บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 438 บ้านของผิงกั่ว
ตอนที่ 438
บ้านของผิงกั่ว
“น้องจูล่ง ลองถามผิงกั่วดูหน่อยว่ามีอะไรคุ้นตาบ้างหรือยัง”ชิงชิวถามขณะนั่งอยู่บนหลังของตงฟางที่ยามนี้กางปีกบินราวกับอสูรวิหคไม่มีผิด หลังจากตามไป๋จูล่งจนทันชิงชิวก็ได้ทราบว่าจูล่งต้องการพาผิงกั่วไปส่งที่บ้านของนางเท่านั้น ชิงชิวจึงยินดีที่จะช่วยอีกแรงทันที แต่ไป๋จูล่งก็ต้องสัญญาว่าหลังจากส่งผิงกั่วเสร็จแล้วจะกลับทันที
“xxxxx” ผิงกั่วตอบด้วยภาษาของตนเอง น่าเสียดายที่ชิงชิวไม่ได้มีความสามารถเหมือนคนตระกูลไป๋ทำให้ไม่สามารถเข้าใจภาษาของผิงกั่วได้
“นางบอกว่าให้ไปทางที่ดวงอาทิตย์ตกดินขอรับ”จูล่งตอบตามคำพูดของผิงกั่วทันที ดูเหมือนนางจะบอกให้ไปทางทิศตะวันตกนั่นเอง
“เข้าใจแล้ว”ชิงชิวพูดพลางบังคับทางให้ตงฟางมุ่งหน้าไปทางตะวันตก ตอนนี้พวกมันอยู่ในสภาพอากาศมีหิมะตกแล้ว คาดว่าเมืองของผิงกั่วน่าจะอยู่ไม่ไกล ยิ่งมีชิงชิวที่รู้วิธีเดินทางดีมาช่วยนำทางก็ยิ่งทำให้การเดินทางง่ายขึ้นมาก เพียงแต่ในใจชิงชิวกลับมีสิ่งหนึ่งที่ไม่สบายใจเอาเสียเลย นั่นคือกลิ่นของไป๋หลินนั่นเอง ก่อนหน้านี้ที่ชิงชิวแอบซ่อนตัวไม่กล้าพบหน้าไป๋หลินนับว่าพยายามอยู่หลายรอบแล้วที่จะแสดงตัวออกมา แต่ในใจก็ยังคงต่อต้านอยู่ดี ตอนที่ไป๋หลินบินหายไปพร้อมกับไป๋ไป่และท่านหยงเวย ชิงชิวก็คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้พบกันอีกสักพักใหญ่ ที่ไหนได้พอเริ่มบินตามหาบ้านของผิงกั่ว ชิงชิวกลับได้กลิ่นของไป๋หลินตลอดเส้นทาง ราวกับกำลังบินตามไป๋ไป่มาไม่มีผิด
“xxxxx”มุ่งหน้ามาทางตะวันตกได้ไม่นาน อยู่ๆผิงกั่วก็ส่งเสียงพูดออกมามากมายอย่างผิดปกติ ทำให้ชิงชิวเตรียมจะหันไปถามจูล่งทันทีว่านางพูดอะไร
“เมืองนั้นขอรับ เมืองนั้นเป็นเมืองที่ผิงกั่วจำได้”ไม่รอให้ชิงชิวเอ่ยถาม จูล่งก็พลันพูดออกมาพลางชี้ไปที่เมืองที่อยู่ห่างจากพวกชิงชิวไม่กี่อึดใจ เพียงตงฟางพุ่งตัวไปข้างหน้าไม่กี่นาทีก็จะถึงแล้ว
“นั่นคือเมืองของเจ้าหรือน้องผิง”จูล่งถามพลางมองเมืองด้านล่าง เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยหิมะอย่างที่ผิงกั่วบอกไม่มีผิด กำแพงเมืองโดนหิมะถมจนแทบมิด ตามบ้านเรือนก็มีน้ำแข็งย้อยเกาะอยู่เต็มไปหมด ดูแล้วช่างเป็นเมืองที่เหมือนเมืองน้ำแข็งจริงๆ เพียงแต่ทุกเมืองที่อยู่ในเขตนี้ส่วนใหญ่ก็มีสภาพไม่ต่างจากนี้นัก เพียงแต่เมืองนี้กลับดูแปลกๆไป
“นั่นมัน…เมืองร้างไม่ใช่หรือ”ชิงชิวถามพลางมองไปที่เมืองที่ผิงกั่วบอก ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนเมืองนี้ก็ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลยแม้แต่น้อย เงียบและเย็นเฉียบราวกับเมืองได้ตายไปแล้วเช่นเดียวกับผู้อยู่อาศัยในนั้น
“xxxxx”ผิงกั่วพูดอะไรบางอย่างออกมาพลางชี้ไปที่ภูเขาที่อยู่ถัดจากเมืองไปอีกหน่อย
“….”ชิงชิวฟังไม่เข้าใจหรอกว่าผิงกั่วพูดอะไร แต่เส้นทางที่ผิงกั่วชี้ไปนั้นช่างน่าสงสัยเหลือเกิน แถมก่อนหน้านี้ตอนมันไปจัดการเถ้าแก่อู้ต๋ง มันยังพูดเหมือนกับว่าจริงๆแล้วผิงกั่วอยู่ในดินแดนลึกลับอะไรสักอย่าง ไม่ใช่เมืองปกติอีกด้วย เมืองลึกลับที่ว่านั้นมีสมบัติมากมายมหาศาลจนน่าตกใจ เพียงแต่ชิงชิวลองนึกดูอีกครั้งแล้วไม่ใช่ว่าสถานที่นั้นคือ…
“เขตอสูร”ชิงชิวกะพริบตาปริบๆมอบไปยังภูเขาเบื้องหน้า แม้จะอยู่ตรงนี้ชิงชิวก็สัมผัสถึงพลังอสูรที่อยู่ในภูเขาหิมะลูกนั้นได้
“ผิงกั่วบอกว่าบ้านของนางอยู่ที่ภูเขาลูกนั้นขอรับ”จูล่งตอบพลางชี้ไปที่ภูเขาลูกที่ชิงชิวสัมผัสพลังอสูรได้พอดี จะว่าไปตั้งแต่เข้าเขตเมืองหนาวมา ผิงกั่วก็ไม่มีท่าทีจะแสดงความรู้สึกหนาวออกมาเลย นางใส่เสื้อผ้าปกติธรรมดา แถมไม่มีพลังวิญญาณเลย ปกติแล้วสมควรหนาวจนตัวสั่นแท้ๆ แต่นางกลับนั่งบนหลังตงฟางด้วยท่าทีสบายๆเหมือนกำลังเดินทางกลางทุ่งหญ้าอบอุ่นไม่มีผิด หรือว่าจริงๆแล้วนางจะโตมาในเขตอสูร? นี่นางมีพลังดึงดูดเหล่าอสูรของคนตระกูลไป๋อยู่งั้นหรือ
ตุบ… ร่างของตงฟางทะยานลงมายืนบนพื้นหิมะอย่างรวดเร็ว แรงปีกของมันทำเอาหิมะรอบๆฟุ้งกระจายไปหมดเลยทีเดียว
“พี่จูล่ง พี่ชิงชิว พวกพี่รออยู่นี่ก่อนนะ ท่านแม่ไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามาในบ้านเท่าไหร่”ผิงกั่วพูดพลางยิ้มออกมา ตอนนี้นางดีใจมากที่ได้กลับมาที่บ้านแล้ว แต่นางก็กลัวว่าถ้าพี่จูล่งกับพี่ชิงชิวเข้าไปในเขตบ้านของนางโดยไม่ขอท่านแม่ก่อน ท่านแม่อาจจะทำร้ายพวกพี่จูล่งกับพี่ชิงชิวได้ นางเลยบอกให้จูล่งพาพี่ตงฟางลงพื้นตรงทางเข้าเขตอสูรก่อนจะขอตัวไปบอกท่านแม่ก่อน
“ยัยหนู เจ้ากลับมาแล้ว”อยู่ๆพื้นหิมะรอบๆตัวผิงกั่วก็ก่อตัวขึ้นมาจนกลายสภาพเป็นเหมือนมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาจากหิมะไม่มีผิด
“ยัยเด็กมนุษย์ เจ้าหายไปไหนมา ไม่รู้หรือยังไงว่าองค์ราชินีเป็นห่วง”หิมะข้างๆตัวผิงกั่วอีกด้านก่อตัวเป็นรูปร่างของชายร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม พวกมันต่างพูดภาษาของผิงกั่วเหมือนกันหมด ท่าทางที่นี่จะเป็นบ้านของนางไม่ผิดแน่ แม่ชิงชิวจะฟังที่พวกมันพูดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้เข้าไปขวางอะไรเพราะเห็นได้ชัดว่ามนุษย์น้ำแข็งพวกนั้นไม่ได้มีเจตนาร้าย
“หรือว่า แม่ที่ผิงกั่วพูดถึงจะเป็นเจ้าของเขตอสูรแห่งนี้”ชิงชิวพูดพลางถอนหายใจออกมา แดนลับแลอะไรกัน มันก็เขตอสูรๆดีๆนี่เองไม่ใช่หรือไง แม้คนอาณาจักรอื่นจะเห็นเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและน่าค้นหาแค่ไหน แต่คนที่เคยอยู่ในอาณาจักรไป๋มาไม่มีใครตื่นเต้นกับของแบบนี้หรอก แล้วอีกอย่างตอนนี้ข้างกายของชิงชิวมีไป๋จูล่งอยู่ทั้งคน อสูรไม่มีทางทำอะไรพวกมันอยู่แล้ว
“พี่ๆองครักษ์….”ผิงกั่วมองมนุษย์หิมะที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนก่อนจะเบะเอาน้ำตาออกมา ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นร้องไห้จ้าทันที นางนึกว่าจะไม่ได้กลับมาเห็นหน้าพวกองครักษ์หิมะผู้เป็นคนดูแลตนเองอีกแล้วเสียอีก
“ข้าจะไปบอกองค์ราชินีก่อน”องครักษ์หิมะตนแรกพูดพลางสลายตัวไปกลายเป็นหิมะบนพื้นเช่นเดิม ทำให้องครักษ์หิมะอีกทำหน้าที่อุ้มผิงกั่วขึ้นภูเขาไป
.
.
“องค์ราชินี”เพียงไม่กี่นาที ร่างขององครักษ์หิมะก็ปรากฏขึ้นภายในปราสาทที่สร้างจากน้ำแข็งทันที สถานที่แห่งนี้เหมือนสถานที่ที่มนุษย์ปกติอยู่อาศัยมากทีเดียว และตัวองค์ราชินีและเหล่าผู้อาศัยในเขตอสูรแห่งนี้ต่างก็เป็นอสูรที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทั้งสิ้น
“ไม่เห็นหรืออย่างไรว่าข้ากำลังรับแขกอยู่”ราชินี ผู้เป็นเจ้าของเขตอสูรป่าผลึกฟ้าพูดพลางมองไปทางองครักษ์ผู้ทำหน้าที่เฝ้ารอบๆเขตอสูร
“องค์ราชินี ยัยหนูกลับมาแล้วขอรับ”เพียงได้ยินสิ่งที่องครักษ์หิมะรายงานมา ราชินีน้ำแข็งผู้เป็นเจ้าของเขตอสูรแห่งนี้ก็ชะงักไป แม้เบื้องหน้าของนางจะมีร่างของแขกที่มาจากแดนไกลยืนอยู่ แต่นางก็แสดงท่าทีอยากจะออกไปหาผิงกั่วเสียเดียวนี้ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านไปเถอะ แค่ให้พวกเราเข้ามาก็ต้องขอบคุณท่านแล้ว ไม่ต้องให้การต้อนรับอะไรหรอก”แขกของราชินีหิมะพูดพลางยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ทำให้ราชินีหิมะยิ้มออกมาอย่างยินดี
“เช่นนั้นเชิญพวกท่านตามสบาย”ราชินีหิมะว่าพลางหันหลังเดินออกไปจากปราสาทน้ำแข็งทันที ปกตินางจะมีท่าทีสงบเยือกเย็นเสมอ ท่าทางของนางเหมือนราชินีผู้สง่างามในโลกภายนอกไม่มีผิด แต่ทันทีที่ได้ยินว่าเด็กคนหนึ่งกลับมานางก็มีท่าทีรีบร้อนถึงขั้นทิ้งธุระเบื้องหน้ามาอย่างไม่ไยดี
“ลูกแม่”ทันทีที่ราชินีน้ำแข็งเห็นร่างของผิงกั่วที่โดนองครักษ์หิมะอุ้มมานางก็กระโดดวาบขึ้นพาร่างของผิงกั่วเข้ามาในอ้อมกอดทันที ตัวผิงกั่วนั้นได้กินสมุนไพรที่ชนิดหนึ่งเข้าไปทำให้นางสามารถทนทานความเย็นได้มากมายทีเดียว และนั่นก็คือสมุนไพรชนิดเดียวกันกับที่มังกรธรณีให้ไป๋จูเหวินกินเพื่อจะทนสภาพอากาศของเขตอสูรผาไร้กันได้นั่นเอง
“ท่านแม่….ข้า…..ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน”ผิงกั่วหลั่งน้ำตาออกมาแทบจะเป็นน้ำตก พลางเข้ากอดร่างของมารดาที่เลี้ยงดูตนมาตั้งแต่เกิดด้วยความโหยหา
“ลูกแม่ เกิดอะไรขึ้น เจ้าหายไปไหนมา”ราชินีน้ำแข็งถามพลางมองร่างของผิงกั่วเพื่อสำรวจว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือไม่
“หนูขอโทษ หนูแอบหนีออกไปข้างนอกแล้วก็โดนพวกคนน่ากลัวจับตัวไป”ผิงกั่วตอบพลางสะอื้นออกมาไม่หยุด
“ไม่ต้องร้องไห้ลูกแม่ เจ้าปลอดภัยก็พอแล้ว”ราชินีน้ำแข็งพูดพลางกอดร่างของผิงกั่วเอาไว้แน่น พวกนางใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะกอดกันจนหายคิดถึงได้
“ท่านแม่….”ผิงกั่วพูดหลังจากตนเองเลิกร้องไห้แล้ว
“มีอะไรหรือ”ราชินีน้ำแข็งถามพลางมองบุตรสาวในอ้อมกอด
“ข้ากลับมาที่นี่ได้เพราะได้พี่ชาย 2 คนช่วยเอาไว้ ตอนนี้พวกพี่รออยู่ข้างนอก..”ผิงกั่วว่าพลางมองมารดาตัวเองด้วยท่าทีลำบากใจ กฎของเขตอสูรผลึกฟ้านั้นไม่ต่างจากกฎของเขตอสูรอื่นๆ ห้ามคนภายนอกรุกล้ำเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นอสูรหรือมนุษย์ ผิงกั่วเลยไม่กล้าให้พี่จูล่งกับพี่ชิงชิวเข้ามา หรือแม่แต่พี่ตงฟางด้วยก็ตาม
“ได้ แม่จะให้พวกมันเข้ามา พวกมันช่วยเจ้าเอาไว้ข้าไม่ถือว่าเป็นคนนอก”ราชินีหิมะตอบพลางยิ้มบางๆออกมา ตั้งแต่นางทราบว่าผิงกั่วหายไป นางก็ส่งอสูรหลายตนออกไปตามหา แต่น่าเสียดาย นางไม่สามารถออกไปด้วยตนเองได้ทำให้นางร้อนใจจนน้ำแข็งบนตัวนางแทบจะละลาย ยามนี้ไม่ว่าใครจะพาผิงกั่วกลับมาก็นับเป็นผู้มีพระคุณทั้งสิ้น
.
.
“………”เมื่อทราบข่าวจากผิงกั่ว ราชินีน้ำแข็งจึงเดินทางมาที่ทางเข้าเขตอสูรด้วยตนเองเพื่อต้อนรับผู้ช่วยเหลือบุตรสาวตนเองเอาไว้ ทำให้ทั้งจูล่ง ทั้งชิงชิวได้สบตากับราชินีน้ำแข็งเป็นครั้งแรก
“ไม่นึกว่าแม่ของเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนี้”ชิงชิวว่าพลางมองราชินีน้ำแข็งที่อุ้มผิงกั่วเดินออกมา ไม่ผิดแน่ นางคือเจ้าของเขตอสูรแห่งนี้แถมยังเป็นอสูรระดับบรรพกาลระดับ 3 อีกด้วย เรียกได้ว่าหากนับพลังอสูรเพียงอย่างเดียวก็เทียบเท่าชิงชิวแล้ว นับเป็นหนึ่งในอสูรระดับสูงที่น่าเกรงขามตนหนึ่งเลย แต่น่าเสียดายนางคงไม่อาจสู้กับชิงชิวได้ และไม่สามารถทำอะไรจูล่งได้แน่ๆ แต่พอนึกว่าเด็กไร้พลังวิญญาณอย่างผิงกั่วถูกอสูรแบบนี้เก็บมาเลี้ยงก็ทำเอาชิงชิวอดสงสัยไม่ได้ว่าจริงๆแล้วผิงกั่วมีพลังดึงดูดเหล่าอสูรหรือไม่
“ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอทายาทของนายหญิงถึง 2 คนในวันเดียว”ราชินีน้ำแข็งว่าพลางมองไปทางไป๋จูล่ง แม้จะไม่ได้แผ่พลังอสูรออกมา แต่สำหรับผู้เคยพบอสูรแมงมุมมาก่อนกลับสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างที่มีเพียงอสูรแมงมุมเท่านั้นที่มี
“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ พวกท่านเองก็เป็นแขกของเราเช่นกัน”ราชินีน้ำแข็งตอบพลางก้มหัวลงเล็กน้อย แต่คำพูดของนางก่อนหน้านี้ทำให้ชิงชิวอดรู้สึกประหลาดไม่ได้ ทายาทของนายหญิง 2 คน? แม้ชิงชิวจะไม่ทราบว่าสิ่งที่นางพูดหมายถึงอะไร แต่อีกคนที่นางพูดถึงก็ต้องมีความเกี่ยวโยงกับจูล่งไม่ใช่หรือ แถมกลิ่นที่โชยมาจากปราสาทน้ำแข็งตรงหน้ายังเหมือนกำลังตอกย้ำชิงชิวอีกต่างหากว่าแขกอีกท่านของราชินีน้ำแข็งคือใคร
“ข้า….”ชิงชิวชะงักเท้าเหมือนไม่อยากจะเดินเข้าไปในเขตอสูร แต่ขาของมันก็ชะงักอยู่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่มันจะก้าวตามจูล่งเข้าไปในเขตอสูรทันที