเท่ากระสุนวายุของอสูรปักเป้า แต่ก็กวาดเอาพื้นที่ตรงหน้าหายไปเป็นแถบ
“แกมันตัวอะไร”แม่ทัพขวาจ้องมองหยงเวยนิ่ง แม้จะโดนกระสุนวายุเข้าไปเต็มๆ แต่เพราะเมื่อครู่ร่างของมันมีรากไม้มัดเอาไว้เลยได้รับความเสียหายน้อยลงมาก
“ถ้าพูดตามตรงก็ มาร ไง”หยงเวยว่าพลางเอาดาบมารกตกลับมาถือแทนกระบองและเปลี่ยนกระบี่ของอัตตาเป็นมีดของริษยาแทน หลังจากหยงเวยรวบรวมอาวุธมารมาไว้กับตัว หยงเวยก็ได้ทราบว่าพลังมารในร่างของตนโดนแบ่งออกเป็น 6 ส่วนตามพลังของอาวุธมารเช่นกัน และนั่นก็ทำให้หยงเวยสามารถใช้พลังของมารแต่ละตนได้ด้วย ส่วนที่ต้องเอาอาวุธของแต่ละตนออกมาก็เพราะอาวุธแต่ละชิ้นช่วยเสริมพลังธาตุได้ หากเอาออกมาใช้เวลาใช้พลังธาตุนั้นๆก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น เมื่อครู่ที่หยงเวยเก็บดาบมรกตไปทหารมรกตก็เคลื่อนไหวช้าลงไป 2 ส่วนเช่นกัน
“แล้วมันคืออะไรวะ”อาจจะเพราะภาษาที่ไม่ตรงกันทำให้หยงเวยได้แต่ถอนหายใจ ตั้งแต่อาณาจักรไชน์เริ่มติดต่อซื้อขายกับอาณาจักรไป๋ อาณาจักรอู๋ก็ยินดีร่วมมือด้วย ทำให้มีการเรียนภาษาของอาณาจักรไชน์เผยแพร่ไปหลายอาณาจักร หยงเวยเองก็เรียนเอาไว้เช่นกัน แต่เพราะมันไม่ได้มีความทรงจำเหนือมนุษย์แบบไป๋จูเหวิน เลยไม่ทราบว่ามารในภาษาของไชน์เรียกว่าอะไร
“เรื่องนั้นเอาไว้หาคำตอบในโลกหน้าก็แล้ว”หยงเวยตอบพลางเรียกเสามรกตออกมาจากพื้นแทงเข้าใส่แม่ทัพขวา แต่การโจมตีแบบนี้เรียบง่ายเกินไป แม่ทัพขวาไม่สะทกสะท้านแต่อย่างไร มันยกดาบฟันลิ่มมรกตทิ้งอย่างง่ายดาย ด้วยกำลังระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 4 ของมันการฟันมรกตของหยงเวยให้แตกเป็นเรื่องง่ายดายมาก
เปรี้ยง!!! ดาบมรกตของหยงเวยกระแทกเข้ากับดาบของแม่ทำขวาอย่างจัง แม้หยงเวยจะช้า แต่กำลังและความทนทานเหนือกว่าอีกฝ่ายมากทีเดียว แถมแม่ทำขวายังไม่ฟื้นฟูจากการต่อสู้กับนางพญาผีเสื้อเลย
ตูม!!! ดาบมรกตในมือหยงเวยทั้งรุนแรงและแม่นยำ ฟันทีเดียวก็ดันเอาร่างของแม่ทัพขวาถอยออกไปทันที
“ท่านแม่ทัพ”เหล่าทหารที่อยู่รอบๆต่างตกใจเป็นอย่างมาก พวกมันทราบระดับพลังของแม่ทัพขวาดี การที่มันโดนโจมตีจนถอยกรูดเช่นนี้ต้องใช้กำลังมหาศาลขนาดไหน
“อย่าเข้ามา”แม่ทัพขวาสั่งพลางกำดาบในมือแน่น เพราะระเบิดของนางพญาผีเสื้อและกระสุนวายุของหยงเวยเมื่อครู่ ทำให้ทหารรอบๆแทบไม่เหลืออยู่แล้ว แต่เพราะพวกมันเห็นว่าแม่ทัพขวากำลังเสียเปรียบ พวกมันจึงจะเข้ามาช่วย แต่ก็โดนแม่ทัพขวาห้ามเอาไว้ก่อน
ฉึกๆๆๆๆๆๆๆ………..!! เศษมรกตที่แม่ทัพขวาฟันทิ้งไปเมื่อครู่ลอยขึ้นมาบนอากาศก่อนจะพุ่งเข้าไปโจมตีพวกทหารรอบๆจนล้มตายกันเป็นใบไม้ร่วง
“หนอย”แม่ทัพขวามองเศษมรกตที่พุ่งเข้าโจมตีลูกน้องของมันราวกับมีชีวิตด้วยท่าทางเจ็บใจ
ตูมๆๆๆๆๆ!!! ไม่รอช้าแม่ทัพขวาพุ่งเข้าโจมตีหยงเวยด้วยกำลังเต็มที่ แต่ละดาบรวดเร็วและรุนแรงอย่างมาก ทั้งนี้เพื่อดึงสมาธิของหยงเวยเอาไว้กับตัวไม่ให้มันบังคับเศษมรกตได้
ตูม!! ดาบของหยงเวยปะทะสวนกลับไปอย่างรุนแรง ก่อนที่หยงเวยจะไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้พักหายใจ ความจริงหน้าที่กำจัดนายทหารเป็นของนางพญาผีเสื้อ หยงเวยไม่ต้องยุ่งเรื่องนั้นแต่อย่างไร ที่ใช้มีดของริษยาก็เพื่อล่อให้อีกฝ่ายโจมตีเข้ามาอย่างรีบร้อนเท่านั้น
“ฟื้นพลังไม่ทันแล้วสิ”หยงเวยยิ้มพลางยกดาบขึ้นโจมตีอย่างต่อเนื่อง เมื่อครู่เพื่อดึงความสนใจของหยงเวยทำให้อีกฝ่ายใช้พลังที่มีออกมามากเกินไป ทำให้ตอนนี้แม่ทัพขวาแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้ว
ตูม!!! ดาบมรกตในมือของหยงเวยฟาดใส่ดาบของแม่ทัพขวาอย่างรุนแรงต่อเนื่องกันมาหลายครั้ง จนกระทั่งดาบในมือแม่ทัพขวาหักเป็นชิ้นๆ
“อะไรกัน ดาบของข้า”แม่ทัพขวาเบิกตากว้างมองดาบในมือของตนเอง อาวุธของมันคือหนึ่งในอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินอย่างไม่ต้องสงสัย มันปะทะกับอาวุธในตำนานของอาณาจักรต่างๆมามากมายแต่ดาบของมันก็ไม่เคยมีแม้แต่รอย แต่เมื่อโดนดาบมรกตนั่นโจมตีเข้าไปดาบของมันถึงกับหัก
“น่าเสียดาย ดาบของเจ้าไม่ใช่ของที่แข็งที่สุดที่ข้าเคยฟัน”ยงเวยว่าพลางยกดาบขึ้นสูง ก่อนจะฟันลงมาใส่ร่างของแม่ทัพขวาทันที
ฉั๊ว!! ดาบมรกตเฉือนแผ่นหลังของแม่ทัพขวาจนเป็นแผลลึก ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงโจมตีเข้าที่แผ่นหลังนั่นเพราะแม่ทัพขวากำลังพยายามจะหนีนั่นเอง
“อัก…”แม่ทำขวาล้มลงคุกเข่ากับพื้นเพราะบาดแผลที่หลัง เกราะของมันป้องกันดาบมรกตไม่ได้เลย
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะสวดมนตร์ให้เจ้าเอง”หยงเวยพูดพลางยกดาบขึ้นสูงหมายจะปริดชีพอีกฝ่ายในดาบนี้
ตูม!!! เคร๊ง!! อยู่ๆก็มีเงาร่างสีดำพุ่งลงมากระแทกด้านหน้าหยงเวยอย่างจัง ก่อนที่ดาบมรกตของหยงเวยจะฟันโดนวัตถุสีดำนั่นอย่างจัง แต่ดาบของหยงเวยกลับฟันร่างนั้นไม่เข้า
“……”หยงเวยมองภาพตรงหน้าพลางก้มลงมองร่างของแม่ทัพขวาที่โดนเหยียบเสียติดพื้น
“หลินหลิน มันอันตรายนะ”หยงเวยต่อว่าหลินหลินที่อยู่ในร่างแมงมุม อยู่ๆนางก็เดินมาเหยียบแม่ทัพขวาเสียอย่างนั้น แถมยังโดนหยงเวยฟันเข้าให้อีกต่างหาก
“ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ”หลินหลินตอบพลางเดินเข้าไปหาขุนพลคนหนึ่งของอาณาจักรอีมอร์ แม้อีกฝ่ายจะโจมตีหลินหลินไม่เข้า แต่ก็กระแทกหลินหลินจนถอยได้
“ให้ตายสิ”หยงเวยถอนหายใจ ก่อนจะตามไปช่วยหลินหลินที่กำลังเสียเปรียบ เกราะของหลินหลินแข็งแกร่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เรื่องการต่อสู้ก็ไม่ได้เรื่องมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเช่นกัน
.
.
เปรี้ยง!!! อีกด้านหนึ่งของสนามรบ ร่างของไป๋หลินที่กำลังรับมือกับขุนพลที่เคยบุกเข้ามารอบแรกอยู่นั้นกำลังลำบากกับพวกยอดฝีมือที่รุมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ลำพังแค่รับมือกับขุนพลก็เกินแรงไป๋หลินอยู่บ้างแล้วแท้ๆ แม้จะเป็นขุนพลที่บาดเจ็บเพราะรับการโจมตีของไป๋ไป่ไปเมื่อคราวก่อนก็ตาม
“…….”ตรงกันข้าม ขุนพลของอีมอร์กลับไม่ทราบจะพูดสถานการณ์ตรงหน้าว่าอย่างไรดี มันอยู่ระดับเจ้าสวรรค์แต่กลับรับมือแม่หนูระดับเทียนเซียนคนเดียวไม่ได้ ขนาดมีลูกน้องคอยช่วยอยู่แต่กลับทำได้คือทำให้นางปั่นป่วนเท่านั้น
“อากกก”อยู่ๆทหารคนหนึ่งก็ล้มตายไปทำเอาขุนพลได้แต่กัดฟันกรอด นอกจากไป๋หลินแล้วยังมีชิงชิวที่หาที่มาที่ไปไม่ได้อีกต่างหาก ความสามารถหายตัวของชิงชิวยามนี้เหนือชั้นยิ่งกว่าขุนพลกิ้งก่าเสียอีก
ตูมๆๆๆ!!! อยู่ๆเสียงระเบิดก็ดังขึ้นจากด้านหลังของกองทัพอีมอร์ มันคือระเบิดผีเสื้อเพลิงของนางพญาผีเสื้อนั่นเอง
“มาแล้ว”ไป๋หลินยิ้มพลางเร่งพลังของตนขึ้น ทันทีที่ระเบิดผีเสื้อระเบิดไปรอบๆ พวกยอดฝีมือที่โถมเข้ามาหาไป๋หลินก็ลดจำนวนลงทันที
“หวา”ชิงชิวร้องออกมาพลางกระโดดหลบระเบิดไปด้วยอีกคน
“ขอโทษที ข้าไม่เห็นว่าเจ้าอยู่ตรงนั้น”นางพญาผีเสื้อได้ยินเสียงร้องของชิงชิวก็กระพริบตาปริบๆขอโทษชิงชิวไปทันที ช่วยไม่ได้นี่นามันหายตัวได้แนบเนียนเกินไป นางเองก็ไม่ทราบว่ามันอยู่ตรงไหน
“ขะ ขอรับ”ชิงชิวคืนสภาพเป็นปกติพลางปัดเศษไฟที่ไหม้เสื้อผ้าตนเองอยู่
เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!! ทางด้านไป๋หลินพอพวกยอดฝีมือลดจำนวนลง กระบี่คู่ในมือของนางก็เริ่มแผลงฤทธิ์
“……”ขุนพลของอีมอร์ตะลึงตาค้างเมื่อโดนกระบี่ของไป๋หลินจ่อเข้าเล่นงานติดๆกัน
เปรี้ยง!!! มือของมันรับกระบี่ของเด็กส่าวตรงหน้าอย่างยากลำบาก กระบี่ในมือซ้ายกับกระบี่ในมือขวาราวกับเป็นคนละคนใช้วิชาออกมา แถมยังประสานรับกันอย่างแนบแน่นจนไม่มีช่องว่างอีกต่างหาก
“งดงามมาก”ขุนพลฝ่ายอีมอร์มองไป๋หลินตาค้าง ก่อนที่อาวุธในมือจะเริ่มชะงักไป มันอ่านกระบวนท่าไม่ออกอีกแล้ว ทำได้แต่มองภาพหญิงสาวตรงหน้าร่ายรำวิชากระบี่ใส่ตนด้วยท่าทีอึ้งๆ