บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 541 ใบผ่านทาง
ตอนที่ 541
ใบผ่านทาง
“งั้นหรือ ครอบครัวเจ้าชื่นชมข้ามากเลยงั้นหรือ”ชายชราที่อ้างตัวเป็นจักรพรรดิไป๋หัวเราะออกมาระหว่างกำลังเดินทางไปยังอาณาจักรชูด้วยรถม้าที่เตรียมเอาไว้สำหรับบรรทุกคนจำนวนมาก โดยหลินเฟยผู้ออกหน้าว่าสามารถพาพวกมันเข้าอาณาจักรชูได้โดยไม่ต้องตรวจสอบนั้นได้รับสิทธิ์นั่งร่วมกับจักรพรรดิไป๋เป็นกรณีพิเศษร่วมกันกับหลานฮวาและหญิงสาวที่หลานฮวาดันบอกว่าเป็นน้องสาวไปเสียแล้ว
“ขอรับ พ่อกับท่านแม่ของข้าชื่นชมจักรพรรดิไป๋มากเลยขอรับ พวกท่านนับถือจักรพรรดิไป๋เหมือนเป็นพ่อแท้ๆเลยขอรับ”หลินเฟยตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเด็กไร้เดียงสาควรเป็นและแน่นอนสิ่งที่มันพูดออกมาก็ไม่ใช่เรื่องโกหก ท่านแม่รักท่านตาเหมือนพ่อแท้ๆจริงๆนี่นาไม่สิก็เป็นพ่อแท้ๆนี่นะ…
“งั้นเหรอๆ พ่อแม่ของเจ้าช่างตาถึงจริงๆ”ชายชราว่าพลางหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นด้วยท่าทีมีความสุข
“น่าเสียดายนะขอรับที่พวกเราต้องไปที่อาณาจักรชู”อยู่ๆหลินเฟยก็เปลี่ยนใบหน้ายิ้มแย้มก่อนหน้านี้เป็นใบหน้าหม่นๆเสียอย่างนั้น ทำเอาจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมแสดงสีหน้าสงสัยออกมาทันที
“ทำไมหรือ พวกเรามุ่งหน้าไปอาณาจักรชูเลยไม่ดีงั้นหรือ”ชายชราถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีสงสาร
“ถ้าท่านพ่อกับท่านแม่ได้มีโอกาสพบท่านปู่จักรพรรดิบ้าง พวกท่านต้องดีใจแน่ๆเลยขอรับ”หลินเฟยแสดงใบหน้าเศร้าสร้อยออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาหญิงที่อ้างว่าเป็นเหม่ยหลินและไป๋หลินพากันมองมาทางมันด้วยท่าทีสงสาร
“พ่อแม่ของเจ้าอยู่ที่ไหนงั้นหรือ”หญิงชราที่อ้างว่าเป็นเหม่ยหลินถามออกมาช้าๆ ท่าทางการแสดงหน้าเศร้าของหลินเฟยจะได้ผลกับพวกผู้หญิงไม่น้อยเลย แม้แต่หญิงสาวที่โดนหลานฮวาเหมาว่าเป็นน้องสาวก็ยังทำหน้าเห็นใจออกมาด้วย
“ตอนนี้พวกท่านน่าจะไปรอข้าอยู่ที่อาณาจักรชูขอรับ”หลินเฟยตอบพลางทำสีหน้าเสียดายออกมาแทนใบหน้าเศร้าก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว
“งั้นหรือ ยังไงพวกเราก็ต้องไปอาณาจักรชูอยู่แล้ว ไปแวะหาพ่อกับแม่ของเจ้าหน่อยจะเป็นอะไรไปเล่า”ชายชราผู้อ้างตัวเป็นจักรพรรดิไป๋ตอบพลางหัวเราะออกมาด้วยท่าทีใจดี ทำให้ไป๋หลินเฟยยิ้มออกมาน้อยๆ
“งั้นหรือขอรับ แต่ท่านพ่อกับท่านแม่น่าจะอยู่ที่เมืองหลวง ข้ากลัวว่าการแวะไปจะทำให้ท่านเสียเวลา”หลินเฟยพูดย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เมืองหลวงงั้นหรือ…”จักรพรรดิไป๋ตัวปลอมมีสีหน้าลังเลทันที เพราะพวกตนตั้งใจจะเดินทางไปเขตอสูรทางเหนือของอาณาจักรชู การแวะเมืองหลวงด้วยรถม้าแบบนี้อาจจะต้องเสียเวลาไปร่วมอาทิตย์ได้ แถมการเข้าเมืองก็ต้องหาที่พักให้คนงานที่ตนหามาด้วย จักรพรรดิไป๋เป็นผู้ร่ำรวยเงินทอง หากตนเองพาคนมาทำงานแล้วปล่อยให้นอนบนรถม้าทั้งๆที่เข้าเมืองแล้วต้องสร้างความน่าสงสัยแน่ๆ
“ถึงจะไม่ต้องห่วงเรื่องที่พักเพราะท่านน้าของข้ามีเรือนรับรองให้ก็เถอะ แต่มันจะเสียเวลาท่านปู่จักรพรรดิเกินไปหรือเปล่านะ”หลินเฟยเปรยออกมาด้วยท่าทีผิดหวัง
“ถ้าข้าไปพบท่านน้าได้ ข้าคงขอทุนมาช่วยท่านทำงานได้สักหมื่นเหรียญทองแท้ๆ แต่ท่านปู่จักรพรรดิคงไม่ต้องการเงินแค่นั้นด้วยสิ”หลินเฟยส่ายหน้าช้าๆพลางหันไปมองทางตัวปลอมทั้งสามคน แค่เห็นรถม้าของพวกมันหลินเฟยก็รู้แล้วว่าจริงๆพวกมันไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย แค่ค่ารถไฟให้ทุกคนเดินทางตรงเข้าอาณาจักรชูก็ไม่มี ต้องอาศัยรถม้าไม่มีหลังคาให้ทุกคนนั่งอัดกันไปจนถึงอาณาจักรชู เรียกได้ว่าจำกัดจำเขี่ยกันเหลือเกินเลยก็ว่าได้
“ไม่หรอกๆ เด็กดีคิดถึงหัวอกบิดามารดาอย่างเจ้าข้าจะไม่ทำอะไรให้เลยก็คงไม่ได้ งั้นเราแวะเมืองหลวงอาณาจักรชูสักหน่อยก็แล้วกัน”จักรพรรดิไป๋ตัวปลอมยิ้มกว้างด้วยท่าทีน่าสงสัยสุดๆ ดวงตาของมันแทบจะเป็นเหรียญทองอยู่แล้วชัดๆ
“จริงหรือขอรับ แบบนั้นท่านพ่อท่านแม่ต้องดีใจมากแน่ๆ”หลินเฟยทำท่าทีดีใจอย่างออกนอกหน้าให้เห็นทันที ความจริงมันสามารถแจ้งเส้นทางให้ท่านแม่และให้ท่านมาดักรอได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเข้าเมืองหลวงการจับกุมมันง่ายกว่านี่นา
.
.
“หยุด”หลังจากเดินทางมาได้พักใหญ่ ในที่สุดขบวนรถก็เดินทางมาถึงอาณาจักรไป๋เสียที แน่นอนว่าไป๋หลินเฟยและขบวนรถต้องเดินทางทะลุอาณาจักรไป๋เข้าไปอีกทีถึงจะเข้าอาณาจักรชูได้
“พวกเจ้าขนคนมาทำอะไรกันมากมาย ได้เดินเรื่องเอาไว้หรือไม่”ทหารที่เฝ้าอยู่ตรงชายแดนถามพลางมองไปยังขบวนรถที่กำลังต่อคิวกันหมายจะเข้ามาในอาณาจักรไป๋ การเข้าอาณาจักรไป๋นั้นไม่ยาก แต่หากทำตัวน่าสงสัยหรือขนคนมาจำนวนมากจนผิดสังเกตเช่นนี้ก็ต้องโดนตรวจสอบเป็นธรรมดา
“พี่ชายทหาร”ทันทีที่นายทหารเข้ามาตรวจ ไป๋หลินเฟยก็ยื่นแผ่นป้ายแผ่นหนึ่งไปให้ทหารคนนั้นทันที แน่นอนว่ามันคือแผ่นป้ายแสดงตัวของคนตระกูลไป๋ที่เคยสร้างเอาไว้ตอนไป๋จูเหวินยังเป็นจักรพรรดิไป๋อยู่ แม้ตอนนี้หลิวเมิ่งจะครองตำแหน่ง แต่ป้ายตระกูลไป๋ก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม
“ชะ เชิญขอรับ เจ้าไปเปิดทางซะ”ทันทีที่เห็นป้ายตระกูลไป๋ เหล่าทหารก็เลิกตรวจค้นทันที แถมยังสั่งลูกน้องให้ไปเปิดทางข้างหน้าอีกด้วย
“โอ้ สมกับเป็นจักรพรรดิไป๋ พวกทหารเปิดทางให้ด้วย”เหล่าชาวบ้านด้านหลังพากันตกใจกันอย่างมากเพราะคิดว่าทหารพากันเปิดทางให้กับจักรพรรดิไป๋ตัวปลอม หารู้ไม่ว่าผู้ที่ทำให้เปิดทางคือไป๋หลินเฟยหลานชายคนเดียวของจักรพรรดิไป๋ตัวจริงนั่นเอง
แน่นอนว่าผู้ที่ตกใจที่สุดคงหนีไม่พ้นจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมและพวกพ้องของมัน ตอนแรกพวกมันคิดจะให้ทหารตรวจสอบตามใจ เพราะพวกมันไม่มีอะไรผิดปกติอยู่แล้ว ไม่นึกเลยว่าแค่ไป๋หลินเฟยนำป้ายแสดงตำแหน่งให้ดูก็เปิดทางให้อย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้
“อ๊ะ…ขออภัยขอรับ ข้าลืมไปว่าข้ามากับปู่จักรพรรดิ แค่เห็นหน้าท่านพวกทหารก็คงเปิดทางให้แล้วแท้ๆ ข้าคงเข้าไปยุ่งมากไปสินะขอรับ”หลินเฟยเห็นใบหน้าอึ้งๆของจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมก็พลันแกล้งทำตัวรู้สึกผิดทันที
“มะ ไม่ ไม่เลยๆ”จักรพรรดิไป๋รีบส่ายหน้าอย่างรีบร้อน เด็กคนนี้เป็นใครกันถึงสามารถทำให้ทหารของอาณาจักรไป๋เปิดทางได้ เช่นนั้นเรื่องผ่านทางอาณาจักรชูคงไม่ใช่เรื่องโกหกแน่ๆ และเรื่องเงินหมื่นเหรียญทองก็คงไม่ใช่เรื่องโกหกเช่นกัน
.
.
.
เมื่อมีป้ายตระกูลไป๋ การเดินทางผ่านอาณาจักรไป๋นั้นก็เป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ว่าจะเดินทางผ่านเขตไหนเพียงไป๋หลินเฟยแสดงป้ายให้พวกทหารดูก็สามารถผ่านทางได้อย่างง่ายดาย ยิ่งเป็นเขตผ่านอาณาจักรไป๋มายังอาณาจักรชูยิ่งแล้วใหญ่ พวกทหารของอาณาจักรชูดูตกใจยิ่งกว่าทหารของอาณาจักรไป๋เสียอีก ทำเอาเวลาเดินทางมาจนถึงเมืองหลวงของอาณาจักรชูเร็วขึ้นเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
“หลินเฟย บ้านของน้าเจ้าอยู่ที่ไหนงั้นหรือ”จักรพรรดิไป๋ตัวปลอมถามพลางมองไปรอบๆเมืองหลวงของอาณาจักรชู ด้วยเพราะอาณาจักรชูล้อมรอบด้วยอาณาจักรไป๋ อู๋ และ ชิน ทำให้เป็นอาณาจักรที่ได้รับผลประโยชน์จากทั้ง 3 อาณาจักรอยู่เรื่อยๆ เมืองหลวงของอาณาจักรชูจึงเป็นหนึ่งในเมืองที่ทันสมัยที่สุดเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพียงแค่เข้าเมืองมาก็ทำเอาจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมงุนงงไปหมดแล้วว่าเส้นทางไหนไปทางไหนกันแน่
“ทางนี้ขอรับ”หลินเฟยเปิดช่องระหว่างภายในรถม้ากับคนขับแล้วชี้ทางเพื่อบอกให้คนขับไปตามทางที่ตนเองบอก ไม่นานรถม้าของพวกจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมก็มาถึงหน้าประตูขนาดใหญ่บานหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจนได้
“นะ นี่นะหรือบ้านพักของน้าเจ้า”จักรพรรดิไป๋ตัวปลอมมองประตูที่สูงกว่าบ้านชั้นเดียวด้วยท่าทีตื่นเต้น คนเช่นไรกันนะถึงมีบ้านใหญ่โตอลังการเช่นนี้ได้
“ถูกต้องขอรับ”หลินเฟยตอบด้วยท่าทียิ้มแย้มทันที
“คุณชายหลินเฟย ครอบครัวของท่านแจ้งแล้วว่าท่านจะมา”ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเดินเข้ามาที่รถม้า เมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ภายในเป็นหลินเฟยจริงๆก็กล่าวต้อนรับและสั่งให้ทหารคนอื่นๆเปิดประตูทันที
“โอ้….”เหล่าชาวเมืองที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยต่างพากันอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก สถานที่ภายในประตูนั้นเหมือนกับหลุดเข้ามาในวังหลวงไม่มีผิด การตกตกแต่งที่สวยงามและยิ่งใหญ่พวกนั้นเพียงได้เห็นก็รู้สึกเป็นบุญตาแล้ว
“หลินเฟย เดินทางเหนื่อยหรือเปล่า”ทันทีที่รถม้ามาจอดที่ขั้นบันไดขนาดใหญ่ ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีเหล่าบ่าวรับใช้ยืนล้มหน้าล้อมหลังอยู่ก็เดินลงมาต้อนรับทันที
“ท่านน้าชู ไม่ได้พบกันนานนะขอรับ”หลินเฟยยิ้มกว้างพลางลงจากรถม้าไปทันที ชายตรงหน้ามันคือจักรพรรดิชูองค์ปัจจุบัน แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลินเฟยทางสายเลือด แต่อาณาจักรชูเป็นพันธมิตรของทั้ง 3 อาณาจักรแถมยังต้องยอมรับด้วยว่าอาณาจักรชูเป็นผู้ได้รับความอนุเคราะห์จากอาณาจักรอื่นๆ ทำให้จักรพรรดิชูต้องเป็นฝ่ายซาบซึ้งเสียมากกว่าที่หลินเฟยยอมให้มันเป็นน้าได้
“ท่านน้ามาทางนี้สิขอรับ ท่านปู่ท่านนี้คือจักรพรรดิไป๋ที่ข้าเล่าให้ฟังไงขอรับ”หลินเฟยว่าพลางพาจักรพรรดิชูมาหาจักรพรรดิไป๋ตัวปลอม
“งั้นหรือ ท่านเองก็เป็นจักรพรรดิสินะขอรับ”จักรพรรดิชูปั้นหน้ายิ้มพลางหัวเราะออกมาด้วยท่าทีสนุกสนานเพราะมันทราบอยู่แล้วว่าภายในวังของมันมีแขกท่านไหนมารอพบจักรพรรดิไป๋ผู้นี้บ้าง
“ท่านปู่จักรพรรดิรีบเข้าไปข้างในเถอะขอรับ ข้าอยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่ได้พบท่านปู่แล้ว”หลินเฟยว่าพลางพาจักรพรรดิไป๋ เหม่ยหลิน และไป๋หลินตัวปลอมเข้าไปในตัววังทันที ส่วนชาวบ้านที่โดนหลอกมาจักรพรรดิชูได้ให้เหล่าข้าหลวงต้อนรับอย่างดีเพราะพวกมันถือว่าเป็นเหล่าชาวบ้านที่ยินดีจะเสียสละช่วยเหลือจักรพรรดิไป๋จากใจ
“ท่านแม่ ข้ามาแล้วขอรับ”หลินเฟยพอมาถึงท้องพระโรงก็พลันเข้าไปหามารดาที่รออยู่ภายในห้องด้วยท่าทีร่าเริงทันที
“ท่านคือจักรพรรดิไป๋สินะขอรับ”ระหว่างที่หลินเฟยกำลังเข้าไปกอดมารดาของตน ชายคนหนึ่งก็เดินเข้าไปหาจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมด้วยท่าทียิ้มแย้มและเป็นมิตรอย่างมาก
“ชะ ใช่แล้ว”จักรพรรดิไป๋ตัวปลอมตอบโดยที่สายตายังไม่หยุดมองไปรอบๆ สำหรับคนธรรมดาอย่างมันการตกแต่งในวังหลวงนั้นช่างตื่นตาตื่นใจจริงๆ
“งั้นหรือขอรับ เป็นเกียรติจริงๆที่ได้พบท่าน”ไป๋จูเหวินยิ้มด้วยใบหน้าอ่อนโยนก่อนจะเชิญจักรพรรดิไป๋ตัวปลอมเข้าไปข้างในด้วยท่าทีเป็นมิตรไร้พิษภัยแม้แต่น้อย