บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 505 เริ่มขาย
ตอนที่ 505
เริ่มขาย
“แคกๆ”เกว็นอสูรปักษาระดับบรรพกาลที่พึ่งโดนมนุษย์ทำร้ายมาอย่างโหดเหี้ยมยามนี้ยังต้องมาช่วยงานมนุษย์พวกเดียวกันอีกต่างหาก ทำเอานางไม่ทราบจะไปทวงหาศักดิ์ศรีของนางคืนจากใครอีกแล้ว
“เจ้านาย ไฟแรงพอหรือยัง”เกว็นถามพลางมองกองไฟที่ตนพึ่งจะก่อเสร็จ โชคดีที่ยี่เจินได้หม้อเก่าๆมาในราคาถูก ทำให้สามารถเริ่มทำพุทราเชื่อมได้ทันที
“ดีเลย เจ้าทำงานได้ไม่เลวนี่นา”ยี่เจินว่าพลางยิ้มออกมาอย่างชื่นชม ทั้งเอมิลทั้งเกว็นต่างกลับมาพร้อมฟืนและไม้สำหรับทำไม้เสียบพุทราจำนวนมาก แม้จะเอาไม้สดมาเยอะไปหน่อย แต่ก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
“แล้วให้ข้าทำอะไรต่อ”เกว็นถามพลางมองไปทางไป๋จูล่งกับเอมิลที่กำลังนั่งเหลาไม้สำหรับทำไม้เสียบพุทรา นางพึ่งจะโดนผู้ติดตามของจูล่งเล่นงานมา แถมยังกำชับว่าต้องทำตามคำสั่งของจูล่งอย่างเคร่งครัด นางเลยไม่มีทางเลือกต้องเชื่อฟังยี่เจินตามที่จูล่งบอก
“ก่อนอื่นก็ต้องต้มพุทราแห้งก่อน เจ้าควบคุมไฟดีๆอย่าให้น้ำเหือดจนหมดล่ะ”ยี่เจินสั่งจบก็หันไปช่วยพวกจูล่งทำไม้เสียบต่อ เพราะพุทราแห้งที่ได้มามีจำนวนค่อนข้างมาก ทำให้ต้องทำไม้เสียบมากไปด้วยเช่นกัน
“ไอ้เจ้านี่มันน่าอร่อยตรงไหนกัน”เกว็นบ่นพลางเอาพุทราลงต้ม ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำกับไฟเลย แม้นางจะเป็นอสูรธาตุลม แต่เพียงการควบคุมไฟธรรมดาๆนั้นนางย่อมทำได้อยู่แล้ว เพียงแต่นางไม่เข้าใจว่าไอ้พุทราเชื่อมที่ยี่เจินจะทำมันคืออะไร และมันวิเศษวิโสอย่างไร
จ๋อม….เกว็นเอาพุทราลงต้มตามที่ยี่เจินสั่ง ก่อนจะนั่งเท้าคางมองหม้อที่เต็มไปด้วยน้ำร้อนและพุทราที่อยู่ในน้ำอีกที นางเคยเห็นผลไม้แบบนี้มาบ้างตามป่า แต่ไม่เคยคิดจะเก็บมากินเลย นางเป็นเจ้าแห่งเขตอสูรกินแต่สมุนไพรล้ำค่าและแก่นอสูรที่แข็งแกร่งเท่านั้น….
“ดี ต่อไปก็เขี้ยวน้ำตาลกัน”หลังจากกรองเอาพุทราแห้งที่ต้มจนเนื้อนุ่มด้วยผ้าขาวบางแล้ว ยี่เจินก็เตรียมการทำน้ำเชื่อมทันที มันใส่น้ำและน้ำตาลลงไปในหม้อที่พึ่งใช้ไป หลังจากรอพักหนึ่งน้ำในหม้อก็เริ่มร้อนทำให้ยี่เจินเอาพุทราที่ต้มแล้วใส่ลงไปต้มอีกรอบพร้อมๆกับน้ำและน้ำตาลให้น้ำเชื่อมซึมเข้าไปในเนื้อพุทราอีกที
“……”เกว็นที่มีหน้าที่เฝ้าเตากะพริบตาปริบๆ กลิ่นตอนต้มนี่ให้ความรู้สึกหอมหวานอย่างประหลาด ทำเอานางเผลอมองพุทราเชื่อมในหม้อด้วยท่าทีสงสัยใคร่รู้ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งพอน้ำเชื่อมเริ่มเหนียวขึ้นจนต้องใช้ทัพพีที่ทำจากไม้มาช่วยคนแล้ว ความรู้สึกสนใจของเกว็นก็เพิ่มมากขึ้นเข้าไปอีก
“ได้ที่แล้ว จูล่งเจ้ามาช่วยข้าเสียบไม้ เอาไม้ละ 5 ลูกนะ”ยี่เจินพูดจบก็นำไม้เสียบที่เหลาเตรียมเอาไว้แล้วมาจิ้มพุทราเชื่อมที่พึ่งทำเสร็จใหม่ๆ ยามนี้เกว็นที่มองอยู่ได้แต่กะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีเหลือเชื่อ เจ้าผลไม้ธรรมดาๆข้างทางก่อนหน้านี้กลายเป็นอัญมณีสีแดงที่ห่อหุ้มไปด้วยน้ำตาลสีเหลืองอ่อนๆไปเสียแล้ว แม้จะไม่เหลือกลิ่นเท่าไหร่ แต่รูปร่างของมันก็ชวนน้ำลายสออยู่…
“จูล่งเจ้าคิดว่าไง”ยี่เจินถามพลางเอาพุทราเชื่อมเข้าปากเม็ดหนึ่ง ตัวมันรู้วิธีทำอยู่หรอกแต่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไร กลัวว่าจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่นี่สิ
“ข้าว่าดีมากเลยนะขอรับ อาจจะเพราะพุทราที่เอามาขายที่นี่เป็นของดีด้วย”จูล่งตอบหลังจากเอาพุทราเชื่อมไปลองชิม พุทราที่นำเข้ามาขายในอาณาจักรไชน์เป็นของชั้นดี การที่ยี่เจินได้รับแบ่งขายมาในราคาถูกนั้นนับว่าโชคดีจริงๆ แถมยี่เจินยังกะปริมาณน้ำตาลได้ยอดเยี่ยมอย่างน่าตกใจ ความหวานของน้ำเชื่อมหวานกำลังดีไม่กลบรสของพุทราเกินไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นพุทราเชื่อมที่ยอดเยี่ยมมากก็ว่าได้
“เยี่ยม งั้นเย็นนี้เราไปเดินเร่ขายที่ตลาดกลางคืนกัน”ยี่เจินยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะเริ่มใช้ไม้เสียบพุทราเชื่อมอย่างรวดเร็ว ทำให้ในหม้อเริ่มไม่เหลือพุทราเชื่อมอีกแล้ว
“……./………”ทั้งเกว็นทั้งเอมิลที่ไม่เคยเห็นพุทราเชื่อมมาก่อนมองภายในหม้อเหมือนกำลังจะสื่อความต้องการอะไรบางอย่าง ยี่เจินเห็นแบบนั้นก็ส่ายหน้าช้าๆ
“เอาไปขายเท่านี้ก็พอ ส่วนที่เหลือพวกเจ้าจะกินก็ได้นะ”ยี่เจินว่าพลางนำพุทราเชื่อมเสียบไม้ไปปักเอาไว้กับท่อนฟาง เรียกได้ว่าเป็นการเร่ขายแบบดั้งเดิมเลยทีเดียว ส่วนเอมิลกับเกว็นพอบอกว่าจะแบ่งพุทราเชื่อที่เหลือในหม้อสิบกว่าลูกให้กินก็มีท่าทียิ้มเจื่อนๆออกมาเสียอย่างนั้น
“เจ้ามองตาไม่กะพริบมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว จะกินก็กินสิ”เอมิลพูดพลางจ้องไปทางเกว็น
“ขะ ข้าต้องเฝ้าหม้อต่างหากถึงต้องคอยดูเอาไว้ เจ้าต่างหากมีหน้าที่เหลาไม้ไม่ใช่หรือไงทำไมถึงได้แอบมองมาที่หม้อบ่อยๆด้วย”เกว็นว่าพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น ตัวเอมิลเองก็เหมือนกันกับเกว็น มันไม่เคยได้มีโอกาสลองอาหารของมนุษย์มาก่อน ในอาณาจักรไชน์แม้มนุษย์กับอสูรจะเริ่มมีสัมพันธ์ที่ดีเพราะเมื่อหลายสิบปีก่อนไป๋จูเหวินเข้ามาช่วยอาณาจักรไชน์และดึงอสูรเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ใช่อสูรทุกตนจะกลับไปเป็นมิตรกับมนุษย์ พวกมันทั้ง 2 เองก็เป็นอสูรที่พึ่งมาตั้งรกรากในอาณาจักรไชน์ได้ไม่นาน ไม่ได้เจอไป๋จูเหวินตอนนั้นเสียด้วยเลยไม่ได้คุ้นชินกับมนุษย์เท่าไหร่
“ถ้าพวกเจ้าไม่กินข้าจะเอาไปขายแล้วนะ”ยี่เจินส่ายหน้าพลางนำไม่เสียบออกมาถือเมื่อเห็นทั้งสองทำท่าเกี่ยงไม่ยอมกินเสียที
“ถะ ถ้าเจ้านายยืนยันขนาดนั้นละก็”เกว็นเมินหน้าไปทางอื่นก่อนจะหยิบไม้เสียบขึ้นมาไม้หนึ่ง แล้วจิ้มไปที่พุทราเชื่อมก่อนจะนำเข้าปากอย่างช้าๆ แน่นอนพุทราเชื่อมก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าพุทราเคลือบน้ำตาล ไม่มีพลังพิเศษ ไม่มีผลช่วยในการเพิ่มพูนพลังอสูร แต่สมุนไพรล้ำค่าและแก่นอสูรรวมถึงเนื้ออสูรเองไม่มีสิ่งหนึ่งที่พุทราเชื่อมธรรมดาๆมี นั่นคือความอร่อย
“………”เกว็นเองแม้จะเป็นอสูร แต่ก็เป็นอสูรเพศเมีย บางทีความรู้สึกชอบของหวานอาจจะฝังลึกลงไปในความเป็นหญิงของนางก็ได้ ทันทีที่กินของหวานเป็นครั้งแรก นางก็มีท่าทีเคลิ้มอย่างประหลาด ชนิดที่ว่าก่อนหน้านี้นางกินอะไรมากันแน่
“เฮ้ เป็นอะไร”เอมิลเห็นเกว็นมีท่าทีแปลกๆก็นึกสงสัยขึ้นมาทันที
“มะ ไม่เป็นอะไรนี่นา….จริงสิ เจ้าไม่ได้อยากกินสินะ เอาเถอะข้าจะกินเองก็แล้วกัน”เกว็นว่าพลางเหล่มองเอมิลนิดหน่อยก่อนจะทำท่าเหมือนจะยกหม้อหนีไปทางอื่น
“เดี๋ยวสิยัยนกนี่ คิดจะฮุบไว้คนเดียวหรือยังไง”เอมิลพูดพลางใช้ไม้ที่ตนหยิบมาหมายจะจิ้มไปที่พุทราเชื่อม แต่เกว็นกลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น ขืนเจ้านี้ลองกินต้องเอาส่วนของนางไปหมดแน่ๆ มังกรตะกละอย่างมันเท่านี้ไม่พอกินหรอก
เพี๊ย!! ไม้จิ้มทั้งสองอันกระทบกันไปมาอย่างกับทั้งสองจะประลองกระบี่กันไม่มีผิด ทำเอาทั้งจูล่งทั้งยี่เจินที่มองอยู่ห่างๆได้แต่หัวเราะเจื่อนๆออกมา
“ทำเป็นเด็กๆไปได้ พวกเจ้าแบ่งเท่าๆกันก็พอแล้วนี่ ไม่ใช่ว่าข้าเหลือเอาไว้ให้พอดีหรอกหรือ”ยี่เจินว่าพลางเดินเข้าไปขวางทั้งสองคน
“เอ๊ะ นี่เจ้านายจงใจเหลือให้พวกเราหรือขอรับ”เอมิลถามพลางหันไปมองยี่เจินด้วยสายตาทอประกาย
“อะ อืม…”ยี่เจินที่คิดจะเหลือเอาไว้ให้เฉยๆตอบด้วยท่าทีเขินๆ เห็นเอมิลดีใจขนาดนั้นมันก็ทำตัวไม่ถูกเช่นกัน
“เจ้านาย ขอบใจมากขอรับ”เอมิลว่าพลางฉวยโอกาสนี้แย่งเอาพุทราเชื่อมส่วนของตัวเองมาจนได้
“เชอะ”เกว็นทำหน้าบึ้งพลางกินส่วนของตัวเองอย่างละเมียดละไม หลังจากนี้ไปการกินของนางคงไม่ได้กินเพื่อเพิ่มพูนพลังอสูรอีกแล้วกระมัง
“ไม่ต้องห่วงหรอกขอรับ ถ้าพวกท่านช่วยงานเยอะๆจนได้เงินมา พวกท่านก็สามารถเอาเงินไปซื้อของอร่อยๆมากินได้อีกตั้งเยอะ ข้าเองก็ยังกินอาหารของไชน์ได้ไม่กี่อย่าง แต่พวกมันก็อร่อยมากเหมือนกันนะขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มออกมา แม้ขนมของไชน์จะต่างจากของอาณาจักรที่จูล่งเคยอยู่มาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันอร่อยคนละแบบเหมือนกัน
“เอาล่ะ พวกเราไปขายกัน แล้วก็….”ยี่เจินพูดพลางมองทั้ง 3 คนอย่างจริงจัง
“พยายามฟังเสียงรอบๆตัวให้ดี เราพึ่งมาถึงต้องการข่าวจากคนรอบข้าง”ยี่เจินกำชับอย่างหนักแน่น ก่อนจะนำท่อนฟางที่ปักพุทราเชื่อมเอาไว้จนเต็มให้กับทุกคน การขายขนมเช่นนี้ทำเงินได้ก็จริง แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น หากต้องการขยายกิจการละก็ เงินจากการขายขนมไปวันๆไม่พอหรอก นอกจากจะเพิ่มเงินทุนแล้ว สิ่งที่ยี่เจินต้องการคือข่าวคราวที่จะช่วยให้ได้ทำเงินนั่นเอง
“ขอรับ”จูล่งตอบรับพลางรับท่อนฟางมาถือเอาไว้ในมือด้วยท่าทีตั้งใจ
“แค่ฟังมาก็พอใช่ไหม”เกว็นพูดพลางมองพุทราเชื่อมด้วยท่าทีติดใจไม่น้อย
“เอาล่ะ ไปหาเงินและข่าวมา นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องการในตอนนี้”ยี่เจินว่าพลางสั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันออกไปขายในเมือง
.
.
“โอ้ ไม่เห็นเสียตั้งนาน คิดถึงจังเลยนะ”ทันทีที่ยี่เจินออกไปขาย ลูกค้าก็แทบจะเข้ามาทันที เพียงแต่ลูกค้าส่วนใหญ่ของยี่เจินไม่ใช่คนอาณาจักรไชน์ พวกคนของอาณาจักรไชน์ยังไม่ชินกับของกินเช่นนี้เลยยังไม่กล้าเข้ามา แต่พอเห็นว่าคนของอาณาจักรอื่นต่างเข้าไปซื้อพุทราเชื่อมของยี่เจินด้วยท่าทีคุ้นเคยก็เริ่มมีคนเข้าไปซื้อบ้างเช่นกัน แน่นอนว่ายี่เจินไม่พลาดที่จะชวนเหล่าลูกค้าคุยกันไปเรื่อยอีกต่างหาก
ทางด้านจูล่งนั้นมันขายได้ดีพอสมควร ท่าทางพุทราเชื่อมจะเป็นที่สนใจตามที่ยี่เจินคิดเพราะมันเป็นของแปลกของอาณาจักรไชน์และเป็นของคุ้นเคยจากอาณาจักรอีกฟากทะเลเช่นกัน เพียงแต่จูล่งไม่ทราบจะสืบข้อมูลจากลูกค้าเหล่านี้อย่างไร เลยได้แต่พูดคุยกันตามปกติเท่านั้น
ส่วนทางด้านอสูรทั้งสอง พวกมันไม่ได้ไปขายของตามที่ยี่เจินบอก พวกมันกลับนำพุทราเชื่อมเก็บเอาไว้ในมิติของตนและนำออกมากินทีละไม้อย่างสบายใจ พวกมันสามารถซื้อพุทราเชื่อวพวกนี้ได้สบายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข่าวนั้นพวกมันต่างก็นั่งฟังอยู่กลางตลาดโดยไม่ต้องเข้าไปใกล้พวกพ่อค้าเสียด้วยซ้ำ หูของพวกมันได้ยินจากระยะเช่นนี้อยู่แล้ว
“เจ้าจะบ้าหรือยังไง ปลาพวกนี้จะเอาใส่ในแหวนมิติไม่ได้นะ”ชายคนหนึ่งพูดขณะอยู่ที่ตลาดริมท่าน้ำ ดูเหมือนจะมีคนๆหนึ่งจะขอซื้อปลาจำนวนมากแล้วจะเอามันใส่แหวนมิติไปด้วย แต่เพราะปลายังมีชีวิตอยู่ทำให้เอาเข้าไปในแหวนมิติไม่ได้ หากไม่ใช่มิติส่วนตัวแบบพิเศษอย่างของหงเยว่ที่สามารถให้อสูรแมงมุมหรือแมงมุมใต้คำสั่งของตนเข้าไปได้ละก็ไม่มีทางทำแบบนั้นได้หรอก
“อะไรกัน ขนยากขนเย็นอย่างนี้ใครจะไปขนกัน”ชายคนนั้นถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีผิดหวัง ก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้เกว็นที่นั่งอยู่ตรงนั้นจดจำเรื่องราวไปบอกยี่เจินอีกที