บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 517 ผลงานด่างพร้อย
ตอนที่ 517
ผลงานด่างพร้อย
“ท่านโดรัน ไม่ได้พบกันนานนะขอรับ”ทันทีที่ช่างทำอัญมณีเดินทางมาถึงหอประชุมกลางเมืองหลวงที่เป็นสถานที่จัดงานประมูล เหล่าช่างทำอัญมณีที่พอจะรู้จักช่างทำอัญมณีก็พากันหันมาทักทายทันที งานประมูลครั้งนี้มีเครื่องประดับที่ทำจากอัญมณีเป็นดาวเด่น ไม่แปลกเลยที่ผู้เข้าร่วมประมูลจะพาช่างอัญมณีมาช่วยตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกับตัวโดรันที่เป็นช่างทำอัญมณีที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง
“ไม่ได้พบกันนานเลย”โดรันว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย วันนี้มันเป็นแขกของตระกูลโรซารี่ ทำให้มันรู้สึกว่ามีเกียรติมากกว่าช่างทำอัญมณีคนอื่นๆมาก
“ข้าได้ยินเรื่องมาแล้วล่ะท่านโดรัน เจ้าพวกนั้นกล้าทำแบบนี้กับท่านช่างเป็นเรื่องน่าเจ็บใจจริงๆ”อยู่ๆช่างทำอัญมณีคนหนึ่งก็เข้ามาแล้วพูดกับโดรันด้วยท่าทีเห็นอกเห็นใจ
“ใช่ เจ้าพวกนั้นมันทำเกินไปจริงๆ สมควรแล้วที่ถูกสมาคมคว่ำบาตรไป”ชายอีกคนว่าพลางพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ใช่ ถึงวันนี้ข้าก็ยังจำหน้าพวกมันได้ ข้าไม่มีวันรับงานให้กับคนแบบพวกมันเด็ดขาด”โดรันว่าพลางทำสีหน้าเศร้าหมองออกมา แน่นอนสิ่งที่พวกช่างทำอัญมณีพูดนั้นย่อมหมายถึงพวกจูล่งอยู่แล้ว เพียงแต่สิ่งที่พวกมันพูดออกมานั้นกลับมีคำแปลกๆเต็มไปหมด
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะกล้าพูดว่าช่างฝีมือชั้นต่ำ แค่มีอัญมณีดีๆหน่อยกลับกล้าชูหางตนเองเช่นนี้”ชายอีกคนว่าพลางกำหมัดด้วยท่าทีเจ็บใจ แน่นอนว่าอำนาจของโดรันนั้นไม่ได้มากมายขนาดสามารถสั่งให้สมาคมออกคำสั่งไม่รับทำอัญมณีให้พวกยี่เจินได้หรอก แต่เพราะโดรันปั้นเรื่องหลอกลวงขึ้นมาต่างหาก มันรายงานกับสมาคมว่าพ่อค้าชาวต่างชาติอย่างยี่เจินเดินทางมาที่ร้านมันพร้อมอัญมณีล้ำค่าและผู้คุ้มกันระดับสูง โดรันบอกกับสมาคมว่ายี่เจินต้องการให้มันเจียระไนทับทิมเพลิงให้โดยไม่ให้ค่าจ้าง แถมยังพูดอีกว่าโดรันเป็นแค่ช่างฝีมือชั้นต่ำ เพียงได้สัมผัสทับทิมเพลิงก็ถือเป็นบุญวาสนาสูงค่าของมันแล้ว
“ต้องขอบคุณทุกท่านจริงๆที่ให้ความร่วมมือ อย่าให้พวกมันมาดูถูกช่างฝีมืออย่างเราได้”โดรันว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทางตื้นตันใจ กลายเป็นว่าคำโกหกของโดรันทำให้เหล่าช่างทำอัญมณีและช่างทำเครื่องประดับหลงเชื่อและเดือดดาลกันถ้วนหน้าเสียอย่างนั้น
“แต่ดูเหมือนท่านจะไม่ได้มีแต่เรื่องน่าเจ็บใจไม่ใช่หรือ”ช่างทำอัญมณีคนหนึ่งพูดพลางมองมาที่โดรันด้วยท่าทีอิจฉา
“แน่นอน เมื่อมีคราวเคราะห์ก็ต้องมีโชคตามมาสิ”โดรันยิ้มกว้างพลางจับไปที่เข็มกลัดของตระกูลโรซารี่ เข็มกลัดนี้ไม่เหมือนที่จูล่งได้มาจากเพิร์ลเสียทีเดียวเพราะเข็มกลัดของจูล่งนั้นเป็นสีทองแสดงให้เห็นว่าจูล่งเป็นคนในครอบครัวหรือสหายสำคัญของตระกูลโรซารี่ มีฐานะตำแหน่งแทบไม่ต่างจากบุตรชายของเพิร์ล แต่เข็มกลัดของโดรันนั้นกลับเป็นสีน้ำตาล นั่นหมายถึงคนๆนั้นเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโรซารี่ในระดับหนึ่งนั่นเอง แต่ถึงจะเป็นเข็มกลัดขั้นต่ำสุดแต่ในฐานะช่างทำอัญมณีคนหนึ่งมันถือเป็นสิ่งที่ได้มายากมาก แม้แต่หัวหน้าสมาคมก็ไม่อาจหามาติดได้
“เอาล่ะ ข้าคงต้องไปทำงานแล้ว เจ้านายใหม่ของข้ารออยู่”โดรันว่าพลางยืดคอขึ้นเหมือนกำลังเชิดหน้าพลางเดินเข้าไปในงานประมูลอย่างสง่าผ่าเผยทันที วันนี้ที่นั่งของมันคือภายในห้องส่วนตัวของตระกูลโรซารี่ เป็นที่นั่งพิเศษที่มันไม่เคยคาดฝันว่าจะได้นั่งเลยทีเดียว
“……….”ระหว่างจะเดินขึ้นไปบนห้องพิเศษ โดรันก็พลันเหลือบสายตาไปเห็นพวกเกว็นและเอมิลเสียก่อน พวกมันคือผู้คุ้มกันของยี่เจินที่เล่นงานคนของมันทำให้โดรันจำหน้าของทั้งสองได้ดี และพอมองไปรอบๆก็พบว่าทั้งยี่เจินทั้งเจ้าเด็กที่ล้วงเอาทับทิมเพลิงออกไปเองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
“พวกมันมาทำอะไรที่นี่”โดรันพูดพลางมองไปทางพวกจูล่งด้วยท่าทีไม่พอใจ แต่แล้วโดรันก็ส่ายหน้าช้าๆก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ทันที เอาไว้หลังจากนี้มันค่อยจัดการก็ได้ หากมันมีทั้งเงินและอำนาจแล้วแค่หาคนมีฝีมือมาจัดการพวกมันคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“ท่านช่างทำอัญมณี นายหญิงรออยู่ขอรับ”ทันทีที่มาถึงห้องพิเศษ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก็เดินออกมาต้อนรับโดรันทันที
“นายหญิง….”โดรันสะดุ้งวาบเมื่อได้ยินคำว่านายหญิงออกมาจากปากของชายวัยกลางคน นายหญิงของตระกูลโรซารี่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรูบี้ หญิงผู้เป็นตำนานของอาณาจักรไชน์ เรียกว่าไม่มีใครในอาณาจักรไชน์ร่ำรวยไปกว่านางอีกแล้ว ที่เทคโนโลยีของไชน์เหนือกว่าอาณาจักรอื่นๆหลายร้อยปีเช่นนี้ก็เพราะท่านคนเดียว แม้แต่โดรันก็มีความรู้สึกเคารพท่านหญิงอยู่
“ท่านคือโดรันสินะ”ทันทีที่เดินเข้าไปในห้องพิเศษที่มีระเบียงยื่นออกไปในห้องประชุมเหมือนกำลังดูแสดงละคร รูบี้ที่เหล่าประชาชนอาณาจักรไชน์ให้ความนับถือก็หันมาพลางยิ้มต้อนรับมาให้โดรันด้วยท่าทีอ่อนหวาน
“ในที่สุดท่านก็มาเสียที ข้านึกว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางเสียแล้ว”เพิร์ลพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีโล่งอก ตัวมันเป็นคนที่โล่งใจที่สุดอย่างแน่นอน เพราะมันเตรียมงานครั้งนี้เพื่อโดรันโดยเฉพาะ หากมันมาไม่ได้ก็จบกันสิ
“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ”หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาโดรัน พลางพาโดรันไปนั่งที่เก้าอี้ตรงกลางระหว่างรูบี้และเพิร์ลพอดี
“ท่านโดรัน พวกเราคาดหวังในตัวท่านอยู่นะ”รูบี้ยิ้มพลางมองโดรันด้วยท่าทีคาดหวัง ทำให้โดรันเลือดลมสูบฉีดรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว วันนี้มันจะต้องทำงานอย่างเต็มความสามารถอย่างแน่นอน
.
.
ทันทีที่งานประมูลเริ่ม สินค้าระดับธรรมดาๆก็ถูกนำออกมาจัดแสดงทีละชิ้นๆ และเริ่มไล่ไปยังสินค้าที่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยของที่นำมาประมูลแต่ละชิ้นนั้นเป็นเครื่องประดับที่เพิร์ลนำออกมาขายกับของที่ขุนนางคนอื่นๆนำออกมาช่วยงานด้วย แม้จะบอกว่าเป็นของธรรมดา แต่เครื่องประดับแต่ละชิ้นก็ประมูลออกไปได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญทองทั้งนั้น
ตัวโดรันเมื่อได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือในงานประมูลก็ตั้งใจอธิบายเรื่องอัญมณีให้พวกรูบี้ฟังอย่างเต็มที่ มันพูดออกมาหมดไม่ว่าจะเป็นคุณค่าของอัญมณี ความงามของการเจียระไน รวมถึงใครเป็นผู้สร้างเครื่องประดับเหล่านั้นขึ้นมา ความจริงความรู้ของโดรันก็นับว่าไม่เลว เพียงแต่ชอบพูดดูถูกผลงานของคนอื่นไปเสียหน่อย แถมยังยกหางตัวเองอีกต่างหากว่า หากให้ตนทำเหลี่ยมมุมนั้นนี้จะออกมาสวยงามกว่า
“ในที่สุดก็มาถึงชิ้นดาวเด่นของเราแล้ว”เจ้าหน้าที่บนเวทีพูดพลางนำสินค้าชิ้นต่อไปออกมา โดยที่ชิ้นก่อนหน้านี้เป็นต่างหูมรกตที่ประมูลออกไปในราคากว่า 16 ล้านเหรียญทอง การที่เจ้าหน้าที่บนเวทีบอกว่ามันเป็นดาวเด่น นั่นหมายความว่ามันต้องราคาสูงกว่า 16 ล้านเหรียญทองอย่างไม่ต้องสงสัย
พรึบ….ทันทีที่สินค้าชิ้นเอกของงานถูกนำออกมา ไฟในห้องก็ถูกดับลงเหลือเพียงแสงไฟที่สาดส่องลงไปบนเวทีเท่านั้น ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้าของงานให้ความสำคัญกับสินค้าชิ้นนี้อย่างมาก
“………..”ทันทีที่สินค้าถูกนำออกมา เหล่าช่างทำอัญมณีและช่างทำเครื่องประดับที่ถูกเรียกมาร่วมงานต่างก็เงียบกันไปทันที สิ่งที่นำออกมาประมูลนั้นคือแหวนทองคำขาวที่ประดับด้วยทับทิมเพลิงตรงกลางอย่างสวยงาม แสงที่เหมือนกำลังมีไฟลุกอยู่ในทับทิมนั้นสะท้อนกับทองคำขาวที่ขัดจนเงาวับได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องบอกเลยว่ามันเป็นผลงานชั้นเยี่ยมที่ใช้อัญมณีชั้นยอดได้อย่างคุ้มค่ามา เพียงแต่…
“ใครเป็นคนทำกัน”โดรันพูดพลางมองไปที่แหวนทับทิมเพลิงด้วยท่าทีตกใจ ทั้งช่างทำอัญมณีทั้งช่างทำเครื่องประดับต่างน่าจะได้รับจดหมายเวียนเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรือ ใครมันกล้าขัดคำสั่งสมาคมเอาทับทิมเพลิงมาทำเครื่องประดับกัน
“มีอะไรหรือท่านโดรัน”เพิร์ลถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีพึงพอใจ เห็นเจ้าโดรันทำหน้าเดือดดาลเช่นนี้ก็นับว่างานนี้เพิร์ลได้ตามหวังไม่น้อยเลย
“ผลงานชิ้นนี้…..ไม่สมควรประมูลขอรับ”โดรันว่าพลางกำหมัดแน่น
“ทำไมล่ะ ข้าเห็นว่ามันงดงามดีไม่ใช่หรือ”รูบี้ว่าพลางมองไปทางโดรันด้วยท่าทียิ้มแย้ม
“เรื่องนั้นเป็นเพราะเจ้าของทับทิมเพลิงขอรับ พวกมันเป็นพวกสารเลวที่ดูถูกอาชีพช่างทำอัญมณี เกรงว่าแหวนวงนี้จะเป็นจุดด่างพร้อยของวงการอัญมณีขอรับ”โดรันว่าพลางส่ายหน้าช้าๆ ถึงจะมีคนช่วยทำให้แร่ดิบนั่นเป็นเครื่องประดับ แต่หากสร้างเรื่องเสียให้ได้ก็อาจจะทำให้แหวนทับทิมเพลิงราคาตกได้
“งั้นเหรอ”รูบี้ว่าพลางลุกขึ้นยืน ดูเหมือนนอกจากโดรันเองเหล่าช่างทำเครื่องประดับและช่างทำอัญมณีก็มีท่าทีเหมือนกันนั่นคือบอกเจ้านายของตนว่าไม่ควรประมูลผลงานชิ้นนี้ แต่นั่นเป็นสิ่งที่รูบี้คาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว
“50 ล้านเหรียญทอง”รูบี้ประกาศออกไปด้วยปากของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาพนักงานในห้องแต่อย่างไร เสียงของรูบี้นั้นเป็นดั่งเสียงประกาศเปิดเริ่มงานประมูลอย่างเป็นทางการไม่มีผิด ในอาณาจักรอู๋ยี่เจินเคยเห็นทับทิมเพลิงออกมาประมูล แต่นั่นก็เป็นเพียงทับทิมเพลิงเปล่าๆเท่านั้น แต่นี่คือทับทิมเพลิงที่ถูกนำมาทำแหวนด้วยฝีมือช่างที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ไม่ใช่แค่นั้นพอทราบข่าวแม่แต่ช่างฝีมือของเมืองหลวงยังออกมาช่วยงานรูบี้อีกต่างหาก ทำให้แหวนวงนี้กลายเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่งดงามที่สุดในอาณาจักรไชน์เลยก็ว่าได้
“60 ล้าน”ชายคนหนึ่งในที่นั่งพิเศษเช่นกันพูดออกมา น่าเสียดายท่าทางการแข่งขันครั้งนี้เหล่าผู้ร่วมงานด้านล่างจะไม่สามารถเข้ามาร่วมประมูลได้แล้ว เพราะคนที่เสนอราคาออกมานั้นหนึ่งคือรูบี้ตำนานแห่งอาณาจักรไชน์ อีกหนึ่งคือองค์ชายใหญ่แห่งอาณาจักรไชน์ผู้เป็นองค์รัชทายาท
“ท่านน้า ข้าเชื่อว่าเสด็จแม่จะต้องชอบแหวนวงนี้แน่ๆ”องค์ชายว่าพลางยิ้มออกมาเมื่อเห็นรูบี้มองมาทางตนเอง
“เช่นนั้นองค์ชายก็ต้องใจถึงหน่อยนะเจ้าคะ”รูบี้ยิ้มหวานพลางหันไปเสนอราคากว่า 70 ล้านเหรียญทองทันที
“ข้าไม่ยอมแพ้หรอกขอรับ”องค์ชายว่าพลางเสนอราคาขึ้นไปอีก ทำเอาโดรันที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้กัดฟันกรอดด้วยท่าทีเจ็บใจ หากวันนั้นมันสามารถเอาทับทิมเพลิงมาเป็นของตนเองได้ จำนวนเงินที่เสนออยู่นี่ควรจะเป็นเงินที่กำลังจะเข้ากระเป๋าตนเองแท้ๆ
“………..”ในขณะที่ราคากำลังพุ่งขึ้นสูงเกินราคาจริงๆของมันไปมาก ยี่เจินที่นั่งอยู่ข้างล่างกำลังจะหัวใจวายตายอยู่รอมร่อ เมื่อตัวเลขเข้าช่วง 100 ล้าน ยี่เจินก็ลืมแผนการทุกอย่างไปจนหมดสิ้น แม้จะต้องหักค่าวัตถุดิบอย่างทองคำขาวและค่าแรงของพวกช่างฝีมือและค่าเข้าประมูลแล้ว เงินที่เหลือมันก็มากจนเกินกว่ายี่เจินจะทำใจรับได้อยู่ดี
“ไม่เลวองค์ชาย วันนี้ข้าจะยอมให้ก่อน”รูบี้หัวเราะออกมาพลางนั่งลงหลังจากองค์ชายเสนอราคาขึ้นไปกว่า 140 ล้านเหรียญทอง นับเป็นมูลค่ากว่า 2 เท่าของราคาจริงเลยทีเดียว
“ด้วยความยินดีขอรับท่านน้า”องค์ชายตอบพลางนั่งลงเช่นกัน จริงแล้วๆองค์ชายก็พอจะทราบเรื่องมาอยู่แล้ว เลยจงใจมาปั่นราคาโดยเฉพาะ
“เป็นอะไรไปหรือท่านโดรัน”เพิร์ลถามพลางมองโดรันที่มีท่าทีกำลังโมโหอยู่
“มะ ไม่มีอะไรขอรับ”โดรันว่าพลางเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ขืนระเบิดอารมณ์ออกมาต่อหน้าท่านเพิร์ลกับท่านรูบี้มีหวังได้จบกันพอดี
“ต่อไปจะเป็นชิ้นหลักของงานจริงๆแล้ว ท่านช่วยตั้งใจดูหน่อยนะ”ได้ยินที่เพิร์ลพูดโดรันก็มีท่าทีประหลาดใจทันที แม้ตนเองจะพูดดูถูกแหวนวงนั้นไป แต่ในใจก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นเครื่องประดับที่ล้ำค่าที่สุดชิ้นหนึ่งแล้ว ในงานประมูลเช่นนี้ยังจะมีผลงานชิ้นอื่นอีกงั้นหรือ
พรึบ…..ท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้เข้าร่วมงาน หลังจากจบการประมูลแหวนทับทิมเพลิงไปแล้วกลับยังมีแหวนอีกวงหนึ่งถูกนำออกมาแทน
“……..”โดรันถึงกับสะท้านเมื่อเห็นสิ่งที่นำออกมา มันคือแหวนที่สร้างจากเพชรสีดำที่หาได้ยากมากเช่นกัน ราคาน่าจะต่ำกว่าแหวนทับทิมเพลิงไม่มาก แต่ที่ทำให้โดรันรู้สึกประหลาดใจก็คือมันเป็นแหวนที่ตนเองเป็นคนทำให้กับขุนนางท่านหนึ่งอย่างแน่นอน