บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 553 สมบัติแห่งฮัวกิง
ตอนที่ 553
สมบัติแห่งฮัวกิง
“อย่างที่บอก ข้าได้ยินมาว่าที่ฮัวกิงแห่งนี้มีสมบัติล้ำค่าอยู่ และข้าก็อยากจะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”หลินเฟยที่เรียกพวกโจรเข้ามานั่งคุกเข่าตรงหน้าตนเองพูดด้วยท่าทีจริงจังเป็นอย่างมากทำเอาเหล่าโจรที่หัวหน้าพึ่งถูกจัดการไปง่ายๆได้แต่คุกเข่าไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ….นายหญิง สมบัติเกือบทั้งหมดของกลุ่มเราอยู่ที่นี่หมดแล้วนะขอรับ”โจรคนหนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ หากไม่ตอบก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะโมโหทำร้ายตนเองได้แต่หากตอบไม่ถูกใจก็อาจจะโดนทำร้ายเช่นกัน
“ใครเป็นนายหญิงเจ้าไม่ทราบ เจ้าไม่เห็นหรือยังไงว่าข้าเป็นชาย”หลินเฟยถอนหายใจเฮือกออกมาด้วยท่าทีเหนื่อยๆ ผู้คนตามรายทางก็เรียกมันว่าแม่ๆนางๆไม่เลิกจนมันขี้เกียจจะอธิบายแล้ว แต่มาเรียกนายหญิงต่อหน้าแบบนี้มันสมควรจะสั่งสอนสักหน่อยดีหรือไม่…
“ขออภัยขอรับ ข้าน้อยมีตาหามีแววไม่”ชายคนนั้นรีบคุกเข่าขอโทษทีทันด้วยความกลัวตาย แต่ในใจก็ยังตกใจเช่นเดียวกับเหล่าโจรรอบๆเพราะต่อให้หลินเฟยสวมใส่ชุดผู้ชาย รวบผมมัดเอาไว้เช่นที่ผู้ชายคนอื่นทำก็ยังดูเหมือนผู้หญิงอยู่ดี อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยต่อให้ตัดผมเสียสั้นก็ยังไม่เหมือนผู้ชายอยู่ดีนั่นล่ะ
“นายท่าน สมบัติทั้งหมดของพวกเราอยู่ที่นี่แล้วจริงๆ พวกเราไม่ได้รับอนุญาตให้แตะต้องสมบัติพวกนี้หรอกขอรับ”เหล่าโจรต่างพากันพยักหน้าเพื่อจะยืนยันสิ่งที่สหายของพวกตนพูด เกาจุนเป็นพวกบ้าสมบัติ ตลอดชีวิตมันปล้นฆ่าและชิงสมบัติมาเป็นของตนเองแต่กลับไม่ยอมใช้สมบัติพวกนี้เลย แต่อย่างว่าพวกมันเป็นโจรที่ปกครองเมืองเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้ออะไรอยู่แล้ว ทำให้สมบัติทั้งหมดอยู่ในบ้านของเกาจุนทั้งหมดอย่างที่เห็น
“ไม่ทราบว่านายท่านกับ….”โจรคนหนึ่งพูดก่อนจะหันไปทางชิวซุยกับหลานฮวา พวกนางเองก็เป็นสาวงามกันทั้งนั้น แต่….พวกนางเป็นผู้หญิงแน่หรือเปล่า
“พวกข้าเป็นผู้หญิงนะ”เหมือนจะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ไป๋ชิวซุยเลยตอบออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางพวกนางจะชินแล้วเวลาคนพึ่งรู้ว่าหลินเฟยเป็นผู้ชายแล้วจะหันมาสงสัยชิวซุยที่หน้าตาคล้ายๆกันด้วย
“อะ..โอ้ นายท่านกับ..คุณหนูทั้งสองกำลังตามหาสมบัติแบบไหนหรือขอรับ”โจรคนนั้นถามพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา ท่าทางคราวนี้มันจะเรียกได้ถูกใจหลินเฟยแล้วอีกฝ่ายเลยไม่มีท่าทีโมโหอะไร
“ข้าได้ยินว่าสมบัติของฮัวกิงเป็นของที่เลื่องลือมาก มันมีสีน้ำตาลเข้ม และมีขนาดเท่าผลองุ่น”หลินเฟยตอบพลางมองไปรอบๆห้อง ตอนนี้สมบัติของเกาจุนถูกเอามากองรวมกันที่กลางห้องหมดแล้ว ไอ้ของที่มีสีน้ำตาลแล้วมีขนาดเท่าผลองุ่นก็มีอยู่หรอก แต่ไม่ใช่ของพวกนั้นเลย
“สีน้ำตาล ขนาดเท่าผลองุ่น”พวกโจรต่างมองหน้ากันด้วยท่าทีสับสน คำจำกัดความมันออกจะกว้างไปหน่อย มันสามารถเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่ลูกเหรียญทองแดงที่มีสีน้ำตาลแดง แต่ในห้องนี้มีเหรียญทองเป็นหมื่นนายท่านผู้นี้จะมาหาเหรียญทองแดงไปทำไมกัน
“หรือว่าจะเป็นสิ่งนี้ขอรับ”ชายคนหนึ่งถามพลางนำของสิ่งหนึ่งออกมา มันคืออำพันสีเข้มที่สีเหลืองนวลดูเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆแล้ว
“ไม่ใช่หรอก ท่านตาบอกว่ามันมีกลิ่นหอมมาก เจ้านี่ไม่มีกลิ่นเลย”ชิวซุยตอบออกมา แม้จะไม่จมูกดีเท่ากับพ่อแต่จมูกของพวหลินเฟยและชิวซุยก็ดีกว่าคนปกตินิดหน่อยละนะ
“กลิ่นหอมหรือขอรับ หรือว่าพวกท่านจะมาหาพวกของกิน….”เหล่าโจรมองหน้ากันด้วยท่าทีอึ้งๆสมบัติมากมายมหาศาลกองอยู่ตรงหน้า แต่พวกมันกลับกำลังมองหาของกินงั้นหรือ
“อ่อ ข้ายังไม่ได้บอกสินะ สมัยก่อนท่านตาคนหนึ่งของข้าเคยเดินทางผ่านมายังเมืองแห่งนี้ แล้วได้กินของที่ทำจากวัตถุดิบลึกลับอย่างหนึ่ง ท่านบอกว่ามันหอมและอร่อยมาก พวกข้าก็เลยเดินทางมาตามหาดู”หลินเฟยตอบพลางมองยังเหล่าโจรทั้งหลาย ท่าทางพวกมันจะอึ้งกันจริงๆจังๆเลยเมื่อได้ยินคำตอบของพวกหลินเฟย
“นายท่าน ข้าขอบังอาจถาม…..ของกินที่ท่านว่ามีรสขมเล็กน้อยใช่หรือไม่”โจรคนหนึ่งถามพลางทำสีหน้าครุ่นคิดเหมือนจะเริ่มคิดออก
“ดูเหมือนจะใช้ แต่มันผ่านมานานแล้วท่านตาเลยนึกรายละเอียดได้ไม่หมด แต่ท่านบอกว่าพอทำเสร็จแล้วมันจะมีสีน่ำตาลดำเลยทีเดียว”ได้ยินที่หลินเฟยบอก โจรคนนั้นก็เหมือนจะยิ่งมั่นใจขึ้นมาทันที
“นายท่านข้ารู้แล้วว่านายท่านหมายถึงอะไร”ชายคนนั้นยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีดีใจ หากทำให้หลินเฟยพอใจได้อย่างน้อยพวกมันก็ไม่ต้องโดนทำอะไรละนะ
“ทำไมข้าถึงลืมไปได้ สิ่งนั้นคือสมบัติของฮัวกิงจริงๆ เพราะมันคือพืชที่ทำรายได้อันดับหนึ่งของเมือง พวกท่านเองก็น่าจะเห็นแล้วพวกมันถูกปลูกเอาไว้รอบๆเมืองเลยขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นหลินเฟยก็ขมวดคิ้วทันที ตอนเข้าเมืองมามันไม่เห็นมีต้นไม้ต้นไหนออกผลอย่างที่มันบอกเลย
“รอบเมืองมีแต่ผลไม้หน้าตาแปลกๆที่มีผลสีเหลืองไม่ใช่หรือ แถมผลของมันก็ใหญ่กว่าฝ่ามือข้าเสียอีก”หลินเฟยตอบออกมาเพราะก่อนเข้าเมืองมันก็เห็นพวกต้นไม้รอบๆอยู่ๆแล้ว
“นั่นล่ะขอรับสิ่งที่พวกท่านตามหา แต่เป็นส่วนเมล็ดของพวกมันขอรับ”โจรคนนั้นตอบพลางยิ้มกว้างออกมา
“เมล็ดงั้นหรือ…..”หลินเฟยเลิกคิ้วขึ้นช้าๆ ท่าทางเจ้าโจรคนนี้จะมั่นใจมาก งั้นก็ลองเชื่อมันหน่อยก็คงไม่เลว
“หรือว่าเจ้าหมายถึงเมล็ดโกโก้งั้นหรือ”ชายอีกคนถามด้วยท่าทีประหลาดใจ จะว่าไปก่อนมันจะมาเป็นโจรและยึดเมืองฮัวกิงจนกลายเป็นเมืองที่ถูกโจรปกครอง เมืองฮัวกิงก็มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตโกโก้ๆจริงๆ ในเมืองอื่นๆทางตอนใต้ต่างรับผลผลิตของเมืองฮัวกิงกันทั้งนั้นทำให้เมืองเล็กๆที่อยู่ห่างจากทะเลทรายไม่มากแห่งนี้ค่อนข้างร่ำรวยทีเดียว
“ใช่ เจ้านั่นล่ะ ข้าได้ยินว่าพอทำออกมาเป็นขนมแล้วอร่อยมากทีเดียว”ชายคนแรกตอบพลางยิ้มออกมา
“นายท่าน สิ่งที่พวกท่านตามหาน่าจะเป็นเมล็ดโกโก้ขอรับ สิ่งนั้นคือส่วนเมล็ดของผลไม้สีเหลืองที่ท่านเห็นภายนอกขอรับ เมื่อนำมาบ่ม ตากแห้ง และนำไปป่นเป็นผงแล้วจะได้สิ่งที่ชื่อว่าผงโกโก้ขอรับ”ชายคนนั้นพูดสรุปออกมาชัดเจน ทำให้หลินเฟยสั่งให้พวกโจรพามันไปดูว่าสิ่งที่เรียกว่าโกโก้นั้นคืออะไรทันที
“น่าจะเป็นเจ้านี่ล่ะ”เมื่อพวกโจรพาตนเองมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ทำอาชีพเป็นคนขายเมล็ดโกโก้ ตัวชาวบ้านคนนั้นก็รีบนำผงโกโก้ที่ชงเป็นน้ำดื่มมาให้หลินเฟยได้ทดลองดื่มดู และมันก็เป็นอย่างที่ท่านน้าบอกจริงๆ กลิ่นของมันหอมและมีรสขมนิดหน่อย เพียงแต่….
“ไม่เห็นหวานเหมือนที่ท่านตาบอกเลยนี่นา”ชิวซุยว่าพลางทำหน้าเบ้ออกมา โกโก้ที่ไม่ได้ผสมอะไรเลยนั้นมีรสขมโดดออกมาอย่างชัดเจน แม้จะกลิ่นหอมดีแต่กลับไม่ถูกปากชิวซุยเท่าไหร่
“คุณหนู จริงๆแล้วผงโกโก้พวกนี้นิยมผสมกับนมและน้ำตาลขอรับ เพียงแต่ของพวกนั้น…..”เหล่าโจรพากันมองหน้ากันไปมา เพราะพวกมันยึดเมืองเอาไว้ก็เลยไม่มีพ่อค้ามาทำการซื้อขายด้วยเลย ทำให้เมืองที่ไม่มีการเลี้ยงสัตว์อย่างวัวหรือปลูกพืชอย่างอื่นไม่สามารถหาของพวกนั้นเข้ามาได้เลย
“…….งั้นพี่จะไปหาซื้อมาแล้วกัน พวกเจ้ารออยู่ที่นี่”หลินเฟยว่าพลางนำกุญแจรถออกมาเตรียมจะเดินไปที่หน้าเมือง ตัวหลินเฟย หลานฮวา รวมทั้งชิวซุยต่างใช้มิติส่วนตัวกันได้ทั้งนั้น แต่ใครจะไปคิดว่าต้องใช้นมกับน้ำตาลในที่แบบนี้ด้วยทำให้พวกมันไม่มีใครเอาของพวกนั้นติดตัวมาเลย
บรื้นนนน…เพียงชั่วอึดใจเดียวหลินเฟยที่อัดหัวหน้าของพวกมันก็ขับรถจากไปเสียแล้ว แต่มันกลับทิ้งหญิงสาว 2 คนเอาไว้กับพวกโจรเสียอย่างนั้นทำเอาพวกโจรพากันงงและหันมามองหน้ากันทันที
“งั้นพวกเราก็ไปรอในบ้านกันนะเหมาเหมา”ไป๋ชิวซุยยิ้มพลางอุ้มเจ้าเหมาเหมาเข้าไปในบ้านของเกาจุนพร้อมกับหลานฮวา ก่อนหน้านี้นั้นพวกนางเดินทางผ่านเมืองๆหนึ่งมา เท่าที่เห็นเมืองนั้นก็มีนมและน้ำตาลขาย หลินเฟยก็คงแค่ขับรถไปเมืองก่อนหน้านี้แล้วกลับมาในวันพรุ่งนี้เท่านั้นเอง
“เห้ย แบบนี้ก็เหลือแต่พวกผู้หญิงแล้วสิ”โจรคนหนึ่งพูดพลางหันไปมองเพื่อนของมัน
“แต่ถ้าเจ้านั่นกลับมาล่ะ”ชายอีกคนถามพลางหันไปมองเจ้าคนที่เริ่มคิดชั่วออกมา
“เดินทางไปเมืองข้างๆต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์ กว่าเจ้านั่นจะกลับมาเราก็เอาสมบัติหนีไปหมดแล้ว”ชายคนนั้นตอบพลางยิ้มชั่วร้ายออกมาทำเอาพวกโจรต่างเริ่มคิดไปในทางเดียวกันเพราะพวกมันสัมผัสพลังวิญญาณจากตัวพวกนางไม่ได้เลย
“ช่างโง่จริงๆ ปล่อยผู้หญิงเอาไว้แล้วออกไปซื้อของเนี่ยนะ….”
“เจ้านี่นอนเกะกะจริงๆ”ยังไม่ทันได้ลงมือทำอะไร อยู่ๆหลานฮวาก็เดินผ่านร่างของเกาจุนที่ยังไม่ได้สติ แม้จะฝีมืออ่อนด้อยแต่เกาจุนก็เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณตัวใหญ่อยู่ดี ทำให้มันนอนขวางทางเข้าบ้านไปกว่าครึ่งเลย
“พวกเจ้า เอาไปเก็บซะ”หลานฮวาพูดพลางยกร่างของเกาจุนขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะโยนเกาจุนใส่พวกโจรราวกับโยนหมอนไม่มีผิด ทำเอาพวกโจรตะลึงตาค้างกันทันที
“อ่อ แล้วถ้าคิดจะทำอะไรแปลกๆละก็…..”หลานฮวาพูดพลางปล่อยพลังวิญญาณของตนออกมาเจ้าพวกนี้ท่าทางจะยังไม่ทิ้งสันดานโจร หลังจากเสร็จเรื่องแล้วคงต้องจับมัดให้ชาวบ้านเอาส่งทางการเสียแล้ว
“มะ ไม่ขอรับนายหญิง พวกเราไม่แม้แต่จะคิดอะไรเลยขอรับ”พวกโจรสัมผัสพลังวิญญาณของหลานฮวาได้ก็พากันหดหัวทันที
“พี่หลานฮวา ท่านว่าท่านแม่จะชอบหรือเปล่า”ชิวซุยถามพลางเดินเข้าไปในตัวบ้านด้วยท่าทีสบายๆ น่าเสียดายพลังระดับหลานฮวาไม่ทำให้ชิวซุยสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย
“ข้าก็ไม่แน่ใจ คงต้องรอให้หลินเฟยเอานมกับน้ำตาลมาแล้วลองกินดูอีกที แต่ท่านไก่ฟ้าบอกมันอร่อยมากเลยนะ คงไม่ผิดหรอก”หลานฮวาตอบพลางมองไปทางพวกโจรด้วยสายตาเย็นยะเยือกราวกับจะบอกว่าหากเข้ามาในบ้านตายสถานเดียวไม่มีผิด