บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 410 วิธีง่ายๆ
ตอนที่ 410
วิธีง่ายๆ
“…….”ไป๋หลินตื่นขึ้นมาภายในห้องที่ชินอี้จัดเอาไว้ให้ ห้องนี้มีขนาดไม่ต่างจากห้องของไป๋หลินที่เคยอยู่ในวังของอาณาจักรไป๋เลย เพียงแต่ทันทีที่ตื่นขึ้นมาไป๋หลินก็สัมผัสได้ทันทีว่ารอบข้างนั้นผิดปกติ นอกจากที่นี่จะไม่ใช่ห้องของตนแล้ว ด้านนอกยังมีกลุ่มก้อนพลังอสูรจำนวนมากเดินวนเวียนอยู่รอบๆอีกต่างหาก
“องค์หญิง ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปขอรับ”ไป๋หลินที่กำลังจะออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นถูกอสูรตนหนึ่งขวางเอาไว้ เจ้านี่เป็นอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 6 ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าดูแลไป๋หลินโดยเฉพาะ ทั้งไม่ให้ใครเข้าพบนางและไม่ให้นางไปที่ไหนทั้งนั้น
“เปิดทางให้ข้า”ไป๋หลินสั่งพลางมองไปทางอสูรตนนั้น แต่เดิมไม่ว่าอสูรจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของไป๋หลินได้ เพียงแต่อสูรตรงหน้ากลับโดนพลังของชินอี้มาก่อน เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างคำสั่งของชินอี้และไป๋หลินแล้วตัวชินอี้ที่มีพลังดึงดูดเหล่าอสูรรุนแรงกว่ามากย่อมเป็นฝ่ายชนะ
ปึง! อสูรตนนั้นกระแทกหอกลงพื้นก่อนจะทำสีดุดันออกมา
“ท่านจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”อสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 6 พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม้ยามนี้ไป๋หลินจะฝืนเอาชนะระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1ได้ แต่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 6 ที่เทียบได้กับระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 6 หรือสูงกว่าแบบนี้ไป๋หลินไม่มีทางเอาชนะได้
เปรี้ยง!! แต่ไป๋หลินไม่ได้ยอมแพ้แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอนรอความช่วยเหลือแต่อย่างไร นางโจมตีใส่อสูรตรงหน้าโดยไม่ต้องคิด เพราะอสูรตรงหน้านางนั้นใช้หอกเป็นอาวุธและดูเคยชินกับร่างมนุษย์มาก แสดงว่ามันต้องโดนพลังดึงดูดอสูรของใครสักคนมาสักพักแล้ว และคนที่นางคิดออกก็มีแต่ชินอี้เท่านั้น หากเป็นชินอี้จริงมันต้องไม่ยอมให้อสูรของตนโจมตีนางที่เป็นพี่สาวแน่ๆ
“…..”เป็นไปดังคาด ฝ่ามือของไป๋หลินไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย และอสูรตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีจะโจมตีกลับแต่อย่างไร ทำให้ไป๋หลินยิ่งมั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดนี้น่าจะมาจากชินอี้อย่างแน่นอน
“องค์หญิง กรุณากลับเข้าไปในห้องด้วยขอรับ”อสูรตรงหน้าไป๋หลินพูดพลางยืนขวางประตูเอาไว้ แม้มันจะไม่ได้รับอนุญาตให้โจมตีไป๋หลิน แต่มันก็โดนกำชับว่าห้ามให้ไป๋หลินออกจากห้องไปได้เช่นกัน หากมันทำพลาดมันจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกลิ่นอายของชินอี้อีก เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่อสูรทุกตนในที่นี้ยอมไม่ได้
“พี่หญิง ท่านตื่นแล้วหรือ”ไป๋ชินอี้ยิ้มพลางเดินเข้ามาหาไป๋หลินที่ห้อง
“องค์ชาย”เหล่าอสูรที่อยู่รอบๆต่างรีบคุกเข่าลงพลางเปิดทางให้ชินอี้ได้พบกับไป๋หลินตามสบาย
“ชินอี้ เจ้าทำแบบนี้ทำไม”ไป๋หลินถามพลางจ้องมองน้องชายนิ่ง ไม่ใช่ว่าชินอี้โดนพลังของวิชาเทวะปราบมารลบล้างพลังของราคะไปแล้วหรอกหรือ
“เพราะข้ารักท่านยังไงล่ะ”ชินอี้ตอบพลางจับมือไป๋หลินเบาๆ แม้จะบอกว่าเป็นความรักก็ไม่ได้หมายถึงความรักของพี่น้อง แต่ก็ไม่ได้เป็นความรักแบบชู้สาวเช่นกัน ตัวชินอี้นั้นหลงใหลไป๋หลินตั้งแต่ยังไม่ทราบว่าความรักเป็นเช่นไร สำหรับมันแล้วไป๋หลินเป็นตัวตนที่มันไม่สามารถขาดได้เลย
“ชินอี้…”ไป๋หลินไม่ทราบจะถามอะไรอีก นางทราบดีว่าชินอี้เป็นแบบนี้เพราะนางเอง นางจึงไม่ได้รังเกียจมือที่จับมือของนางเอาไว้เลย ไม่ว่าจะยังไงชินอี้ก็เป็นน้องชายที่นางรักและเอ็นดูอยู่ดี เพียงแต่ตอนนี้นางต้องหาทางแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้น แต่นางคงทำไม่ได้ถ้ายังโดนขังอยู่ที่นี่ นางคงจะต้องหาโอกาสหนีออกไปให้ได้
“ถึงตอนนี้พี่หญิงคงกำลังหาทางหนีแล้ว”ชินอี้พูดพลางยิ้มออกมา มันอยู่กับพี่สาวมาทั้งชีวิตย่อมทราบความคิดความเห็นของนางดี
“แต่ข้าไม่ยอมให้พี่หญิงหนีไปง่ายหรอกนะ”ชินอี้ยิ้มพลางมองไปทางอสูรเฝ้าประตูทุกตนที่ล้อมห้องของไป๋หลินเอาไว้ ในโลกนี้จะหาได้กี่คนที่สามารถหนีออกจากวังของอาณาจักรเผิงในตอนนี้ได้ เพียงแต่ชินอี้ทราบดีว่าไป๋หลินนั้นหนีเก่งเพียงไร ไม่แน่ว่านางอาจจะสามารถหนีไปได้หากนางมีโอกาสทำให้ชินอี้ต้องหาวิธีจัดการเสียก่อน
“จริงสิ ข้ากลัวว่าท่านจะเหงาก็เลยพาเพื่อนมาอยู่กับท่านด้วย”ชินอี้พูดจบ อสูรตนหนึ่งก็จูงมือหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาอยู่เบื้องหน้าของไป๋หลิน นางไม่มีพลังอสูร ไม่มีพลังวิญญาณ ไม่มีพลังมารเลยทำให้ไป๋หลินไม่ได้สังเกตเห็นนางเลยจนกระทั่งโดนลากเข้ามา
“……..”ไป๋หลินสะท้านวาบมองหญิงสาวที่โดนนำตัวเข้ามาด้วยท่าทางตกใจ
“ช่วงนี้ข้ามีเรื่องต้องจัดการอีกหน่อย หวังว่านางจะอยู่เป็นเพื่อนท่านพี่ได้”ชินอี้ยิ้มพลางส่งตัวหญิงสาวคนนั้นเข้าไปในห้อง ก่อนจะขอตัวเดินกลับไปที่ท้องพระโรงเสียก่อน เพราะยามนี้อาณาจักรเผิงกำลังเผชิญปัญหาใหญ่ไม่น้อยเลย
“องค์ชาย”เมื่อชินอี้เดินกลับมาที่ห้องพระโรงหลังจากรีบร้อนออกไปทันทีที่ได้ทราบข่าวว่าพี่หญิงของมันฟื้นสติแล้ว ภายในท้องพระโรงยามนี้เต็มไปด้วยอสูรมากมายจนดูเหมือนรังอสูรไม่มีผิด
“อาณาจักรรอบๆเริ่มตั้งกองทัพกันแล้วขอรับองค์ชาย”อสูรอีการายงานด้วยท่าทีจริงจัง เพราะการรวบรวมอสูรทำให้อาณาจักรเผิงรุกรานอาณาจักรอื่นๆอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายก็เลี้ยงการปะทะกันไปได้เพราะมีอาณาจักรไป๋ช่วยเจรจา แต่หลังจากเกิดเรื่องชินอี้พาตัวไป๋หลินมาอยู่ในอาณาจักรเผิง อาณาจักรไป๋ก็ไม่ได้เข้ามาเจรจาอีกเลย ทำให้คนของอาณาจักรอื่นๆเริ่มทนไม่ไหวและก่อตั้งกองทำหมายจะโจมตีอาณาจักรเผิงกันเสียแล้ว
“น่ารำคาญ กองทัพของพวกเราแข็งแกร่งแค่ไหนพวกมันไม่รู้หรือยังไง บดขยี้พวกมันให้หมดซะก็สิ้นเรื่อง”อสูรตนหนึ่งพูดพลางปล่อยพลังอสูรออกมาจนทั่ว มันคืออสูร 8 อสูรผู้มีความแข็งแกร่งเป็นรองแต่เพียงมังกรอัสนีทองคำเท่านั้น
“ถูกต้อง กับอีแค่กองทัพมนุษย์ไม่กี่หมื่นไม่กี่แสน พวกเราบดขยี้ได้สบายอยู่แล้ว”อสูรอีกตนกล่าวอย่างเห็นด้วย อาณาจักรรอบๆยังไม่ทราบเรื่องกำลังพลที่แท้จริงของอาณาจักรเผิง ว่าจริงๆแล้วกำลังของอาณาจักรเผิงยามนี้ไม่ได้ยิ่งย่อนไปกว่ากำลังของอาณาจักรไป๋เลย ไม่แน่อาจจะเหนือกว่าระดับหนึ่งเลยเสียด้วยซ้ำ
“ถ้ามันมีปัญหานักก็ยึดมันมาให้หมด เดี๋ยวพวกมันก็ไม่กล้ายุ่งกับพวกเราเอง”อสูรอีกตนเองก็มีท่าทีเห็นด้วยเช่นกัน
“ดี งั้นก็ไปจัดการพวกมันให้หมด”ชินอี้พยักหน้าช้าๆ ตัวมันไม่ได้สนใจความเป็นอยู่ของอาณาจักรข้างเคียงอยู่แล้ว บางครั้งยังสงสัยเลยว่าทำไมท่านพ่อถึงไม่ส่งอสูรไปยึดอาณาจักรรอบๆให้หมดจะได้ไม่มีปัญหา กองทัพอสูรของพวกมันแข็งแกร่งเกินกว่าจะต่อต้านได้อยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นให้ท่านมังกรทองกับท่านค้างคาวโลหิตนำทัพไปโจมตีเถิดขอรับ แสดงพลังอำนาจของพวกเราให้มันได้เห็นเสียที”อสูรตนหนึ่งพูดพลางมองไปทางอสูรค้างคาวโลหิตและอสูรมังกรอัสนีทองคำที่นั่งอยู่ข้างๆชินอี้ พวกมันคืออสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 10 และ 8 ที่แข็งแกร่งเกินกว่าอาณาจักรที่ไม่มีแม้แต่บุคคลระดับเจ้าสวรรค์เลยสักคน
“ไม่จำเป็น ข้าไปตามลำพังก็เกินพอแล้ว”มังกรอัสนีทองคำตอบพลางลุกขึ้นยืน ระดับพลังของมันไม่มีทางที่มนุษย์จะต่อต้านได้อยู่แล้ว
“ถูกแล้ว พวกเราจัดการกันเองก็เกินพอ”อสูรค้างคาวโลหิตว่าพลางลุกตามมังกรอัสนีทองคำไป
วูบ!!… ร่างของทั้งสองทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นร่างอสูรของแต่ละตนในพริบตา หนึ่งร่างสีทองยาวเหยียดราวกับจะพาด่านท้องฟ้ามุ่งหน้าไปทางเหนือ หนึ่งร่างสีดำสนิทที่กางสองปีกจนปกคลุมไปครึ่งเมืองทะยานวาบไปทางตะวันตกสร้างความแตกตื่นใจให้กับเหล่าประชาชนของอาณาจักรเผิงที่ยังไม่ทราบเรื่องอย่างมาก
เปรี้ยง!! ร่างของมังกรอัสนีทองคำเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าเคลื่อนผ่านท้องฟ้ารวดเร็วยิ่งกว่าใจนึก เพียงไม่กี่อึดใจกองทัพทางเหนือก็ปรากฏเบื้องหน้าของมังกรอัสนีทองคำเสียแล้ว
คลืดดด….ทันทีที่ร่างของมังกรอัสนีทองคำปรากฏเหนือเหล่าทหารของอาณาจักรทางเหนือ ท้องฟ้าก็พลันแปลเปลี่ยนเป็นสีดำมืดในทันที
เปรี้ยง!! สายฟ้าสีทองพุ่งวาบเข้าใส่เหล่าทหารบนพื้น ขนาดของสายฟ้านั้นใหญ่และรุนแรงราวกับเสาสีทองพุ่งวาบลงมาจากสวรรค์ ทำเอาพื้นดินสั่นสะเทือนราวกับมีแผ่นดินไป และไม่ต้องถามถึงกองทัพของอาณาจักรทางเหนือเลย พวกมันโดนกวาดล้างจนหมดในพริบตาเลยก็ว่าได้
เปรี้ยงๆๆๆ!! ด้วยพลังระดับบรรพกาลขั้น 10 เพียงเคลื่อนตัวผ่านก็สร้างสายฟ้าน้อยใหญ่ฟาดลงมาบนพื้นที่มันเคลื่อนตัวผ่านอย่างต่อเนื่อง ทำเอาพื้นที่มันลอยผ่านวินาศไม่เหลือชิ้นดี
“จัดการทีเดียวให้หมดเลยก็แล้วกัน”มังกรอัสนีทองคำรำพึงออกมาพลางมองไปที่เมืองหลวงของอาณาจักรทางเหนือ ก่อนจะรวบรวมเอาสายฟ้ารอบๆตัวยิงเข้าใส่เมืองหลวงเข้าอย่างจัง จนเมืองหลวงหายไปทั้งเมืองไม่ท่าทีว่าจะมีสิ่งมีชีวิตรอดมาได้เลย
.
.
“เอาล่ะ กินกันให้เต็มที่ไปเลย”อสูรค้างคาวโลหิตยิ้มพลางเปิดมิติของตนเองออกมาเป็นวงกล้างราวกับประตูบานใหญ่ออกมา พริบตานั้นฝูงค้างคาวโลหิตระดับไม่สูงมากก็พุ่งออกมาจากมิติของอสูรค้างคาวโลหิตอย่างรวดเร็ว พวกมันแม้อยู่ระดับมายาบ้างตำนานบ้าง แต่จำนวนมากมายมหาศาลนับพันนับหมื่นตัวก็ทำให้ท้องฟ้าแทบจะโดนบดบังจนมิดในพริบตา
“อากกกก”เหล่าทหารขอทางตะวันตกร้องระงมด้วยความเจ็บปวดหลังจากโดนฝูงค้างคาวเข้าโจมตี พวกมันดูดเลือดของเหล่าทหารจนเกลี้ยง บ้างก็โดนจัดการไปบ้าง แต่ไม่นานเหล่าทหารก็โดนฆ่าไปจนหมดอยู่ดี
.
.
“ชิงชิว”ขณะเดียวกันที่อาณาจักรไป๋ หลังจากโดนลักพาตัวไป๋หลินไป เหล่าขุนนางอสูรและเหล่าขุนพลต่างก็เข้ามาประชุมกันเพื่อหาทางออก แต่ยังไม่ทันจะได้ผลสรุปอยู่ๆแม่ของชิงชิวที่เดินทางมาจากเมืองหลวงเก่าก็บุกเข้ามาในท้องพระโรงเพื่อมาพบลูกชายทันที
“ท่านแม่ มีอะไรหรือขอรับ”ชิงชิวถามพลางมองไปทางมารดาของตนเอง นางมีท่าทีรีบร้อนและแตกตื่นอย่างมากเลยทีเดียว
“ชิงชิว…ชิงชิง…..ชิงชิงโดนจับตัวไป”ได้ยินสิ่งที่มารดาของตนพูดชิงชิวก็เบิดตากว้าง แม่ของมันตอนนี้สมควรอยู่ในวังของเมืองหลวงเก่า ไม่ควรจะมีใครบุกเข้ามาลักพาตัวไปง่ายๆไม่ใช่หรือ
“คุณนายชิง ใจเย็นๆก่อนแล้วบอกพวกเราได้หรือไม่ว่าใครคือคนลักพาตัวชิงชิงไป”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางแม่ของชิงชิวด้วยท่าทีกังวลเช่นกัน
“พวกมันเป็นอสูรที่น่ากลัวมาก ทหารกับอสูรเฝ้าวังหลวงเก่าทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย”แม่ของชิงชิวเล่าด้วยท่าทีกังวลอย่างมาก
“…..ชินอี้”ชิงชิวสะท้านวาบพลางมองไปทางไป๋จูเหวิน ซึ่งตัวไป๋จูเหวินเองก็ได้ผลสรุปเช่นเดียวกัน คนที่จับตัวชิงชิงไปย่อมเป็นไป๋ชินอี้อย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุนั้นคงเพราะป้องกันไม่ให้ชิงชิวแอบเข้าไปช่วยไป๋หลินรวมทั้งป้องกันไม่ให้ไป๋หลินแอบหนีไปคนเดียวอีกต่างหาก