บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 543 สิ้นความยุติธรรม
ตอนที่ 543
สิ้นความยุติธรรม
“จูล่ง หลินเฟย ยายเรียกพวกเจ้ามาวันนี้ก็เพื่อจะตักเตือนในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำลงไป”เหม่ยหลินพูดพลางนั่งลงตรงเก้าอี้ด้านหน้าจูล่งและหลินเฟยที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้น โดยมีหลานฮวาและไป๋หลินยืนอยู่ข้างๆตนเองเหมือนจะทำหน้าที่เป็นศาลตัดสิน
“ท่านยาย ท่านรับสินบนไม่ยุติธรรมเลย”หลินเฟยทำแก้มป่องออกมาด้วยท่าทีงอนๆ เพราะทันทีที่เหม่ยหลินได้รับรูปไปก็เข้าข้างหลานฮวาทันที แบบนี้มันคดโกงชัดๆ
“สินบนอะไรงั้นหรือ”ไป๋หลินผู้เป็นมารดาของหลินเฟยถามพลางหันไปมองมารดาของตนเพื่อจะหาคำตอบ
“…….”เหม่ยหลินไม่ได้ปฏิเสธเรื่องสินบนแต่อย่างไร นางเพียงแอบเอารูปถ่ายของหลินเฟยออกมาให้ไป๋หลินดูนิดหน่อยเท่านั้น
“หลินเฟย เจ้าอย่าได้พูดจาว่าร้ายท่านยายของเจ้า”ไป๋หลินกระแอมกระไอออกมานิดหน่อยก่อนจะยืดอกสั่งสอนบุตรชายด้วยอีกคน
“ท่านแม่ ท่านก็ด้วยงั้นหรือ”หลินเฟยสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นมารดาของตนเองก็เอากับเขาด้วย บ้านนี้ไม่เหลือความยุติธรรมอยู่อีกต่อไปแล้วท่านแม่และท่านยายโดนซื้อไปแล้ว ช่างน่าแค้นใจจริงๆ
“นายหญิง มีอะไรกันงั้นหรือ”ระหว่างโดนไต่สวน สาวๆของจูล่งที่พึ่งจะออกจากหอตำรากันมาก็บังเอิญมาพบสถานการณ์ผิดปกติตรงหน้าเข้าพอดี ภาพจูล่งและหลินเฟยที่กำลังคุกเข่าสำนึกผิดอยู่นั้นช่างเป็นภาพที่แปลกตาจริงๆสำหรับบ้านหลังนี้
“ผิงกั่ว เจ้ามาแล้วหรือ”หลานฮวาเห็นผิงกั่วเดินออกมาด้วยก็พลันเข้าไปกอดนางทันที
“พี่หลานฮวา เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือเจ้าคะ”ผิงกั่วที่เห็นหลานฮวาพึ่งกลับมาก็ดีใจ แต่พอโดนนางกอดด้วยท่าทีเศร้าๆก็ทำให้นางเปลี่ยนมาเป็นประหลาดใจแทน
“ข้า….ข้าโดนน้องจูล่งลวนลาม”หลานฮวาบีบน้ำตาพลางฟ้องความเท็จออกมาทันที ทำเอาผิงกั่วและสาวๆคนอื่นๆต่างตกใจกันเป็นแถว
“พี่หลานฮวา ข้าไม่ได้…..”พอได้ยินเช่นนั้นจูล่งก็รีบลุกขึ้นปฏิเสธข้อกล่าวหาทันที
“หรือเจ้าจะปฏิเสธว่าไม่ได้ล้วงมือเข้ามาที่หน้าอกของข้า”หลานฮวาถามพลางกอดผิงกั่วเอาไว้แน่น แน่นอนว่านางเพียงจะหยอกล้อน้องสาวคนนี้ของนางเท่านั้น
“ระ เรื่องนั้น”จูล่งหน้าซีดเผือดเพราะมันจะบอกว่าไม่ได้ทำก็คงไม่ได้ แต่ที่มันทำไปไม่ได้มีเจตนาจะลวนลามจริงๆนะ
“พี่หลานฮวา เรื่องนี้จะต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่ๆเจ้าค่ะ”ผิงกั่วว่าพลางกุมมือหลานฮวาเอาไว้แน่น
“ใช่ พวกข้ามั่นใจว่าน้องจูล่งไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน”ชางซีที่ได้ยินก็ตกใจเช่นกัน แต่คิดเพียงครู่เดียวก็เข้าใจทันทีว่าจูล่งไม่มีวันทำเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน
“หลานฮวา ข้าเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ เรามาทำความเข้าใจเรื่องนี้กันใหม่เถอะ”ต้าหวานว่าพลางเดินเข้าไปหาหลานฮวาด้วยท่าทีเหมือนจะขอเจรจา ทำเอาหลานฮวาแทบจะหลุดหัวเราะออกมาให้ได้
“พวกเจ้านี่รักน้องจูล่งกันจริงๆเลยนะ”หลานฮวาพูดจบก็ปล่อยผิงกั่วออกจากอ้อมกอด แล้วยิ้มออกมาด้วยท่าทีร่าเริง พวกนางไม่มีใครสงสัยจูล่งกันเลยแม่แต่คนเดียว จะว่าเพราะความซื่อของจูล่งก็คงได้ละมั้ง
“นี่มันเรื่องอะไรกันหรือพี่หลานฮวา”ผิงกั่วเห็นหลานฮวาเปลี่ยนท่าทีเป็นหัวเราะร่าเริงก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่
“เรื่องลวนลามข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง แต่เรื่องที่จูล่งมือไม้ซุกซนนั้นเป็นเรื่องจริงนะ”หลานฮวาหัวเราะพลางมองหน้าจูล่งที่เหมือนกะกินไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทีขบขัน
“จูล่งพยายามเอาม้วนฟิล์มม้วนหนึ่งจากหลานฮวานะสิก็เลยถูกท่านแม่ลงโทษอยู่แบบนี้”ไป๋หลินอธิบาย
“ม้วนฟิล์ม?”ต้าหวานขมวดคิ้วสงสัย ทำไมจูล่งต้องแย่งเอาม้วนฟิล์มจากหลานฮวาด้วย
“เรื่องนั้น….”หลานฮวายิ้มกว้างพลางนำรูปถ่ายสำรองของนางออกมาให้เหล่าสาวๆดู คราวนี้ไม่ใช่แค่มารดาและท่านยายของหลินเฟยเท่านั้นที่ได้เห็นรูป แต่น้าๆทุกคนก็ได้เห็นกันถ้วนหน้าเสียแล้ว
“พี่หลานฮวา….”หลินเฟยรีบตรงเข้าไปแย่งรูปจากมือหลานฮวาทันที แต่น่าเสียดายแม้จะเป็นเวลาเพียงเสี้ยววินาที แต่สายตาของเหล่าผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณนั้นรวดเร็วมาก เหล่าสาวๆได้เห็นรูปกันทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“หลินเฟย เจ้าขอให้จูล่งช่วยแย่งเอาฟิล์มมาจากหลานฮวาสินะ”พอเห็นรูปทุกคนก็แทบจะเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ทำเอาหลินเฟยอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
“นายหญิง แบบนี้ต้องสั่งสอนบ้างแล้วเจ้าค่ะ ไม่อย่างนั้นหลินเฟยต้องโตขึ้นเป็นเด็กไม่ดีแน่ๆ”ต้าหวานว่าพลางมองไปทางเหม่ยหลินหญิงที่ใหญ่ที่มีอำนาจที่สุดในบ้านหลังนี้
“เรื่องนั้นข้าคิดเอาไว้แล้ว”เหม่ยหลินว่าพลางยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเอ็นดู แต่ใบหน้าเอ็นดูเช่นนั้นกลับทำเอาหลินเฟยขนลุกซู่
“หลินเฟย เห็นแก่เจ้าเป็นเด็กยังไม่ทราบความดี ยายจะลงโทษสถานเบา”เหม่ยหลินพูดจบก็หันไปมองเหล่าสาวๆที่โดนซื้อตัวโดยหลานฮวากันจนหมดแล้ว พวกนางพากันพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงราวกับคาดเดาบทลงโทษเอาไว้อยู่แล้ว
“พรุ่งนี้เจ้าต้องไปช่วยยายซื้อของ แน่นอนว่าแม่ของเจ้าและพวกน้าๆของเจ้าจะไปด้วย”ได้ยินเช่นนั้นหลินเฟยก็ทำหน้ามุ่ยออกมาทันที ซื้อของงั้นหรือ พวกท่านคิดอะไรกันทำไมหลินเฟยผู้นี้จะไม่รู้
“พวกท่านรับสินบนตัดสินไม่เป็นธรรม ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อกับท่านตา”หลินเฟยโวยวายออกมาพลางหนีไปหลบหลังไป๋จูล่งที่กลายเป็นพวกพ้องคนเดียวที่เหลืออยู่
“ตาของเจ้ากว่าจะกลับก็อาทิตย์หน้า แล้วท่านพ่อของเจ้าก็ไม่ขัดใจแม่หรอก”ไป๋หลินยิ้มกว้างปิดหนทางหนีของหลินเฟยเสียหมด พวกท่านน้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ลำพังขอแต่น้าจิ้งจอกไม่เข้ามารู้เรื่องด้วยก็ถือว่าดีมากแล้ว
“เอาล่ะ ต่อไปก็โทษของเจ้า”เหม่ยหลินว่าพลางมองมาทางบุตรชายคนเล็กของตนเอง
“เห็นแก่เจ้าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร งั้นขอลงโทษด้วยการตีก้นก็แล้วกัน”เหม่ยหลินพูดจบก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที
“ท่านแม่ ข้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ”จูล่งว่าพลางเดินถอยออกไปนิดหน่อย บทลงโทษเช่นนี้ราวกับลงโทษเด็กไม่มีผิด แน่นอนว่าหลานฮวาไม่ได้ตั้งใจจะให้บทลงโทษร้ายแรงอะไรมากมายอยู่แล้ว ให้จูล่งโดนตีก้นนิดหน่อยก็น่าพอใจไม่น้อย
“ไม่ได้ เมื่อเจ้าทำผิด แม่ก็ต้องลงโทษ”เหม่ยหลินว่าพลางเรียกเอากระบี่ออกมาจากมิติของตนเอง…….
“ท่านแม่ ข้า….”เมื่อมองดีๆแล้ว หลานฮวาก็พึ่งจะเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างจากตัวจูล่ง ปกติมันไม่เคยกลัวอะไร ดาบกระบี่ล้วนไม่ระคายผิวมัน เหตุใดมันถึงกลัวจะโดนมารดาตีนักหนากัน
วูบ…..อยู่ๆพลังของเหม่ยหลินก็พุ่งพรวดขึ้นสูงจนน่าใจหาย พลังของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 10 และพลังอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 10 ต่างพากันกดดันพื้นที่รอบข้างจนทำเอาเหล่าอสูรรอบๆพากันตกใจกันถ้วนหน้า แม้แต่พวกน้าๆเองยังมุ่งหน้าเข้ามาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“……….”ทั้งเหล่าสาวๆทั้งตัวหลานฮวาเองใจหายวาบ นี่คือการตีสั่งสอนบุตรชายของเหม่ยหลินงั้นหรือ…
เพี๊ย!! กระบี่ของเหม่ยหลินหวดโดนแต่ลมเปล่าๆ เพราะจูล่งถอยหลบออกมาก่อนที่กระบี่จะตีถึงตัวเสียก่อน
“จูล่ง แม่บอกแล้วไงว่าตอนโดนลงโทษเจ้าห้ามหลบ”เหม่ยหลินเตือนพลางง้างมือขึ้นอีกรอบ
“ขะ ขอรับ….”จูล่งกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะยืนนิ่งด้วยความจำใจ การตีสั่งสอนบุตรชายคนนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจูล่งมีเกราะที่หนามาก การจะตีให้มันรู้สึกเจ็บเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว
เพี๊ย!! กระบี่ของเหม่ยหลินฟาดใส่จูล่งจังๆทีหนึ่งแม้เสียงที่ออกมาจะเบา แต่สำหรับคนอื่นๆแล้วต่างทราบดีว่ากำลังที่เหม่ยหลินใส่ลงไปนั้นมากขนาดไหน หากเป็นคนอื่นละก็มีหวังตายตั้งแต่กระบี่ยังไม่กระทบร่างเลยมั้ง
“ท่านแม่ ข้าสำนึกผิดแล้ว ไม่ทำอีกแล้วขอรับ”จูล่งโดนตีไปทีหนึ่งก็รีบกล่าวขอโทษออกมาทันที ซึ่งตัวเหม่ยหลินเองก็ไม่คิดจะลงโทษบุตรชายอะไรรุนแรงนักหรอก ตีเพียงทีเดียวก็มากพอแล้ว
“เจ้ารู้ว่าผิดก็ดี คราวหลังอย่าล่วงเกินคนอื่นอีก ต่อให้หลินเฟยจะเป็นคนขอร้องก็ตาม”เหม่ยหลินว่าพลางลดพลังของตนลง ยิ่งจูล่งโตขึ้นการลงโทษมันก็ยิ่งยาก นางใส่แรงลงไปเกือบ 9 ส่วน ยังทำได้แค่ให้มันรู้สึกเจ็บเหมือนโดนตีเท่านั้น มิน่าเล่าพวกท่านน้าถึงได้เคารพอสูรแมงมุมผู้เป็นแม่สามีของนางนัก
.
.
“ท่านน้าไป๋ ขอบพระคุณมากขอรับ”จักรพรรดิชูผู้ได้รับความช่วยเหลือเป็นระยะเวลาสั้นๆจากไป๋จูเหวินเดินออกมาส่งด้วยตนเอง ไม่ว่าเรื่องอะไร ขอเพียงท่านน้าไป๋ผู้นี้ออกหน้าให้ จะเป็นอาณาจักรไป๋ ชิน หรือ อู่ ต่างก็ยอมให้เป็นส่วนใหญ่เสมอ แม้จะต้องเสียเปรียบไปบ้าง แต่หากผู้ขอเป็นไป๋จูเหวินละก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธอยู่แล้ว
“ดูแลตัวเองด้วย ข้าต้องกลับแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางบอกลาจักรพรรดิชูด้วยท่าทียิ้มแย้ม มันขอแรงท่านน้าไก่ฟ้าให้มารับ ทำให้การเดินทางกลับไปเขตอสูรผาไร้ก้นนั้นใช้เวลาไม่มากเลย
“ท่านน้า มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามหลังจากกลับมาถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้ว พอเข้ามาในปราสาทของท่านน้ามังกร สิ่งแรกที่ได้ยินเลยก็คือเสียงหัวเราะของเหล่าสาวๆ ไม่ใช่ว่าตอนแรกพวกนางไม่สนิทกันหรอก แต่เหมือนว่ายามนี้พวกนางดูสนิทสนมกันมากขึ้นหลายเท่าตัวเลย
“ข้าเองก็ไม่รู้หรอก พวกนางไม่ยอมบอกข้า”ไก่ฟ้าหงอนทองตอบพลางส่ายหน้าน้อยๆ
“ท่านพี่ กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”เหม่ยหลินเห็นสามีของตนกลับมาแล้วก็เดินเข้าไปต้อนรับทันที คราวนี้แม้แต่เหม่ยหลินเองก็หัวเราะยิ้มแย้มกับพวกสาวๆไปด้วย ดูแล้วก็อบอุ่นดี แต่เหตุใดหลินเฟยถึงนั่งงอนตุ้บป่องอยู่มุมห้องกันเล่า…
“มีเรื่องดีๆงั้นหรือพวกเจ้าถึงได้ดูคึกคักกันนัก”ไป๋จูเหวินพลางนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งของห้อง
“ท่านพ่อ พวกเราพากันไปเที่ยวตลาดมาเมื่อวันก่อน ก็เลยเจอของสวยๆเต็มไปหมดเลย”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ เดินตลาดวันก่อนสนุกมากเลย จริงสิท่านพี่ ท่านช่วยบอกให้ชิงจื่อพัฒนากล้องถ่ายรูปให้ข้าหน่อยได้หรือไม่ ข้าอยากได้กล้องที่ถ่ายได้ชัดกว่านี้”เหม่ยหลินว่าพลางนำกล้องตัวหนึ่งออกมาถือไว้ในมือ นั่นเป็นกล้องที่ดีที่สุดที่หาได้ตอนนี้แล้ว หากจะถ่ายให้ชัดกว่านี้ก็มีแต่ต้องสร้างรุ่นใหม่ขึ้นมาเท่านั้นเอง
“ได้สิ ได้แน่นอน”ไป๋จูเหวินยิ้มออกมาด้วยท่าทีเต็มใจ เหม่ยหลินเป็นคนไม่ค่อยขอของอะไรจากตนเองเลย นานๆทีนางจะขอของที่ตนอยากได้ทำให้ไป๋จูเหวินต้องตอบรับคำขอของภรรยาสุดที่รักอย่างไม่ต้องสงสัย