บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 540 เกรดต่ำ
ตอนที่ 540
เกรดต่ำ
“นี่พี่ชาย พวกเราจะได้พบจักรพรรดิไป๋จริงๆงั้นหรือ”ชายคนหนึ่งถามขณะเดินตามกลุ่มพวกผู้ถือธงสีขาวเดินออกมาจากเมืองเพื่อไปพบคนของจักรพรรดิไป๋ที่รออยู่ข้างนอก
“ถูกแล้ว ท่านตั้งค่ายรอยอยู่ข้างนอก เมื่อรวบรวมคนได้ครบเราจะเริ่มงานกัน”ชายที่ถือธงขาวพูดพลางเดินต่ออย่างขยันขันแข็ง ทำให้เหล่าผู้ถูกหลอกเดินตามออกจากเมืองไปด้วยท่าทีลุ้นระทึก
“นี่หลินเฟย ชื่อครอบครัวเจ้าใช้เรียกคนได้ขนาดนี้เลยหรือ”หลานฮวาที่เดินตามคนพวกนั้นไปพร้อมๆกับหลินเฟยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเบาๆเหมือนกำลังกระซิบกัน
“แน่นอนสิขอรับ ท่านก็ได้เห็นแล้วนี่ว่าครอบครัวข้าเป็นอย่างไร”หลินเฟยตอบขณะเดินอยู่ข้างๆหลานฮวา ความจริงหลินเฟยจะสมัครและตามคนกลุ่มนี้ไปด้วยตนเอง แต่คนกลุ่มนี้ไม่รับเด็กเสียอย่างนั้นทำให้หลินเฟยต้องให้หลานฮวาเป็นผู้พาตนมาด้วยอย่างที่เห็น
“เข้ามาข้างในได้ เตรียมตัวให้พร้อมจักรพรรดิไป๋จะเดินทางมาแล้ว”ได้ยินเช่นนั้นเหล่าชาวบ้านที่ถูกเชื้อเชิญมาก็เข้าไปในค่ายกันอย่างรวดเร็ว สำหรับชาวเมืองของอาณาจักรอื่นแล้ว การได้พบจักรพรรดิไป๋สักครั้งนับเป็นเกียรติตลอดชีพเลยก็ว่าได้
“น่าตื่นเต้นจริงๆ ข้าอยากพบจักรพรรดิไป๋กับตามาตั้งนานแล้ว”ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ
“เมื่อหลายปีก่อนครอบครัวข้าได้รับความช่วยเหลือจากอาณาจักรไป๋ วันนี้ข้าจะได้ตอบแทนบุญคุณเสียที”หญิงสาวอีกคนพูดด้วยท่าทีดีใจ ทำเอาหลินเฟยที่นั่งรออยู่เช่นเดียวกันอดรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที คนพวกนี้ต่างเป็นผู้ชื่นชมท่านตาของตนเอง ที่ทุกคนโดนหลอกก็เพราะชื่อของท่านตานั้นน่าเชื่อถือมากนั่นเอง เกรงว่ามันจะปล่อยให้คนเหล่านี้โดนเอาเปรียบไม่ได้เสียแล้ว
“ทุกคนยืนขึ้น จักรพรรดิไป๋มาถึงแล้ว”ชายคนหนึ่งพูดพลางเดินเข้ามาในค่ายที่ตั้งขึ้นมาอย่างลวกๆในป่าข้างเมือง ทันทีที่ได้ยินเสียงประกาศเหล่าคนในค่ายก็ลุกขึ้นเรียงแถวกันอย่างสวยงามทันทีไม่เว้นแม้แต่หลินเฟยเอง
วูบ….. ทันทีที่แถวถูกจัดจนเรียบร้อย อยู่ๆที่ด้านหลังของชายที่ออกมาประกาศก่อนหน้านี้ก็ปรากฏเกี้ยวขนาด 4 คนหามลอยลงมาจากท้องฟ้าโดยมียอดฝีมือระดับเทียนเซียนขั้นต้นๆแบกลงมา สำหรับชาวบ้านธรรมดาแล้วการมีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณแบกเกี้ยวให้นับว่าน่าตกใจมากแล้ว แต่หากเป็นไป๋จูเหวินจริงๆสมควรจะขี่หลังอสูรลงมาต่างหาก
“โอ้….”เหล่าชาวบ้านต่างร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นหลังจากได้เห็นเกี้ยวของจักรพรรดิไป๋ร่อนลงมา ยิ่งเห็นเงาคน 3 คนเดินลงมาแล้วก็ยิ่งพากันตื่นเต้นกันใหญ่
“ถวายบังคมฝ่าบาท”ทันทีที่คนบนเกี้ยวเดินลงมาชายที่ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศก็ประสานมือคุกเข่าลงกับพื้นทันที เพียงแต่…..
“นั่น ใครกัน”หลานฮวาถึงกับอึ้งไปเลยเมื่อได้เห็นใบหน้าของคนที่เดินลงมาจากเกี้ยว ไม่ใช่แค่จักรพรรดิไป๋ปลอมเท่านั้น ยังมีมเหสีเหม่ยหลินตัวปลอมและไป๋หลินตัวปลอมอีกต่างหาก
“นั่นจักรพรรดิไป๋งั้นหรือ”ชายคนหนึ่งถามพลางมองหน้ากันไปมา ชายที่เดินลงมานั้นเป็นชายชราที่หนวดเคราขาวไปทั้งหน้าแล้ว แถมยังไม่มีพลังวิญญาณอะไรเลยอีกต่างหาก ทำเอาหลินเฟยรีบใช้ดวงตาสีม่วงตรวจสอบทันที
“อ๋า คนธรรมดาหมดเลยนี่นา”หลินเฟยยิ้มเจื่อนๆออกมาด้วยท่าทีไม่อยากจะเชื่อ สภาพของท่านตาตัวปลอมนั้นยังพอว่า แต่ท่านยายและท่านแม่ของมันที่ถูกกล่าวว่าเป็นสาวงามล่มเมืองที่แม้แต่องค์ชายต่างแดนยังพากันหลงใหลนั้นกลับเป็นย้ายแก่ๆที่แต่งหน้าเสียจนหนาเตอะกับบุตรสาวที่แต่งหน้าเหมือนงิ้วเช่นเดียวกัน หากได้เคยเห็นความงามของท่านยายกับท่านแม่ของหลินเฟยละก็การได้มาเห็นภาพเช่นนี้ไม่หลุดขำก็คงไม่ได้แล้ว เจ้าพวกนี้คิดว่าจะหลอกคนอื่นด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้ได้งั้นหรือ
“นะ นั่นนะหรือจักรพรรดิไป๋…..”ชายคนหนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทีตื่นเต้น น่าเสียดายที่ชาวบ้านแถวนี้ไม่มีใครรู้หน้าตาที่แท้จริงของจักรพรรดิไป๋เลย พวกมันมีเพียงรูปปั้นของท่านเพื่อเปรียบเทียบเท่านั้น
“ท่านครองราชย์มาเกือบร้อยปีนี่นะ”ชายอีกคนพยักหน้าช้าๆ พวกมันอาจจะลืมไปว่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณไม่ได้แก่เร็วเช่นนั้น แม้ท่านตาจะครองราชย์มาร่วมร้อยปีจริง แต่ก็ไม่ได้แก่ลงเลยสักนิดแท้ๆ
“นะ นั่นนะหรือท่านเหม่ยหลินกับท่านไป๋หลินที่ร่ำลือกัน”ชาวบ้านคนหนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทีผิดหวัง…..
“………..”หลินเฟยชะงักวูบเมื่อได้ยินเหล่าชาวบ้านพูดกันเช่นนั้น มารดาและยายของมันนั้นงดงามเสียยิ่งกว่าข่าวลือเสียอีก เห็นชาวบ้านเข้าใจผิดเช่นนี้อารมณ์โกรธของหลินเฟยถึงกับแผ่วูบออกมาเลย
“ขอบคุณทุกท่านที่มากันในวันนี้ อย่างที่ลูกน้องของข้าแจ้งให้พวกท่านทราบ ข้ากำลังหาคนจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยงานของข้า”ชายชราที่อ้างตัวว่าเป็นไป๋จูเหวินพูดพลางเดินออกมายืนตรงหน้ากลุ่มคนที่มาจากในเมือง พอเห็นพวกที่ถือธงขาวพากันคุกเข่า เหล่าชาวบ้านก็คุกเข่าเช่นกัน ส่วนหลินเฟยนั้นเริ่มยกหูโทรศัพท์ออกมาคุยตั้งแต่คนเริ่มผิดหวังเรื่องหน้าตาของเหม่ยหลินกับไป๋หลินแล้ว
“งานที่ข้ากำลังจะให้พวกท่านทำนั้นคือการบุกเข้าไปในเขตอสูรแห่งหนึ่งในอาณาจักรชู ที่นั่นมีสิ่งหนึ่งที่จะนำมาช่วยอาณาจักรของพวกเจ้าได้”ได้ยินที่ไป๋จูเหวินตัวปลอมพูดหลินเฟยก็ปวดหัวขึ้นมาทันที บุกเข้าเขตอสูรในอาณาจักรชูงั้นหรือ เรื่องเช่นนั้นท่านตาต้องมาขอแรงคนอื่นทำไม ท่านแค่เดินเข้าไปก็ได้แล้ว เพราะทั้งเขตอสูรทั้งอาณาจักรชูไม่มีใครขวางท่านตาแน่ๆ
“เจ้า ทำไมถึงไม่คุกเข่า”ตั้งแต่ที่ไป๋จูเหวินตัวปลอมเริ่มพูด เหล่าคนรอบๆก็คุกเข่าลงกันเกือบหมด เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังไม่คุกเข่าลงไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหลินเฟยนั่นเอง แต่เพราะหลินเฟยเป็นเด็ก แม้จะยืนอยู่ก็ไม่ได้เตะตาอะไร ทำให้คนที่โดนเรียกถามกลับกลายเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่แถวหลังเสียอย่างนั้น
“ทำไมข้าต้องคุกเข่าให้กับเจ้านั่นด้วย”หญิงคนนั้นพูดพลางจ้องมองไปยังร่างของไป๋จูเหวินตัวปลอมด้วยท่าทีไม่พอใจ นางเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้นที่ 2 นับว่าเป็นผู้มีฝีมือพอตัวเลย
“เจ้าว่าอะไรนะ”ชายที่เป็นคนชี้ตัวนางขึ้นมาถามพลางเดินเข้าไปหานางด้วยท่าทีโมโห
“เจ้าได้ยินชัดแล้วนี่ ทำไมข้าต้องคุกเข่าให้คนตรงนั้นด้วย”หญิงสาวถามพลางชี้นิ้วไปทางไป๋จูเหวินตัวปลอมทันที ทำเอาเหล่าชาวบ้านต่างแสดงสีหน้าตกใจออกมากันถ้วนหน้า
“เจ้ากล้าชี้จักรพรรดิไป๋งั้นหรือ”ชายคนนั้นตกใจมากรีบเดินเข้าไปคว้ามือของหญิงสาวคนนั้นเอาไว้ทันที
“จักรพรรดิไป๋งั้นหรือ น่าขำ ตาแก่นั่นจะเป็นจักรพรรดิไป๋ไปได้อย่างไร”หญิงสาวว่าพลางปัดมือของชายคนนั้นออก
“เจ้าคนไร้มารยาท จับนางออกไป”ตาแก่ผู้อ้างตัวเป็นจักรพรรดิไป๋พูดออกมาพลางชี้ไปทางหญิงสาวคนนั้นด้วยท่าทีดุดัน หรือว่ามันจะร้อนตัวเสียแล้ว
“ขอรับ”เหล่าชายที่เป็นผู้แบกเกี้ยวของจักรพรรดิไป๋ลงมารีบมุ่งหน้าเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้นทันที เพียงแต่ยังไม่ทันเข้าถึงตัวหญิงสาวคนนั้น หลานฮวาก็เข้ามาแทรกกลางระหว่างพวกมันเสียก่อน
“เจ้า….จะทำอะไร”เหล่ากลุ่มชายหนุ่มที่บุกเข้ามาถามพลางมองไปทางหลานฮวาด้วยท่าทีตกใจ นางไม่ได้ฝึกวิชาปกปิดพลังวิญญาณแต่อย่างไร ทำให้พวกมันสัมผัสพลังระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 จากหลานฮวาได้อย่างชัดเจน
“นางเป็นน้องสาวของข้าเอง นางคงเข้าใจอะไรผิดก็เลยแสดงกิริยาเสียมารยาทไป ข้าต้องขออภัยด้วย”หลานฮวาว่าพลางเดินเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้นแล้วกระซิบอะไรบางอย่างให้นางฟัง
“………ขะ ข้าต้องขอโทษด้วยเจ้าค่ะ”หญิงสาวคนนั้นพูดพลางก้มหัวลงช้าๆ ก่อนจะเดินตามหลานฮวาเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆพวกหลินเฟย
“พี่สาว ที่ท่านพูดมาจริงงั้นหรือ”เมื่อเรื่องสงบแล้ว หญิงสาวที่ลุกขึ้นชี้หน้าจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมก็พลันกระซิบถามหลานฮวาทันที
“จริงสิ พวกเราเรียกคนมาแล้ว แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย”หลานฮวาว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีใจเย็น เมื่อครู่หลินเฟยกำลังโทรไปบอกท่านแม่ของมันเรื่องนี้พอดี พอเสียงที่หญิงสาวคนนี้เถียงกับพวกจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมเข้าไปในสาย ไป๋หลินก็เตรียมเดินทางออกมาจากเขตอสูรทันที
“งั้นหรือเจ้าคะ ข้าขอโทษด้วยไม่นึกว่าจะมีคนของจักรพรรดิไป๋จริงๆอยู่ในนี้ด้วย”หญิงสาวว่าพลางก้มหน้าด้วยท่าทีรู้สึกผิด
“ไม่หรอก ท่านทำได้ดีแล้ว”หลินเฟยส่ายหน้าช้าๆพลางยิ้มให้หญิงสาวด้วยท่าทีเป็นมิตร ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปที่หน้าแถวทันที
“ท่านปู่จักรพรรดิขอรับ”หลินเฟยทำสีหน้าใสซื่อพลางเดินเข้าไปหาไป๋จูเหวินทันที แน่นอนว่าพอไป๋หลินเฟยเดินเข้าไปใกล้เหล่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณของไป๋จูเหวินตัวปลอมก็รีบเข้ามาขวางทันที
“มีอะไรงั้นหรือ”แต่เมื่อเห็นว่าหลินเฟยเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ไป๋จูเหวินตัวปลอมก็ห้ามคนของตนเอาไว้แล้วปล่อยให้หลินเฟยเดินเข้ามาหาตนเอง
“ท่านบอกว่าจะไปอาณาจักรชูสินะขอรับ ข้ามีคนรู้จักอยู่ที่นั่นพอดีเลย”หลินเฟยว่าพลางยิ้มกว้างออกมา
“คนรู้จักงั้นหรือ….”ไป๋จูเหวินตัวปลอมเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย เด็กคนนี้มีคนรู้จักอยู่ที่อาณาจักรชูแล้วมันทำไมงั้นหรือ
“ท่านน้าที่ข้ารู้จักบอกว่าถ้าข้าอยากจะพาเพื่อนมาอาณาจักรชูก็ให้บอกท่านได้เลย ถ้าเป็นเพื่อนของข้าละก็สามารถเข้าอาณาจักรชูได้เลยด้วย ไม่ต้องไปให้พวกลุงๆน่ากลัวตรวจของตามตัวด้วย”หลินเฟยตอบด้วยท่าทีใสซื่อ สิ่งที่มันพูดออกมานั้นคือการลักลอบเข้าอาณาจักรโดยไม่ต้องตรวจสอบ เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าพวกนี้ต้องการคนเข้าไปบุกเขตอสูรเพื่อนำของข้างในออกมา แม้ขาเข้าจะไม่เป็นอะไร แต่ขาออกก็ต้องหลบหนีเอาอย่างเดียวไม่อย่างนั้นต้องโดนเก็บภาษีส่งออกจำนวนมากแน่ๆ หากสามารถเข้าออกได้โดยไม่ต้องถูกตรวจสอบย่อมเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว
“………”ขณะไป๋จูเหวินตัวปลอมยังมีท่าทีลังเลอยู่นั้น ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินตัวปลอมก่อนจะกระซิบที่ข้างหูมันเบาๆ ดูเหมือนเรื่องที่หลานฮวาเป็นยอดฝีมือระดับสูงที่คอยติดตามเด็กคนนี้อยู่จะถูกพวกมันสังเกตเห็นมาสักพักแล้ว นั่นหมายความว่าตัวหลินเฟยนั้นไม่ใช่เด็กธรรมดาแน่นอนที่มียอดฝีมือระดับนี้คอยติดตาม ทำให้โอกาสที่เด็กคนนี้จะพูดความจริงก็มีสูงทีเดียว
“ได้เลย ปู่เองจะเป็นเพื่อนกับหนูอีกคนนะ”ไป๋จูเหวินตัวปลอมตอบพลางยิ้มออกมาด้วยใบหน้าใจดี เท่านี้ก็เหลือแค่นัดพวกมันไปที่อาณาจักรชูแล้วให้ท่านแม่มาจัดการเท่านั้น