บุตรอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 573 ยืมใช้
ตอนที่ 573
ยืมใช้
“……..”หลินเฟยลอบมองคุณชายลู่กับภรรยาน้อยอยู่บนหลังคาด้วยท่าทีนิ่งสงบ ตอนนี้คุณชายลู่ยังอยู่ในบ้านแผนของหลินเฟยยังดำเนินไม่ได้ บางทีอาจจะต้องหาเรื่องให้คุณชายลู่ออกไปก่อน แต่จะให้นายหญิงลู่มาทราบเรื่องนี้คงไม่ได้เสียด้วย
ติ๊ด…..
หลินเฟยหยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นมากดสายไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรอู๋ ดูเหมือนบิดาของคุณชายลู่จะทำงานให้กับราชวงศ์เช่นนั้นหลินเฟยน่าจะทำให้คุณชายลู่ยุ่งได้สักสามสี่วันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
.
.
“อะไรนะ ท่านพ่อกลับมาแล้วงั้นหรือ”หลังจากหลินเฟยขอร้องคนในวังของอาณาจักรอู๋ ไม่นานบิดาของคุณชายลู่ก็กลับมายังเมืองบ้านเกิดของตนเองแถมยังมีคำสั่งเรียกตัวคุณชายลู่อีกต่างหาก แน่นอนว่าหลินเฟยไม่ได้เอาเรื่องภรรยาน้อยมาเป็นข้ออ้างเพราะหากทำแบบนั้นเกรงว่านายหญิงลู่จะสงสัยได้ ธุระคราวนี้ของเจ้าตระกูลลู่คือการพาคุณชายลู่ไปเข้าเฝ้าเชื้อพระวงศ์คนหนึ่งเท่านั้น
“น้องหยิน พี่ต้องเดินทางไปกับท่านพ่อก่อน เจ้าอยู่ที่นี่รอข้านะ”เป็นไปตามที่หลินเฟยคำนวณเอาไว้พอดี ภรรยาน้อยของคุณชายลู่นั้นยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เจ้าตระกูลลู่ไม่มีทางให้นางเดินทางไปร่วมการพบปะราชวงศ์โดยเด็ดขาด ทำให้คุณชายลู่ต้องทิ้งนางเอาไว้คนเดียวตลอดเวลาที่เดินทางไปเมืองหลวง
“เจ้าค่ะท่านพี่ ข้าจะรอท่านกลับมา”ภรรยาน้อยของคุณชายลู่ตอบพลางยิ้มหวานออกมาด้วยท่าทีออดอ้อน สมแล้วที่เคยเป็นสาวรินสุราท่าทีเย้ายวนของนางได้ผลกับชายส่วนมากจริงๆ
“เอาล่ะ”หลินเฟยเห็นคุณชายลู่ออกไปจากบ้านแล้วก็ชักกระบี่ออกมาถือเอาไว้ในมือ มันจดจ้องไปที่ห้องของภรรยาน้อยด้วยใบหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ ก่อนจะทำแบบนี้มันคิดมาดีแล้ว และเชื่อว่าทำแบบนี้จะสามารถช่วยนายหญิงลู่ได้จริงๆ
ฉับ……
กระบี่ของหลินเฟยกรีดลงบนเสื้อผ้าหลินหลินเฟยจนเปิดให้เห็นผิวกายของหลินเฟยหลายจุด น่าเสียดายที่การเฉือนเนื้อตัวเองผ่านเกราะแมงมุมนั้นยากเกินไปหลินเฟยเลยไม่ได้ลงทุนขนาดนั้น แต่เพื่อความแนบเนียนหลินเฟยเลยใช้พลังธาตุน้ำสร้างเหงื่อจางๆบนร่างกายแล้วยังเอาเศษดินมาโปรยตามตัวเล็กน้อยเพื่อความแนบเนียนอีกต่างหาก
ก่อนหน้านี้ที่ช่วยนายหญิงลู่อยู่นั้นหลินเฟยได้ฟังแผนการของเหล่าสาวๆเรื่องการใช้มารยาหญิงอยู่หลายแผนทีเดียว และก็มีแผนหนึ่งที่หลินเฟยหยิบมาใช้ในสถานการณ์นี้ด้วยนั่นคือการแกล้งบาดเจ็บเพื่อให้อีกฝ่ายสงสารนั่นเอง
ไม่ทราบเพราะภรรยาน้อยของคุณชายลู่ยังไม่ได้ประกาศตัวหรือเพราะคุณชายลู่สั่งเอาไว้กันแน่ ภรรยาน้อยนางนี้เลยไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเลยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา การจะลอบเข้าไปในบ้านของนางให้แนบเนียนนั้นบางทีคงต้องใช้แผนการนิดหน่อย
โครม.. ตุบ…..
หลินเฟยทำเสียงดังใกล้ๆกับกำแพงบ้านของภรรยาน้อย ก่อนจะกระโดดวูบเข้าไปในตัวอาคารทันที พริบตาที่มันเข้ามาหลินเฟยก็ใช้ดวงตาสีเขียวตรวจสอบภายในบ้านแล้วมองหาตำแหน่งที่ภรรยาน้อยคนนั้นกำลังจะเดินผ่านพอดี
ฟุบ…..
หลินเฟยแกล้งทำเป็นตื่นตูมรีบเข้าไปหลบในห้องที่ภรรยาน้อยของคุณชายลู่นั่งอยู่ ทันทีที่มันเข้ามาก็ทำเป็นตกใจที่เห็นภรรยาน้อยเข้าให้
“พี่สาวใจเย็นก่อนขอรับ ข้าไม่ใช่คนร้ายนะ”หลินเฟยพูดพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นด้วยท่าทีลนๆ
“จะ เจ้าเป็นใคร แล้วเข้ามาได้อย่างไร”ภรรยาน้อยถามพลางมองหลินเฟยด้วยท่าทีเลิกลัก อยู่ๆหลินเฟยก็กระโจนเข้ามาทำเอานางตกใจจนหัวใจแทบวาย
“พี่สาวเบาเสียงก่อน ข้าแค่กำลังหนีจากคนที่คิดจะทำร้ายข้าเท่านั้นเอง”หลินเฟยตอบพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้ภรรยาน้อย ด้วยเสื้อผ้าที่ทำเป็นกระเซิงของหลินเฟยทำให้เห็นผิวกายขาวผ่องของหลินเฟยได้อย่างชัดเจนทำเอาภรรยาน้อยอดใจไม่ไหวลอบมองเข้าไปในรอยขาดของเสื้อผ้าอย่างช่วยไม่ได้
“พี่สาว ข้าขอร้องล่ะ ให้ข้าหลบอยู่ที่นี่สักพักได้หรือเปล่า”หลินเฟยถามพลางจ้องมองภรรยาน้อยของคุณชายลู่ด้วยท่าทีขอร้อง
“กะ ก็ได้แต่แค่ครู่เดียวเท่านั้นนะ”ภรรยาน้อยของคุณชายลู่ตอบพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น แต่ถึงจะหันหนีไปแล้วนางก็ยังแอบมองมาทางหลินเฟยอยู่หลายครั้งทีเดียว
“ขอบพระคุณขอรับ”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาอย่างโล่งอก แต่ถึงตอนนี้ภรรยาน้อยของคุณชายลู่คงไม่ทราบว่าหลินเฟยมาอยู่ใกล้จนเกินไปทั้งๆที่ห้องออกจะใหญ่แท้ๆ หรือบางทีนางอาจจะทราบแต่ไม่คิดจะออกห่างหลินเฟยกันแน่
“นายหญิงเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า”ยังไม่ทันไรบ่าวรับใช้คนหนึ่งของภรรยาน้อยก็ทำท่าทีจะเปิดประตูเข้ามา ทำให้หลินเฟยรีบมองไปที่ภรรยาน้อยทันทีเพื่อขอให้นางช่วยตนเองเอาไว้
“ไม่มีอะไรหรอก เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว”ภรรยาน้อยรีบดักบ่าวรับใช้คนนั้นเอาไว้ก่อนที่นางจะเข้ามาได้สำเร็จ ทำให้หลินเฟยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“พี่สาว ข้าต้องขอบคุณท่านจริงๆนะขอรับ”หลินเฟยว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีโล่งอก
“ไม่เป็นไร ว่าแต่เจ้าไปทำอะไรมาถึงได้โดนตามล่าแบบนั้นกัน”ภรรยาน้อยถามพลางมองไปที่หลินเฟยด้วยท่าทีสงสัย ถึงขนาดโดนไล่ฟันจนเสื้อขาดเช่นนี้คนที่ล่าหลินเฟยคงน่ากลัวไม่น้อย
“พวกมันพยายามปล้นของๆข้าขอรับ”หลินเฟยตอบพลางนำสร้อยเส้นหนึ่งออกมาจากภายในปกเสื้อ ก่อนจะเข้ามานอกจากหลินเฟยจะกรีดเสื้อตนเองแล้วยังจะเอาเครื่องประดับที่มันซื้อเอาไว้เผื่อให้เป็นของขวัญสาวๆออกมาสวมอีกต่างหาก ภรรยาน้อยนางนี้เคยเป็นสาวรินสุรามาก่อน สายตามองของพวกนี้ย่อมดีกว่าคนธรรมดา นางมองเพียงครู่เดียวก็ทราบแล้วว่าบนตัวของหลินเฟยนั้นมีเครื่องประดับราคาแพงอยู่กี่ชิ้น ทำเอาภรรยาน้อยนางนี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอกับของที่หลินเฟยสวมอยู่เลย มิน่าเล่าพวกโจรถึงได้ตามล่ามัน แบบนี้เป็นนางก็อยากได้เหมือนกัน
“พี่สาว ข้าต้องขอบคุณท่านอีกครั้งจริงๆ ท่านทั้งงดงามทั้งใจดีแบบนี้ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบท่านในวันนี้”หลินเฟยว่าพลางจ้องมองดวงตาของอีกฝ่าย แน่นอนว่าหลินเฟยนั้นย่อมรูปงามกว่าคุณชายลู่อยู่แล้ว ลำพังแค่อยู่ต่อหน้าก็ทำให้สาวๆใจเต้นได้แล้ว ยิ่งมันกล่าวชมด้วยท่าทีจริงจังเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ภรรยาน้อยหน้าแดงในทันที
“ไม่ทราบว่าพี่สาวพอจะบอกชื่อให้ข้าทราบได้หรือไม่ขอรับ”หลินเฟยแกล้งทำเป็นเขินอายทำทีเป็นกล้าๆกลัวว่าจะถามชื่ออีกฝ่ายได้หรือไม่ทั้งๆที่ตนเองรู้อยู่แล้ว
“ข้าชื่ออี้หยินเจ้าค่ะ คุณชายไม่ต้องเกรงใจนักหรอก”พอเห็นเครื่องประดับบนตัวหลินเฟยแล้ว อี้หยินก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที บนตัวของหลินเฟยเกรงว่าจะนับเป็นเงินได้เป็นร้อยๆล้านเหรียญทองเลยด้วยซ้ำ คนแบบนี้ไม่มีความจำเป็นต้องมาบุกบ้านตระกูลลู่เพื่อหาเงินหรอก เพราะฉะนั้นตัดเรื่องมันเป็นคนร้ายไปได้เลย ทำให้อี้หยินเชื่อเรื่องที่หลินเฟยกุขึ้นมาในทันทีเลยก็ว่าได้ ต้องมีโจรตามล่ามันอย่างแน่นอน
“พี่อี้หยิน ข้าน้อยชื่อหลินเฟยขอรับ น่ายินดีจริงๆที่วันนี้ได้รู้จักสาวงามแบบพี่”หลินเฟยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนดีใจมากที่ได้รู้ชื่ออี้หยิน ทำเอาอี้หยินแอบลำพองใจไม่น้อยเลย
“ไม่หรอกน้องหลินเฟย คนเราก็ย่อมต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว”อี้หยินตอบพลางยิ้มบางๆออกมา ลองเป็นตาแก่สักคนลอบเข้ามาสิ นางคงร้องไห้บ่าวรับใช้มาไล่ออกไปแล้วแน่ๆ
“พี่อี้หยิน บ้านของท่านหลังใหญ่มากเลยนะขอรับ นอกจากบ่าวรับใช้แล้วพี่อยู่ที่นี่คนเดียวหรือขอรับ”หลินเฟยแกล้งถามอยั่งเชิงอี้หยินอย่างออกนอกหน้า ราวกับกลัวอี้หยินจะไม่รู้ว่าตนเองกำลังถามว่านางมีสามีแล้วหรือยังเสียอย่างนั้น
“ชะ ใช่ ข้าอยู่ที่นี่คนเดียว”อี้หยินตอบพลางยิ้มหวานออกมาด้วยท่าทีคิดไม่ซื่อ สามีตนเองพึ่งออกไปได้ไม่ทันพ้นเมืองนางก็ลืมไปแล้วหรือ
“งั้นหรือขอรับ….จริงสิพี่อี้หยินเย็นนี้ข้ากำลังจะจัดงานเลี้ยงบนเรือ ท่านพอจะมีเวลาว่างมาร่วมงานหรือไม่ขอรับ”หลินเฟยถามด้วยท่าทีเก้ๆกังๆ เพื่อไม่ให้อี้หยินคิดว่าตนเองมีแผนร้ายอะไร แน่นอนว่าอี้หยินไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว นางพึ่งบอกว่าไม่มีสามีไปนี่นา แถมหลินเฟยยังมีท่าทีชมชอบนางมากด้วย หากเทียบกับบุตรชายขุนนางที่มีภรรยาหลวงอยู่แล้ว กับคุณชายหนุ่มที่ทั้งโสดทั้งหล่อแถมยังร่ำรวยอีก แม้ตำแหน่งบุตรชายขุนนางจะน่าเสียดายแต่ทางหลินเฟยก็น่าสนใจกว่ามาก แต่นางจะไปคิดมากทำไมไหนๆก็มีผู้ชายดีๆมาหลงแล้วก็คบกันทั้งคู่ไปเลยไม่เสียหายอะไรนี่นา
“แน่นอน หากเจ้าเชิญข้าเช่นนี้ก็คงช่วยไม่ได้เย็นนี้ข้าจะไปงานเลี้ยงของเจ้าก็แล้วกัน”อี้หยินตอบพลางยิ้มหวานปานจะหยด ทำเอาหลินเฟยต้องแกล้งทำเป็นดีใจอีกรอบ ก่อนจะแอบออกมาจากบ้านของตระกูลลู่ก่อนที่ใครจะมาพบเข้า
.
.
หลินเฟยใช้เวลาไม่นานก็ซื้อทั้งเรือทั้งบ่าวรับใช้มาประจำบนเรือตลอดทั้งวันได้ในทันที แถมยังสั่งให้คนงานจัดแต่งเตรียมงานฉลองอย่างยิ่งใหญ่ราวกับมีแขกผู้ทรงเกียรติจะมาเยี่ยมเยือนไม่มีผิด แถมยังจัดดาดฟ้าเรือให้เพียงพอกับคนนับร้อยอีกต่างหาก ทั้งๆที่หลินเฟยไม่ได้ชวนใครมาเลยนอกจากอี้หยินเท่านั้น
“พี่อี้หยิน ท่านมาแล้วหรือขอรับ”ในตอนเย็น อี้หยินก็เดินทางมาตามนัดจริงๆ แถมนางยังไม่ได้พาบ่าวรับใช้ติดตามมาด้วยคงเพราะกลัวว่าบ่าวรับใช้จะปากโป้งกระมัง ทำให้หลินเฟยยิ่งลงมือได้สะดวกยิ่งขึ้นเข้าไปอีก
“อะไรกัน จัดงานเสียหรูหราทำไมถึงไม่มีแขกเลยล่ะ”อี้หยินถามพลางมองไปรอบๆด้วยท่าทีแปลกใจ แม้จะมีโต๊ะจัดเอาไว้แต่ก็ไม่มีแขกมาแม้แต่คนเดียว
“พี่อี้หยิน ข้าขอต้องขอโทษพี่ด้วยขอรับ”หลินเฟยว่าพลางก้มหน้าลงเล็กน้อยเหมือนเด็กสำนึกผิด
“ขอโทษเรื่องอะไรหรือ”อี้หยินถามพลางยิ้มออกมาบางๆ
“จริงๆแล้วข้าไม่ได้มีแผนจะจัดงานเลี้ยงเอาไว้แต่แรกก็เลยไม่ได้ชวนแขกคนอื่นๆมาขอรับ จริงๆแล้วข้าแค่หาข้ออ้างเพื่อจะได้พบพี่อี้หยินอีกครั้งเท่านั้นขอรับ”หลินเฟยตอบด้วยท่าทีเขินอายทำเอาหัวใจของอี้หยินแทบระเบิด งั้นงานครั้งนี้มันก็จัดขึ้นอย่างรีบร้อนนะสิ แค่งานบังหน้าแบบนี้มันยังจัดเสียหรูหรา ชายหนุ่มตรงหน้านางนั้นคงร่ำรวยไม่น้อยเลย แถมมันยังพึ่งบอกออกมาโต้งๆว่ามีความรู้สึกดีๆกับนาง แน่นอนว่าอี้หยินไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆแบบนี้หลุดมือแน่ๆ