บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 560 เลี้ยงข้าว
ตอนที่ 560
เลี้ยงข้าว
“เหมาเหมา ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้นก็ได้”ชิวซุยที่นั่งอยู่ในร้านอาหารพูดขณะนั่งดื่มชาระหว่างรอให้ท่านน้าประชุมเสร็จ แต่ไม่ทราบเพราะตอนนี้พวกตนอยู่ต่างแดนหรือเพราะเหลือแค่เหมาเหมากับชิวซุยตามลำพังเท่านั้น เหมาเหมาที่อยู่ในร่างของแมวถึงได้ทำท่าทีขึงขังราวกับจะคอยเฝ้ายามไม่ให้ใครมาทำอะไรชิวซุยได้เสียอย่างนั้น
“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะคุณหนู ตอนนี้ทั้งท่านหลานฮวาทั้งท่านหลินเฟยไม่อยู่ ข้าจะปกป้องคุณหนูเองเจ้าค่ะ”เหมาเหมาตอบพลางก้มหน้าลงจ้องไปรอบๆร้านราวกับจะจับตามองทุกอย่างไม่ให้เกิดเรื่องผิดปกติอะไรเลย
“อย่าคิดมากสิ ไม่มีใครทำอะไรเราหรอก”ชิวซุยว่าพลางเอามือลูบหัวของเหมาเหมาเบาๆ น่าเสียดายนิดหน่อยที่เหมาเหมาอยู่ในร่างเสือไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงได้เล่นกับขนของนางแน่ๆ
“ข้าจะไม่ยอม…..ครืดดด”เหมาเหมายังพูดไม่ทันจบอยู่ๆชิวซุยก็เริ่มใช้นิ้วเกาตรงหลังหูของนางเสียอย่างนั้นทำเอานางเผลอส่งเสียงในลำคอออกมาตามประสาสัตว์ตระกูลแมวเลย
“คุณหนู อย่า………..”เหมาเหมาพยายามต่อต้านแต่ดูเหมือนเวลาหลายวันที่ชิวซุยอยู่กับเหมาเหมามาจะทำให้นางรู้หมดแล้วว่าเหมาเหมาชอบให้เกาตรงไหน แม้ปากจะบอกว่าอย่าแต่ตาของเหมาเหมากลับหลับลงด้วยท่าทีเคลิบเคลิ้มเสียอย่างนั้น ทำเอาลูกค้าในร้านที่อยู่รอบๆพากันหันมามองชิวซุยพร้อมอมยิ้มด้วยท่าทีเอ็นดูกันถ้วนหน้า
“สวัสดีน้องสาว เจ้ามาคนเดียวงั้นหรือ”ขณะกำลังเล่นกับเหมาเหมาอยู่นั้น อยู่ๆที่ด้านหลังของชิวซุยก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาด้วยท่าทียิ้มแย้ม ดูแล้วอีกฝ่ายน่าจะอายุห่างจากชิวซุยไม่มาก คงอายุพอๆกับหลินเฟยกระมัง
“ข้ามากับเหมาเหมานี่ไง”ชิวซุยตอบพลางอุ้มเหมาเหมาขึ้นมาให้อีกฝ่ายเห็น
“แมวงั้นหรือ แบบนั้นก็เท่ากับว่ามาคนเดียวไม่ใช่หรือไง”ชายหนุ่มตรงหน้าหัวเราะพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสุภาพ อีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่มผู้มีเรือนผมสีทองสวยแต่งกายด้วยชุดสุภาพดูดีเหมือนจะเป็นคุณชายมาจากที่ไหนสักที่เลย
“ถ้านับแค่มนุษย์ละก็….ใช่”ชิวซุยทำท่านึกครู่หนึ่งก่อนจะทวนคำถามของอีกฝ่ายดีๆ จะว่าไปอีกฝ่ายก็ถามว่ามาคนเดียวงั้นหรือ นั่นหมายความว่าถามแค่คนสินะ
“พอดีข้ารู้จักร้านอาหารดีๆในเมืองนี้ เจ้าสนใจจะไปกับข้าหรือเปล่า”ชายหนุ่มถามด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร แม้ชิวซุยจะยังเด็ก แต่ความงามของนางก็ได้จากท่านแม่มาเยอะมาก ไม่แปลกเลยที่จะมีคนเข้ามาจีบแบบนี้
“แต่ท่านน้าบอกว่าห้ามไม่ให้ข้าไปไหนกับคนแปลกหน้า”ชิวซุยตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ ดูเหมือนนางจะไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายอะไร และนึกว่าอีกฝ่ายแค่จะชวนไปร้านอาหารจริงๆเท่านั้น
“งั้นข้าขอแนะนำตัว ข้าคือ อดัม เบลลิ่ง แล้วเจ้าล่ะ”ชายหนุ่มตอบพลางเอามือทาบที่อกตนเอง แม้จะอยู่ในเมืองโรซารี่ แต่ชื่อตระกูลเบลลิ่งนั้นนับว่ามีชื่อเสียงมากทีเดียว พวกมันเป็นตระกูลใหญ่ที่เปิดสาขาร้านค้าอยู่ถึง 3 เมืองและในเมืองโรซารี่เองก็มีร้านค้าของตระกูลเบลลิ่งเช่นกัน
“ชิวซุย”ชิวซุยตอบเสียงเบาพลางยิ้มบางๆออกมา ชื่อสกุลไป๋นั้นเป็นชื่อที่ไม่ควรพูดออกไปโดยไม่คิด เพราะหากพูดออกไปคนในร้านได้แตกตื่นแน่ๆ ยิ่งเป็นเมืองโรซารี่ของท่านลุงเพิร์ลด้วยแล้ว
“เท่านี้เราก็ไม่ใช่คนแปลกหน้ากันแล้ว งั้นข้าขอชวนเจ้าอีกครั้งได้หรือไม่”อดัมเสนอคำชวนให้ชิวซุยอีกครั้งด้วยรอยยิ้มสุภาพเช่นเดิม ตัวมันไม่ได้มีท่าทีคุกคามหรือเกินเลยจนทำให้ชิวซุยอึดอัดแต่อย่างไรเสียด้วย
“งั้น….ก็ได้”ชิวซุยพยักหน้าพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีใสซื่อ
.
.
“เอาเลย สั่งได้เต็มที่เลยนะ”หลังจากชิวซุยตกลง อดัมก็พาชิวซุยมาที่ร้านอาหารขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโรซารี่ทันที ร้านอาหารแห่งนี้โด่งดังที่สุดในเมืองและราคาแพงที่สุดด้วย การจะมานั่งในร้านแบบนี้ได้ต้องเป็นคนมีฐานะพอสมควรเลย
“งั้น….เหมาเหมาเจ้าอยากกินอะไรไหม”ชิวซุยถามพลางมองไปทางเจ้าแมวสีขาวที่ตนพามาด้วย แม้การนำสัตว์เข้ามาในร้านอาหารจะเป็นเรื่องไม่ดี แต่เพราะเจ้าของร้านเห็นแล้วว่าผู้มาคือไป๋ชิวซุยหลานสาวคนเล็กแห่งตระกูลไป๋ เจ้าของร้านก็เลยสั่งให้ลูกน้องจัดที่นั่งพิเศษที่แยกออกมาจากแขกคนอื่นๆทันที แน่นอนว่าอดัมนั้นไม่ทราบเรื่องนี้เลย
“เหมียว…”เหมาเหมาอยู่ๆก็ไม่พูดไม่จา ร้องเสียงแมวออกมาเสียอย่างนั้น นางกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะก่อนจะคาบเอาเมนูของทางร้านมากางตรงหน้าชิวซุย ก่อนจะใช้อุ้งมือขาวๆของนางลากตั้งแต่เมนูแรกไปจนถึงเมนูสุดท้ายเลย
“หมดนี่เลยเหรอ”ชิวซุยถามพลางมองเหมาเหมาด้วยท่าทีสงสัย ส่วนอดัมนั้นได้แต่กะพริบตาปริบๆเพราะเมนูอาหารของที่นี่แพงมาก มันนึกว่าชิวซุยจะเกรงใจสั่งอย่างสองอย่างเท่านั้นเองเสียอีก
“น้องชิวซุย สั่งเยอะแบบนั้นจะกินหมดงั้นหรือ”อดัมถามด้วยท่าทีลังเล หากสั่งเยอะขนาดนั้นไม่ใช่แค่ค่าอาหารจะบานปลายไปมาก แต่ยังจะเหลืออีกต่างหาก
“เหมียว”เหมาเหมาร้องออกมาพลางยืดอกขึ้นด้วยท่าทีมั่นใจ
“เหมาเหมาบอกว่าหมดเจ้าคะ”ชิวซุยตอบด้วยรอยยิ้มสบายใจเพราะร้านอาหารแห่งนี้นางมาหลายครั้งแล้ว เรื่องราคานางไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
“งะ งั้นหรือ”อดัมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเรียกพนักงานมาสั่งอาหารตามที่ชิวซุยต้องการ หรือว่านางต้องการจะทดสอบตัวมันกันนะ แต่หญิงสาวที่งดงามเช่นนี้หากได้มาเป็นคู่ครองต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน เวลาควงนางไปที่ไหนก็คงมีแต่คนมองด้วยความอิจฉาแน่ๆ เมื่อคิดได้แบบนั้นอดัมก็เลยตัดสินใจทำตามที่ชิวซุยต้องการ
“………..” หลังจากสั่งอาหารทั้งหน้าไป ไม่นานพนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็วราวกับจงใจทำให้โต๊ะของชิวซุยก่อนเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าทั้งชิวซุยทั้งอดัมต่างกินอาหารกันจนอิ่ม แต่ที่อดัมอึ้งคือเจ้าแมวสีขาวที่ชิวซุยอุ้มอยู่นั้นกวาดอาหารที่สั่งมาจนหมดได้จริงๆเสียด้วย
“เหมาเหมาอิ่มหรือเปล่า”ชิวซุยถามพลางเลิกคิ้วสงสัย แน่นอนว่าร่างเดิมของเหมาเหมาเป็นเสื้อขนาดใหญ่มาก อาหารแค่นี้ไม่เติมเต็มกระเพาะของนางจนเต็มได้หรอก
“เหมียว…”เหมาเหมาเลียริมฝีปากพลางเหล่มองมาทางอดัมนิดหน่อย เห็นอีกฝ่ายทำท่าอึ้งๆไปก็คิดว่าแกล้งแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว
“น้องชิวซุย ในเมืองโรซารี่มีร้านค้ามากมาย เจ้าสนใจจะไปเดินเล่นกับข้าหรือไม่”อดัมถามพลางยิ้มออกมา พวกสาวๆมักจะชอบการซื้อเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับเสมอ แน่นอนว่าชิวซุยก็ไม่ถือเป็นข้อยกเว้น
“แต่ตอนเย็นข้าต้องกลับไปหาท่านน้าด้วยสิ ถ้าแค่ครู่เดียวละก็….”ชิวซุยตอบด้วยท่าทีลังเล ตอนแรกนางแค่ออกมาหาร้านนั่งระหว่างรอท่านน้าเท่านั้นเอง
“งั้นเราเดินตามร้านระหว่างทางกลับดีไหม พอเดินเสร็จก็ถึงร้านที่ข้าเจอเจ้าพอดี”อดัมตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสุภาพ ระหว่างทานอาหารอดัมได้พูดคุยกับชิวซุยหลายเรื่อง ดูแล้วนางเหมือนเป็นเด็กใสซื่อไม่ทันคนหากสามารถสนิทสนมกับนางได้ การข้ามเส้นไปเป็นคนรักท่าทางจะไม่ยาก
“เจ้าค่ะ”ชิวซุยได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ นางกำลังอยากได้ชุดให้เหมาเหมาอยู่พอดีเลย
“คุณลูกค้า นี่เป็นค่าอาหารขอรับ”หลังจากตกลงกันเสร็จในที่สุดค่าอาหารของชิวซุยก็มาเสียที แต่เมื่อเห็นจำนวนตัวเลขที่ต้องจ่ายแล้วอดัมก็ถึงกับแอบหนาวสันหลังขึ้นมาน้อยๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นะร้านอาหารชื่อดังแถมยังสั่งมันทุกรายการอีก
“ทั้งหมดเท่าไหร่หรือเจ้าคะ”ชิวซุยถามพลางนำกระเป๋าเงินของตนเองออกมาจากมิติส่วนตัว ตอนชวนอดัมไม่ได้บอกว่าจะเลี้ยงแถมอาหารเกือบทั้งหมดชิวซุยก็สั่งให้เหมาเหมาด้วย นางเลยจะจ่ายค่าอาหารด้วยตนเอง
“มะ… ไม่ต้องหรอกน้องชิวซุย”อดัมเห็นแบบนั้นก็รีบส่ายหน้าช้าๆก่อนจะวางตั๋วเงินให้อีกพนักงานไปทันที ขืนให้ชิวซุยจ่ายเองคงโดนมองว่าไม่ได้เรื่องแน่ๆ ที่ชิวซุยทำท่าจะจ่ายเองแบบนั้นคงเป็นการทดสอบอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ผู้หญิงสวยๆนี่ช่างร้ายกาจยิ่งนัก
.
.
“เหมาเหมา อย่าดิ้นสิ”ชิวซุยพูดขณะกำลังสวมเสื้อผ้าให้เหมาเหมาที่อยู่ในร่างแมวด้วยท่าทีสนุกสนานหลังจากออกมาจากร้านอาหารแล้วชิวซุยก็ขอเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าสำหรับเด็กอยู่ และเลือกชุดน่ารักๆมาให้เหมาเหมาใส่หลายชุดทีเดียว
“เอ่อ คุณลูกค้า….”หญิงสาวพนักงานของร้านมีท่าทีลำบากใจทันทีเมื่อเห็นชิวซุยเอาชุดไปให้แมวใส่ ไม่ทราบเพราะนางติดนิสัยมาจากพวกน้าๆกับพวกท่านแม่และท่านยายหรือเปล่าเลยชอบพวกเสื้อผ้าสวยๆมากทีเดียว
“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าเลือกตัวที่ถูกใจได้หรือเปล่าเจ้าคะ”พนักงานสาวถามพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา เสื้อผ้าสำหรับเด็กนั้นต้องตัดเย็บขึ้นมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะทำให้ราคาค่อนข้างแพงกว่าชุดผู้ใหญ่เสียอีกแถมชุดที่ชิวซุยเลือกยังเป็นชุดราคาแพงทั้งนั้น หากนางลองแล้วไม่ซื้อคงสร้างความลำบากใจให้พนักงานสาวแน่ๆ
“เอาทั้งหมดเลยเจ้าค่ะ”ชิวซุยตอบพลางนำเสื้อผ้าที่เอาให้เหมาเหมาลองแล้วมาพับรวมกันก่อนจะเอาไปวางที่เคาน์เตอร์คิดเงินทันที
“เอ๊ะ หมดเลย…”พนักงานสาวกะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีตกใจ ไม่นึกว่าจะมีคนซื้อเสื้อผ้าให้สัตว์เลี้ยงมากมายขนาดนี้
“น้องชิวซุย ข้าจ่ายให้เองนะ”อดัมว่าพลางเดินเข้าไปจ่ายเงินก่อนที่ชิวซุยจะนำกระเป๋าเงินออกมาเสียอีก
“ขอบคุณเจ้าค่ะ”ชิวซุยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีดีใจ แต่ถึงอย่างนั้นอดัมก็ได้รู้ว่าการซื้อเสื้อผ้าเด็กนั้นช่างเสียเงินเยอะจริงๆก็คราวนี้นี่ล่ะ
.
.
“อันนี้เหมาะกับเหมาเหมาเลย”หลังจากเลือกซื้อเสื้อผ้าแล้ว ชิวซุยก็ตรงเข้าร้านเครื่องประดับต่อทันที แถมยังอุ้มเหมาเหมาเข้าไปเลือกดูสร้อยคออีกต่างหาก
“……..”พริบตาที่เห็นราคาของเครื่องประดับที่ชิวซุยคิดจะซื้ออดัมก็เหงื่อแตกพลักทันทีเพราะตนเสียค่าอาหารและค่าเสื้อผ้าไปเยอะมาก แถมเครื่องประดับที่ชิวซุยกำลังดูนั่นราคาแทบไม่ต่างจากสร้อยคอที่พ่อของมันซื้อให้เป็นของขวัญครอบรอบแต่งงานให้แม่ตนเองเลยไม่ใช่หรือ ของแพงแบบนั้นนางจะเอาไปให้แมวใส่เนี่ยนะ
“งั้นขอ ชิ้นนี้กับชิ้นนี้เจ้าค่ะ”ชิวซุยที่กำลังเพลินกับการเลือกต่างหูและสร้อยคอให้เหมาเหมาไม่ได้เห็นเลยว่าหน้าของอดัมนั้นซีดแล้วซีดอีก ก่อนหน้านี้ยังพอว่า แต่นางคิดจะให้มันจ่ายค่าเครื่องประดับแพงระยับเช่นนี้ให้จริงๆงั้นหรือ
“น้องชิวซุย ข้า….”อดัมทำท่าจะจ่ายเงินให้เช่นเดิม แต่พอเห็นจำนวนตัวเลขที่ติดอยู่บนเครื่องประดับแต่ละชิ้นแล้วก็ได้แต่ยืนอึ้งเพราะเงินของมันไม่พอจะซื้อแม้แต่ชิ้นเดียวต่อให้เอาค่าอาหารและค่าเสื้อผ้าก่อนหน้านี้มารวมด้วยก็ตาม
“มีอะไรหรือเจ้าคะ”ชิวซุยถามพลางนำกระเป๋าเงินของตนเองออกมา นางเพียงอยากซื้อของให้เหมาเหมาเท่านั้นไม่เคยร้องขอให้อดัมเลี้ยงเลยแม้แต่คำเดียว และการเลือกซื้อเครื่องประดับครั้งนี้นางก็ไม่คิดจะให้อดัมจ่ายอยู่แล้วด้วย
“……..”อดัมมองกระเป๋าเงินในมือของชิวซุยด้วยท่าทีประหลาดใจ นางจะจ่ายค่าเครื่องประดับพวกนั้นจริงๆงั้นหรือ
“มะ…. ไม่มีอะไร”อดัมตอบพลางหลบสายตาไปทางอื่น น่าเสียดายมันคงจ่ายเงินให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
“นี่เจ้าคะ”เมื่อเห็นว่าอดัมไม่ได้มีเรื่องจะคุยชิวซุยก็หยิบตั๋วเงินจากในกระเป๋าส่งให้พนักงานทันที พริบตานั้นอดัมถึงได้ทราบว่าแท้จริงแล้วชิวซุยไม่ได้ทำเป็นทดสอบมันเลย เพราะทันทีที่เปิดกระเป๋าเงินออกมาในกระเป๋าของชิวซุยก็มีตั๋วเงินจำนวนมากใส่เอาไว้ แถมแต่ละใบยังเป็นตั๋วเงินมูลค่าไม่ต่ำกว่าหมื่นเหรียญทองทั้งนั้น นี่นางเป็นใครกันแน่….