บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 529 หาตัว
ตอนที่ 529
หาตัว
“โชคดีจริงๆเลยนะที่ผ่านมาได้ง่าย”หลานฮวาว่าพลางเดินพาผิงกั่วเข้าไปในเมืองด้วยท่าทีโล่งใจ เพียงแค่ปิงปิงออกปากรับรองเสี่ยวปิงให้เท่านั้นพวกนางก็สามารถเข้ามาในอาณาจักรไป๋ได้อย่างไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
“พี่หลานฮวา พวกเรามาถึงอาณาจักรไป๋แล้ว ข้าคิดว่าข้าควรมอบสิ่งนี้ให้ท่านตามสัญญา”พอเข้ามาในอาณาจักรไป๋ได้ ผิงกั่วก็หันไปหาหลานฮวาพลางนำผลึกฟ้าเหมันต์ส่งไปให้กับนางตามที่ตนสัญญาเอาไว้
“ถึงเจ้าจะจ่ายค่าจ้างแล้วแต่ข้าก็ไม่ยอมปล่อยเจ้าไปง่ายๆหรอกนะเรายังต้องตามหาคนที่เจ้าจะมาพบอีก”หลานฮวาว่าพลางรับผลึกฟ้าเหมันต์มาเป็นค่าแรง เท่านี้นางก็สามารถสร้างกระบี่อย่างที่นางหวังเอาไว้ได้แล้ว
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”ผิงกั่วตอบพลางยิ้มหวานออกมาด้วยท่าทีมีความสุข นางดีใจมากทีเดียวที่พี่สาวหลานฮวาที่พึ่งเจอกันได้ไม่นานใจดีกับนางขนาดนี้ เรียกได้ว่านางเป็นคนดีมากเลยก็ว่าได้
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ข้าจะไปหาโรงเตี๊ยมพักเสียก่อน แล้วเย็นนี้เราค่อยออกไปหาข่าวคนที่เจ้าตามหากัน”หลานฮวาเสนอความคิดขึ้นมาพลางมองหาโรงเตี๊ยมรอบๆ อาณาจักรไป๋กว้างใหญ่ขนาดนี้ไม่รู้จะหาเจอเมื่อไหร่เลย ดูท่าพวกนางคงต้องตั้งหลักอยู่ที่นี่สักพักเพื่อหาข่าวเสียแล้ว
“ผิงกั่ว คนที่เจ้ามาหาไม่ได้บอกอย่างอื่นเลยงั้นเหรอนอกจากมันอยู่ที่อาณาจักรไป๋เนี่ย”หลานฮวาถามพลางเดินพาผิงกั่วเข้าไปในโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้หลานฮวาคิดจะซื้อผลึกฟ้าเหมันต์ด้วยตนเองก็เลยเก็บเงินเอาไว้มากเลยทีเดียวพอไม่ต้องซื้อเองแล้วทำให้กระเป๋าเงินนางยามนี้ค่อนข้างหนาทีเดียว
“ดูเหมือนจะพูดถึงสถานที่ที่ชื่อว่าเขตอสูรผาไร้ก้นอยู่เจ้าค่ะ”ผิงกั่วตอบพลางทำสีหน้าเหมือนกำลังนึกความหลังอยู่ ตอนนั้นจูล่งเล่าเรื่องของอาณาจักรไป๋ให้ผิงกั่วฟัง และที่เด่นชัดที่สุดในความทรงจำของผิงกั่วคือเรื่องของเขตอสูรผาไร้ก้น
“เขตอสูรงั้นเหรอ….ข้าจะลองถามดูก็แล้วกัน”หลานฮวาว่าพลางเข้าไปพูดคุยกับเสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยม นอกจากจะขอเข้าพักแล้วยังสอบถามเรื่องเขตอสูรผาไร้ก้นมาด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขตอสูรผาไร้ก้นจะเป็นสถานที่ต้องห้ามทำให้คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้ ทำเอาหลานฮวายิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไรกันแน่
“เฮ้อ คนที่เจ้าจะมาหานี่เป็นใครอยู่ที่ไหนกันแน่ ทำอย่างกับถามคนอื่นแล้วทุกคนจะรู้งั้นล่ะ”หลานฮวาถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีสับสนเจ้าหนุ่มที่ผิงกั่วจะมาหาควรจะให้ที่อยู่เอาไว้บ้างสิว่าตนเองอยู่ตรงไหนของอาณาจักรไป๋
“ท่านลุง ท่านรู้จักคนชื่อไป๋จูล่งหรือไม่เจ้าคะ”ผิงกั่วถามพลางมองไปทางเสี่ยวเอ้อของโรงเตี๊ยม ทันทีที่ได้ยินชื่อทั้งเสี่ยวเอ้อทั้งหลานฮวาก็ชะงักไปทันที ตัวหลานฮวาเองก็ไม่ได้ถามเสียทีว่าชายที่ผิงกั่วจะมาหานั้นชื่ออะไร ก็เลยพึ่งได้ทราบเอาตรงนี้เอง
“เจ้าว่าอะไรนะผิงกั่ว”หลานฮวาเบิกตากว้างมองไปทางผิงกั่วด้วยท่าไม่อยากจะเชื่อ ชายที่ผิงกั่วมาตามหาคือไป๋จูล่งเองงั้นหรือ
“ไป๋จูล่งเจ้าค่ะ ชื่อของคนที่ข้ามาตามหา”ผิงกั่วตอบด้วยท่าทีงงๆว่าทำไมหลานฮวาถึงมีท่าทีเช่นนั้น
“ไป๋จูล่ง….เจ้าหมายถึงบุตรชายคนเล็กของจักรพรรดิไป๋งั้นหรือ”เสี่ยวเอ้อที่ได้ยินเช่นนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่นึกว่าเด็กคนนี้จะมาตามหาคนระดับนั้น
“ท่านรู้จักหรือเจ้าคะ”ผิงกั่วว่าพลางทำตาโตด้วยท่าทีดีใจ ไม่นึกเลยว่าพอออกปากเอ่ยถามคนแรกในอาณาจักรไป๋ก็เจอคนรู้จักของพี่จูล่งของนางทันที
“ก็ต้องรู้จักสิ ในอาณาจักรไป๋ไม่มีใครไม่รู้จักคนตระกูลไป๋หรอกนะ”เสี่ยวเอ้อตอบพลางมองผิงกั่วด้วยท่าทีแปลกใจ เจ้าต่างหากที่ไม่เอะใจบ้างเลยงั้นหรือที่มาตามหาคนตระกูลไป๋ในอาณาจักรไป๋แบบนี้
“งั้น ท่านทราบหรือไม่เจ้าคะว่าพี่จูล่งอยู่ที่ไหน”ผิงกั่วยิ้มกว้างออกมาทันทีเพราะนั่นเท่ากับว่านางอาจจะได้พบพี่จูล่งของนางเร็วๆนั่นเอง
“ก็….พวกท่านตอนนี้อยู่ในเขตอสูรผาไร้ก้นอย่างที่พี่สาวท่านนั้นถามนั่นล่ะ แต่ที่นั่นเป็นเขตหวงห้ามเกรงว่าเจ้าจะไปไม่ได้”เสี่ยวเอ้อตอบพลางแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา มันก็ไม่ทราบหรอกว่าเด็กคนนี้เป็นอะไรกับไป๋จูล่ง แต่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปในเขตอสูรผาไร้ก้นได้หรอก
“ไม่มีทางเข้าไปเลยหรือเจ้าคะ”ผิงกั่วถามด้วยท่าทีผิดหวัง นางอุตส่าห์รู้แล้วแท้ๆว่าพี่จูล่งอยู่ที่ไหน แต่กลับไม่สามารถไปหาได้งั้นหรือ
“มันก็มีทางอยู่ แต่ก็ยากมากทีเดียว”เสี่ยวเอ้อว่าพลางกลืนน้ำลายลงคอ จริงๆเรื่องนี้ประชาชนทุกคนต่างรู้ดี แต่ไม่มีใครกล้าทำเลยนั่นคือ….
“การจะเข้าไปในเขตอสูรผาไร้ก้นอย่างถูกกฎหมาย เจ้าจะต้องได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิหลิวหรือจักรพรรดิอู๋ ไม่ก็หัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรคนใดคนหนึ่งในทั้ง 3 คนเสียก่อน”เสี่ยวเอ้อตอบออกมาตามตรง เรื่องพวกนี้คนธรรมดาไม่อาจทำได้หรอก เพียงแต่
“ท่านปิงปิง….”ผิงกั่วกับเสี่ยวปิงแทบจะสรุปออกมาพร้อมกัน หากต้องขออนุญาตหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรคนใดคนหนึ่ง งั้นท่านปิงปิงที่เป็นคนมอบตราเข้าเมืองให้เสี่ยวปิงก็สามารถทำได้ไม่ใช่หรือ พอได้ทราบเช่นนี้ทั้งผิงกั่วทั้งเสี่ยวปิงต่างก็เบนเข็มกลับไปที่ตึกของกลุ่มนักล่าอสูรทันที
“……พี่หลานฮวา ท่านไม่ไปหรือ”ผิงกั่วถามพลางมองไปทางหลานฮวาที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลัง นางกำลังอึ้งอยู่เพราะพึ่งทราบว่าคนที่ผิงกั่วกำลังตามหาก็คือไป๋จูล่งนั่นเอง เรื่องนี้นางสมควรรู้สึกอย่างไรดี จะนับว่าเป็นข่าวร้ายก็ใช่ เพราะเท่ากับผิงกั่วที่นางเริ่มสนิทด้วยกลับกลายเป็นสหายของคนที่ฆ่าล้างสำนักของนาง แต่จะนับเป็นข่าวดีก็ใช่เพราะนางเองก็ยังไม่ทราบที่อยู่ของจูล่งเช่นกัน หากช่วยผิงกั่วตามหาต่อไปก็เท่ากับว่าสามารถหาทางเจอตัวไป๋จูล่งไปในตัว
“ไปสิ”หลานฮวาว่าพลางเดินตามผิงกั่วไปช้าๆ ทันทีที่รู้ว่าคนที่ผิงกั่วตามหาคือไป๋จูล่ง หลานฮวาก็เกิดท่าทีกังวลทันที ผิงกั่วดูจะหลงรักไป๋จูล่งมาก แต่ไป๋จูล่งในใจของหลานฮวานั้นเป็นปีศาจร้ายที่ร่วมมือกับสำนักผลาญสุริยันฆ่าล้างสำนักร้อยบุปผาของนาง พริบตานั้นหลานฮวาก็พลันเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมาทันทีนั่นคือ หรือว่าผิงกั่วกำลังโดนเจ้านั่นหลอกอยู่ พริบตานั้นในหัวของหลานฮวาพลันปรากฏภาพของจูล่งผู้เลวทรามที่เข้ามาหลอกลวงหัวใจอันบริสุทธิ์ของผิงกั่วเข้าให้ ทำเอาหลานฮวายิ่งเคียดแค้นไป๋จูล่งมากกว่าเดิม
.
.
การขอให้ปิงปิงช่วยนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผิงกั่วเลย ทันทีที่เอ่ยปากขอ ปิงปิงก็รับปากจะช่วยอย่างง่ายดายโดยนางจะเป็นคนพาผิงกั่วไปที่เขตอสูรผาไร้ก้นทันทีหลังจากหงเยว่กลับมาแล้ว ทำให้ผิงกั่วและหลานฮวาต้องรอเพียงคืนเดียวเท่านั้น
“ผิงกั่ว เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะไปหาชายคนนั้น”หลานฮวาถามขณะนั่งรถไฟไปกับผิงกั่วและปิงปิงผู้ทำหน้าที่นำทาง
“แน่ใจเจ้าค่ะ พี่จูล่งจะต้องแปลกใจแน่ๆที่ข้าออกมาจากบ้านได้เร็วขนาดนี้”ผิงกั่วตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีมีความสุข แต่เพราะท่าทีมีความสุขของนางนั่นล่ะ ทำให้หลานฮวาเกิดอาการกังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“ผิงกั่ว เจ้า……”หลานฮวาไม่ทราบจะพูดอย่างไรดี นางเริ่มกังวลเรื่องความปลอดภัยผิงกั่วมากกว่าแผนการของตนเองเสียแล้ว หากนางไปเจอไป๋จูล่งตอนนี้ก็ไม่ทราบว่านางจะเจอกับอะไรบ้าง หากไม่ใช่เพราะท่าทีของผิงกั่วมันชัดเจนขนาดนี้นางคงหาทางยื้อผิงกั่วไม่ให้ไปหาจูล่งแล้ว แต่ในตอนนี้ไม่ว่าจะห้ามอย่างไรผิงกั่วก็คงไม่ฟังแน่ๆ
“เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าให้ใครมาเอาเปรียบได้”หลานฮวาว่าพลางจับมือผิงกั่วเอาไว้แน่น
“ทำไมพี่หลานฮวาถึงพูดเหมือนเป็นท่านแม่ข้าอีกคนล่ะเจ้าคะ”ผิงกั่วยิ้มเจื่อนๆออกมากับท่าทีแปลกๆของหลานฮวา
“………….”ปิงปิงที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามองผิงกั่วพลางกระตุกชายเสื้อนางนิดหน่อย ทำให้ผิงกั่วหันไปหาปิงปิงทันที
“พี่หลานฮวา ท่านปิงปิงบอกว่าจะถึงแล้วเจ้าค่ะ”ผิงกั่วว่าพลางหันกลับมาทางหลานฮวา
“………..”ปิงปิงพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะกระตุกชายเสื้อของผิงกั่วเบาๆอีกครั้ง
“ท่านบอกว่าตอนเข้าไปในเขตอสูร ห้ามโจมตีอสูรโดยเด็ดขาดแล้วก็ไม่ต้องกลัวด้วยหากเข้าไปในเขตอสูรอย่างถูกต้องก็ไม่มีอสูรคนไหนโจมตีพวกเราหรอก”ผิงกั่วว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ ในที่สุดก็มาถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้ว นางอยากเจอพี่จูล่งมากจริงๆนะ
“เข้าใจแล้ว”หลานฮวาว่าพลางกำหมัดของนางแน่น ในเขตอสูรแห่งนี้คือสถานที่อยู่ของจูล่ง เท่านี้นางก็จะได้พบคนที่ทำให้สำนักของนางล่มสลายแล้ว….
เปรี้ยง!! ยังไม่ทันจะได้ลงไปที่เขตอสูรผาไร้ก้นอยู่ๆสายฟ้าสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่จุดที่พวกผิงกั่วยืนอยู่หลังจากเดินทางมาที่ขอบหน้าผาแล้ว
“ปิงปิง เจ้ามีอะไรงั้นหรือ”พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองไปทางผิงกั่วและหลานฮวาที่เข้ามาในเขตอสูรผาไร้ก้น แม้ทางจากอาณาจักรไป๋จะไปลงที่เขตภูเขาดำ แต่เพราะพยัคฆ์อัสนีไวที่สุดก็เลยมาดูลาดเลาให้ก่อนเพราะพวกมันสัมผัสได้แทบจะทันทีว่ามีอสูรระดับสูงนอกจากปิงปิงติดตามมาด้วย
“…………”ปิงปิงมองกลับไปที่พยัคฆ์อัสนีราวกับกำลังจะพูดผ่านสายตา แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจนาง
“ท่านคือท่านน้าพยัคฆ์หรือเจ้าคะ”ผิงกั่วถามพลางมองไปทางพยัคฆ์อัสนีด้วยท่าทีตื่นเต้น
“ใช่ เจ้ารู้จักข้างั้นหรือ”พยัคฆ์อัสนีถามพลางมองมาทางผิงกั่วด้วยท่าทีสงสัย มันเคยเจอเด็กคนนี้มาก่อนงั้นหรือ
“ใช่จริงๆด้วย ท่านเหมือนที่พี่จูล่งเล่าให้ข้าฟังมากเลย จริงสิข้าชื่อผิงกั่วเจ้าค่ะ ข้ามาหาพี่จูล่ง”ผิงกั่วตอบพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีดีใจ นางได้พบท่านน้าที่พี่จูล่งเล่าให้ฟังแล้ว นั่นหมายความว่านางมาไม่ผิดแน่ๆ
“ล่งเอ๋ออยู่ข้างใน เจ้าคือผิงกั่วนี่เองมาสิ ข้าจะพาไปหาล่งเอ๋อ”พยัคฆ์อัสนีเลิกคิ้วด้วยท่าทีสนใจ เรื่องของผิงกั่วมันได้ทราบมาแล้วตอนจูล่งสารภาพเรื่องที่หนีไปส่งผิงกั่วที่บ้านของนาง ทำให้น้าๆทุกคนต่างรู้จักตัวตนของผิงกั่วกันทั้งนั้น
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”ผิงกั่วว่าพลางยิ้มกว้างด้วยท่าทียินดี แต่ที่ด้านหลังของนางหลานฮวากลับมีท่าทีคิดหนักอย่างเห็นได้ชัด นางจะตามเข้าไปด้วยงั้นหรือ ในเขตอสูรที่ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็อันตรายเสียยิ่งกว่าเขตอสูรผลึกฟ้าเสียอีกเนี่ยนะ….