บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 467 โดนจับได้
ตอนที่ 467
โดนจับได้
“ท่านจิ้งจอกเหมันต์”หลี่เย่ก้มหน้าลงด้วยท่าทีหวาดหวั่น ยาเสน่ห์ตัวนี้เป็นสูตรที่อาจารย์ของนางคิดขึ้น ทำไมจิ้งจอกเหมันต์ถึงทราบได้ว่ากลิ่นที่ติดอยู่บนตัวนางคือกลิ่นของยาเสน่ห์ทั้งๆที่มันไม่น่าจะมีผลกับสตรีเพศไม่ใช่หรือ
“เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้หรือไง วิธีผสมยาเสน่ห์พวกนี้ข้ารู้ก่อนเจ้าจะเกิดเสียอีก”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางจับข้อมือหลี่เย่เอาไว้แน่น หากนางใช้ลูกเล่นอย่างการออดอ้อนจูล่งนางจะไม่ว่าอะไรเลย ไม่สิอาจจะแค่สั่งสอนเบาๆเท่านั้น แต่การใช้ยาเสน่ห์แบบนี้มันเป็นเรื่องไม่สมควร นอกจากจะเป็นการบังคับใจจูล่งแล้ว ผู้ที่ใช้ยังตกอยู่ในอันตรายอีกต่างหาก ถ้าเกิดจูล่งไม่สามารถต้านผลของยาเสน่ห์ได้แล้วจู่โจมนางขึ้นมา ด้วยกำลังของมันคิดหรือว่าใครจะห้ามได้
“ข้า…ข้าไม่ได้….”หลี่เย่กำลังจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นท่าทีโกรธเกรี้ยวของนางหลี่เย่กลับนิ่งไป หากบอกว่าจริงๆแล้วอาจารย์เป็นคนใช้ยาเสน่ห์ใส่ตนเอง จิ้งจอกเหมันต์ต้องตามไปที่บ้านของนางเพื่อเอาเรื่องอาจารย์แน่ๆ และนางก็ทราบดีว่าจิ้งจอกเหมันต์คือหนึ่งในราชาของเขตอสูรผาไร้ก้น ไม่มีทางที่อาจารย์จะสู้ได้อยู่แล้ว หากเกิดอะไรกับอาจารย์นางคงทนไม่ไหวแน่ๆ
“ข้าขอโทษเจ้าค่ะ”หลี่เย่พูดด้วยท่าทีเศร้าๆ นางพูดเช่นนี้ก็เหมือนแอ่นอกรับความผิดก็ไม่ปาน อย่างน้อยให้จิ้งจอกเหมันต์เอาเรื่องตนเองยังดีกว่า
“…….”จิ้งจอกเหมันต์ไม่ได้ตอบอะไร นางเพียงจ้องมองหลี่เย่นิ่งราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก็ไม่ใช่ว่านางจะเกลียดอะไรหลี่เย่หรอกนะ ก่อนหน้านี้นางก็ไม่ได้อะไรผิด ตรงกันข้ามนางเป็นหมอที่เก่งมากเรื่องนั้นทำให้จิ้งจอกเหมันต์รู้สึกชื่นชมเสียด้วยซ้ำ ยิ่งตอนที่ยอมตามชายชรามาดูอาการของบุตรชายทันทีก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวนัก หากไม่พบยาเสน่ห์บนตัวนางละก็ เรื่องในวันนี้จิ้งจอกเหมันต์ก็ไม่คิดจะสืบสาวราวเรื่องแล้วแท้ๆ
“นางคิดจะทำร้ายจูล่งจริงๆงั้นหรือ”มังกรอัสนีทองคำถามพลางเดินเข้ามาหาหลี่เย่
“เจ้าใช้ยาเสน่ห์หวังจะให้จูล่งหลงในตัวเจ้า เรื่องนั้นข้าเข้าใจถูกหรือไม่”จิ้งจอกเหมันต์ถามพลางมองหลี่เย่ด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างมากทำเอาหลี่เย่หนาวสันหลังวาบในทันที
“งั้นก็ฆ่าทิ้งซะ”มังกรอัสนีทองคำพูดจบก็พุ่งวาบเข้ามาด้วยความเร็วสูงลิบจนสายตาของหลี่เย่มองไม่ทัน รู้ตัวอีกทีมือของมังกรอัสนีทองคำก็มาอยู่ที่คอของตนเองแล้ว เพียงแต่…
“อาจารย์ ท่านจะทำอะไรหรือขอรับ”ไป๋จูล่งที่เดินตามออกมาถามขณะจับข้อมือของมังกรอัสนีทองคำเอาไว้ มันไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนมันออกมา แต่หลี่เย่เป็นคนรู้จักของมันทำให้มันไม่สามารถปล่อยให้อาจารย์ทำอะไรนางได้
“ล่งเอ๋อ เจ้าฟังน้าให้ดี…”จิ้งจอกเหมันต์พูดพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูล่งช้าๆ
“น้องจูล่ง…..ข้ามีเรื่องต้องสารภาพ”หลี่เย่พูดก่อนที่จิ้งจอกเหมันต์จะเล่าเรื่องที่นางทราบ นางรู้สึกว่านางต้องสารภาพด้วยตนเองถึงจะถูก
“ข้า….ใช้ยาเสน่ห์กับเจ้าเพื่อหวังจะให้เจ้านำของในเขตอสูรผาไร้ก้นมาให้ข้า”หลี่เย่ตอบพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย
“ทำไมต้องใช้ยาเสน่ห์ด้วยละขอรับ”ไป๋จูล่งถามพลางเอียงคอสงสัย
“เรื่องนั้นเพราะเจ้าดูไร้เดียงสาแล้วก็หลอกง่ายนะสิ ถ้าเจ้าหลงข้าเสียเจ้าก็ต้องยอมนำของจากเขตอสูรผาไร้ก้นมาให้ข้าแน่ๆ”หลี่เย่พูดด้วยท่าทีเศร้าๆอย่างเห็นได้ชัด นางพยายามป้ายสีตนเองทั้งๆที่นางตัดสินใจยอมโดนอาจารย์ดุด่าเพื่อจะได้ไม่ต้องหลอกลวงจูล่งแท้ๆ
“แต่ท่านยังไม่ได้หลอกข้าเลยนี่ขอรับ”ไป๋จูล่งขมวดคิ้ว เพราะตลอดเวลาที่อยู่กับหลี่เย่มันก็คุยกันแต่เรื่องวิชาแพทย์ทั้งนั้น
“ข้า…”หลี่เย่ก้มหน้าลงเล็กน้อย นั่นเพราะนางยังไม่ได้หลอกนี่นา แต่คนอื่นคงไม่คิดเช่นนั้นหรอก
“จูล่ง คนที่คิดร้ายกับเจ้าจะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ให้ข้าจัดการนางเสีย”มังกรอัสนีทองคำพูดพลางปล่อยพลังสายฟ้าออกมารอบๆ แม้หลี่เย่จะสัมผัสพลังอสูรไม่ได้ แต่แรงกดดันมหาศาลตรงหน้าก็ทำเอานางใจเต้นระรัวด้วยความกลัว หากมังกรอัสนีคิดจะฆ่าและไม่มีจูล่งมาขวาง รับรองว่านางต้องตายก่อนจะรู้ตัวแน่ๆ
“ไม่ได้นะขอรับ ข้าไม่อยากให้นางตาย”ไป๋จูล่งตอบ แม้จะโดนใช้ยาเสน่ห์ใส่ แต่จูล่งก็ได้เห็นหลี่เย่มาพักหนึ่งแล้ว สำหรับจูล่งที่ไม่ค่อยได้เจอคนนอก หลี่เย่นับเป็นคนดีที่สุดคนหนึ่งที่จูล่งได้รู้จักเลยทีเดียว นอกจากนี้นางยังเป็นหมอที่เก่งมาก จะมีคนอีกมากมายเท่าไหร่ที่จะไม่ได้นางช่วยเอาไว้หากฆ่านางเสียตรงนี้
“พอเถอะ ล่งเอ๋อไม่อยากให้ฆ่าก็อย่าทำเลย”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางจับบ่าของมังกรอัสนีทองคำเอาไว้แน่น ทำให้มันยอมลดพลังอสูรที่ปล่อยออกมาช้าๆ
“เจ้ารอดไปนะ แต่จำเอาไว้หากคิดจะหลอกลวงจูล่งอีกจะไม่มีครั้งที่สอง”มังกรอัสนีทองคำพูดพลางถอยออกมาช้าๆ
“หลี่เย่ ข้าเห็นแก่ความดีของเจ้า เรื่องนี้จะยอมปล่อยผ่านไปสักครั้ง”จิ้งจอกเหมันต์พูดพลางจ้องมองหลี่เย่ด้วยสายตาเย็นยะเยียบ พร้อมปล่อยไอเย็นออกมาจนเกิดน้ำแข็งเกาะอยู่ที่หน้าบ้านของชายชรา
“แต่หลังจากนี้ห้ามเจ้ามาพบล่งเอ๋ออีก หากข้าทราบว่าเจ้าเข้ามาใกล้ล่งเอ๋อ คราวนี้จะเป็นข้าเองที่จะฆ่าเจ้าเสีย”จิ้งจอกเหมันต์พูดจบก็ลดระดับไอเย็นลง
“เจ้าค่ะ”หลี่เย่ที่โดนอสูรระดับบรรพกาลขั้นสูงถึงสองตนขู่ฆ่าตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด หากนางรักตัวกลัวตายละก็ต้องอย่าทำอะไรขัดใจทั้งสองอีก
“ข้าจะไม่ทำอีกแล้วเจ้าค่ะ..”หลี่เย่ว่าพลางหันไปมองจูล่ง บางทีโดนท่านจิ้งจอกเหมันต์ห้ามเอาไว้แบบนี้ก็คงจะดีแล้วก็เป็นได้ เพราะนางก็ไม่อยากหลอกลวงอะไรจูล่งเลย แบบนี้นางจะได้บอกกับอาจารย์ได้ว่านางโดนจับได้ และโดนสั่งห้ามเข้าใกล้จูล่งอีก
“น้องจูล่ง…..”หลี่เย่พูดพลางมองไปทางจูล่งด้วยท่าทีผ่อนคลายลงบ้างเพราะไอเย็นของท่านจิ้งจอกเหมันต์เริ่มหายไปแล้ว
“ข้าขอโทษที่คิดจะหลอกเจ้า….แล้วก็ขอบคุณสำหรับเรื่องเมื่อครู่ด้วย”หลี่เย่ตอบ ก่อนหน้านี้จูล่งทั้งช่วยกันไม่ให้นางโดนจูบแถมยังช่วยชีวิตนางเอาไว้อีก นอกจากจะหลอกอีกฝ่ายไม่ได้แล้วยังได้อีกฝ่ายช่วยเอาไว้อีก
“ไปซะแล้วอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก”จิ้งจอกเหมันต์สั่งพลางมองหลี่เย่ด้วยท่าทีดุดัน แน่นอนว่าหลี่เย่ไม่กล้าขัดนางอย่างแน่นอน ทำให้หลี่เย่ได้แต่เดินออกไปด้วยใบหน้าเศร้าๆเท่านั้น
“……..เจ้าขู่แรงเกินไปแล้ว”จิ้งจอกเหมันต์พูดพลางถอนหายใจออกมา พอหลี่เย่เดินพ้นระยะตรวจจับจิ้งจอกเหมันต์ก็ลดท่าทีดุดันลงจนไม่เหลือแม้แต่น้อย
“ก็เจ้าบอกให้ข้าขู่นางไม่ใช่หรือไง”มังกรอัสนีทองคำตอบด้วยท่าทีงงๆ ก็นางบอกให้ขู่เหมือนจะฆ่าจริงๆ มันก็ทำตามแล้วนี่ไงนางยังไม่พอใจอะไรอีก
“เฮ้อ ช่างเถอะยังไงนางก็คงกลัวไม่กล้าทำอีกแล้วแน่ๆ”จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางหันไปมองจูล่งที่ยังมองตามทางที่หลี่เย่เดินไปอยู่ไม่ละสายตา ตัวจิ้งจอกเหมันต์ไม่ได้มีความคิดที่จะฆ่าหลี่เย่มาแต่แรกแล้ว แถมนางก็ได้กลิ่นยาเสน่ห์ก่อนจะเข้ามาถึงตัวหลี่เย่เสียอีก นางจึงนัดแนะกับมังกรอัสนีทองคำเพื่อจะขู่หลี่เย่ให้กลัวและไม่กล้าเข้าใกล้จูล่งอีกเป็นครั้งที่สอง นางคิดว่าการลงโทษระดับนี้ก็มากพอแล้วสำหรับการใช้ยาเสน่ห์ของนาง
“ท่านน้า…”จูล่งพูดพลางหันกลับมาหาจิ้งจอกเหมันต์
“พี่สาวหลี่เย่เป็นคนไม่ดีจริงๆหรือขอรับ”จูล่งถามด้วยท่าทีสับสน มันสัมผัสไม่ได้เลยว่าหลี่เย่จะคิดร้ายอะไรกับตน
“ทุกคนก็มีด้านที่ไม่ดีนั่งนั้น”จิ้งจอกเหมันต์ถอนหายใจออกมา ก็เห็นอยู่ว่าหลี่เย่ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร แต่นางก็ใช้วิธีผิดๆเพื่อหวังส่วนผสมจากเขตอสูรผาไร้ก้น ใครจะไปรู้นางอาจจะพยายามช่วยใครอยู่ก็ได้ เพียงแต่วิธีที่ผิดก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้เช่นกัน
.
.
ครืด…. ทางด้านหลี่เย่นั้นหลังจากกลับออกมาจากบ้านของชายชรา นางก็ไม่ได้กลับบ้านในทันทีแต่อย่างไร เพราะหากกลับไปก็ต้องโดนอาจารย์ด่าว่าอีกแน่ๆ นางจึงเลือกที่จะไปเดินแถวๆโรงเรียนแพทย์ตรงที่นางมักจะไปประจำเมื่อสมัยเรียนจนกระทั่งเข้าช่วงเย็นหลี่เย่ถึงได้กลับบ้านมาเสียที
“อาจารย์ ข้า…”หลี่เย่เดินเข้าไปในตัวบ้าน ก่อนจะมุ่งหน้าไปหาอาจารย์เป็นอย่างแรก นางทำใจมาทั้งวันแล้วเมื่อมาถึงทีนางก็อยากจะเข้าไปหาอาจารย์ตรงๆเลยเสียดีกว่า เพียงแต่ทันทีที่เข้าไปในห้องของอาจารย์ หลี่เย่ก็พบว่าอาจารย์ของตนนั้นกำลังหลับอยู่ข้างๆที่บดยา ทำให้หลี่เย่โล่งใจขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนอาจารย์จะกำลังพักผ่อนในรอบหลายเดือนอยู่พอดี แม้จะเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณ แต่หากไม่หลับไม่นอนเลยหลายเดือนติเต่อกันก็ต้องมีอาการล้าจนต้องนอนบ้างเป็นบางครั้ง และอาจารย์ช่วงนี้ก็เหมือนจะเหนื่อยมากเสียด้วย
“อาจารย์..ข้าขอโทษ”หลี่เย่พูดพลางนั่งลงข้างๆตัวอาจารย์ช้าๆ ตั้งแต่เกิดหลี่เย่ก็ถูกอาจารย์เก็บมาเลี้ยงแล้ว ดูเหมือนนางจะโดนทิ้งเพราะดวงตาสีเขียวของตนมันเป็นสิ่งแปลกประหลาดเกินไปจนพ่อแม่จริงๆไม่อาจรับได้ หลังจากนั้นนางก็เลี้ยงดูหลี่เย่มาตลอด แม้นางจะเข้มงวดแต่นางก็ไม่ได้เป็นแม่ที่เลวร้ายอะไร ตรงกันข้ามหากไม่ใช่เรื่องการแพทย์หรือการปรุงยา อาจารย์ของนางก็ใจดีอยู่หลายส่วนทีเดียว
นางไม่ทราบเหมือนกันว่าอาจารย์กำลังพยายามรักษาโรคอะไร แต่ยาที่อาจารย์พยายามปรุงขึ้นมาหลายสิบปีก่อนจะรับหลี่เย่มาเลี้ยงดูเสียอีก แต่ไม่ว่าจะทำกี่ครั้งก็เหมือนจะไม่สำเร็จ แม้จะต้องแลกด้วยความพยายามมากมายแค่ไหนก็ตาม เรื่องนั้นทำให้หลี่เย่ไม่อาจต่อว่าอาจารย์ที่ต้องการสมุนไพรและส่วนผสมหายากมากมายได้ คิดว่านางเสียเงินทองและใช้เส้นสายไปเท่าไหร่ในการปรุงยาตัวนี้กัน แถมนางยังเอาแต่ปรุงยาตัวนี้อยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าทุกวันที่หลี่เย่มีชีวิตอยู่ต้องเห็นนางนั่งอยู่หน้าเตาและที่บดยาเพื่อคิดหาสูตรยาที่จะสามารถรักษาสหายของนางได้ บางทีการที่หลี่เย่ยอมทำงานให้คนใหญ่คนโตเพื่อนำสมุนไพรหายากมาให้อาจารย์ อาจจะเพราะนางอยากให้อาจารย์สร้างยาที่ใช้รักษาสหายของนางสำเร็จ และกลับมาเป็นแม่และอาจารย์ที่ใจดีของตนก็เป็นได้ เพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่หลี่เย่มี