บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 46 จับกุม
ตอนที่ 46
จับกุม
“มนุษย์นี่นา หรือว่าอสูรที่แปลงเป็นมนุษย์?”
“พลังอสูรต้อยต่ำเช่นนี้จะเป็นอสูรไปได้ยังไง”
“รู้แล้ว พวกมันคือนักล่าอสูรที่กลืนแก่นอสูรเข้าไปให้สามารถสัมผัสพลังอสูรได้นี่เอง”
“กลืนแก่นอสูร? แบบนายน้อยน่ะเหรอ”
“ใช่แล้ว แต่พวกมันไม่เหมือนนายน้อยเลย”
“ใช่ นายน้อยน่ารังน่าเอ็นดูกว่าตั้งเยอะ ไม่เหมือนเจ้าพวกมนุษย์พวกนี้เลย”
เสียงของเหล่าอสูรในร่างของหมาป่าที่มีขนสีขาวสะอาดส่องประกายสีเงินเงางามพูดคุยกันพลางหัวเราะกันราวกับกลุ่มคนสนธนากันเอง หมาป่าขนเงินเหล่านี้เป็นอสูรระดับหยกขาว ถือเป็นอสูรที่แข็งแกร่งทีเดียวในป่าเมฆาอัสนีแห่งนี้ พวกมันมีความเร็วเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับอสูรในป่าเมฆาอัสนีตนอื่นๆ และเป็นหนึ่งในอสูรที่อยู่กันเป็นฝูงจนสามารถสร้างอาณาเขตในป่าเมฆาอัสนีได้สำเร็จ
“คุณหนู ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม”อสูรแมวที่ยามนี้มีแต่เลือดสีแดงสดอาบไปครึ่งร่างพยายามคลานเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่กับพื้น ทั้งที่ยามนี้รอบๆพวกมันมีหมาป่าขนเงินเป็นฝูงเดินวนเวียนไปมาราวกับกำลังล้อมเหยื่อของตนเอาไว้
เพราะข่าวของอสูรขนาดยักษ์ที่โผล่ออกมาใกล้ๆเขตอสูรพวกนางจึงลงมาตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะหากอสูรที่ไม่เคยออกมาจากเขตอสูรนึกอยากออกมาบินเล่นละก็เมืองแถบนี้ต้องพังพินาศเป็นแน่ แถมที่เมืองแห่งหนึ่งที่พวกนางผ่านไปยังมีข่าวอสูรลิงเข้ามาฆ่าคนในเมืองอีกด้วย ทำให้พวกเธอคิดว่าต้องมีอะไรแปลกๆในเขตอสูรแน่ๆ แต่พอลงมาในผาไร้กัน สิ่งแรกที่พวกเธอพบก็คือฝูงหมาป่าขนเงินที่แต่เดิมก็เป็นอสูรที่แข็งแกร่งจนไม่อาจรับมือได้อยู่แล้ว นี่กลับมาเป็นฝูงราวกับพวกมันเป็นเพียงสัตว์ส่วนหนึ่งของเขตอสูรเท่านั้น
“เฮ้ เจ้าลูกบอล ทำไมอสูรอย่างเจ้าถึงมากับมนุษย์”หมาป่าขนเงินตัวหนึ่งถามพลางมองหยวนหยวนที่นอนอยู่บนพื้น
“ขะ ข้า….”หยวนหยวนที่โดนกรงเล็บไปแค่ทีเดียวถึงกับเข่าอ่อนยืนไม่ขึ้น ทั้งๆที่เป็นเพียงกรงเล็บหยอกล้อจากอีกฝ่ายแท้ๆแต่นางแทบจะบาดเจ็บสาหัสในทีเดียวด้วยซ้ำ อสูรพวกนี้น่ากลัวเกินไปจริงๆ
“อย่าทำอะไรคุณหนูของข้านะ”หมิงฮุ่ยในร่างสุนัขสีดำยืนตระหง่านต่อหน้าคุณหนูและหยวนหยวนด้วยท่าทีแข็งกร้าว แม้แต่เหล่าผู้ติดตามของคุณหนูยังไม่กล้าขยับแม้แต่คนเดียว กลับมีเพียงอสูรตนนี้เท่านั้นที่กล้าเข้ามาขวางระหว่างหมาป่าขนเงินกับพวกตน
“สมแล้วที่เป็นอสูรประเภทเดียวกับพวกเรา”หมาป่าขนเงินหัวเราะอย่างชอบใจ ราวกับท่าทีมุ่งมั่นของหมิงฮุ่ยเป็นเรื่องตลกขำขัน แต่โทษพวกมันก็ไม่ได้เพราะหากดูจากระดับพลังหมิงฮุ่ยก็ไม่ต่างจากชิวาว่ายืนจังก้าต่อหน้าหมาป่าเลย
“อะไรกัน พวกเจ้ายังไม่จัดการให้เสร็จอีกงั้นเรอะ”ขณะกำลังหัวเราะกันอยู่นั้น ร่างมหึมาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของพวกหมาป่าขนเงิน เงานั่นทำเอาเหล่านักล่าอสูรตัวสั่นสะท้านทำอะไรไม่ถูก
“นึกว่าจะเป็นผู้บุกรุกที่แข็งแกร่งเสียอีกพวกเจ้าถึงได้เสียเวลานานนัก ที่แท้ก็มัวแต่เล่นนี่เอง”พยัคฆ์อัสนีในร่างเต็มยศพูดพลางก้มมองเหล่าผู้บุกรุกด้วยดวงตาสีทองส่องประกายราวกับแสงจันทร์ ยามค่ำคืนเช่นนี้ร่างใหญ่โตของมันราวกับเนินเขากำลังโน้มมองพวกหยวนหยวนอยู่เลย
“นอกจากเด็กหญิงมนุษย์คนนั้นแล้วก็ไม่มีใครพอจะให้เล่นสนุกได้เลยขอรับ”หมาป่าขนเงินที่ทำท่าหยิ่งผยองก่อนหน้านี้แทบจะคลานกับพื้นเมื่อเห็นพยัคฆ์อัสนีมาถึง ทำให้เหล่านักล่าอสูรเข้าใจในทันทีว่าพยัคฆ์ตรงหน้าเป็นสิ่งมีชีวิตนี่น่ากลัวเพียงใด
“แล้วทำไมไม่จัดการให้เรียบร้อยเสียล่ะ”พยัคฆ์อัสนีถามพลางเริ่มปล่อยสายฟ้าออกมารอบตัวราวกับจะผ่าสายฟ้าใส่กลุ่มคนเหล่านี้จนตายคาที่ให้หมดๆเรื่องไป คราวนี้แม้แต่หมิงฮุ่ยเองยังแทบยืนไม่อยู่ เพียงเรียกสายฟ้าออกมารอบๆตัวหมิงฮุ่ยก็สัมผัสได้ถึงพลังอสูรที่ต่างชั้นกันราวฟ้ากับเหว เพียงแต่กลิ่นอายของท่านผู้นี้ตัวมันราวกับเคยได้สัมผัสจากที่ไหนมาก่อน
“ใจเย็นๆก่อนขอรับท่านราชา”หมาป่าขนเงินว่าพลางกระโจนไปขวางระหว่างพยัคฆ์อัสนีกับพวกนักล่าอสูรไว้
“มีอะไร”พยัคฆ์อัสนีถามอย่างประหลาดใจก่อนจะลดพลังลง ทำไมเจ้าพวกนี้ถึงขวางมันเอาไว้
“ที่พวกข้ายังไม่สังหารพวกมันเพราะข้าได้กลิ่นของนายน้อยจากเจ้าลูกบอลนี่ขอรับ”หมาป่าขนเงินรายงานพลางมองไปทางหยวนหยวนที่นอนอยู่บนพื้น
“ลูกบอล…”พยัคฆ์อัสนีขมวดคิ้วพลางเดินเข้าไปใกล้หยวนๆที่นอนสั่นระริกราวกับลูกเจี๊ยบที่โดนงูเหลือมบุกเข้ามาในรัง
ฟุดฟิดๆ จมูกขนาดใหญ่ของพยัคฆ์อัสนีดมกลิ่นของหยวนหยวนจนน่ากลัวว่าหยวนหยวนจะหลุดเข้าไปในโพลงจมูกของมันหรือไม่ แต่ทันทีที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นของไป๋จูเหวินดวงตาของพยัคฆ์อัสนีก็อ่อนโยนลงทันที
“เจ้าเคยพบจูเอ๋องั้นหรือ”พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองไปที่หยวนหยวน แต่นางกลัวมากจนไม่สามารถตอบโต้ได้ แถมยังโดนกรงเล็บของหมาป่าขนเงินไปอีกทำให้เสียเลือดไปเยอะเลยทีเดียว
“แบบนี้ก็คุยกันไม่ได้พอดี”พยัคฆ์อัสนีไม่คิดมา มันเปลี่ยนร่างเป็นร่างมนุษย์ก่อนจะอุ้มหยวนหยวนขึ้นมาในอ้อมแขน มันเปิดมิติของมันพลางควานหายาอยู่ครู่หนึ่งก็นำยามาป้อนให้พยวนพยวน ต้องขอบคุณจูเอ๋อจริงๆที่ทำให้มันพกยาไปไหนมาไหนแบบนี้ตลอดเวลา
ไม่นานร่างของหยวนหยวนก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หากจะยกเว้นเพียงขนที่แหว่งไปเล็กน้อยไม่กลับมาและรอยเลือดที่ติดขนของนางเท่านั้น
“ขะ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”หยวนหยวนพูดพลางพยายามลงจากอ้อมแขนของพยัฆ์อัสนี แต่เหมือนพยัคฆ์อัสนีจะจับนางไว้แน่นเกินไปเลยออกมาไม่ได้
“อืม เจ้าพูดได้แล้วก็ดี”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางลูบขนของหยวนหยวนอย่างเบามือ
“เจ้ารู้จักมนุษย์ที่ชื่อไป๋จูเหวินหรือไม่”พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองหยวนหยวนในอ้อมแขน
“ไป๋จูเหวิน…ขะ ข้ารู้จัก”หยวนหยวนตอบออกมาทันทีเมื่ออีกฝ่ายพูดชื่อของเด็กหนุ่มที่ตนบังเอิญพบที่เมืองกล้วยไม้หยกเข้า
“เจ้าพบเขางั้นเหรอ ดีเลยมาคุยกับข้าหน้อย”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางทำท่าจะพาหยวนหยวนเดินจากไป
“จะ เจ้าจะพาพี่หยวนไปไหน”แต่ยังไม่ทันเดินไปไหนไกล หญิงสาวของกลุ่มนักล่าอสูรก็ลุกพรวดขึ้นมาเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายจะจับตัวหยวนหยวนไป
ฟุบ! ตุบ! หมาป่าขนเงินตัวหนึ่งพุ่งวาบเข้าใส่หญิงสาวก่อนจะกดนางลงกับพื้นพลางอ้าปากหมายจะขย้ำคอของนาง
“อย่านะ”หยวนหยวนที่อยู่ในมือของพยัคฆ์อัสนีพยายามห้ามเอาไว้ แต่ดูเหมือนหมาป่าขนเงินไม่ได้คิดจะกัดจริงๆแต่แรก
“ขืนเจ้าเรียกท่านราชาของพวกเราเช่นนั้นอีกข้าจะกัดคอบางๆของเจ้าให้ขาด”หมาป่าขนเงินว่าพลางใช้ดวงตาสีเงินวาววับจ้องมองที่คอของหญิงสาว สำหรับมันแล้วคอของนางไม่ต่างอะไรกับกิ่งไม้เล็กๆเลย
“แก ไอ้หมาป่าชั่วห้ามทำอะไรคุณหนูนะ”หยวนหยวนพยายามจะดิ้นออกจากแขนของพยัคฆ์อัสนี แต่เพราะกำลังต่างกันเกินไปแรงดิ้นของนางไม่ทำให้แขนของพยัคฆ์อัสนีขยับเสียด้วยซ้ำ
“เจ้าว่าไงนะ”หมาป่าขนเงินแยกเขี้ยวใส่หยวนหยวนทันที แต่เพราะนางอยู่ในอ้อมแขนของราชามันเลยไม่กล้าเข้าไปจัดการ
“ลองดูสิ หากเจ้าทำร้ายคุณหนูข้าจะไม่พูดเรื่องของเจ้าเด็กไป๋จูเหวินแม้แต่คำเดียว”หยวนหยวนขู่พลางจ้องมองหมาป่าขนเงินด้วยท่าทีดุร้าย
“ปล่อยพวกมัน”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางบอกให้กลุ่มหมาป่าขนเงินปล่อยพวกนักล่าอสูรไป กลุ่มคนพวกนี้ไม่แม้แต่จะเป็นภัยกับเขตอสูร พยัคฆ์อัสนีไม่สนใจที่จะต้องฆ่าพวกมันหรือไม่ ยามนี้มันสนใจแต่ข่าวของไป๋จูเหวินเท่านั้น มันแทบอยากจะรีบๆพานางไปที่ถ้ำแมงมุม จะได้ฟังข่าวของไป๋จูเหวินกับราชาคนอื่นๆ
“พวกเจ้าโชคดีไปที่ราชาไม่เอาเรื่อง”หมาป่าขนเงินว่าพลางถอยออกจากกลุ่มของนักล่าอสูร ไม่นานพวกมันก็กระจายกันหายเข้าเงามืดของป่าไปทันที
“พี่หยวน…”หญิงสาวของกลุ่มนักล่าอสูรหัวใจสั่นสะท้าน พลางมองพยัคฆ์อัสนีอุ้มร่างของหยวนหยวนเดินจากไปโดยที่นางทำอะไรไม่ได้เลย
.
.
อีกด้านหนึ่ง ณ ถ้ำแมงมุม อยู่ๆพยัคฆ์อัสนีก็อุ้มลูกบอลสีขาวเดินกลับมาทำเอาเหล่าราชาคนอื่นๆขมวดคิ้วงุนงงทันที เหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นก่อนที่ราชาคนอื่นๆจะเดินเท้าไปถึงเขตป่าเมฆาอัสนีเสียอีก
“เจ้าเก็บอะไรมา”มังกรธรณีถามพลางมองลูกบอลที่นอนสั่นในมือของพยัคฆ์อัสนี
“มันบอกได้พบกับจูเอ๋อ ข้าเลยเอามันกลับมาด้วย”พยัคฆ์อัสนีตอบพลางยื่นเจ้าลูกบอลขึ้นให้ราชาคนอื่นๆเห็น
“อสูรแมวงั้นหรือ”ราชสีห์เพลิงพูดพลางมองเจ้าลูกบอลสีขาวในมือพยัคฆ์อัสนีด้วยสีหน้าแปลกใจ
“อืม มีกลิ่นจูเอ๋อจริงๆด้วย”จิ้งจอกเหมันต์พูดเมื่อได้กลิ่นจากตัวหยวนหยวน นางเป็นอสูรสุนัขชนิดหนึ่งเช่นกัน ทำให้จมูกดีพอตัว
“จริงเหรอ เจ้ารู้จักจูเอ๋อสินะ”เจ้าไก่ฟ้าท่าทียินดีอย่างมากที่ได้ข่าวจูเอ๋อ มันรีบเข้ามาแย่งเจ้าลูกบอลไปในทันทีทำเอาพยัคฆ์อัสนีมองมันอย่างกินเลือดกินเนื้อ แต่ไก่ฟ้าหงอนทองก็ไม่สนใจสักนิด
“….”ยามนี้หยวนหยวนไม่สามารถเปร่งเสียงได้อีกแล้ว อสูร 5 ตนนี้มันตัวบ้าอะไรกัน พลังขนาดนี้มันน่าขนหัวลุกเกินไปแล้ว นี่ไม่ใช่ว่านางตายไปแล้วมาตกนรกอยู่หรืออย่างไร