บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 407 รางวัล
รางวัล
“อาณาจักรจินงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินเลิกคิ้วด้วยความตกใจเมื่อได้ทราบข่าวการล้มล้างราชวงศ์จิน เมื่อไม่กี่วันก่อนราชวงศ์จินยังมาร่วมพิธีหมั้นของไป๋หลินอยู่เลย มาวันนี้กลับโดนสังหารจนหมดสิ้น ทำเอาอาณาจักรรอบๆต่างใจหายกันถ้วนหน้า ยิ่งเป็นอาณาจักรไป๋ทีอยู่ติดกับอาณาจักรจินด้วยแล้ว
“ขอรับ ดูเหมือนตอนนี้จักรพรรดิพระองค์ใหม่จะเปลี่ยนชื่ออาณาจักรเป็นอาณาจักรผิงแล้วขอรับ”ขุนนางอสูรตนหนึ่งรายงาน หลังจากอสูรของชินอี้ยึดบัลลังก์มาก็มอบมันให้กับชายขี้เมา ในเมื่อมันใช้สกุลผิงก็เปลี่ยนอาณาจักรเป็นอาณาจักรผิงไปเลยก็หมดเรื่อง
“น่าตกใจจริงๆ”ชินอี้ที่นั่งอยู่ข้างๆไป๋จูเหวินทำสีหน้าตกตะลึงเมื่อได้ทราบข่าว แม้จริงๆแล้วมันจะเป็นคนสั่งให้อสูรพวกนั้นไปลงมือก็ตาม
“ปัญหาต่อจากนี้คือท่าทีของจักรพรรดิผิงต่างหาก”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมา การค้าระหว่างอาณาจักรไป๋และจินค่อนข้างดี การโค้นล้มอำนาจครั้งนี้ไป๋จูเหวินเองก็ไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ของอาณาจักรไป๋และอาณาจักรใหม่จะลงเอยอย่างไร ยิ่งเป็นกลุ่มที่ใช้กำลังแย่งชิงมาด้วยแม้จะน้อยแต่โอกาสที่จะหันคมเขี้ยวเข้าหาอาณาจักรไป๋ก็ยังพอมี
“ท่านพี่ไม่ต้องห่วงไปหรอก ข้าไม่คิดว่าอาณาจักรใหม่จะหันมาโจมตีพวกเราหรอก”เหม่ยหลินพูดพลางยิ้มบางๆออกมา แม้จะยังไม่ทราบกำลังรบของอีกฝ่าย แต่เหม่ยหลินกลับทราบถึงกำลังรบของตนเองดี ยามนี้เหม่ยหลินไม่คิดว่าจะมีอาณาจักรไหนกล้าจะหาเรื่องอาณาจักรไป๋ได้ง่ายๆหรอก
“เช่นนั้นให้ข้าไปพบพวกอาณาจักรผิงดีหรือไม่ขอรับ ข้ากำลังอยากจะไปข้างนอกพอดี”ชินอี้ถามพลางยิ้มอย่างใสซื่อราวกับเด็กน้อยที่กำลังจะขอไปเที่ยวข้างนอก
“มันอันตราย เรายังไม่รู้ว่าจักรพรรดิองค์ใหม่เป็นคนเช่นไร”ไป๋จูเหวินส่ายหน้าช้าๆ เรื่องคราวนี้กะทันหันเกินไป ไป๋จูเหวินไม่มีข้อมูลเรื่องความขัดแย้งอะไรในอาณาจักรจินเลย แม้แต่จักรพรรดิองค์ใหม่เป็นใครมาจากไหน และมีความแค้นอะไรกับจักรพรรดิจินก็ไม่ทราบ
“ไม่เป็นไรหรอกขอรับ ข้าจะพาพวกพี่ๆอสูรไปด้วย”ชินอี้ว่าพลางยิ้มกว้าง ในที่นี้มีแต่มันเท่านั้นที่ทราบว่าจริงๆแล้วจักรพรรดิพระองค์ใหม่เป็นคนเช่นไร
“เช่นนั้นพ่อจะไปกับเจ้าด้วย เราต้องยืนยันความสัมพันธ์กับจักรพรรดิพระองค์ใหม่คนนี้เสียก่อน”ไป๋จูเหวินว่าพลางสั่งให้ขุนนางอสูรออกไปสั่งงานให้ขุนนางบางส่วนติดตามไป๋จูเหวินไปยังอาณาจักรผิงโดยทันที
.
.
การเดินทางอย่างรีบด่วนในครั้งนี้ทำให้เหล่าขุนนางมีท่าทีกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ทราบท่าทีของอีกฝ่ายเลย
“พวกมันไม่ได้เตรียมทหารเอาไว้ ท่าทางจะไม่ได้ระแวงพวกเรานะขอรับ”ขุนนางอสูรตนหนึ่งพูดพลางมองเมืองหลวงของอาณาจักรผิงที่แต่เดิมก็คือเมืองหลวงของอาณาจักรจินด้วยท่าทีโล่งใจ ก่อนเดินทางมาไป๋จูเหวินได้ส่งจดหมายให้กับองค์จักรพรรดิผิงแล้วว่าตนเองจะไปพบ การที่อาณาจักรผิงไม่ได้มีท่าทีต่อต้านเช่นนี้นับเป็นเรื่องดี
“ยะ ยินดีต้อนรับขอรับ”ชายคนหนึ่งเดินออกมาทันทีที่ร่างของท่านน้าไก่ฟ้าทะยานลงมายังพื้นเบื้องล่าง เจ้าคนที่มารับหน้านั้นดูไร้บารมี และเหมือนชายวัยกลางคนที่หาได้ตามข้างทางทั่วไปมาก หากไม่ได้สวมฉลองพระองค์ของจักรพรรดิอยู่คงไม่มีใครคิดว่ามันเป็นจักรพรรดิอย่างแน่นอน
“ยินดีที่ได้พบ จักรพรรดิผิง”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินเข้าไปหาจักรพรรดิผิงอย่างรวดเร็ว ทำเอาจักรพรรดิผิงที่วันก่อนยังเป็นขี้เมาที่โดนเตะออกมาจากหอนางโลมอยู่เลยประหม่าจนขาสั่น
“ยะ ยินดีที่ได้พบขอรับ”จักรพรรดิผิงทำท่าจะก้มหัวแต่เหมือนพึ่งนึกได้ว่าตนเองก็มีฐานะจักรพรรดิแล้วจึงหยุดตัวเองไว้เหลือเพียงประสานมือรับเท่านั้น
“องค์จักรพรรดิไป๋มาที่นี่วันนี้คงมาเพื่อดูให้แน่ใจใช่หรือไม่ว่าพวกเราจะเป็นมิตรกับท่าน”จักรพรรดิผิงพูดออกมาตามตรง เพราะตั้งแต่ไป๋จูเหวินส่งจดหมายมา เตาเสียงก็เฝ้าบอกสิ่งที่มันต้องบอกองค์จักรพรรดิไป๋มาทั้งวันและย้ำอีกด้วยว่าห้ามมีท่าทีต่อต้านองค์จักรพรรดิไป๋โดยเด็ดขาด
“ท่านพูดตรงๆเช่นนี้ก็ง่าย ถูกต้องแล้วข้ามาที่นี่เพื่อยืนยันว่าท่านจะเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่”ไป๋จูเหวินตอบพลางปล่อยพลังวิญญาณออกมา แต่อีกฝ่ายไม่มีทั้งพลังวิญญาณไม่มีพลังอสูรทำให้ไป๋จูเหวินไม่ได้ปล่อยพลังออกไปมากจนกดดันอีกฝ่ายเกินไป
“แน่นอนว่าข้าไม่มีความคิดจะต่อต้านอาณาจักรไป๋ขอรับ ข้ายินดีที่จะค้าขายกับท่านเช่นเดียวกับที่จักรพรรดิองค์ก่อนทำ ทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมเพียงแต่เปลี่ยนผู้นำเท่านั้น”ชายขี้เมาตอบตามที่เตาเสียงบอกมา ทำให้ไป๋จูเหวินมีท่าทีโล่งใจขึ้นมาก ในเมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะต่อต้านไป๋จูเหวินก็ไม่คิดจะหาเรื่องแต่อย่างไร ส่วนจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ต้องไปสืบค้นเอาอีกที
“องค์จักรพรรดิไป๋รีบเร่งเดินทางมาเกรงว่าจะเหนื่อยอ่อน เชิญท่านเข้าไปพักผ่อนในวังก่อนเถิด”จักรพรรดิผิงพูดพลางผายมือเข้าไปในวังหลวง เพราะไม่ต้องการให้ข่าวว่าผู้ยึดอำนาจอาณาจักรจินเป็นอสูร ลูกน้องของชินอี้จึงสังหารเหล่าทหารรวมทั้งข้าหลวงทั้งเล็กใหญ่ตายสิ้นไม่เหลืออแม้แต่คนเดียว ทำให้วังหลวงยามนี้เงียบเหงาวังเวงอย่างมาก
“…..”ชิงชิวที่จมูกดีที่สุดย่นจมูกเล็กน้อย แม้จะเก็บกวาดจนสะอาดซ่อมแซมวังเสียใหม่เอี่ยม แต่กลิ่นคาวเลือดก็ยังไม่หายไป แต่เพราะที่นี่พึ่งเกิดเรื่องการยึดอำนาจไปจะมีกลิ่นคาวเลือดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ความเข้ม ข้นของกลิ่นมันมากเสียจนชิงชิวไม่อยากจะคิดว่าจำนวนผู้ตายมีมากเท่าไหร่กันแน่
“พี่ชิว สวมนี่ไว้สิ”ไป๋หลินเห็นท่าทางชิงชิวแปลกๆเหมือนตอนมันเมากลิ่นของวิเศษในวันที่กำลังตามหาวิธีกลบกลิ่นอายของชินอี้ขึ้นมาเลย ทำให้ไป๋หลินนำสร้อยคอที่ทำจากไม้หอมแบบเดียวกับของชินอี้ออกมาให้ชิงชิว หากชิงชิวสวมมันไว้ก็เหมือนกลบกลิ่นอื่นๆรอบกายไปจนหมดนั่นเอง
“ขอบคุณขอรับองค์หญิง”ชิงชิวตอบพลางยิ้มบางๆออกมา
“ข้าบอกพี่ชิวแล้วไงว่าเลิกเรียกข้าว่าองค์หญิงได้แล้ว”ไป๋หลินว่าพลางทำหน้างอนน้อยๆ
“ข้าเคยชินไปหน่อย”ชิงชิวว่าพลางยิ้มบางๆออกมาระหว่างที่ไป๋หลินกำลังสวมสร้อยคอให้มัน ภาพที่เห็นทำให้ชินอี้ที่อยู่ข้างๆเหม่ยหลินลอบมองมาด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก แม้จะใช้องค์ชายจินกงหลางเพื่อระบายอารมณ์ไปแล้ว แต่เพราะต้องเห็นภาพแบบนี้ทุกวันชินอี้เลยยังไม่หายหงุดหงิดเสียที
.
.
การเจรจากับอาณาจักรผิงเป็นไปได้ด้วยดี หรือจะเรียกว่าแทบไม่จำเป็นต้องเจรจาเสียมากกว่า ไม่ว่าอาณาจักรไป๋จะยื่นข้อเสนออะไรไปอาณาจักรผิงก็รับหมดแม้แต่ข้อเสนอที่อาณาจักรจินก่อนหน้านี้ยังไม่ยอมรับก็ยอมรับอย่างง่ายดาย ทำให้เหล่าขุนนางค่อนข้างพึงพอใจเลยทีเดียว ถึงขนาดพูดว่าการยึดอำนาจครั้งนี้เป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ
เพียงแต่ขุนนางของอาณาจักรผิงออกจะน้อยเกินไป และดูไม่ฉลาดเท่าไหร่ แต่สำหรับอาณาจักรที่พึ่งยึดมาก็คงไม่ได้น่าเกลียดอะไร
ตุบ…หลังจากจัดการธุระเสร็จจนหมด ไป๋จูเหวินและขบวนเสด็จก็พักที่อาณาจักรผิง 1 วันก่อนจะกลับในตอนรุ่งเช้า แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นร่างของชินอี้ก็มาปรากฏตัวที่ท้องพระโรงของอาณาจักรผิงเสียก่อน
“โชคดีจริงๆที่ท่านพ่อยอมไปพักที่วังหลังสุด”ชินอี้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ระยะจับสัมผัสของยิดาตนเองนั้นกล้าวมาก ทำให้ชินอี้ต้องระวังเป็นพิเศษ
“องค์ชาย…”อสูรกระทิงที่ทำหน้าที่บุกโจมตีอาณาจักรจินและเหล่าสมุนของมันก้มหัวลงกับพื้นโดยมีจักรพรรดิผิงก้มหัวอยู่ข้างๆเช่นกัน
“พวกเจ้าทำงานได้ดีมาก”ชินอี้ยิ้มพลางชื่นชมเหล่าอสูรออกมา อสูรพวกนี้ไม่เหมือนมนุษย์ พวกมันทำงานเพื่อชินอี้อย่างสุดแรง ไม่ห่วงตัวเองแม้แต่น้อย และที่สำคัญพวกมันไม่มีทางแว้งกัดชินอี้อย่างแน่นอน
“ขอบพระคุณขอรับองค์ชาย”เตาเสียงก้มหัวอย่างนอบน้อมราวกับคนละคน แม้แต่เหล่าอสูรด้านหลังเองก็พากันก้มหัวราวกับมีอะไรเชื่อมหน้าผากพวกมันกับพื้นก็ไม่ปาน เมื่อจักรพรรดิผิงเห็นเช่นนี้มันก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเลย
“การโจมตีครั้งนี้มีใครบาดเจ็บหรือไม่”ชินอี้ถามพลางมองเหล่าอสูรที่ตนเลือกมา พวกนี้ไม่ใช่อสูรของอาณาจักรไป๋ แต่เป็นอสูรที่ชินอี้แอบรวบรวมเอาไว้ตั้งแต่หลายปีก่อนแล้วพวกมันไม่มีตัวตนในอาณาจักรไป๋และคอยรับคำสั่งจากชินอี้แต่เพียงผู้เดียว
“ขอบพระคุณองค์ชายที่เป็นห่วง พวกเราไม่มีใครบาดเจ็บขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นชินอี้ก็ยิ้มออกมา ในสงครามระหว่างไชน์และอีมอร์ทำให้ชินอี้ได้เห็นประสิทธิภาพของทัพอสูร แม้อสูรกระทิงและลูกน้องจะอยู่ระดับมายาขั้นที่ 10 เทียบได้กับระดับของยอดฝีมือ แต่อสูรนั้นเหนือกว่ามนุษย์อยู่ช่วงหนึ่ง แม้ระดับจะเท่ากันแต่ยอดฝีมือของอาณาจักรจินกลับทำอะไรไม่ได้เลย
“องค์ชาย พวกเราทำงานสำเร็จแล้ว….”เตาเสียงว่าพลางเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย มันกำลังเรียกร้องอะไรบางอย่างจากไป๋ชินอี้อย่างนั้นหรือ
“จริงสินะ”ชินอี้ว่าพลางนำมีดสั้นที่เอวตนเองออกมาถือเอาไว้ ทำเอาเหล่าอสูรรอบๆมองกันตาไม่กะพริบ
“นี่คือรางวัลของพวกเจ้า”ชินอี้พูดจบก็เอามีดสั้นเก็บเข้าไปในแหวนมิติของตนเอง
“โอ้….”พริบตาที่กลิ่นหอมของมีดสั้นหายไป เห่าอสูรก็พากันตัวสั่นเทิ้มด้วยความยินดี กลิ่นอายดึงดูดเหล่าอสูรของชินอี้นั้นเป็นดั่งยาเสพติดของเหล่าอสูร ไม่ทราบว่ามันเกิดเช่นนี้ได้อย่างไร แต่พลังของชินอี้นั้นมากกว่าไป๋จูเหวินหรือแม้แต่บรรพบุรุษอย่างหวังเฉียนเสียอีก มันรุนแรงพอที่จะทำให้อสูรลุ่มหลงแทนที่จะเป็นความรู้สึกอบอุ่นเลยทีเดียว
“องค์ชาย ข้าจะติดตามท่านตลอดไป ไม่ว่าท่านจะสั่งอะไรข้าก็จะทำ”อสูรกระทิงว่าพลางยิ้มกว้าง
วูบ…รางวัลของเหล่าอสูรมีเพียงครึ่งนาทีเท่านั้น ทันทีที่ชินอี้เอามีดสั้นออกมาอีกครั้งเหล่าอสูรก็มีท่าทีเสียดายทันที
“องค์ชาย ขะ ขออีกหน่อยได้หรือไม่ขอรับ”เตาเสียงถามพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา
“เจ้าว่าอะไรนะ”ชินอี้ถามพลางมองมาทางเตาเสียงนิ่ง
“ปะ เปล่าขอรับ ไม่มีอะไรขอรับ”เตาเสียงตอบด้วยท่าทีตกใจเป็นอย่างมาก ยามนี้สิ่งที่มันกลัวที่สุดคือการจะไม่ได้สัมผัสกลิ่นอายของชินอี้อีกนั่นเอง
“ถ้าเจ้าอยากได้อีกก็ทำงานซะ ข้ามีเรื่องอยากให้พวกเจ้าทำ”ชินอี้ว่าพลางมองไปทางห้องที่ชิงชิวพักอยู่ น่าเสียดายการสั่งอสูรไปโจมตีชิงชิวไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ เพราะชิงชิวมักจะอยู่กับพี่สาวของมัน หากอสูรเข้าไปโจมตีโดยไม่สนกลิ่นอายของพี่สาวมันไม่ว่าใครก็ต้องทราบว่าคืออสูรที่รับคำสั่งจากตัวมันแน่ๆ แบบนั้นความได้แตกกันพอดี
“ไปหาอสูรมา ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งดี”ชินอี้สั่งออกไป แม้ตอนนี้จะยังหาวิธีไล่ชิงชิวไปไม่ได้ แต่ภาพกองทัพอสูรที่อาณาจักรไชน์ก็ตราตรึงใจชินอี้ไม่น้อย มันเองก็อยากจะสร้างกองทัพเช่นนั้นขึ้นมาบ้า